Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1056

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1056 เผชิญหน้าภัยพิบัติ (4)

แปลโดย iPAT 

 

‘มันเป็นภัยพิบัติพิภพครั้งแรกของข้า แต่มันมีทั้งอสูรหิมะ อินทรีย์มงกุฎเหล็ก กระเรียนเก้ามงกุฎ และกระทั่งค้างคาวมรณะบรรพกาล…’ ฟางหยวนรู้สึกขมขื่น

 

ค้างคาวมรณะบรรพกาลมีร่างกายใหญ่โตมาก เงาของมันปกคลุมพื้นที่ในวงกว้าง

 

แต่มันก็ทำให้พายุหิมะอ่อนกำลังลง

 

อสูรหิมะหยุดคำรามและมองไปยังสัตว์อสูรที่อยู่บนท้องฟ้า

 

‘ก่อนออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ข้าใช้ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งโชคเพื่อเพิ่มโชคดีไปแล้ว ตั้งแต่ภัยพิบัติเกิดขึ้น ข้าก็ใช้วิญญาณอมตะโชคอึสุนัขอย่างต่อเนื่อง โชคของข้าช่วยลดพลังอำนาจของภัยพิบัติไปแล้ว มิฉะนั้มันจะน่ากลัวยิ่งกว่านี้’

 

ฟางหยวนกัดฟันแน่น

 

ค้างคาวมรณะบรรพกาลบินอยู่บนท้องฟ้าด้วยร่างกายราวกับภูเขา

 

กลิ่นอายของมันสร้างแรงกดดันที่รุนแรง

 

ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งดาบ คลื่นดาบสามชั้น!

 

ฟางหยวนไม่มีทางเลือกนอกจากเผชิญหน้าโดยตรง

 

คลื่นแสงสีขาวพุ่งออกไปรอบๆก่อนจะโจมตีค้างคาวมรณะบรรพกาลด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัว

 

ฟางหยวนผลักฝ่ามือเพื่อส่งคลื่นแสงที่ใหญ่กว่าออกไป

 

ไม่ว่าคลื่นแสงจะเคลื่อนที่ไปที่ใด ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกกำจัด กระทั่งห้วงมิติยังเกิดการปริแตก

 

เห็นได้ชัดว่ามันเป็นการโจมตีที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง

 

มันใช้วิญญาณอมตะคลื่นดาบระดับเจ็ดเป็นแกนกลางผสานกับวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งวารีอีกหลายดวงที่ฟางหยวนยืมมาจากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

 

คลื่นดาบครั้งที่สองปะทะค้างคาวมรณะบรรกาลทำให้มันหยุดเคลื่อนไหวและกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

 

ฟางหยวนสามารถมองเห็นรอยดาบฝังลึกอยู่บนร่างกายของมัน

 

โดยปกติค้างคาวมรณะบรรพกาลมักจะหลีกเลี่ยงอันตรายและล่าถอยเพื่อรักษาชีวิตตามสัญชาตญาณ แต่ค้างคาวมรณะบรรพกาลตัวนี้ไม่เหมือนค้างคาวมรณะบรรพกาลทั่วไป มันถูกสร้างขึ้นจากภัยพิบัติพิภพ หลังจากได้รับบาดเจ็บ มันไม่แม้แต่จะหยุดพักแต่พุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนอย่างไม่ลดละ

 

ค้างคาวมรณะบรรกาลเป็นสัตว์อสูรบนเส้นทางแห่งห้วงมิติ ดังนั้นการหลบหนีโดยใช้วิญญาณอมตะดาบทะลวงมิติจึงไม่มีประโยชน์

 

พื้นที่รอบๆได้รับผลกระทบจากพลังอำนาจบนเส้นทางแห่งห้วงมิติของค้างคาวมรณะบรรพกาล มันค่อนข้างจำกัดความเร็วในการเคลื่อนที่ของฟางหยวน

 

วิธีเดียวที่สามารถต่อต้านคือกำจัดศัตรูโดยใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมด

 

โชคดีที่ท่าไม้ตายอมตะคลื่นดาบสามชั้นสามารถปลดปล่อยคลื่นดาบได้สามครั้งและจะทรงพลังขึ้นทุกครั้ง

 

คลื่นดาบครั้งที่สาม!

 

คลื่นดาบสูงสิบเมตรพุ่งเข้าโจมตีค้างค้าวมรณะบรรพกาลด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ กระทั่งฟางหยวนซึ่งเป็นผู้ใช้ยังรู้สึกว่าร่างกายของตนสั่นสะท้านขึ้น

 

“บึม!”

 

คลื่นดาบปะทะค้างคาวมรณะบรรพกาล

 

ค้างคาวมรณะบรรพกาลเงยศีรษะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

 

คลื่นดาบปะทะแผลเก่าบนหน้าท้องของมันก่อนจะทะลุออกไปด้านหลัง

 

ร่างกายของมันระเบิดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและร่วงหล่นลงจากท้องฟ้าราวกับว่าวที่ถูกตัด

 

เมื่อแรงกดดันลดลง ฟางหยวนจึงสามารถผ่อนคลาย พลังอำนาจบนเส้นทางแห่งห้วงมิติที่ผนึกพื้นที่เอาไว้ก่อนหน้านี้หายไปอย่างสมบูรณ์

 

‘ข้าฆ่ามันได้!’ ฟางหยวนรู้สึกมีความสุขแต่ในจังหวะนี้การแสดงออกของเขากลับเปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน

 

ความหมายที่แท้จริงปริมาณมากพุ่งเข้าสู่จิตใจของเขาราวกับน้ำตกสวรรค์

 

มันมากกว่าครั้งก่อนหน้า!

 

ฟางหยวนรู้สึกเหมือนได้เห็นค้างคาวมรณะตั้งแต่กำเนิด เติบโต และตกตาย

 

หลังจากชั่วครู่ฟางหยวนก็ฟื้นขึ้นจากอาการมึนงง ดวงตาของเขากลับมาส่องประกายคมชัดอีกครั้ง

 

‘ดูเหมือนความหมายที่แท้จริงครั้งนี้จะมากเกินไป ข้าเหมือนงูที่พยายามกลืนกินช้าง หากข้ากินอาหารคำโตเกินไป ท้องของข้าอาจระเบิด!’ เมื่อตระหนักถึงเรื่องนี้ ช่วยไม่ได้ที่เหงื่ออันเย็นเยียบจะไหลลงจากหน้าผากของเขา

 

ความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่งเป็นวิธีที่รวดเร็วที่สุดในการยกระดับความสำเร็จ

 

แต่ทุกสิ่งล้วนมีขีดจำกัด หากมากเกินไป มันอาจเป็นอันตราย

 

ด้วยปริมาณที่มากเกินไป จิตใจของผู้อมตะอาจพังทลายลง โชคดีที่ฟางหยวนมีรากฐานบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ดีและยังมีวิญญาณอมตะสายป้องกันที่ยืมมาจากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

 

มิฉะนั้นฟางหยวนอาจสูญเสียตัวตนและตกตายอยู่ที่นี่

 

‘ข้ามีพลังงานอมตะเหลืออยู่เล็กน้อย โชคดีที่ค้างคาวมรณะบรรพกาลตายไปแล้ว…’

 

ฟางหยวนมองลงไปด้านล่าง

 

ซากศพของค้างคาวมรณะบรรพกาลกลายเป็นกองหิมะอยู่บนพื้น

 

แต่อสูรหิมะเดียวดายยังอยู่ที่นี่และยังมีอสูรหิมะตัวเล็กตัวน้อยอีกนับไม่ถ้วน นอกจากนั้นอสูรหิมะระดับสัตว์อสูรบรรพกาลก็ถือกำเนิดขึ้นแล้ว

 

‘บัดซบ! มันเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น’ เมื่อเห็นสิ่งนี้ ฟางหยวนรู้สึกแย่มาก

 

‘เพื่อกวาดล้างอสูรหิมะเหล่านี้ ข้าต้องยืมหินวิญญาณอมตะจากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา’ ฟางหยวนไม่เต็มใจที่จะติดหนี้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาแต่ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือก

 

พายุหิมะที่อ่อนกำลังลงเริ่มรุนแรงขึ้นอีกครั้ง

 

เกล็ดหิมะขนาดเท่าฝ่ามือบินลงมาจากท้องฟ้าพร้อมกับสายลมกรรโชกแรง

 

ค้างคาวมรณะบรรพกาลอีกสองเริ่มก่อนตัวขึ้น

 

ใบหน้าของฟางหยวนกลายเป็นซีดขาว เขาสาปแช่ง ‘ฮืม ข้าอาจตายอยู่ที่นี่ ภัยพิบัติพิภพชนิดใดกัน กระทั่งภัยพิบัติสวรรค์ยังไม่น่ากลัวถึงเพียงนี้!’

 

แน่นอนว่านี่เป็นเพียงการระบายอารมณ์ของฟางหยวนเท่านั้น เขากัดฟันแน่นก่อนจะพุ่งเข้าโจมตีศัตรูทันที

 

ค้างคาวมรณะบรรพกาลตัวก่อนหน้าเกือบฆ่าเขาไปแล้ว หากค้างคาวมรณะบรรพกาลสองตัวปรากฏขึ้นและโจมตีฟางหยวนในเวลาเดียวกัน เขาอาจไม่สามารถเอาชนะ

 

แต่ดูเหมือนพลังอำนาจของภัยพิบัติพิภพเริ่มลดลงราวกับกำลังจะถึงจุดสิ้นสุด

 

การก่อตั้วขึ้นของค้างคาวมรณะบรรพกาลสองตัวค่อนข้างช้าหากเปรียบเทียบกับตัวก่อนหน้า

 

ฟางหยวนต้องการกำจัดค้างคาวมรณะบรรพกาลก่อนที่พวกมันจะก่อตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์

 

แต่ในเวลานี้พายุหิมะกลับทวีความรุนแรงมากขึ้น

 

ก้อนหิมะขนาดใหญ่เท่ารถม้าหลายลูกตกลงมากจากท้องฟ้า หากความสำเร็จด้านการบินของฟางหยวนไม่บรรลุระดับกึ่งปรมาจารย์ เขาอาจไม่สามารถหลบเลี่ยง

 

เขามองไปทางต้นกำเนิดของก้อนหิมะเหล่านั้น ปรากฏว่ามันเป็นการโจมตีจากอสูรหิมะบรรพกาลที่อยู่บนพื้น

 

หลังจากไม่นานอสูรหิมะบรรพกาลเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านี้พวกมันมีเพียงไม่กี่ตัวแต่ตอนนี้พวกมันมีมากถึงยี่สิบแปดตัว

 

อสูรหิมะบรรพกาลสร้างก้อนหิมะขนาดใหญ่ขึ้นในมือก่อนจะโยนขึ้นสู่อากาศราวกับสะเก็ดดาวพุ่งไปที่ฟางหยวน

 

หัวใจของฟางหยวนจมดิ่งลง ค้างคาวมรณะบรรพกาลสองตัวเป็นเรื่องยากที่จะจัดการ ตอนนี้ยังมีก้อนหิมะเหล่านี้เป็นสิ่งกีดขวาง แผนการของเขาจึงล่าช้าลง หากค้างคาวมรณะบรรพกาลทั้งสองสามารถก่อตัว ฟางหยวนอาจล้มเหลวในภัยพิบัติครั้งนี้!

 

ขณะที่ฟางหยวนเผชิญหน้ากับสถานการณ์อันตรายอยู่ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ ยังมีคนอื่นที่กำลังประสบปัญหาอยู่ในแดนน้ำแข็งเช่นกัน

 

มันคือการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะของผู้ใช้วิญญาณบางคน

 

“ท่านอาจารย์ช่วยข้าด้วย!” ผู้ใช้วิญญาณกรีดร้องเมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีจากสายฟ้าเยือกแข็ง เขาไม่สามารถต่อต้านและทำได้เพียงเฝ้ามองความตายที่ใกล้เข้ามาเท่านั้น

 

“บึม!” เสียงระเบิดดังสนั่น

 

ในช่วงเวลาสำคัญร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้นด้านหน้าผู้ใช้วิญญาณ

 

สายฟ้าเยือกแข็งที่ผู้ใช้วิญญาณไม่สามารถต่อต้านกลับเปราะบางเหมือนกระดาษต่อหน้าบุคคลผู้นี้

 

สายฟ้าเยือกแข็งปรากฏขึ้นและหายไปอย่างรวดเร็ว

 

มันไม่แม้แต่จะสามารถสัมผัสเสื้อผ้าของคนๆนี้

 

“ระดับการบ่มเพาะของท่านอาจารย์สูงมาก!” ผู้ใช้วิญญาณถอนหายใจ ตั้งแต่ภัยพิบัติเริ่มขึ้น เขาถอนหายใจมาหลายครั้งแล้ว

 

“นี่เป็นเพียงภัยพิบัติสายฟ้าเยือกแข็ง พลังอำนาจของมันยังไม่มีถึงหนึ่งในสิบของภัยพิบัติใหญ่” ผู้อมตะชูตู๋มองสายฟ้าเยือกแข็งอย่างไร้อารมณ์

 

“ท่านอาจารย์ ท่านหมายความว่าท่านไม่พอใจกับพลังอำนาจของภัยพิบัตินี้งั้นหรือ?” ผู้ใช้วิญญาณถาม

 

ชูตู๋ตอบอย่างตรงไปตรงมา “เมื่อผู้ใช้วิญญาณก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ พวกเขาจะดึงปราณสวรรค์และปราณพิภพออกมา ระหว่างขั้นตอนนี้ พวกเขาจะเชื่อมต่อกับสวรรค์พิภพและได้รับข้อมูลรวมถึงแรงบันดาลใจมากมาย”

 

“แต่ในแดนน้ำแข็งแห่งนี้ เมื่อผู้ใช้วิญญาณบนเส้นทางความแข็งแกร่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ พวกเขาจะกระตุ้นความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่งให้ปรากฏตัวขึ้น พวกเขาจะได้รับความหมายที่แท้จริงบนเส้นทางความแข็งแกร่งและเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงของเทพปีศาจคลั่งโดยตรง”

 

“ยิ่งภัยพิบัติทรงพลังมากเท่าใด พวกเขาก็จะได้รับความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่งมากเท่านั้น ข้าเลี้ยงดูศิษย์ทุกคนเพราะข้าต้องการความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่ง ระหว่างที่พวกเจ้าก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ ข้าจะได้รับความหมายที่แท้จริงเหล่านั้นและมันจะทำให้ความสำเร็จของเส้นทางความแข็งแกร่งของข้าเพิ่มสูงขึ้น!”

 

“เป็นเช่นนั้น” ผู้ใช้วิญญาณเข้าใจในที่สุด “นี่คือเหตุผลที่ท่านอาจารย์รับพวกเราเป็นศิษย์?”

 

ชูตู๋กำลังจะกล่าวแต่ในจังหวะนี้เขากลับได้ยินเสียงดังมาจากระยะไกล

 

“หือ” ชูตู๋มองไปยังสถานที่ที่ห่างออกไป มันมีรอยแตกร้าวอยู่กลางอากาศ นอกจากนั้นยังสามารถมองเห็นฟางหยวนที่กำลังต่อสู้กับค้างคาวมรณะบรรพกาลอยู่ในมิติช่องว่างของเขา

 

“นี่!?” ร่างของชูตู๋สั่นสะท้านขึ้นพร้อมกับดวงตาที่ส่องประกายสว่างไสว

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset