Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1211

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1211 กลับภาคใต้

แปลโดย iPAT 

ลมพัดเข้ามาปะทะร่างกายของเขา

ทุ่งหญ้าด้านล่างเคลื่อนไหวราวกับคลื่นสมุทรขณะที่ฟางหยวนบินผ่านพวกมัน

หลังจากเดินทางมานานมากกว่าสิบวัน กำแพงภูมิภาคก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าฟางหยวน

แต่ในจังหวะนี้การแสดงออกของเขากลับเปลี่ยนแปลงไป

เรารู้สึกได้ว่าพลังอำนาจของวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดกำลังอ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว

บางคนอนุมานเกี่ยวกับข้าอีกครั้ง’ ฟางหยวนตระหนักถึงเรื่องนี้

เขาใช้วิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดต่อต้านการอนุมานเหล่านั้น

ฟางหยวนเคยพบปัญหานี้มาแล้วหลายครั้ง เมื่อเร็วๆนี้หลังจากฟางหยวนสังหารเย่หลิวชุนซิง ฆ่าหลิวหยง และปล้นสะดมทรัพยากรของเผ่าหลิว ผู้อมตะภาคเหนือพยายามอนุมานเกี่ยวกับตัวเขา

โชคดีที่ฟางหยวนเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญาและมีวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดที่ช่วยป้องกันการอนุมานจากภายนอก

แต่วิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดมีเวลาจำกัดในการใช้งานแต่ละครั้ง

ฟางหยวนจำเป็นต้องพิจารณาเกี่ยวกับประเด็นนี้และพยายามหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เขาต้องพึ่งพาวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดขณะที่มันยังไม่พร้อมใช้งาน

เผ่าหลิว

ผู้อมตะเผ่าหลิวสามคนนั่งอยู่ในค่ายกลวิญญาณและกำลังกระตุ้นใช้งานมัน

หลังจากชั่วครู่ผู้อมตะทั้งสามก็ต้องหยุดการเคลื่อนไหว

ล้มเหลวอีกครั้ง?” ผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งแสงหลิวเจิ้งกล่าวด้วยน้ำเสียงผิดหวัง

พวกเราไม่สามารถปฏิบัติภารกิจตามคำขอของท่านหลิวเจิ้ง พวกเรารู้สึกละอายใจนัก” สามผู้อมตะเผ่าหลิวถอนหายใจและก้มศีรษะลงด้วยการแสดงออกที่น่าเกลียด

หลิวเจิ้งก่นเสียงเย็นก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สงบลง “ลืมมันไปซะ เผ่าหลิวของเราไม่มีผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา ค่ายกลวิญญาณนี้เป็นเพียงการเลียนแบบวิธีการบนเส้นทางแห่งปัญญาเท่านั้น มันมีประสิทธิภาพไม่มาก ข้าต้องไปหาเทียนเซี่ยซินเพื่อขอความช่วยเหลือเดี๋ยวนี้!”

ท่านหลิวเจิ้งโปรดอภัยให้พวกเราด้วย พวกเราไม่สามารถอนุมานสิ่งใดไม่ใช่เพราะพวกเราอ่อนแอ แต่เป็นเพราะศัตรูมีวิธีป้องกันการอนุมานจากภายนอก” ผู้นำกลุ่มสามผู้อมตะกล่าว

เป็นเช่นนั้น?” ใบหน้าของหลิวเจิ้งมืดครึ้มลง

เขาพึมพำกับตนเอง “อีกฝ่ายเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงที่เชี่ยวชาญการเปลี่ยนเป็นมังกรดาบบรรพกาล แล้วเขาจะมีวิธีการเช่นนั้นได้อย่างไร? แต่ผู้ใดจะรู้ว่าเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงจะสามารถเลียนแบบวิธีการบนเส้นทางแห่งปัญญาหรือไม่? อย่างไรก็ตามมีความเป็นไปได้ที่หลิวกวนซื่อจะได้รับความช่วยเหลือจากจักรพรรดิอมตะชูตู๋อย่างลับๆ แม้เขาจะขับไล่หลิวกวนซื่อออกจากนิกายชู แต่ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะนิ่งเฉย หลังจากทั้งหมดปีศาจอมตะล้วนชั่วร้ายทุกคน!”

หลิวเจิ้งกัดฟ้นแน่นและเผยใบหน้าโหดเหี้ยม

หลินกวนซื่อปล้นสะดมทรัพยากรสำคัญของเผ่าหลิวสองแห่งและยังสังหารผู้อมตะเผ่าหลิว แล้วพวกเขาจะนิ่งเฉยอยู่ได้อย่างไร?

หลิวเจิ้งต้องการสังหารหลิวกวนซื่อแต่ผ่านมาหลายวันพวกเขายังไม่มีความคืบหน้าใดๆ

ก่อนหน้านี้เพื่อความปลอดภัยของน้องชาย หลิวเจิ้งไม่ได้ไล่ล่าฟางหยวน เรื่องนี้ทำให้สมาชิกเผ่าหลิวรู้สึกไม่ดี ดังนั้นหลิวเจิ้งจึงต้องแบกรับแรงกดดันและต้องการจับกุมฟางหยวนเป็นอย่างมาก

หลิวกวนซื่อ เจ้าคนขลาด เจ้าอยู่ที่ใด?’ หลิวเจิ้งรู้สึกหนักใจ

เขาไม่รู้ว่าหลังจากนี้เขาจะพบกับความอยากลำบากมากขึ้นเนื่องจากฟางหยวนกำลังจะออกจากภาคเหนือ

เผ่าเย่หลิวก็พบปัญหาเดียวกันกับหลิวเจิ้ง

เย่หลิวชุนซิงเสียชีวิตด้วยน้ำมือของฟางหยวน เผ่าเย่หลิวต้องการแก้แค้นอย่างแน่นอน เมื่อฟางหยวนถูกขับไล่ออกจากนิกายชู เผ่าเย่หลิวจึงสามารถตรวจสอบและชำระบัญชีแค้น

ผู้อมตะที่พวกเขาส่งออกมาไล่ล่าฟางหยวนไม่อ่อนแอกว่าหลิวเจิ้ง แต่น่าเสียดายที่ฟางหยวนออกจากภาคเหนือไปแล้ว

ฟางหยวนประสบความสำเร็จในการเดินทางข้ามกำแพงภูมิภาคโดยไม่มีสิ่งใดสามารถกีดขวาง

หลังจากผ่านกำแพงภูมิภาค ฟางหยวนมาถึงทะเลตะวันออก

เมื่อมาถึงที่นี่ กลิ่นอายของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขากลายเป็นผู้อมตะของทะเลตะวันออกอย่างสมบูรณ์

นี่คือหนึ่งในคุณสมบัติพิเศษของร่างทารกอมตะ

ฟางหยวนสามารถผสานตนเองเข้ากับสภาพแวดล้อมต่างๆได้ราวกับเขาเกิดและเติบโตขึ้นที่นั่น

นี่ต่างจากผู้อมตะคนอื่นๆ กลิ่นอายคนนอกของพวกเขาจะปรากฏขึ้นอย่างชันเจน เมื่อพวกเขาพบภัยพิบัติ พวกเขายังต้องกลับไปภูมิภาคของตนเพื่อวางมิติช่องว่างลง มิฉะนั้นพวกเขาจะพบปัญหามากมาย

หลังจากเข้าสู่ทะเลตะวันออก ฟางหยวนไม่ได้รีบเดินทางต่อ เขาไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์ชิงหยูและพักผ่อนอยู่ที่นั่น

นี่เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ที่หลิวชิงหยูทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง

ฟางหยวนกลายเป็นเจ้าของแดนศักดิ์สิทธิ์คนใหม่หลังจากสังหารหลิวชิงหยู

ได้พบฟางหยวนอีกครั้งทำให้จิตวิญญาณแผ่นดินเป็ดรู้สึกตื่นเต้นมาก มันกระโดดไปรอบๆและส่งเสียงกรีดร้องอย่างมีความสุข

ฟางหยวนปลอบโยนมันขณะที่จิตวิญญาณแผ่นดินเป็ดหลั่งน้ำตาแห่งความสุขออกมา

ข้ารู้ว่านายท่านจะไม่ทอดทิ้งข้า!”

น่าเสียดายที่ระดับความสำเร็จของฟางหยวนยังต่ำเกินไปและไม่สามารถกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดแห่งนี้

ฟางหยวนพักผ่อนอยู่ที่นี่เพื่อรอให้วิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดฟื้นตัว ในช่วงเวลาที่ฟางหยวนอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าผู้ใดจะอนุมานเกี่ยวกับเขา พวกเขาก็จะล้มเหลวโดยที่ฟางหยวนไม่จำเป็นต้องใช้วิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืด

เมื่อถึงเวลาที่วิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดฟื้นตัว ฟางหยวนกระตุ้นใช้งานมันอีกครั้งและเดินทางไปยังทะเลไหลเชี่ยวทันที

เส้นทางที่ยากลำบากของทะเลไหลเชี่ยวทำให้ฟางหยวนเสียเวลาไปหลายวัน แต่ในที่สุดเขาก็ไปถึงเมืองจิ๋ว

มีแดนศักดิ์สิทธิ์มากมายอยู่ที่นี่

ฟางหยวนใช้อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเข้าไปและกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์บางแห่ง

เขาสามารถก้าวข้ามภัยพิบัติพิภพได้อีกสองครั้ง

ฟางหยวนออกจากทะเลไหลเชี่ยวและกลับไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์ชิงหยูเพื่อรอให้วิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดฟื้นตัวก่อนจะออกเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่แท้จริงของเขา

หลังจากมาถึงทะเลตะวันออก ความสามารถในการอนุมานของผู้อมตะภาคเหนือก็อ่อนแอลง นี่ทำให้วิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดสูญเสียพลังงานน้อยลง

ฟางหยวนแตกต่างจากก่อนหน้านี้มาก

เขามีความเข้าใจเกี่ยวกับเจตจำนงสวรรค์ นอกจากนั้นเขายังมีวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดและวิธีบนเส้นทางแห่งปัญญามากมายเพื่อใช้ป้องกันตัว แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือระดับการบ่มเพาะและพลังการต่อสู้ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากของเขา

เปรียบเทียบกับช่วงเวลาหลังการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียนเมื่อฟางหยวนเดินทางจากภาคใต้ไปยังภาคเหนือ มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด

หากฟางหยวนพบฝูงสัตว์อสูรเมฆาบรรพกาลอีกครั้ง เขาจะไม่ถูกไล่ล่า ฝ่ายที่ตกอยู่ในอันตรายจะไม่ใช่ฟางหยวนอีกต่อไปแต่จะเป็นฝูงสัตว์อสูรเมฆาบรรพกาลเหล่านั้น

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฟางหยวนรู้สึกว่าหลังจากได้รับร่างทารกอมตะการบ่มเพาะของเขาพุ่งสูงขึ้นด้วยความเร็วที่น่าตกใจมาก มันคู่ควรกับการเป็นสุดยอดผลิตภัณฑ์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณ นิกายเงา และกองกำลังพันธมิตรผีดิบหลังจากใช้เวลาและความพยายามมานานนับแสนปีอย่างแท้จริง

แน่นอนว่ายิ่งร่างทารกอมตะแข็งแกร่งขึ้นเท่าใด ความเป็นอริศัตรูระหว่างฟางหยวนกับนิกายเงาก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเท่านั้น

ความบาดหมางที่ไม่สามารถแก้ไขนี้ทำให้ฟางหยวนรู้สึกกังวลมาก

น่าเสียดายที่อิงอู๋เซี่ยและสมาชิกนิกายเงามีความสามารถที่ไม่ธรรมดา ฟางหยวนไม่สามารถค้นหาตำแหน่งที่อยู่ของพวกเขา มิฉะนั้นเขาจะมุ่งหน้าไปกำจัดคนกลุ่มนี้เป็นอันดับแรก

แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือไม่ว่าจะเป็นฟางหยวนหรืออิงอู๋เซี่ย พวกเขาไม่รู้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายอยู่ในภูมิภาคเดียวกัน

‘ข้าได้ยินมานานแล้วว่าภูเขาอี้เทียนถูกผนึกเอาไว้ด้วยค่ายกลวิญญาณขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นโดยฝ่ายธรรมะ ข้าควรไปตรวจสอบสถานการณ์ก่อน’ ฟางหยวนไม่รู้ว่าเขาจะเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันได้อย่างไร

เขาบินไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้

มันเป็นการบินอ้อม แต่เมื่อพิจารณาถึงเจตจำนงสวรรค์ หากฟางหยวนบินเป็นเส้นตรง มีโอกาสที่เจตจำนงสวรรค์จะสร้างปัญหาให้กับเขามากกว่า

หือมีบางคนพยายามอนุมานเกี่ยวกับข้างั้นหรือ?’ ฟางหยวนรู้สึกถึงพลังอำนาจที่ค่อยๆลดลงของวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดและรู้สึกขบขัน

ภาคใต้และภาคเหนือเป็นสองภูมิภาคที่ถูกกีดขวางด้วยกำแพงภูมิภาค การอนุมานข้ามภูมิภาคมีโอกาสประสบความสำเร็จต่ำมาก

ดังคาด ในสวนหมื่นพฤกษา ผู้อมตะเทียนเซี่ยซินของภาคเหนือคืนทรัพยากรครึ่งหนึ่งให้กับหลิวเจิ้ง

หลิวเจิ้งรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ “อันใดกระทั่งท่านก็ไม่สามารถอนุมานสิ่งใดงั้นหรือ?”

ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาเทียนเซี่ยซินเผยรอยยิ้มขมขื่น “การอนุมานบนเส้นทางแห่งปัญญาไม่สามารถทำทุกสิ่ง ข้าพยายามเต็มที่แล้ว ขอโทษอย่างสุดซึ้ง

หลิวเจิ้งบินออกไปจากสวนหมื่นพฤกษาอย่างช้าๆ

เขาหนักใจมากและไม่รู้ว่าควรทำเช่นไร

กระทั่งผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาอันดับหนึ่งของภาคเหนือในปัจจุบันเทียนเซี่ยซินก็ไม่สามารถสรุปตำแหน่งที่อยู่ของหลิวกวนซื่อ แล้วผู้ใดจะทำได้?

หลิวกวนซื่อ เจ้าจงอธิษฐานเอาไว้ให้ดีว่าอย่าพบข้าอีก!” ดวงตาของหลิวเจิ้งเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร

แต่ไม่ว่าเจตนาสังหารของเขาจะรุนแรงเพียงใด ฟางหยวนก็ยังมีชีวิตที่ดี

โอ้ พวกเขาหยุดอนุมานแล้ว ฮ่าฮ่า เมื่อคนเหล่านี้จ่ายด้วยราคาที่มากขึ้นแต่ยังไม่ได้รับผลลัพธ์ใดๆ พวกเขาจะหยุดในที่สุด” ฟางหยวนหัวเราะ

ภาคเหนือ แดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะ ยอดเขาที่หนึ่ง

หม่าหงหยุนมองท่านหญิงหว่านซูที่กำลังเดินเข้ามา เขามองนางด้วยความโกรธ “เข้ามาหญิงชั่ว!”

ท่านหญิงหว่านซูส่งบอลสายฟ้าไปที่หน้าอกของหม่าหงหยุนด้วยการแสดงออกที่เรียบเฉียบ

เปรี้ยง!”

ร่างของหม่าหงหยุนสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง

พรวด!”

ทันใดนั้นท่านหญิงหว่านซูกลับกระอักเลือดออกมาขณะที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซีดขาว “เหตุใดข้าถึงล้มเหลวอีกครั้ง?”

ดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงหลังจากล้มเหลวหลายครั้ง

หม่าหงหยุนพยายามประคองสติเอาไว้และกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรง “ข้าจะรู้ได้อย่างไรหากเจ้าทำสำเร็จ ข้าคงตายไปแล้ว หากต้องตายในตอนจบ อย่างน้อยข้าก็จะไม่ทรมานอีก!”

หลังกล่าวจบประโยค หม่าหงหยุนก็หมดสติไปในที่สุด

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset