Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2910

ตอนที่ 2910 ภูมิหลังของอาณาจักร

เมืองสตาร์มูน วิหารเทพสงคราม :

ในขณะที่ซือเฟิงเดินเข้าไปที่ห้องโถงในชั้นหนึ่งของวิหารเทพสงคราม ผู้จัดการทั่วไปขั้นสี่ เลเวลหนึ่งร้อยแปดสิบก็ได้เดินเข้ามาหาเขาด้วยความเคารพ ซึ่งนี่มันก็ได้ดึงดูดความสนใจของเหล่าผู้เล่นที่มารับ และส่งเควสที่วิหารเทพสงครามอย่างมาก โดยแต่ละคนนั้นก็ไม่สามารถจะซ่อนความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองได้ ในขณะที่พวกเขามองไปยังซือเฟิงที่สวมเสื้อคลุมสีดำที่มีใบหน้าถูกปกคลุมไปด้วยหมอกจางๆ

“ผู้จัดการทั่วไปขั้นสี่ออกมาต้อนรับเขาเป็นการส่วนตัวเลย นี่เขาเป็นใครกัน ?”

“ฉันจำได้ว่าตอนที่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่หลายคนได้เข้ามารับ และส่งเควสที่นี่นั้น ผู้จัดการทั่วไปไม่ได้สนใจพวกเขาเลย แต่ตอนนี้เขากับริเริ่มที่จะทักทายชายคนนี้ ชายคนนี้คือแบล๊คเฟรมรึปล่าว ?”

“แน่นอน เขาต้องเป็นนักบุญแห่งดาบแบล๊คเฟรมอย่างแน่นอน !!! ฉันได้ยินมาว่าแบล๊คเฟรมมักจะเดินทางคนเดียว และชอบซ่อนตัวตนของตัวเอง นอกเหนือจากนี้นั้นทั่วทั้งอาณาจักรสตาร์มูน ผู้ที่จะทำให้ผู้จัดการทั่วไป ขั้นสี่ เลเวลหนึ่งร้อยแปดสิบ ออกมาต้อนรับด้วยความเคารพแบบนี้ มันก็มีเพียงเขาเท่านั้นแหละ !!!!”

ทุกคนในห้องโถงนั้นล้วนจ้องมองไปที่ซือเฟิง และหลังจากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็อดไม่ได้ที่จะพุ่งเข้าไปล้อมรอบตัวซือเฟิง ด้วยความต้องการที่จะถ่ายภาพ บันทึกวีดีโอ …. และรวมไปถึงบางคนที่พยายามจะทักทายซือเฟิงด้วย

ในตอนนี้ซือเฟิงนั้นเป็นดั่งตำนานที่มีลมหายใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักดาบอิสระหลายคนที่เลือกจะเล่นอาชีพนี้ก็เพราะเขานี่แหละ ….

และในตอนนี้มันก็มีหลายโพสที่ปรากฎขึ้นบนฟอรั่มทางการของอาณาจักรสตาร์มูน โดยมันก็เกี่ยวกับการที่นักบุญแห่งดาบแบล๊คเฟรมมาปรากฎตัวขึ้นที่เมืองสตาร์มูน

ชั่วขณะหนึ่งซือเฟิงนั้นรู้สึกพูดไม่ออกอย่างถึงที่สุด ….

เขาคิดว่าเขานั้นปกปิดตัวตนของตัวเองไว้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว แต่เหล่าผู้เล่นทั้งหมดที่อยู่ทั่วบริเวณนี้กับจำเขาขึ้นมาได้จากชื่อเสียงของเขาซะยังงั้น ….
“นายท่าน ท่านลอร์ดของพวกเราได้สั่งไว้แล้วว่า หากนายท่านมาถึงให้มอบสิ่งนี้ให้นายท่าน ….” ผู้จัดการทั่วไปได้จัดการหยิบม้วนกระดาษหนังแกะออกมาด้วยความเคารพ และส่งให้กับซือเฟิง “ขั้นตอนที่เหลือมันก็มีแค่นายท่านต้องลงชื่อเท่านั้น แล้วมันก็จะมีผลโดยตรงทันที !!!”

เมื่อเห็นดังนี้ซือเฟิงก็ได้รับม้วนกระดาษหนังแกะมา ก่อนที่เขาจะพยักหน้า และกล่าวว่า “ฝากขอบคุณท่านลอร์ดแทนฉันด้วย”

ม้วนกระดาษหนังแกะที่ผู้จัดการทั่วไปส่งมาให้ซือเฟิงนั้นคือสัญญาที่ถูกร่างขึ้นโดยกษัตริย์แห่งอาณาจักรสตาร์มูน และตราบใดที่เขาเซ็นสัญญา กิลสภาสิบแปดปีกของเขาก็จะได้เข้าประจำการในอาณาจักรสตาร์มูนอย่างเป็นทางการ และกลายเป็นกิลผู้พิทักษ์ของอาณาจักรสสตาร์มูนทั้งหมด แถมกิลของพวกเขายังจะสามารถพัฒนาอาณาจักรสตาร์มูน และสั่งระดมกองทัพบางส่วนของอาณาจักรได้ด้วยตัวเองด้วย ….

หลังจากนั้นซือเฟิงก็ได้เซ็นสัญญา และลงนามในชื่อของเขาทันที

เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เสียงแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นที่หูของซือเฟิง

ระบบ : ขอแสดงความยินดีกับกิลสภาสิบแปดปีกของผู้เล่นที่ได้เข้าประจำการในอาณาจักรสตาร์มูน และกลายเป็นกิลผู้พิทักษ์ของอาณาจักรสตาร์มูนอย่างเป็นทางการ โดยกิลจะได้เพลิดเพลินไปกับอำนาจส่วนหนึ่งในการจัดการอาณาจักรสตาร์มูนด้วย

ในเวลาเดียวกัน ประกาศจากระบบก็ดังขึ้นไปทั่วอาณาจักรสตาร์มูน ….

ประกาศจากระบบ : ขอแสดงความยินดีกับกิลสภาสิบแปดปีกของผู้เล่นที่ได้เข้าประจำการในอาณาจักรสตาร์มูน และกลายเป็นกิลผู้พิทักษ์ของอาณาจักรสตาร์มูนอย่างเป็นทางการ โดยกิลจะได้เพลิดเพลินไปกับอำนาจส่วนหนึ่งในการจัดการอาณาจักรสตาร์มูนด้วย

ประกาศจากระบบนั้นดังขึ้นสามครั้งติดกัน และมันก็ทำให้ผู้เล่นทั้งหมดในอาณาจักร
สตาร์มูนที่ได้ยินนั้นตกตะลึงอย่างถึงที่สุด

“นี่มันอะไรกัน ?”

“เข้าประจำการในอาณาจักรสตาร์มูน ?”

“ไม่ใช่ว่ามันจะมีแต่สิบสองกิลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดหรอที่จะสามารถเข้าประจำการในประเทศต่างๆของ God domain ได้ ?”

เมื่อได้ยินประกาศอย่างกระทันหันนี้นั้นผู้เล่นหลายคนก็แทบจะไม่สามารถประมวลผลสิ่งที่เกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นแบบนั้น แต่ทุกคนก็รู้ถึงสิ่งหนึ่งดี โดยเฉพาะกับเหล่าผู้เล่นของสภาสิบแปดปีก ….

เพราะแม้แต่คนโง่ที่สุดใน God domain นั้นก็ยังจะสามารถบอกได้ว่าในอนาคตนับจากวันนี้นั้น สภาสิบแปดสิบแปดปีกจะกุมอำนาจในอาณาจักรสตาร์มูนอย่างเบ็ดเสร็จแน่นอน และนี่มันก็จะทำให้แม้แต่มหาอำนาจต่างๆก็ยังจะต้องคิดแล้วคิดอีก หากคิดจะสร้างปัญหาในอาณาจักรสตาร์มูน ซึ่งเรื่องนี้มันก็ทำให้พวกสมาชิกหน้าใหม่ของสภาสิบแปดปีกสามารถจะมั่นใจได้ว่าตัวเองจะสามารถเก็บเลเวลภายในแผนที่ของอาณาจักรสตาร์มูนได้อย่างสบายๆ และพวกเขาก็ยังจะสามารถรับเควสจำนวนมากที่ผู้เล่นคนอื่นไม่สามารถรับได้อีกด้วย และด้วยเรื่องทั้งหมดนี้นั้น มันก็จะทำให้ผู้ที่เป็นสมาชิกของสภาสิบแปดปีกสามารถพัฒนาตัวเองไปได้อย่างรวดเร็วมากๆ

ในตอนนี้ แม้แต่กองกำลังจำนวนมากในอาณาจักรสตาร์มูนก็ยังยากจะจินตนาการได้ว่าการพัฒนาของสภาสิบแปดปีกจะเป็นไปอย่างรวดเร็วแค่ไหนในอนาคต

เนื่องจากเมื่อสภาสิบแปดปีกสามารถกุมอำนาจได้อย่างเบ็ดเสร็จในอาณาจักรสตาร์มูน สภาสิบแปดปีกก็จะสามารถรับสมัครสมาชิกกิลหน้าใหม่เข้ามาได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยที่พวกเขาก็ไม่จำเป็นจะต้องกังวลอีกต่อไปว่าจะมีแผนที่เก็บเลเวล และทรัพยากรต่างๆไม่เพียงพอ ….

ซึ่งนี่มันก็จะเป็นการช่วยลบข้อบกพร่องต่างๆแต่เดิมของสภาสิบแปดปีกไปได้ในทันที ….

เพราะท้ายที่สุดแล้วเมื่อก่อนนั้นพวกเขาสามารถรับสมัครได้แค่ผู้เล่นระดับสูงขึ้นไปเท่านั้น แต่ผู้เล่นระดับสูงนั้นก็มีจำนวนน้อยมาก ดังนั้นพวกเขาจึงประสบปัญหาขาดแคลนกำลังคนอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา และนี่มันก็เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้สภาสิบแปดปีกยังคงจัดว่าอยู่ด้อยกว่ากิลชั้นยอด และซุเปอร์กิลทั่วไป แม้ว่าจะได้รับการยอมรับอย่างสูงจากสาธารณชนแล้วก็ตาม ….

“โอเค !! ในที่สุดมันก็สำเร็จ !!!” ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะยิ้ม เมื่อเขาได้ยินการแจ้งเตือนของระบบ

หลังจากนั้นซือเฟิงก็ได้รีบออกจากวิหารเทพสงคราม และมุ่งตรงไปยังคลังสมบัติของอาณาจักรสตาร์มูนทันที

กิลที่ได้เข้าประจำการในประเทศต่างๆของ God domain จะมีผลประโยชน์แอบแฝงที่พวกเขามีสิทจะได้รับอยู่ นอกเหนือจากกิลจะได้รับความเคารพอย่างมากจากอาณาจักรแล้ว พวกเขาก็ยังจะได้รับทรัพยากรมากมายทุกเดือน นอกจากนี้มันยังมีอีกหนึ่งผลประโยชน์ที่นับว่าสำคัญที่สุด

โดยผลประโยชน์ที่ว่านั้นก็ คือ การได้รับสิทในการเข้าถึงคลังสมบัติของประเทศนั้นๆที่พวกเขาเข้าประจำการ

แต่อย่างไรก็ตามการจะเข้าถึงคลังสมบัติของประเทศต่างๆใน God domain เพื่อไปแลกเปลี่ยนทรัพยากรนั้น คนๆหนึ่งจะต้องมีสถานะเป็นถึงแกรนด์ดยุคในประเทศนั้นๆเลย

และแม้ว่าตัวซือเฟิงจะไม่ได้มีสถานะเป็นแกรนด์ดยุคของอาณาจักรสตาร์มูน แต่เขาก็มีสถานะเป็นผู้อาวุโสของวิหารเทพสงคราม ซึ่งสถานะนี้นั้นมันสูงกว่าแกรนด์ดยุคของจักรวรรดิด้วยซ้ำ ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วเรื่องนี้มันจึงไม่มีปัญหาใดๆ

ใน God domain นั้น ประเทศต่างๆล้วนมีภูมิหลังที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตามประเทศส่วนใหญ่นั้นเทียบไม่ได้กับองค์กรขนาดใหญ่ที่ทรงพลังแบบวิหารเทพสงครามเลย เพราะองค์กรแบบนี้นั้นสามารถจะเปลี่ยนประเทศทั้งประเทศได้อย่างสิ้นเชิง

ซึ่งนี่มันก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้การจะได้รับการยอมรับว่าเป็นสิบสองกิลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน God domain นั้นยากมากๆ

ภายในระยะเวลาสั้นๆซือเฟิงก็สามารถเดินผ่านวัง และเข้ามาถึงคลังสมบัติของอาณาจักรได้อย่างรวดเร็วโดยที่ไม่มีข้อจำกัดใดๆ

คลังสมบัติของอาณาจักรสตาร์มูนนั้นอาจกล่าวได้ว่าเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุดในอาณาจักรสตาร์มูนแล้ว เนื่องจากแค่ทหาร NPC เฝ้าคลังเพียงอย่างเดียว มันก็เพียงพอที่จะสร้างความปวดหัวให้กับผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่แล้ว โดยทหาร NPC เฝ้าคลังนั้นมีอยู่แปดคน ซึ่งทั้งหมดล้วนอยู่ในขั้นสี่ และมีเลเวลหนึ่งร้อยแปดสิบ ถึงสองร้อย นอกจากนี้พวกเขาทั้งหมดก็ยังสวมใส่เศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานกันแบบครบเซ็ทด้วย

และเมื่อบวกกับวงเวทย์ป้องกันของคลังนั้น หากคนๆหนึ่งไม่มีอาชีพขั้นห้าร่วมมือด้วยสามถึงสี่คนเป็นอย่างน้อย พวกเขาก็ควรจะเลิกคิดที่จะบุกเข้ามาที่นี่เลย

“นายท่าน ท่านมีธุระอะไรกันถึงมาที่นี่ ?” หัวหน้าทหาร NPC เลเวลสองร้อย ที่ทำหน้าที่เฝ้าคลังจ้องมองไปยังซือเฟิง และกล่าวถามด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเคารพ

“ฉันมาที่นี่เพื่อแลกเปลี่ยนทรัพยากรในคลัง …” ซือเฟิงกล่าวไปตรงๆ

“โปรดตามฉันมา …”

หัวหน้าทหาร NPC เลเวลสองร้อยกล่าวก่อนที่เขาจะเดินนำซือเฟิงเข้าไปยังส่วนที่ลึกที่สุดในคลังสมบัติของอาณาจักรสตาร์มูนทันที

หลังจากนั้นซือเฟิงก็ได้เดินลึกลงไปถึงที่ชั้นใต้ดินชั้นที่สี่ ซึ่งเมื่อซือเฟิงมาถึงนั้นเขาก็สังเกตเห็นห้องลับที่ถูกปกคลุมไปด้วยวงเวทย์ทันที นอกเหนือจากนี้ซือเฟิงก็ยังรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่สูงมากๆ เมื่อเขาได้เห็น และสัมผัสได้ถึงชายชราคนหนึ่งที่นั่งอยู่เงียบๆภายในห้องลับ

“มหาจอมเวทย์ศักสิทธิ์ ขั้นห้า ?” ซือเฟิงมองไปที่ชายชราที่นั่งอยู่เงียบๆ และรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

เขาไม่คิดเลยว่าภูมิหลังของอาณาจักรสตาร์มูนนั้นจะแข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดไว้มาก แถมชายชราคนนี้ก็ยังสวมใส่หมวกเวทย์มนต์ระดับตำนานด้วย ซึ่งหากผู้เล่นขั้นห้าทั่วไปต้องเผชิญหน้ากับชายคนนี้ พวกเขาก็จะต้องพ่ายแพ้อย่างอย่างแน่นอน

“ท่านนักบุญแห่งดาบ เชิญเข้าไปได้เลย !! ….” หัวหน้าทหารกล่าวพลางโค้งคำนับ และชี้ไปที่ด้านในห้องลับ

เห็นได้ชัดว่าหัวหน้าทหารนั้นมีคุณสมบัติเพียงแค่มาส่งถึงที่หน้าประตูห้องลับเท่านั้น แต่ไม่มีสิทจะเข้าไป

ซือเฟิงพยักหน้า และเดินตรงเข้าไป ….

เมื่อซือเฟิงเดินเข้ามาในห้องลับนั้น เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่าสภาพแวดล้อมในห้องลับนี้ค่อนข้างพิเศษมาก เพราะบางส่วนของมันนั้นคล้ายกับสภาพแวดล้อมใน God domain ยุคโบราณ ซึ่งมันหาได้ยากมากๆใน God domain ยุคปัจจุบัน

“ยอดเยี่ยม !! นักบุญแห่งดาบ เนื่องจากสถานะของคุณ และการที่คุณได้เซ็นสัญญา และลงนามกับกษัตริย์แห่งอาณาจักรสตาร์มูนแล้ว ดังนั้นคุณจึงมีสิทจะแลกเปลี่ยนทรัพยากรจากคลังสมบัติไปได้” ชายชรามองไปที่ซือเฟิงก่อนที่เขาจะโบกมือของตัวเอง และทันใดนั้นไอเทมสามชิ้นก็ปรากฎขึ้นตรงหน้าของซือเฟิง “สิ่งของทั้งสามชิ้นนี้เป็นสมบัติล้ำค่าที่ถูกเหลือไว้โดยกษัตริย์ผู้ก่อตั้งอาณาจักรสตาร์มูน นอกจากนี้พวกมันก็ยังเป็นปัจจัยหลักๆที่ทำให้อาณาจักรสตาร์มูนของเราสามารถยืนหยัดอยู่รอดใน God domain มาได้จนถึงทุกวันนี้ ดังนั้นฉันจึงหวังว่าไอเทมหนึ่งจากสามชิ้นนี้จะช่วยคุณได้ !!!”

และเมื่อซือเฟิงมองไปยังสิ่งของทั้งสามชิ้นตรงหน้าของเขานั้น ดวงตาของเขาก็เบิกโพลงด้วยความตกตะลึง

เนื่องจากภูมิหลังของอาณาจักรสตาร์มูนนั้น มันเกินจินตนาการของซือเฟิงมากเกินไป และแม้แต่ใจของซือเฟิงเองในบางส่วนก็ยังแทบทำใจให้เชื่อไม่ได้เลยว่าอาณาจักรสตาร์มูนมีภูมิหลังแบบนี้

โดยสิ่งของทั้งสามชิ้นนี้นั้นไม่ใช่ไอเทมระดับตำนาน และไม่ใช่ไอเทมระดับนักบุญที่อ่อนแอ

แต่มันเป็นแบบแปลน และสูตร !!!

ซึ่งแบบแปลน และสูตรพวกนี้นั้นสามารถจะส่งผลกระทบถึงจักรวรรดิทั้งจักรวรรดิได้เลยด้วยซ้ำ !!!

โดยสิ่งของชิ้นแรกนั้นก็คือ แบบแปลนเรือเหาะระดับเหล็กลึกลับ ซึ่งถ้านำมาเทียบกับแบบแปลนเรือเหาะมังกรสีเลือดที่สภาสิบแปดปีกมีอยู่ที่เป็นเพียงเรือเหาะขั้นสูงนั้น ซือเฟิงก็จินตนาการไม่ออกเลยว่าเรือเหาะระดับเหล็กลึกลับนั้นจะทรงพลังมากขนาดไหน แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ซือเฟิงสามารถบอกได้อย่างชัดเจนก็คือ แค่เรือเหาะระดับทองแดงนั้นมันก็สามารถจะใช้ต่อกรกับอาชีพขั้นสี่ได้แล้ว ดังนั้นจากที่ซือเฟิงคาดเดา เรือเหาะระดับเหล็กลึกลับนั้นน่าจะมีพลังมากพอที่จะทำลายวงเวทย์ป้องกันขั้นห้าของเมืองๆหนึ่งได้เลยด้วยซ้ำ ซึ่งก็ไม่ต้องพูดถึงพวกผู้เล่น หรือ NPC ทั่วไปเลย และมันก็สามารถจุคนได้สูงสุดถึงสามร้อยคน

ขณะเดียวกันมันก็ต้องใช้เงินหนึ่งล้านห้าแสนเหรียญทอง และคริสตัลเวทย์มนต์หนึ่งล้านชิ้นในการแลกเปลี่ยน

ส่วนของชิ้นที่สองนั้นก็คือสูตรโพชั่นระดับปรมาจารย์ซึ่งเป็นโพชั่นเวทย์มนต์ที่ค่อนข้างพิเศษ

ซึ่งผลของโพชั่นนี้มันก็คือสามารถจะทำให้ผู้เล่นที่ดื่มมันเข้าไปเลื่อนขั้นขึ้นไปหนึ่งขั้นได้ชั่วคราวเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง โดยสามารถเลื่อนขั้นไปได้สูงสุดที่ขั้นสี่

ใน God domain นั้นแค่สามารถมาถึงขั้นสามได้ก็จะได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงแล้ว ขณะเดียวกันสำหรับผู้ที่ไปถึงขั้นสี่ได้นั้นจะถือเป็นนกฟีนิกซ์ในหมู่คนทั่วไปเลย แต่โพชั่นนี้กับสามารถทำให้คนๆหนึ่งเลื่อนขั้นขึ้นไปได้หนึ่งขั้นเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง และสูงสุดที่ขั้นสี่ มันจึงจัดว่าเป็นโพชั่นที่น่าเหลือเชื่อมากๆเลยทีเดียว

หากมีโพชั่นแบบนี้นั้น แม้แต่กิลชั้นสูงทั่วไปก็จะสามารถกลายเป็นกิลที่น่ากลัวเทียบเท่ากับห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดได้ทันที

โดยมันก็ต้องใช้เงินหนึ่งล้านเหรียญทอง และคริสตัลเวทย์มนต์หนึ่งล้านห้าแสนชิ้นในการแลกเปลี่ยน

สำหรับของชิ้นที่สามนั้นมันคือ แบบแปลนหุ่นกลผู้พิทักษ์ระดับลึกลับขั้นเงิน ซึ่งแม้แต่ซือเฟิงผู้ที่มีประสบการณ์ใน God domain มาสองชีวิตก็ยังเคยเห็นตัวหุ่นกลระดับนี้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ในขณะที่แบบแปลนของหุ่นกลระดับนี้นั้นเขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลย

หุ่นกลผู้พิทักษ์ระดับทองแดงนั้นจะมีพลังอยู่ในจุดสูงสุดของขั้นสาม และพวกมันก็ยังคงจัดว่ามีพลังอำนาจค่อนข้างมากใน God domain ยุคปัจจุบัน และอย่างน้อยพวกขั้นสี่ก็ยังยากจะทำลายมันได้

ขณะที่หุ่นกลผู้พิทักษ์ระดับเหล็กลึกลับนั้นจะมีพลังอยู่ในจุดสูงสุดของขั้นสี่ และพวกมันก็จะสามารถต่อกรกับพวกขั้นสี่ได้สบายๆเลย

ในส่วนของหุ่นกลผู้พิทักษ์ระดับลึกลับขั้นเงิน !!

พลังของมันนั้นก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพอย่างมากจนมันมีพลังอยู่ในระดับพื้นฐานของขั้นห้า และพวกขั้นสี่นั้นก็แทบไม่มีสิทจะทำลายมันได้เลย และโดยทั่วไปแล้วนั้นมันก็จะมีเพียงแต่พวกขั้นห้าเท่านั้นที่มีสิทจะทำลายมันได้

ซึ่งมันก็ต้องใช้เงินสองล้านเหรียญทอง และคริสตัลเวทย์มนต์หนึ่งล้านชิ้นในการแลกเปลี่ยน !!!

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset