Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1087

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1087 แพะไท่ชิว

แปลโดย iPAT 

 

ฟางหยวนเดินทางทั้งกลางวันและกลางคืนโดยไม่หยุดพัก

 

เมื่อเห็นกลุ่มก้อนเมฆ ฟางหยวนจะกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะแม่น้ำเลือด นอกจากนั้นเขาจะใช้วิญญาณอมตะดาบทะลวงมิติ

 

เขาเดินทางผ่านสถานที่อันตรายมาตลอดทาง มีผู้บ่มเพาะสันโดษและกองกำลังใหญ่อยู่รอบๆ ฟางหยวนไม่กล้าใช้วิญญาณอมตะอย่างเปิดเผย

 

กลยุทธ์ของเขาถูกต้อง หลังจากม้าบินหกปีกเขาเดี่ยวและตะขาบมังกร เขายังไม่พบเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอื่น

 

เจตจำนงสวรรค์ต้องใช้เวลาในการวางกับดัก

 

พลังอำนาจของเจตจำนงสวรรค์มีขีดจำกัด มันสามารถส่งอิทธิพลต่อความคิดของม้าบินหกปีกเขาเดี่ยวและตะขาบมังกรแต่ไม่สามารถโจมตีฟางหยวนโดยตรง

 

ความสามารถของเจตจำนงสวรรค์คือการสร้างสถานการณ์

 

แต่ตอนนี้ความเร็วของฟางหยวนสูงมาก เจตจำนงสวรรค์ไม่สามารถสร้างสถานการณ์ได้ทันเวลา

 

เจตจำนงสวรรค์ต้องคิดและวางแผน

 

เรื่องนี้เกิดจากเทพอมตะกลุ่มดาว

 

ตามข้อมูลของนิกายเงา ก่อนการถือกำเนิดของเทพอมตะกลุ่มดาว เจตจำนงสวรรค์ค่อนข้างรับมือได้ง่าย แต่หลังจากเทพอมตะกลุ่มดาวเสียชีวิตและหลอมรวมกับสวรรค์ เจตจำนงสวรรค์เริ่มมีความคิดที่ซับซ้อนมากขึ้น

 

ดังนั้นฟางหยวนจึงไม่บินไปข้างหน้าเป็นเส้นตรง

 

เขาบินเป็นเส้นโค้งและอ้อมไปในทิศทางต่างๆ หากเขาบินเป็นเส้นตรง เจตจำนงสวรรค์จะสามารถวางกับดักไว้ล่วงหน้า

 

ในความเป็นจริงเจตจำนงสวรรค์อาจตระหนักว่าจุดหมายปลายทางของฟางหยวนคือไท่ชิวและอาจเตรียมกับดักไว้ที่นั่น

 

หากเป็นเช่นนี้ มันจะอันตรายมาก ภารกิจของเขาอาจล้มเหลว ชีวิตของเขาอาจตกอยู่ในอันตราย

 

อย่างไรก็ตามด้วยความเร็วของฟางหยวน เจตจำนงสวรรค์ไม่สามารถหยุดเขา

 

แน่นอนว่าฟางหยวนจะไม่ย้อนกลับหลัง หากเจตจำนงสวรรค์จัดตั้งกับดักไว้ด้านหลัง เขาจะตกลงสู่หลุมพรางและกลายเป็นคนโง่

 

ฟางหยวนเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง ดังนั้นสามวันหลังจากพบตะขาบมังกร เขาก็เริ่มมองเห็นไท่ชิว

 

รูปลักษณ์ของไท่ชิวเหมือนหอคอยหยกจำนวนนับไม่ถ้วน

 

สัตว์ร้ายทุกชนิดเดินเตร็ดเตร่อยู่ภายใน เสียงกรีดร้องคำรามของสัตว์อสูรดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

มันเป็นฉากที่ยิ่งใหญ่ของป่าดึกดำบรรพ

 

ฟางหยวนหยุดใช้วิญญาณอมตะดาบทะลวงมิติและเข้าไปในไท่ชิวโดยตรง

 

เปรียบเทียบกับไท่ชิว ฟางหยวนไม่ต่างจากแมลงวันตัวน้อยที่ไร้นัยยะสำคัญ

 

เกิดความปั่นป่วนขึ้นด้านหน้าราวกับคลื่นสัตว์อสูรกำลังพุ่งเข้ามา

 

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบางและกระตุ้นใช้วิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืด

 

วิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืด!

 

มันสามารถปิดผนึกกลิ่นอายและป้องกันการอนุมาน นอกจากนี้มันยังสามารถหลบซ่อนจากเจตจำนงสวรรค์ได้ในระดับหนึ่ง!

 

วิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์!

 

ฟางหยวนเปลี่ยนเป็นแพะเขาเดี่ยวและเดินเข้าสู่ความสับสนวุ่นวายอย่างช้าๆ

 

‘หากเจตจำนงสวรรค์มีอารมณ์ความรู้สึก มันคงกำลังตกใจและรู้สึกสับสนอยู่ในเวลานี้’ ฟางหยวนลอบหัวเราะอยู่ภายใน

 

วิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดเป็นความช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่ของฟางหยวน

 

ย้อนกลับไปเมื่อไห่ลั่วหลันยังเป็นมนุษย์ นางพึ่งพาวิญญาณอมตะดวงนี้เพื่อปกปิดกลิ่นอายของสุดยอดกายาเทพยุทธที่แท้จริงและสามารถรอดชีวิตมาได้

 

เหตุใดภัยพิบัติของสิบสุดยอดกายาจึงทรงพลังกว่าคนทั่วไป?

 

นั่นเป็นเพราะสวรรค์ต้องการกำจัดส่วนเกินและเติมส่วนขาด มันไม่ต้องการให้มีการดำรงอยู่ของสิบสุดยอดกายาเพื่อรักษาสมดุลของโลกใบนี้

 

มิติช่องว่างจักรพรรดิของฟางหยวนเหนือกว่าสิบสุดยอดกายา พลังอำนาจของภัยพิบัติที่เขาต้องเผชิญจึงเหนือกว่าเช่นกัน กระทั่งวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดยังถูกจำกัด

 

ฟางหยวนคิด ‘เทพธิดาเจียงหยูเป็นสมาชิกของนิกายเงา เพื่อต่อต้านเจตจำนงสวรรค์ นิกายเงามีเครื่องมือเช่นวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดอยู่มากมาย หากอิงอู๋เซี่ยสามารถหลบหนีจากสถานการณ์คับขันและใช้ทรัพยากรที่เหลืออยู่ของนิกายเงา อนาคตของเขาอาจไม่มีอุปสรรค เขาจะมีช่วงเวลาที่ง่ายดายขึ้น’

 

แพะเขาเดี่ยวเป็นสัตว์อสูรเดียวดายที่หาได้ทั่วไปในไท่ชิว การปลอมตัวของเขาสมบูรณ์แบบมาก

 

มันแตกต่างจากร่างของผู้อมตะที่จะถูกจับตามองในไท่ชิว

 

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พบสัตว์อสูรเดียวดายตัวหนึ่ง

 

ม้าทรายทองดำ

 

มันเป็นม้าขนาดใหญ่

 

ร่างกายของมันใหญ่โตกว่าแพะเขาเดี่ยวของฟางหยวน มันเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ ผิวหนังเป็นสีทองดำ และมีหกขา

 

ม้าทรายทองดำกำลังกินหญ้า

 

ตระหนักถึงแพาะเขาเดี่ยว ม้าทรายทองดำเงยศีรษะขึ้นตรวจสอบแขกที่ไม่ได้รับเชิญผู้นี้

 

สัตว์อสูรเดียวดายมีอาณาเขตของพวกมันเอง แพะเขาเดี่ยวกำลังบุกรุกดินแดนของม้าทรายทองดำตัวนี้

 

แต่ม้าทรายทองดำไม่ได้กินเนื้อสัตว์เป็นอาหาร นอกจากนั้นแพะเขาเดี่ยวก็เป็นสัตว์กินพืชเช่นกัน ดังนั้นม้าทรายทองดำจึงไม่รู้สึกถึงภัยคุกคามจากแพะเขาเดี่ยว

 

แต่มันยังระวังตัว

 

มันมองฟางหยวนกระทั่งเขาเดินห่างออกไป หลังจากนั้นม้าทรายทองดำจึงก้มศีรษะลงกินหญ้าอีกครั้ง

 

ฟางหยวนเลือกเปลี่ยนร่างเป็นแพะเขาเดี่ยวหลังจากพิจารณามาอย่างรอบคอบ

 

ในภาคเหนือมีสัตว์อสูรประเภทหมาป่าอยู่มากมาย แต่หากเขาเปลี่ยนเป็นหมาป่าเดียวดาย เขาจะพบกันการตอบสนองที่รุนแรงจากม้าทรายทองดำ

 

ฟางหยวนเดินหน้าต่อไป

 

เขาสามารถจดจำแผนที่ของไท่ชิวหรือกระทั่งเขาจะไม่สามารถจดจำบางสิ่ง เขาก็ยังมีวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลอยู่ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

‘ตำแหน่งแรกอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้’ ฟางหยวนมองไปรอบๆ

 

แต่ต้นไม้ในไท่ชิวสูงมาก ยิ่งลึกก็ยิ่งสูง แม้ร่างแพะเขาเดี่ยวของฟางหยวนจะค่อนข้างใหญ่โต แต่มันยังดูเล็กมากหากเปรียบเทียบกับสภาพแวดล้อม

 

ระหว่างทางฟางหยวนพบสัตว์อสูรเดียวดายมากมาย

 

ส่วนใหญ่เป็นสัตว์กินพืช มีสัตว์กินเนื้อบ้างเล็กน้อย

 

ฟางหยวนใช้สติปัญญาในการผ่านสัตว์อสูรเดียวดายเหล่านั้น แม้จะพบอุปสรรคบ้างแต่เขาก็สามารถผ่านมันมาได้

 

“บลา…บลา…”

 

เสียงร้องของแพะดังเข้าหูของฟางหยวน

 

ในก่อหญ้าด้านหน้ามีกลุ่มแพะเขาเดี่ยวฝูงใหญ่

 

ฟางหยวนลอบถอนหายใจ ‘นี่เป็นสัตว์อสูรฝูงแรกที่ข้าพบ’

 

ฝูงแพะมีประมาณหนึ่งร้อยตัว พวกมันกำลังกินหญ้า บางตัวนอนอยู่บนพื้น บางตัวกำลังเดินเล่น

 

ฟางหยวนเดินเข้าสู่อาณาเขตของพวกมัน

 

ฝูงแพะเขาเดี่ยวมองเขา

 

นี่เป็นครั้งแรกที่พวกมันเห็นแพะเขาเดี่ยวที่ไม่รู้จัก

 

ฟางหยวนเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง

 

กระทั่งเขาจะมีวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์ มันก็ยังมีข้อบกพร่อง หากหนึ่งในฝูงแพะมีวิญญาณอมตะป่าสายตรวจสอบและมองทะลุการปลอมแปลงของฟางหยวน มันจะกลายเป็นหายนะ

 

เพื่อความปลอดภัย ฟางหยวนลอบใช้วิญญาณทัศนคติอย่างลับๆ

 

ทันใดนั้นฝูงแพะพลันรู้สึกถึงทัศนคติของฟางหยวนและมองเขาด้วยสายตาที่อบอุ่น

 

ฟางหยวนเดินไปข้างหน้าอีกสองสามก้าว มีแพะเขาเดี่ยววัยเยาว์หลายตัววิ่งมาหาเขาและเฝ้ามองด้วยดวงตากลมโต สองตัวในนั้นวิ่งไปรอบๆฟางหยวนและกระโดดไปมา

 

ฟางหยวนเดินจากมาด้วยความปลอดภัย

 

แพะเขาเดี่ยววัยเยาว์สองสามตัวเดินตามเขามาระยะหนึ่งก่อนที่พวกมันจะถูกพ่อแม่เรียกให้กลับไป

 

ฟางหยวนถอนหายใจด้วยความเสียดาย

 

หากเขาสามารถนำแพะเขาเดี่ยววัยเยาว์สองสามตัวที่ตามมาเก็บไว้ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ นั่นจะยอดเยี่ยมมาก

 

แต่เขาไม่มีโอกาสที่จะทำมัน

 

เมื่อออกจากอาณาเขตของแพะเขาเดี่ยว ฟางหยวนก็เข้าใกล้จุดหมายปลายทางแรก

 

เขาปราศจากความกังวลและตรวจสอบด้วยตนเอง

 

‘พลังอำนาจของวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดเริ่มอ่อนแอลง แต่มันยังอยู่ได้อีกชั่วระยะเวลาหนึ่ง’ ฟางหยวนประเมิน

 

หลังจากใช้งานวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืด มันจำเป็นต้องพักผ่อนชั่วขณะก่อนที่ฟางหยวนจะสามารถกระตุ้นใช้งานมันอีกครั้ง

 

พลังอำนาจของมันคือการปกปิดกลิ่นอาย แต่เมื่อเวลาผ่านไปพลังอำนาจของมันจะค่อยๆลดลง

 

เรื่องนี้จะแตกต่างกันออกไปตามผู้ใช้วิญญาณแต่ละคน

 

ตัวอย่างเช่นมันจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นหากผู้ใช้งานเป็นไห่ลั่วหลันที่ยังเป็นมนุษย์ หากผู้อมตะใช้งานมัน พลังอำนาจของมันจะลดลง ในกรณีที่เป็นผู้อมตะบนเส้นทางสายอื่น ผลลัพธ์ของมันอาจแย่ลงไปอีก แต่ฟางหยวนไม่มีปัญหาเรื่องความขัดแย้งของพลังงานแห่งเต๋า

 

กล่าวโดยสรุป ฟางหยวนสามารถใช้พลังอำนาจของวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

อย่างไรก็ตามเจตจำนงสวรรค์ยังพยายามค้นหาเขาขณะเดียวกันสัตว์อสูรเดียวดายและสัตว์อสูรบรรพกาลจะโจมตีเขาหากพลังอำนาจในการปิดผนึกกลิ่นอายของวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดลดลง

 

ฟางหยวนเข้าใกล้จุดหมายแรก

 

ก่อนจะบรรลุถึง ฟางหยวนตระหนักแล้วว่าสถานที่แห่งนี้เปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์

 

แผนที่ระบุว่าที่นี่มีซากศพของสัตว์อสูรแรกกำเนิด ราชสีห์ปราญแรกกำเนิด นอกจากนั้นยังมีฝูงราชสีห์ปราณระดับสัตว์อสูรเดียวดายและราชสีห์ปราณระดับสัตว์อสูรบรรพกาลปกป้องอยู่

 

แต่ตอนนี้ซากศพราชสีห์แรกกำเนิดหายไปและปราศจากร่องรอยของฝูงราชสีห์ปราณใดๆ ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายสายตรวจสอบและได้ยินเสียงเห่าหอนของฝูงหมาป่า

 

หัวใจของฟางหยวนจมดิ่งลง

 

‘หมาป่าโลหิตเดียวดาย! และยังมีอย่างน้อยสามสิบตัว!’

 

ฝูงหมาป่าเดียวดาย

 

แม้จะไม่ใช่ฝูงใหญ่ พวกมันก็ยังเป็นสัตว์กินเนื้อที่ดุร้ายมาก

 

ฟางหยวนไม่จำเป็นต้องเข้าไปใกล้พวกมัน เพียงใช้ท่าไม้ตายสายตรวจสอบระดับมนุษย์ เขาก็ได้รับข้อมูลมากมาย

 

นี่คือความฉลาดของมนุษย์

 

หมาป่าเดียวดายอาจมีวิญญาณอมตะป่าในการครอบครอง แต่พวกมันไม่สามารถกระตุ้นใช้งานด้วยความต้องการของตนเอง เปรียบเทียบกับผู้อมตะที่สามารถควบคุมวิญญาณอมตะ มันเป็นเรื่องที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

 

ฟางหยวนคิดกับตนเอง ‘สถานที่แรกเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นซากศพของราชสีห์ปราณแรกกำเนิดหรือฝูงราชสีห์ปราณเดียวดายและราชสีห์ปราณบรรพกาล พวกมันหายไปทั้งหมดด้วยเหตุผลบางประการ หลังจากสามแสนปี ฝูงหมาป่าโลหิตได้เข้ามาแทนที่’

 

ฟางหยวนไม่ลังเลและจากไปทันที

 

เขาเดินอ้อมฝูงหมาป่าโลหิตและมุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางที่สอง

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset