Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1014

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1014 มรดกบนเส้นทางอาหาร

แปลโดย iPAT 

 

ไท่เป่ยหยุนเฉิงอุ้มฟางหยวนวิ่งหนี

 

ไห่ลั่วหลันมองฉากเหตุการณ์วัยเด็กที่น่าสงสารของเทพปีศาจจิตวิญญาณเป็นครั้งสุดท้าย นางรู้สึกเข้าใจเทพปีศาจจิตวิญญาณเนื่องจากนางมีประสบการณ์ที่คล้ายคลึงกัน

 

ด้วยเหตุผลบางประการ ภัยพิบัติใหญ่คุกปฐพีไม่ส่งผลกระทบต่อพวกนาง

 

ไท่เป่ยหยุนเฉิงและไห่ลั่วหลันฉวยโอกาสนี้หลบหนีด้วยความตกใจและดีใจ

 

เขตต้องห้ามที่เกิดจากค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาหายไปแล้ว นั่นทำให้ไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่นหลันสามารถหลบหนีได้อย่างง่ายดาย

 

ในไม่ช้าภูเขาอี้เทียนก็ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง พวกเขามองไม่เห็นเมฆสีเทาอีกต่อไป

 

“ฟางหยวน ตื่น!” ไห่ลั่วหลันตบหน้าฟางหยวนแต่ฟางหยวนยังหลับสนิท

 

หากไม่มีวิญญาณท่องแดนอมตะของฟางหยวน พวกเขาจะไม่สามารถออกจากภาคใต้

 

เว้นเพียงพวกเขาจะข้ามกำแพงภูมิภาค

 

แต่นั่นจะทำให้พวกเขาพบความสูญเสียมากเกินไป

 

“ผู้อมตะจากภาคเหนือ?” เสียงดังมาจากระยะไกล

 

ไม่นานหลังจากนั้นผู้อมตะภาคใต้สามคนก็มาถึง

 

เมื่อเห็นไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลันในสภาพที่น่าสมเพช ผู้อมตะภาคใต้ทั้งสามรู้สึกตกใจมาก “ดูเหมือนพวกเจ้าจะได้รับบาดเจ็บจากภูเขาอี้เทียน เกิดสิ่งใดขึ้น? พูด!”

 

ไท่เป่ยหยุนเฉิงแสดงออกอย่างเป็นมิตร

 

แต่ไห่ลั่วหลันเผยรอยยิ้มเย็นชา “หากพวกเจ้าอยากรู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น? เหตุใดไม่ไปดูด้วยตาของตนเอง?”

 

ผู้อมตะภาคใต้ทั้งสามก่นเสียงเย็น ระดับการบ่มเพาะของพวกเขาไม่สูงนัก พวกเขาเดินทางมาที่นี่เพียงเพราะสมาชิกกลุ่มของพวกเขาที่เดินทางไปภูเขาอี้เทียนก่อนหน้านี้ขาดการติดต่อไป

 

ไม่ว่าจะเป็นกองกำลังใด พวกเขาต่างกังวลเกี่ยวกับคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหล

 

นอกจากนี้ไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลันยังได้รับบาดเจ็บสาหัสและไม่อยู่ในสภาพที่ดีนัก

 

“เราขอให้พวกเจ้าพูด มันจะดีที่สุดหากพวกเจ้าเชื่อฟังพวกเรา”

 

“ผู้อมตะภาคเหนือมาที่ภาคใต้แต่ยังทำตัวยโสงั้นหรือ?”

 

“อย่าเสียเวลาพูดให้มากความ จัดการพวกเขาซะ!”

 

การต่อสู้ปะทุขึ้นในที่สุด

 

ด้านภูเขาอี้เทียน เมฆสีเทายังไม่หายไป สถานการณ์กลายเป็นไร้ทางออก

 

ไม่ว่าวังสวรรค์จะพยายามเพียงใด พวกเขาก็ไม่สามารถเคลื่อนไหว

 

อิงอู๋เซี่ยกับโป้ชิงยังติดอยู่ใต้ดิน

 

เมฆสีเทาปกคลุมร่างกายของโป้ชิงและแสดงภาพเหตุการณ์ต่างๆตลอดเวลา

 

แต่ภาพเหล่านี้เป็นความทรงจำของโม่เหยาในวัยเด็ก นางกำลังเผชิญหน้ากับการหักหลัง

 

“ฮืม!” ผีดิบอมตะโป้ชิงก่นเสียงเย็นเย้ยหยัน

 

เผชิญหน้ากับความเจ็บปวดในอดีต โม่เหยาแสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยว

 

“แปลก เหตุใดเจ้าไม่ได้รับผลกระทบจากเมฆสีเทาเหล่านี้?” โป้ชิงมองอิงอู๋เซี่ยที่อยู่ด้านข้าง

 

“ข้าไม่รู้” อิงอู๋เซี่ยมองเมฆสีเทาและส่ายศีรษะ “แต่เรื่องของเจ้าน่าสนใจจริงๆ”

 

โป้ชิงเย้ยหยัน “ดูเหมือนเพราะเจ้าพึ่งถือกำเนิดได้เพียงสิบแปดชั่วโมง ดังนั้นเจ้าจึงไม่มีเวลาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิต”

 

ภัยพิบัติความทรงจำสีเทาไม่ส่งผลกระทบต่ออิงอู๋เซี่ยเพราะเขายังเด็กเกินไปและไม่มีประสบการณ์ชีวิต

 

แต่มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

‘หมื่นภัยพิบัติครั้งที่สองนี้เป็นเรื่องเลวร้ายอย่างแท้จริง เมื่ออยู่ในเมฆสีเทา ไม่เพียงความทรงจำจะถูกดึงออกมา แต่ความทรงจำเหล่านั้นยังส่งผลกระทบต่อจิตใจ ความทรงจำของข้าทำให้ข้ารู้สึกไม่สบายใจโดยเฉพาะเมื่อมันเกี่ยวกับคนรักของข้า…หากกระทั่งข้ายังได้รับผลกระทบจากสิ่งนี้ แล้วเทพปีศาจจิตวิญญาณที่มีชีวิตมาอย่างยาวนานจะจัดการกับมันอย่างไร?’ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ช่วยไม่ได้ที่โม่เหยาจะมองไปยังเทพปีศาจจิตวิญญาณด้วยร่างของผีดิบอมตะโป้ชิง

 

ท่ามกลางกลุ่มเมฆสีเทา เทพปีศาจจิตวิญญาณราวกับภูเขาที่ไม่เคลื่อนไหว

 

ภาพในวัยเยาว์ของเทพปีศาจจิตวิญญาณยังดำเนินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ตอนนี้เขากลายเป็นผู้อมตะเรียบร้อยแล้ว

 

ในถ้ำนรกใต้พิภพ

 

“เจ้าหนู เจ้าต้องการมรดกของข้างั้นหรือ?” ท่ามกลางความมืดมิด ดวงตาคู่สีแดงส่องประกายขึ้น

 

“ถูกต้อง” ผู้อมตะกล่าวอย่างรวบรัด เขาสวมชุดคลุมสีดำ ผมยาวประบ่า การแสดงออกเย็นชา และมีแสงสว่างส่องสะท้อนออกมาจากดวงตาเป็นครั้งคราว

 

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า” เสียงหัวเราะดังขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

 

หลังจากชั่วครู่มันจึงหยุดลง

 

“ดูเหมือนเจ้าจะเตรียมใจมาแล้ว เช่นนั้นนี่คือบททดสอบของเจ้า!”

 

เสียงคำรามดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของสัตว์ประหลาดที่มีสองแขนสองขาเหมือนมนุษย์แต่ร่างกายปกคลุมไปด้วยเกล็ดและมีศีรษะเป็นจระเข้

 

ปากของมันเต็มไปด้วยเขี้ยวอันแหลมคมราวกับมีดสั้น

 

ศีรษะของมันยังมีเขามังกรหนึ่งคู่

 

แต่ร่างกายของมันปลดปล่อยกลิ่นอายของผู้อมตะออกมา

 

เห็นได้ชัดว่าสัตว์ร้ายตัวนี้คือผู้อมตะเผ่ามนุษย์อสูร

 

มนุษย์อสูรอ้าปากกัดเทพปีศาจจิตวิญญาณในวัยเยาว์แต่ฝ่ายหลังกลับไม่หลบ

 

มันฉีกแขนซ้ายของเป้าหมายออกจากร่าง

 

เลือดพุ่งออกมา

 

ภายใต้การบดเคี้ยวด้วยฟันของมนุษย์อสูร แขนของเทพปีศาจจิตวิญญาณถูกฉีกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เลือดไหลออกมาตามช่องฟันของมัน

 

มนุษย์อสูรกลืนเนื้อและกระดูกลงไปในท้องของมัน

 

“อร่อยมาก! ข้าไม่ได้กินเนื้อสดเช่นนี้มานานแล้ว!” มนุษย์อสูรคำราม

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณยังไม่ถอยและปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามกัดต่อไป

 

มนุษย์อสูรกินแขนอีกข้างหนึ่งของเขาเข้าไปอย่างรวดเร็ว

 

หลังจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ถูกกลืนกินเข้าไปเช่นกัน

 

ถูกโจมตีอย่างหนักหน่วงแต่การแสดงออกของเทพปีศาจจิตวิญญาณกลับไม่เปลี่ยนแปลง

 

มนุษย์อสูรกลายเป็นฝ่ายตกใจ

 

“เจ้าแตกต่างจากผู้คนก่อนหน้านี้” มนุษย์อสูรหยุดกินและประเมินเทพปีศาจจิตวิญญาณ “เจ้าปราศจากความหวาดกลัวอย่างสิ้นเชิง ข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางอาหาร ผู้คนมากมายต้องการมรดกของข้าและอนุญาตให้ข้ากินพวกเขา แม้พวกเขาจะแสดงออกด้วยความแข็งกร้าวแต่ในใจของพวกเขากลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัว”

 

“พวกเขาคิดว่าจะสามารถปกปิดอารมณ์ความรู้สึกจากข้าแต่เนื้อของพวกเขากลับบ่งบอกอารมณ์ของพวกเขาอย่างชัดเจน มันไม่อร่อยเลย”

 

“แล้วเนื้อของข้าอร่อยหรือไม่?” เทพปีศาจจิตวิญญาณถาม

 

มนุษย์อสูรขมวดคิ้ว “กล่าวตามตรง เนื้อของเจ้ารวมถึงกระดูกของเจ้าเย็นมาก มันไม่อร่อยเลย มันเหมือนก้อนน้ำแข็งที่ข้ากินสมัยเด็กๆ ตอนนั้นข้าถูกไล่ล่าโดยมนุษย์ ข้าหลบหนีไปยังแดนน้ำแข็งและเต็มไปด้วยความหิวโหย”

 

“แต่ช่างมันเถอะ ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าติดอยู่ที่นี่และไม่ได้กินเนื้อสดๆมานาน แล้วข้าจะไม่พอใจได้อย่างไร? นอกจากนั้นข้ายังชอบหัวใจ ตับ ไต และลำไส้เป็นพิเศษ พวกมันคือของโปรดของข้า ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าต้องการมรดกของข้าแน่นอนว่ามันมีราคาที่ต้องจ่าย อย่าตายก่อนจะถึงตอนนั้น!”

 

หลังกล่าวจบคำ มนุษย์อสูรก็ฉีกหน้าท้องของเทพปีศาจจิตวิญญาณและดูดลำไส้ของเขาเข้าไปในปาก

 

ใบหน้าของเทพปีศาจจิตวิญญาณกลายเป็นซีดขาว แต่การแสดงออกของเขายังเย็นชาราวกับนั่นไม่ใช่ลำไส้ของเขา

 

ลึกเข้าไปในดวงตาของมนุษย์อสูรปรากฏร่องรอยของความตื่นตระหนก

 

เขากรีดร้องและชี้นิ้วไปที่หน้าอกของเทพปีศาจจิตวิญญาณ “ต่อไปข้าจะกินปอดของเจ้า! ลองดูว่าเจ้าจะทนได้หรือไม่?”

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณเผยรอยยิ้มเย็นชา “แม้ข้าจะถูกกินจนเหลือแต่ศีรษะ ข้าก็ยังสามารถกู้คืนร่างกาย  เมื่อเวลานั้นมาถึง ข้าจะได้รับมรดกของเจ้า จากนั้นเจ้าจะสูญเสียคุณค่าทั้งหมด เจ้าควรห่วงตัวเองมากกว่า”

 

ร่างของมนุษย์อสูรกลายเป็นแข็งค้างไปหลายวินาทีก่อนที่เขาจะระเบิดความโกรธออกมา “เด็กน้อย! อย่ากล่าวใหญ่โต! ข้าจะรอดูว่าเจ้าจะทนได้นานเพียงใด!?”

 

มนุษย์อสูรเปลี่ยนกลยุทธ์เป็นเคลื่อนไหวอย่างช้าๆเพื่อให้เป้าหมายทรมานมากขึ้น

 

การแสดงออกของเทพปีศาจจิตวิญญาณค่อยๆเปลี่ยนจากเย็นชากลายเป็นสนใจ

 

มนุษย์อสูรถาม “เจ้ากำลังคิดสิ่งใด?”

 

“ข้าคิดว่ามันน่าสนใจมาก”

 

“ข้ากำลังกินเลือดเนื้อและอวัยวะภายในของเจ้า แต่เจ้ากลับอยากรู้อยากเห็นงั้นหรือ?” มนุษย์อสูรรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

 

“แน่นอนว่าการกินเป็นเรื่องธรรมชาติของโลกใบนี้ แต่ในอีกแง่มุมหนึ่งของการกินมีการฆ่า พวกเราต้องกิน พวกเราต้องฆ่า หากพวกเรากินผัก พวกเราก็ต้องถอนรากถอนโคนพวกมัน นั่นก็คือการฆ่าประเภทหนึ่ง แม้เราจะกินลมและดื่มเพียงน้ำ ร่างกายของพวกเราก็ต้องย่อยมัน โดยรวมแล้วการกินก็คือการฆ่า แน่นอนว่าการฆ่าไม่ใช่เพียงเรื่องของการกิน ดังนั้นเส้นทางอาหารของเจ้าถือว่าด้อยกว่าเส้นทางการฆ่าของข้า”

 

“ข้ากินหลายสิ่ง แต่ข้าไม่เคยถูกกิน ตอนนี้เจ้ากำลังกินข้า นั่นก็เหมือนกับการฆ่าข้า ในทำนองเดียวกัน ข้าฆ่าสิ่งมีชีวิตมากมาย แต่ข้าไม่เคยถูกฆ่าอย่างช้าๆ นี่ทำให้ข้าเข้าใจความรู้สึกของการถูกฆ่าในอีกรูปแบบหนึ่ง มันเป็นรูปแบบที่เพลิดเพลิน คนถูกฆ่าต้องเตรียมพร้อมที่จะถูกฆ่า เพียงการฆ่าผู้อื่น ข้ายังไม่สามารถทำความเข้าใจมันอย่างเต็มที่ ขอบคุณที่ทำให้ข้าเข้าใจความหมายที่ลึกซึ้งของการฆ่ามากขึ้น”

 

มนุษย์อสูรเบิกตากว้างขณะจ้องมองเทพปีศาจจิตวิญญาณราวกับเห็นสัตว์ประหลาด

 

เหงื่ออันเย็นเยียบไหลลงมาจากศีรษะของมัน

 

มันรู้สึกว่าไม่สามารถกินชายที่อยู่ตรงหน้าได้อีกต่อไป

 

“เด็กบ้า! ข้าจะกินร่างกายส่วนบนของเจ้าแล้ว คอยดูว่าเจ้าจะสามารถยโสได้อีกนานเพียงใด!?” มนุษย์อสูรตะโกนราวกับคนบ้า

 

ในไม่ช้าร่างของเทพปีศาจจิตวิญญาณก็เหลือเพียงศีรษะ

 

เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์นี้ ผู้อมตะวังสวรรค์รวมถึงโป้ชิงและอิงอู๋เซี่ยกลายเป็นเงียบงัน

 

“นี่…คนผู้นี้ต้องเข้มแข็งถึงเพียงใด…” ผู้อมตะวังสวรรค์รู้สึกพูดไม่ออก

 

ก่อนหน้านี้ผู้อมตะวังสวรรค์มั่นใจมากว่าภัยพิบัติความทรงจำสีเทาจะสามารถจัดการเทพปีศาจจิตวิญญาณ แต่ตอนนี้พวกเขากลับสูญเสียความมั่นใจนั้นไปแล้ว

 

มนุษย์อสูรหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าถูกหลอกแล้ว แต่อย่าเสียใจ เจ้าเป็นคนที่สองร้อยสิบเจ็ดที่ถูกหลอก ฮ่าฮ่าฮ่า”

 

ดวงตาของเทพปีศาจจิตวิญญาณส่องประกายขึ้น “มรดกนี้เป็นของปลอมงั้นหรือ?”

 

“แน่นอนว่ามันมีอยู่จริง ย้อนกลับไปเมื่อข้าบ่มเพาะถึงระดับแปด คนเถื่อนจิวลี่พยายามจับข้าและขโมยมรดกบนเส้นทางอาหารของข้า ฮืม เวลานั้นข้าไม่สามารถเอาชนะเขา แต่เขาก็ไม่สามารถฉกชิงสิ่งที่เขาต้องการได้โดยง่ายเช่นกัน ข้าทำข้อตกลงกับเขาว่าข้าจะส่งมอบมรดกบนเส้นทางอาหารให้กับมนุษย์บางคนในอนาคตแต่ไม่ใช่เขาและผู้รับสืบทอดมรดกต้องผ่านการทดสอบจากข้า”

 

“หลังจากทำข้อตกลง ข้าถูกขังไว้ที่นี่ มนุษย์มากมายเดินทางมาที่นี่เพื่อรับมรดกของข้า แต่กระทั่งจิวลี่ก็ไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของข้า ฮ่าฮ่าฮ่า ร่างกายทั้งหมดของข้าเต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางอาหาร ข้าบรรลุระดับที่ไม่เคยมีผู้ใดบรรลุถึงมาก่อน ข้าสามารถกินหินกินลมเพื่อให้ท้องอิ่ม ข้ายังสามารถกินวิญญาณเพื่อเพิ่มร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าให้กับตนเอง ข้ากินพลังงานแห่งเต๋าเข้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง ในที่สุดหลังจากหนึ่งพันปี ข้าจึงสามารถทำลายข้อตกลงที่เคยทำไว้!”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าเข้าใจแล้วใช่หรือไม่!? ต่อไปข้าจะกินศีรษะของเจ้าและเปลี่ยนเป็นสารอาหารบำรุงร่างกายของข้า อย่ากังวล ข้าจะจดจำเจ้าเอาไว้ เจ้าเป็นหนึ่งในคนที่โดดเด่นที่สุดท่ามกลางผู้คนที่น่าสงสารที่ข้าเคยกิน!”

 

“เป็นเช่นนี้” เทพปีศาจจิตวิญญาณยังแสดงออกอย่างสงบ

 

ทันใดนั้นมนุษย์อสูรพลันยกมือจับลำคอของตนและตะโกนด้วยความกังวล “เกิดสิ่งใดขึ้น? เกิดสิ่งใดขึ้น?”

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณหัวเราะเย็นชา “ข้าไม่มีวันยอมให้ผู้อื่นมากำหนดชีวิตและความตายของข้า ไม่ต้องกล่าวถึงข้อตกลงเก่าๆ เจ้าคิดว่าเนื้อของข้ากินง่ายถึงเพียงนั้นงั้นหรือ? เนื้อทุกชิ้นที่เจ้ากินมีจิตวิญญาณของข้าแฝงอยู่ เจ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางอาหาร แต่บังเอิญข้าประสบความสำเร็จบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณเช่นกัน”

 

“เส้นทางแห่งจิตวิญญาณ มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อใด? การแยกจิตวิญญาณจะทำให้เจ้าเจ็บปวดยิ่งกว่าการถูกแยกร่าง!”

 

“ข้าจะบอกให้เจ้ารู้ว่าข้าเป็นผู้สร้างเส้นทางแห่งจิตวิญญาณขึ้นมาด้วยตนเอง ส่วนความเจ็บปวด มันเป็นเพียงการทำให้ข้ารู้สึกถึงความน่าอัศจรรย์ของการฆ่าเท่านั้น”

 

ได้ยินคำกล่าวของเทพปีศาจจิตวิญญาณ ใบหน้าของมนุษย์อสูรกลายเป็นซีดเผือดและหยุดเคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน

 

มันตายแล้ว!

 

ดวงตาของมันเบิกกว้างขณะจ้องมองเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

แม้ฝ่ายตรงข้ามจะเหลือเพียงศีรษะ แต่ดวงตาของมนุษย์อสูรกลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset