Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1052

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1052 การไล่ล่าของวังสวรรค์

แปลโดย iPAT 

 

ภาคกลาง แดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู

 

เทพธิดาจื่อเว่ยค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

 

นางสวมชุดคลุมสีม่วงแต่มันแทบไม่สามารถปกปิดรูปร่างที่งดงามของนางได้ ดวงตาของนางเหมือนบ่อน้ำที่มืดสนิท ใบหน้าดูเศร้าโศกเล็กน้อย ผิวของนางขาวราวหิมะ เส้นผมทิ้งตัวลงมาจนถึงเอว สิ่งสำคัญที่สุดก็คือนางปลดปล่อยกลิ่นอายของผู้อมตะระดับแปดออกมาอย่างชัดเจน

 

นางถอนหายใจและหยุดใช้ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งปัญญา

 

“ทักทายบรรพชนจื่อเว่ย” ฟงจินฮวงเร่งลุกเข่าลงบนพื้นและทำความเคารพเทพธิดาจื่อเว่ยที่ลอยอยู่กลางอากาศ

 

มุมปากของเทพธิดาจื่อเว่ยยกขึ้นขณะที่ความโศกเศร้าบนใบหน้าเปลี่ยนเป็นสดใสเบิกบาน

 

“ฮวงเอ๋อลุกขึ้น ไม่จำเป็นต้องมากพิธี แม่ของเจ้ากับข้ามีความสัมพันธ์ทางสายเลือด เราก็เหมือนคนในครอบครัว”

 

จากการแสดงออกของนาง ชัดเจนว่านางพึงพอใจฟงจินฮวง

 

ฟงจินฮวงยืนขึ้นด้วยความรู้สึกเคารพและชื่นชม

 

หลังจากทั้งหมดคนที่อยู่ตรงหน้านางคือผู้อมตะระดับแปด!

 

ในความคิดของฟงจินฮวง นางไม่กล้าคิดถึงการก้าวเข้าสู่ระดับแปดแต่มันก็เป็นความใฝ่ฝันระยะยาวของนาง เทพธิดาจื่อเว่ยเติบโตขึ้นในนิกายคฤหาสน์วิญญาณและเคยเป็นผู้อาวุโสสูงสุด นางมีชีวิตอยู่มาอย่างน้อยหนึ่งพันหกร้อยปีและได้เข้าร่วมกับวังสวรรค์ นางทั้งงดงามและมากความสามารถ มันจึงช่วยไม่ได้ที่ฟงจินฮวงจะยกนางเป็นแบบอย่าง

 

“บรรพชนจื่อเว่ย ท่านอนุมานอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูมาเป็นเวลาสามเดือน ไม่ทราบว่าท่านพบสิ่งใดบ้างหรือไม่?” ฟงจินฮวงถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

 

เทพธิดาจื่อเว่ยพยักหน้าเล็กน้อย

 

เทพธิดาจื่อเว่ยลอยลงมาอยู่ด้านหน้าฟงจินฮวงแต่เท้าของนางยังลอยอยู่เหนือพื้นประมาณสามสิบเซนติเมตร

 

นี่เป็นบุคลิกของนาง นางรักความสะอาดมาก!

 

เทพธิดาจื่อเว่ยตอบ “หลังจากอนุมานมาหลายวัน ข้ามั่นใจว่าเจ้าของเดิมของแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูเป็นสมาชิกของนิกายท้าทายสวรรค์”

 

“นิกายท้าทายสวรรค์?” รูม่านตาของฟงจินฮวงหดเล็กลงด้วยความประหลาดใจ

 

นางอาจเป็นมนุาย์แต่บิดามารดาของนางเป็นผู้อมตะ ดังนั้นนางจึงล่วงรู้ความลับมากมาย

 

นางเคยได้ยินชื่อนิกายท้าทายสวรรค์มาก่อน มันเป็นกองกำลังลึกลับที่มีอิทธิพลในภาคกลาง

 

สิบนิกายโบราณควบคุมทรัพยากรส่วนใหญ่ของภาคกลาง กองกำลังอื่นหรือผู้บ่มเพาะสันโดษมักถูกปราบปราม มีกองกำลังไม่มากที่กล้าต่อต้านนิกายโบราณทั้งสิบ

 

แต่กองกำลังเหล่านี้มักถูกยึดครองหรือทำลายโดยนิกายโบราณทั้งสิบในที่สุด

 

อย่างไรก็ตามนิกายท้าทายสวรรค์เป็นนิกายลึกลับที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดและเป็นกองกำลังที่อยู่นานที่สุด

 

ไม่ใช่ว่านิกายโบราณทั้งสิบไม่ต้องการกำจัดนิกายท้าทายสวรรค์ แต่มันเป็นเพราะพวกเขาซ่อนตัวได้ดีเกินไป

 

กระทั่งสมาชิกของนิกายก็ยังไม่รู้จักกันและใช้รหัสตัวเลขเพื่อกล่าวถึงกันเท่านั้น

 

“ภายนอก ผู้อมตะไป่หูเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษ นางได้รับภูเขาตงฮันมาโดยบังเอิญ แต่ดูเหมือนความบังเอิญนี้จะเกิดจากความช่วยเหลือของนิกายท้าทายสวรรค์” เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวต่อ

 

ดวงตาของฟงจินฮวงส่องประกายขึ้นและเริ่มคาดเดา “นั่นหมายความว่าฟางหยวนเป็นสมาชิกนิกายท้าทายสวรรค์งั้นหรือ? ไม่แปลกใจเลยที่เขาปรากฏตัวขึ้นในเวลานั้นโดยไม่มีผู้ใดคาดคิดมาก่อน”

 

แต่เทพธิดาจื่อเว่ยกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย “ข้าพยายามอนุมานเรื่องนี้แต่ผลลัพธ์กลับไม่แน่ชัด อย่างไรก็ตามฟางหยวนต้องเกี่ยวข้องกับนิกายท้าทายสวรรค์ไม่มากก็น้อย เจ้าหลี่กเลี่ยงที่จะติดต่อกับจิตวิญญาณแผ่นดินไป่หูและยังไม่ได้รับสืบทอดแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูอย่างเป็นทางการ เจ้าคิดที่จะคืนแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูให้กับฟางหยวนถูกต้องหรือไม่?”

 

“บรรพชนจื่อเว่ย…” เหงื่ออันเย็นเยียบไหลลงมาจากหน้าผากของฟงจินฮวง

 

เทพธิดาจื่อเว่ยเผยรอยยิ้มมั่นใจ “เราเป็นครอบครัว เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล ข้ารู้ว่าฟางหยวนช่วยฟงจิวเก้อเอาไว้ พ่อของเจ้าเป็นอัจฉริยะที่น่าทึ่ง เขาเป็นคนที่จะทิ้งร่องรอยเอาไว้ในประวัติศาสตร์ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังรู้จักตอบแทนความเมตตาและเกลียดชังอย่างเหมาะสม เขาซื่อสัตย์และเป็นธรรม ข้าเข้าใจว่าเหตุใดเขาจึงขอสิ่งนี้กับเจ้า”

 

ฟงจินฮวงเร่งกล่าว “บรรพชนจื่อเว่ย ท่านช่างใจกว้างนัก…”

 

เทพธิดาจื่อเว่ยโบกมือ “แต่เจ้าต้องจำไว้ ฟางหยวนเป็นอาชญากรที่วังสวรรค์ต้องการตัว หากเจ้าต้องการตอบแทนความเมตตาของเขา ข้าจะไม่ห้ามเจ้าหากเจ้าส่งแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูคืนให้เขาในอนาคต แต่เรื่องของฟางหยวน ข้าเป็นผู้รับผิดชอบ ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะไม่ดื้อรั้นเกินไปและทำเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่”

 

ฟงจินฮวงก้มศีรษะลง “ข้าจะจดจำคำของบรรพชนเอาไว้ในใจเสมอ”

 

เทพธิดาจื่อเว่ยพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะบินขึ้นสูท้องฟ้า

 

ประตูทางเข้าออกของแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูเปิดออกเพื่อให้นางบินจากไป

 

เทพธิดาจื่อเว่ยกลายเป็นลำแสงสีม่วงบินตรงไปยังวังสวรรค์

 

ลำแสงสีม่วงพุ่งเข้าไปในห้องโถงใหญ่

 

ภายในห้องโถงแห่งนี้ ร่างหลักของเทพธิดาจื่อเว่ยนั่งไขว้ขาอยู่บนเสื่อและกำลังพูดคุยกับผู้อมตะของวังสวรรค์อีกสองคน

 

แสงสีม่วงพุ่งเข้าสู่ฝ่ามือของนางก่อนจะกลายเป็นเจตจำนง วิญญาณอมตะหลายดวง และพลังงานอมตะอีกเล็กน้อย

 

เทพธิดาจื่อเว่ยที่เคยอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูแท้จริงแล้วก็คือเจตจำนงของนาง

 

นางเก็บสิ่งของเหล่านี้เข้าไปและปิดเปลือกตาลง

 

หลังจากชั่วครู่ นางจึงเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้งและกล่าวเบาๆ “เราพบเบาะแสของฟางหยวนแล้ว”

 

ผู้อมตะที่นั่งอยู่ตรงข้ามนางรู้จักกันในนามของมังกรหมื่นสมุทรเผยรอยยิ้มบาง “เทพธิดาจื่อเว่ย ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของท่านอยู่ในระดับเดียวกับเจ้าวังรุ่นก่อนจริงๆ ท่านเพียงใช้เจตจำนงก็สามารถอนุมานสิ่งสำคัญได้แล้ว”

 

ยิ่งคิดมากเท่าใด ความคิดและเจตจำนงก็จะถูกใช้จ่ายไปมากเท่านั้น กระทั่งเจตจำนงของเทพอมตะตะวันเดือดที่อยู่ในวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงยังต้องจำศีลเพื่อป้องกันความสูญเสียจากความคิด

 

อย่างไรก็ตามวิธีของเทพธิดาจื่อเว่ยกลับลึกลับและทรงพลังมาก

 

นางใช้เพียงเจตจำนงในการอนุมาน นอกจากจะประสบความสำเร็จ เจตจำนงของนางยังถูกใช้ไปไม่แม้แต่จะถึงยี่สิบส่วน

 

ความสำเร็จดังกล่าวสมควรได้รับคำชมอย่างแท้จริง

 

ร่างหลักของเทพธิดาจื่อเว่ยไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำชมของมังกรหมื่นสมุทรแต่กล่าวต่อ “หากฟางหยวนไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูมานาน ข้าจะไม่สามารถอนุมานสิ่งใด ฟางหยวนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนิกายท้าทายสวรรค์ แม้ข้าจะไม่สามารถหาตำแหน่งที่อยู่ที่แน่นอนของเขา แต่ข้ารู้ว่าตราบเท่าที่พวกเราติดตามเบาะแสนี้ไป เราจะพบเขาในที่สุด”

 

มังกรหมื่นสมุทรพยักหน้า “ฟางหยวนมีวิญญาณกาลเวลา เขาทำลายแดนศักดิ์สิทธิ์เมืองหลวงของภาคเหนือและได้รับมรดกของเทพปีศาจบัวแดง มรดกของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ และมรดกของเทพอมตะตะวันเดือด เขายังเป็นปีศาจต่างโลกและรอดชีวิตจากการต่อสู้ที่ภาคใต้ ตัวแปรที่อันตรายเช่นนี้ต้องถูกกำจัด! แต่หากเราต้องการกำจัดเขา เราต้องจัดการวิญญาณกาลเวลาเป็นอันดับแรก!”

 

ผู้อมตะคนที่สามที่อยู่ในห้องโถงกล่าว “ท่านสามารถมั่นใจในเรื่องนี้ ตั้งแต่ข้าตื่นขึ้น ข้าก็เตรียมการบางอย่างทันที ข้ากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายสำเร็จเมื่อหลายวันก่อนและได้ปิดผนึกวิญญาณกาลเวลาเรียบร้อยแล้ว มันจะไม่สามารถใช้งานได้ภายในสามเดือนนี้”

 

นางเป็นหญิงชราที่มีเสียงแหบแห้งและท่าทางเหนื่อยล้ามาก

 

อย่างไรก็ตามเทพธิดาจื่อเว่ยและมังกรหมื่นสมุทรดูเหมือนจะมั่นใจในตัวนาง

 

มังกรหมื่นสมุทรเผยรอยยิ้ม “เนื่องจากท่านเว่ยหลิงหยางได้จัดการวิญญาณกาลเวลาไปแล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้อีก”

 

เทพธิดาซื่อเว่ยกล่าวต่อ “เช่นนั้นเราจะไปที่หุบเขาหมิงเติ้งเพื่อจับกงซุนเหลียง”

 

ในเวลาเดียวกัน แม่น้ำแห่งหนึ่งของภาคกลาง

 

อิงอู๋เซี่ยยืนอยู่ริมแม่น้ำ เขามองต้นหลิวและรู้สึกถึงสายลมอ่อนๆ อย่างไรก็ตามจิตใจของเขากลับไม่สามารถสงบนิ่ง

 

หลังจากเดินทางไปรอบๆถ้ำนรกใต้พิภพ อิงอู๋เซี่ย ไท่เป่ยหยุนเฉิง ไห่ลั่วหลัน และซื่อหนิวกระตุ้นใช้ค่ายกลวิญญาณเคลื่อนย้ายสถานที่เพื่อเดินทางมายังทิศตะวันออกของภาคกลาง

 

พื้นที่บริเวณนี้อยู่ในเขตปกครองของนิกายเมฆาวายุ อิงอู๋เซี่ยอยู่ในร่างของฟางหยวน เขาเป็นอาชญากรที่ถูกไล่ล่าโดยวังสวรรค์และนิกายโบราณทั้งสิบ แต่เขากลับเสี่ยงอยู่ที่นี่ถึงสามวัน

 

เขากำลังรอคนผู้หนึ่ง

 

แล้วผู้ใดที่ทำให้เขายินดีรับความเสี่ยงนี้?

 

เงาสีเขียวบินใกล้เข้ามา

 

อิงอู๋เซี่ยกระวนกระวานต้อนรับคนผู้นี้

 

เงาสีเขียวบินลงบนพื้น เขาไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นหุ่นเชิด

 

หุ่นเชิดตัวนี้มีรูปลักษณ์คล้ายมนุษย์แต่ร่างกายราวกับถูกถักทอขึ้นจากหญ้าสีเขียว

 

หุ่นเชิดหญ้ามองวิญญาณที่อยู่ในมือของอิงอู๋เซี่ยก่อนจะตระหนักว่าเขาคือเป้าหมายและเริ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่ง “เจ้านายของข้าได้รับเชิญให้เข้าร่วมในงานประเมินสมบัติของผู้อาวุโสกงกง ดังนั้นท่านจึงไม่สามารถมาที่นี่ หากเจ้าต้องการพบนายท่าน เจ้าต้องรออีกสามวัน”

 

“รออีกสามวัน?” การแสดงออกของอิงอู๋เซี่ยเปลี่ยนไปเล็กน้อย

 

“หากเจ้าไม่มีความอดทน เจ้าไม่จำเป็นต้องรอ ข้าจะรีบกลับไปรายงานนายท่าน” หุ่นเชิดหญ้ากล่าวอย่างไม่แยแส

 

“ข้าจะรอ!” อิงอู๋เซี่ยรีบเผยรอยยิ้ม “ข้ารอมาสามวันแล้ว มันไม่เป็นไรหากจะรออีกสามวัน เมื่อเวลานั้นมาถึงหากข้ายังไม่ได้พบเจ้านายของเจ้า ข้าคงทำได้เพียงยอมแพ้ต่อธุรกรรมนี้เท่านั้น”

 

หุ่นเชิดหญ้าก่นเสียงเย้ยหยันก่อนจะหมุนตัวจากไป

 

หลังจากมันจากไป การแสดงออกของอิงอู๋เซี่ยจมดิ่งลงทันที

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่ผู้อมตะสามคนปรากฏตัวออกมา

 

พวกเขาก็คือไท่เป่ยหยุนเฉิง ไห่ลั่วหลัน และซื่อหนิว

 

“หุ่นเชิดตัวนั้นคือร่างอวตารพฤกษาในข่าวลืองั้นหรือ?” ไท่เป่ยหยุนเฉิงถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

 

“ถูกต้อง” อิงอู๋เซี่ยพยักหน้า “มันคือร่างอวตารพฤกษาที่เกิดจากวิญญาณหุ่นเชิดพฤกษาระดับหก มันมีพลังการต่อสู้เทียบเท่ากับผู้อมตะระดับหก เมื่อฟงฉานซื่อก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ ปู่ของเขา เฒ่าไป่ฟงได้มอบวิญญาณดวงนี้เป็นของขวัญให้เขา”

 

“ฟงฉานซื่อช่างเย่อหยิ่งนัก เรารอยู่นานแล้วแต่เขายังไม่ออกมาพบพวกเราและส่งเพียงร่างอวตารออกมาเท่านั้น” ไห่ลั่วหลันไม่พอใจ

 

ซื่อหนิวถอนหายใจ “ในการหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะ เราต้องมีแสงแรกกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นเคล็ดลับการหลอมรวมใด พวกมันล้วนต้องใช้สิ่งนี้เป็นส่วนประกอบสำคัญ แต่มีแสงแรกกำเนิดอยู่ในคฤหาสน์เมฆาวายุ พวกเราไม่มีทางเลือกนอกจากต้องอดทน”

 

อิงอู๋เซี่ยก่นเสียงเย็นแต่ไม่กล่าวสิ่งใด

 

เขาต้องการช่วยเทพปีศาจจิตวิญญาณ แต่การทำเช่นนั้นต้องเดินทางข้ามกำแพงภูมิภาค

 

ตอนนี้เขาทำได้เพียงต้องอดทนเท่านั้น

 

เขาคิด ‘วิญญาณกาลเวลาถูกปิดผนึกไปแล้ว ดูเหมือนวังสวรรค์เริ่มตรวจสอบข้าแล้ว ข้าไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้นานนัก หลังจากหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะ ข้าต้องรีบไปยังภาคเหนือและยืมโชคจากถ้ำสวรรค์นิรันดร! บางทีข้าอาจสามารถใช้พลังอำนาจของมันกำจัดฟางหยวน หือ? ไม่ พิจารณาเรื่องเวลา พรุ่งนี้ควรเป็นวันที่ฟางหยวนต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติพิภพ มันไม่สิ่งที่จะสามารถก้าวข้ามได้โดยง่าย เจตจำนงสวรรค์ไม่สามารถควบคุมฟางหยวนแต่มันสามารถจัดการสิ่งแวดล้อม ไม่เพียงภัยพิบัติสวรรค์พิภพแต่มันยังรวมถึงภัยพิบัติที่เกิดจากฝีมือมนุษย์อีกด้วย’

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset