Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1109

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1109 ปกป้องด้วยชีวิต

แปลโดย iPAT 

 

เงาดำขนาดใหญ่พุ่งเข้าหาเฉียวตงและตรึงร่างของเขาเอาไว้

 

เฉียวตงกรีดร้อง “ผู้อาวุโสหลิว ช่วยข้าด้วย!”

 

หลิวซวนเฉิงปรากฏตัวขึ้นด้านหน้าเฉียวตงและปลดปล่อยแสงสีขาวออกมาทำลายความมืดเหล่านั้น

 

“ไห่ไท่เฉิง มีข้าอยู่ เจ้าไม่สามารถทำร้ายเฉียวตง!” หลิวซวนเฉิงมองบุคคลตรงหน้าด้วยเจตจำนงแห่งการต่อสู้

 

กลุ่มผู้อมตะรู้สึกตื่นเต้น

 

ตอนนี้ไม่ว่าอินทรีย์มังกรหรืออินทรีย์คลื่นเสียง พวกมันไม่สำคัญอีกต่อไป

 

สิ่งสำคัญคือผู้อมตะเผ่าไห่ปรากฏตัวขึ้นในที่สุด

 

ไห่ไท่เฉิงในฐานะผู้อมตะระดับเจ็ดนำกลุ่มผู้อมตะระดับหกของเผ่าไห่ออกมาเผชิญหน้ากับผู้บุกรุก

 

ไห่ไท่เฉิงมองไปรอบๆก่อนจะหยุดสายตาอยู่ที่หลิวซวนเฉิง เขาถาม “จะเป็นเช่นนั้นจริงหรือ?”

 

การแสดงออกของหลิวซวนเฉิงเปลี่ยนแปลงไป เขาเร่งหันหลังกลับ

 

เฉียวตงยังลอยอยู่กลางอากาศแต่การแสดงออกของเขากลับแข็งค้าง

 

เขาตายแล้ว!

 

“ท่าไม้ตายอมตะความมืดกลืนกินชีวิต!” หลิวซวนเฉิงตะโกนด้วยความโกรธ แต่ในไม่ช้าความโกรธของเขาก็จางหายไปและถูกแทนที่ด้วยรู้สึกชื่นชมปนเศร้า

 

เขาและไห่ไท่เฉิงเป็นคู่ปรับกันมานาน พวกเขาต่อสู้กันมามากกว่าร้อยครั้ง เขารู้ว่าท่าไม้ตายอมตะความมืดกลืนกินชีวิตทรงพลังแต่มันไม่สามารถใช้งานได้โดยง่าย ทุกครั้งที่กระตุ้นใช้งาน ไห่ไท่เฉิงจะเสียค่าใช้จ่ายมหาศาล

 

หลิวซวนเฉิงไม่เคยเห็นไห่ไท่เฉิงใช้ท่าไม้ตายนี้ตั้งแต่เริ่มต้นการต่อสู้

 

สิ่งนี้ทำให้เขาเกิดความเข้าใจบางอย่าง คู่แข่งของเขาเตรียมตัวที่จะตาย เขาต้องการสังหารศัตรูให้ได้มากที่สุดก่อนที่ชีวิตของเขาจะจบสิ้นลง

 

ไห่ไท่เฉิงทำให้ขวัญกำลังใจของผู้อมตะเผ่าไห่ที่อยู่ด้านหลังเพิ่มสูงขึ้น

 

ด้วยประสบการณ์มากมาย ไห่ไท่เฉิงใช้วิธีการบางอย่างทำให้ฝูงอินทรีย์คลื่นเสียงจัดขบวนทัพขณะที่ผู้อมตะของเผ่าไห่คนอื่นๆแยกย้ายกันไปปกป้องสถานที่ต่างๆ

 

“ข้าจะสู้กับเจ้า!” ไป่ซุ้ยฮันคำราม

 

เขาโบกมือส่งกระแสน้ำพุ่งเข้าโจมตีไห่ไท่เฉิง

 

กระแสน้ำเปลี่ยนเป็นธารน้ำแข็งอันเย็นเยียบกลางอากาศ

 

“ระวัง! นี่คือท่าไม้ตายอมตะที่โดดเด่นของไป่ซุ้ยฮัน ธารน้ำแข็ง!” ผู้อมตะระดับหกของเผ่าไห่ตะโกน

 

ไห่ไท่เฉิงหัวเราะเบาๆ เขากับไป่ซุ้ยฮันมีความบาดหมางฝังลึก เขาไม่แปลกใจกับการโจมตีของไป่ซุ้ยฮัน

 

“เขาเป็นเพียงคนขี้แพ้” ดวงตาของไห่ไท่เฉิงส่องแสงสีดำออกมา เขาไม่เคลื่อนไหวแต่ธารน้ำแข็งกลับเปลี่ยนเป็นสีดำและแตกสลายไปภายในเวลาไม่กี่ลมหายใจ

 

ไป่ซุ้ยฮันพ่นเลือดคำโตออกมาจากปากก่อนจะร่วงลงจากท้องฟ้า

 

“มีศัตรูมากมาย ท่าไม้ตายอมตะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะใช้” ร่างหนึ่งปรากฏขึ้นด้านหลังไห่ไท่เฉิง

 

เขาคือฮวงตี้!

 

ปีศาจอมตะระดับเจ็ดผู้นี้เป็นผู้นำฝ่ายปีศาจบุกโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์อินทรีย์เหล็กก่อนที่ฝ่ายธรรมะจะเคลื่อนไหว

 

ตอนนี้เขากำลังฉวยโอกาสสังหารไห่ไท่เฉิง

 

แต่ไห่ไท่เฉิงเพียงโบกมือโดยไม่หันหลังกลับ

 

คลื่นแสงสีดำระเบิดออกมาและส่งฮวงตี้กระเด็นกลับหลัง

 

เลือดไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ดของฮวงตี้ นี่ทำให้เขาตกใจและรีบหลบหนีอย่างไม่ลังเล

 

“หนูตัวเล็กตัวน้อย” ไห่ไท่เฉิงมองไปรอบๆและตะโกน “ผู้ใดจะเป็นรายต่อไป?”

 

ไม่มี

 

ไห่ไท่เฉิงมีพลังการต่อสู้ที่น่าอัศจรรย์ เขากระทั่งแข็งแกร่งกว่าไป่ซุ้ยฮัน

 

กลุ่มผู้อมตะสามารถบอกได้ว่าไห่ไท่เฉิงเตรียมตัวที่จะตายในการต่อสู้ครั้งนี้ นี่ทำให้พลังการต่อสู้ของเขาพุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุด

 

เหตุใดทุกคนจึงมาที่แดนศักดิ์สิทธิ์อินทรีย์เหล็ก?

 

พวกเขามาเพื่อรับโชคลาภ!

 

หากเป้าหมายของพวกเขาคือโชคลาภ เหตุใดพวกเขาต้องต่อสู้กับสุนัขจนตรอกจนตัวตาย?

 

กลุ่มผู้อมตะเริ่มแยกย้ายและหลบเลี่ยงไห่ไท่เฉิง

 

การต่อสู้เริ่มต้นขึ้น

 

ด้านหนึ่งคือการร่วมมือกันของฝ่ายธรรมะและปีศาจจำนวนมาก แต่เผ่าไห่มีข้อได้เปรียบด้านสถานที่และมีฝูงอินทรีย์คลื่นเสียงคอยให้ความช่วยเหลือ

 

การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด

 

ผู้อมตะเผ่าไห่ทุกคนปกป้องบ้านของตนด้วยชีวิต

 

นี่ทำให้แนวป้องกันที่สองของเผ่าไห่เกิดเสถียรภาพมากขึ้น

 

ไห่ไท่เฉิงเห็นผู้บุกรุกพยายามหลีกเลี่ยง ดังนั้นเขาจึงเป็นฝ่ายจู่โจม

 

“เมิ้งจี๋ มอบชีวิตของเจ้ามา!” ไห่ไท่เฉิงตะโกนด้วยความโกรธและพุ่งเข้าโจมตีผู้อมตะระดับเจ็ดที่อยู่ใกล้ที่สุด

 

“ฮืม…คิดว่าข้ากลัวเจ้างั้นหรือ?” เมิ้งจี๋ต่อสู้อย่างกล้าหาญ

 

“บึม บึม บึม”

 

เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

หลังจากผ่านไปหลายรอบ เมิ้งจี๋ผู้หยิ่งผยองกลับเป็นฝ่ายหลบหนี

 

เขากล้าหาญแต่ไห่ไท่เฉิงเป็นคนบ้าที่ไม่กลัวตาย!

 

ไห่ไท่เฉิงต่อสู้กับเมิ้งจี๋โดยหวังว่าจะตกตายไปพร้อมกัน

 

หลังจากผ่านไปหลายรอบ เมิ้งจี๋จึงไม่สามารถอดทนและต้องล่าถอยในที่สุด

 

ไห่ไท่เฉิงไล่ล่าศัตรู แต่เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้อมตะเผ่าไห่ เขาจึงต้องกลับไปช่วยเหลือพวกพ้อง

 

“กวงโจว รับนี่!” ไห่ไท่เฉิงระเบิดแสงสีดำออกมาและพุ่งไปข้างหน้า

 

กวงโจวเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง ตอนนี้เขาอยู่ในร่างของราชสีห์ เขาคำรามและพ่งเข้าปะทะไห่ไท่เฉิง

 

ในเวลาต่อมาราชสีห์กวงโจวเปลี่ยนกลับเป็นร่างเดิมขณะถูกส่งลอยกลับหลังราวกับตุ๊กตาเก่าๆ

 

ไห่ไท่เฉิงพุ่งเข้าโจมตีเขาอีกครั้ง

 

กวงโจวกรีดร้องก่อนจะเปลี่ยนร่างเป็นนกและบินจากไป

 

“ขี้ขลาด!” ไห่ไท่เฉิงไม่สามารถติดตามและทำได้เพียงตะคอกเสียงเย็นเท่านั้น

 

เขากวาดตามองไปรอบๆก่อนจะพบเป้าหมายใหม่ที่อยู่ใกล้ที่สุด

 

มันคือผู้อมตะระดับเจ็ดหลิวซวนเฉิง

 

แต่หลิวซวนเฉิงฉลาดมาก เมื่อเห็นไห่ไท่เฉิงใกล้เข้ามา เขาเร่งล่าถอยออกไปทันที

 

ไห่ไท่เฉิงไล่ตาม แต่หลิวซวนเฉิงเคลื่อนที่เข้าไปหาจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เทียนตู๋

 

ร่างของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เทียนตู๋สั่นสะท้านขึ้นก่อนที่เขาจะหันหลังกลับและหลบหนีไป

 

ต่อมาหลิวซวนเฉิงยังล่อไห่ไท่เฉิงเข้าไปหาบัณฑิตสันโดษก่อนที่การต่อสู้สามทางจะปะทุขึ้น

 

“บึม!”

 

มันเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือด หลิวซวนเฉิงและบัณฑิตสันโดษถูกบังคับให้ล่าถอย

 

ไห่ไท่เฉิงยังต่อสู้กับคนอื่นๆอย่างไม่หยุดยั้ง

 

บนท้องฟ้า ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าไห่ถอนหายใจ “ไท่เฉิง เด็กผู้นี้…”

 

เขารู้ว่าไห่ไท่เฉิงมีทักษะพิเศษเพื่อเพิ่มพลังอำนาจให้กับท่าไม้ตายของตน

 

มันคือการผลาญพลังชีวิต!

 

ผู้อมตะไม่ว่าจะเป็นฝ่ายธรรมะหรือปีศาจ ไม่มีผู้ใดต้องการตาย ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีผู้ใดสามารถต่อสู้กับไห่ไท่เฉิง

 

ไห่ไท่เฉิงมอบความพ่ายแพ้ให้กับผู้อมตะจำนวนมาก

 

อย่างไรก็ตามแม้ไห่ไท่เฉิงจะแข็งแกร่งแต่เขาก็เป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ด

 

เขาไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้ด้วยตัวเขาเพียงลำพัง

 

อินทรีย์คลื่นเสียงถูกจับและสังหารขณะที่ผู้อมตะเผ่าไห่ค่อยๆตกตายไปทีละคน

 

สู้!

 

ตาย!

 

สุดท้ายจึงเหลือไห่ไท่เฉิงเพียงผู้เดียว

 

ร่างที่อาบย้อมไปด้วยเลือดของเขาลอยอยู่กลางอากาศ เขากวาดตามองผู้อมตะที่อยู่รอบๆด้วยความภาคภูมิใจก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “เข้ามาฆ่าข้า!”

 

ผู้อมตะที่อยู่รอบๆไม่มีผู้ใดเคลื่อนไหว

 

หลิวซวนเฉิงแสดงออกด้วยความรู้สึกซับซ้อน แม้พลังงานอมตะของไห่ไท่เฉิงจะหมดแล้ว แต่หลิวซวนเฉิงก็ยังไม่กล้าเปิดฉากโจมตี

 

ไห่ไท่เฉิงเปิดปาก “เช่นนั้นให้ข้าลงมือ”

 

หลังกล่าวจบคำเขาพุ่งเข้าไปหาผู้อมตะที่อยู่ตรงหน้าทันที

 

นี่เป็นการโจมตีครั้งสุดท้ายของเขา

 

แต่เขาเสียชีวิตระหว่างทาง

 

มันเป็นโศกนาฎกรรมที่น่าเศร้า

 

ปราศจากไห่ไท่เฉิง กลุ่มผู้บุกรุกมุ่งหน้าไปยังแนวป้องกันที่สามของเผ่าไห่

 

ที่นี่มีอินทรีย์สิบสองตัวกีดขวางอยู่

 

พวกมันล้วนเป็นอินทรีย์ระดับสัตว์อสูรบรรพกาล

 

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งและผู้อมตะเผ่าไห่อีกหกคนบินลงมาจากท้องฟ้า

 

ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถฝากชีวิตไว้กับผู้อื่นอีกต่อไปและต้องออกมาต่อสู้ด้วยตนเองเท่านั้น

 

ค่ายกลวิญญาณรูปแบบการต่อสู้โบราณความโกรธเกรี้ยวของยักษ์เขียว!

 

กลุ่มผู้อมตะกระจัดกระจายกันออกไปในครั้งเดียว

 

พวกเขาได้รับผลประโยชน์มากพอแล้ว ตอนนี้พลังจิตและพลังงานอมตะของพวกเขาเหลือไม่มาก แล้วผู้ใดจะต้องการต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งในสภาวะนี้?

 

รังของอินทรีย์ทั้งสิบสองมีรูปร่างที่แปลกประหลาดแต่พวกมันบรรจุทรัพยากรอมตะระดับแปดเอาไว้

 

ผู้อมตะมากมายพยายามฉกฉวยผลประโยชน์เหล่านี้

 

ยักษ์เขียวคร่าชีวิตผู้อมตะที่โชคร้ายอย่างต่อเนื่อง

 

มนุษย์ตายเพื่อความมั่งคั่ง นกตายเพื่ออาหาร

 

“อันตรายเกินไป ไปกันเถอะ” เหนียงเอ๋อฝูคว้าร่างเหนียงเอ๋อปิงซื่อที่หมดสติล่าถอยออกไปอย่างลับๆ

 

“ข้าไม่สามารถอยู่ที่นี่อีกต่อไป” ไป่ซุ้ยฮันถอนตัวหลังจากได้รับทรัพยากรอมตะระดับแปดจำนวนมาก

 

ผู้อมตะหลายคนกำลังเตรียมตัวจากไป

 

แต่ทันใดนั้นรังอินทรีย์ที่สิบสามกลับปรากฏขึ้นและดึงดูดความสนใจของทุกคน

 

กลุ่มผู้อมตะอุทานด้วยความประหลาดใจ

 

“นี่เป็นของข้า” แต่ในจังหวะนี้ชูตู๋กลับปรากฏตัวขึ้นด้านหน้ากลุ่มผู้อมตะทั้งหมด

 

“จักรพรรดิอมตะ!” ทุกคนตกใจและหยุดเคลื่อนไหว

 

ชูตู๋แข็งแกร่งกว่าไห่ไท่เฉิงมาก!

 

ความแข็งแกร่งทั้งหมดของกองกำลังใหญ่เช่นเผ่าหลิวยังไม่สามารถต่อต้านชูตู๋ มีผู้อมตะเพียงผู้เดียวที่สามารถแข่งขันกับเขา นั่นคือฉินไป่เฉิง

 

สถานการณ์ปัจจุบันทุกคนอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ชูตู๋เคลื่อนไหว

 

แน่นอนว่าไม่มีผู้ใดกล้าก้าวออกไปข้างหน้า

 

ยักษ์เขียวคำรามเสียงดัง “ชูตู๋ เจ้ากล้างั้นหรือ?”

 

ชูตู๋หัวเราะเสียงเย็น “เหตุใดจะไม่?”

 

“บึม!”

 

ทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างรุนแรงแต่เป็นยักษ์เขียวที่ถูกส่งลอยกลับหลังโดยชูตู๋

 

“ค่ายกลวิญญาณรูปแบบการต่อสู้โบราณแม้จะทรงพลัง แต่มันถูกขับเคลื่อนโดยพวกเจ้า โดยเฉพาะเมื่อพวกเจ้าอยู่ในสภาพนี้ พวกเจ้าไม่สามารถแข่งขันกับข้า” ชูตู๋ยืนอยู่กลางอากาศด้วยการแสดงออกที่หยิ่งทะนง

 

หลังจากนั้นชูตู๋ก็บินเข้าไปหารังอินทรีย์ที่สิบสาม แต่ก่อนที่เขาจะสามารถคว้ามันมา คฤหาสน์วิญญาณอมตะกลับพุ่งลงมากระแทกศีรษะของชูตู๋

 

“คฤหาสน์วิญญาณอมตะกระท่อมฟาง!” บางคนจดจำสิ่งนี้ได้ มันเคยเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะของเผ่าตงฟางมาก่อน!

 

“ฮืม!” ชูตู๋ก่นเสียงเย็น

 

“บึม!”

 

กระท่อมฟางถูกส่งลอยกลับหลังด้วยฝ่ามือเพียงข้างเดียวของชูตู๋

 

ทุกคนอ้าปากค้าง!

 

ชูตู๋คว้ารังอินทรีย์ลึกลับมาได้ในที่สุด

 

ต่อมาสายตาของชูตู๋จึงหันไปทางยักษ์เขียว

 

ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสี่ของเผ่าไห่รู้สึกสิ้นหวัง

 

“รอก่อน” ก่อนที่ชูตู๋จะระเบิดพลังออกมา เสียงสายหนึ่งพลันดังขึ้น

 

กลิ่นอายอันทรงพลังปกคลุมพื้นที่เอาไว้ทั้งหมด

 

ผู้อมตะระดับแปด จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู!

 

สุดท้ายผู้อมตะระดับแปดก็ปรากฏตัว

 

แต่ทุกคนไม่แน่ใจว่าเขามาด้วยตนเองหรือมาเพียงเสียง

 

“ตามข้อตกลง ไม่ใช่ว่าผู้อมตะระดับแปดจะไม่เข้ามายุ่งเช่นนั้นหรือ?” ผู้อมตะฝ่ายธรรมะบางคนรู้สึกสับสน

 

เสียงของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูดังขึ้นอีกครั้ง “การต่อสู้กับเผ่าไห่จบลงที่นี่ สมาชิกที่เหลือของเผ่าไห่ได้เข้าร่วมกับข้า จากนี้ไปที่นี่คืออาณาเขตของเผ่าไป่ซู”

 

“พวกเรายินดีเปลี่ยนไปใช้แซ่ไป่ซู” ผู้อาวุโสของเผ่าไห่เร่งตอบรับ

 

ผู้อมตะทั้งหมดตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

คนฉลาดจะรู้ว่า จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูสามารถกล่าวสิ่งนี้เพราะเขาได้ทำข้อตกลงกับผู้อมตะระดับแปดคนอื่นๆไว้แล้ว

 

“ทุกคนไม่จำเป็นต้องจากไป ข้าจะจัดงานเลี้ยงเป็นเวลาสามวันสามคืนสำหรับทุกคน” จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูกล่าวต่อ

 

ใบหน้าของผู้อมตะเผ่าไห่กระตุก

 

สนามรบยังเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดแต่เขากลับต้องการจัดงานเลี้ยง นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่กะทันหันเกินไป

 

“ขอแสดงความยินดีกับเผ่าไป่ซู ขอแสดงความยินดีกับจักรพรรดิสวรรค์” ผู้อมตะฝ่ายธรรมะเร่งตอบรับ

 

ปีศาจอมตะและผู้บ่มเพาะสันโดษรู้สึกกระวนกระวายใจ

 

“ฮืม!” ชูตู๋ก่นเสียงเย็น เขาสะบัดแขนเสื้อและบินจากไปภายใต้การจ้องมองของทุกคน

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset