Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1003

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1003 ฟางหยวนปะทะโป้ชิง

แปลโดย iPAT 

 

‘นิกายเงามาเร็วกว่ากำหนดเช่นกัน…’ ฟางหยวนลอบถอนหายใจ

 

แม้เขาจะวางแผนมาอย่างรอบคอบ แต่ในการปฏิบัติจริงมันกลับเป็นเรื่องยาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เขาหมดสิ้นหนทาง

 

ในชีวิตก่อนหน้ากลุ่มผู้อมตะภาคใต้ต่อต้านภัยพิบัติมากมายก่อนที่นิกายเงาจะปรากฏตัวขึ้น

 

อย่างไรก็ตามครั้งนี้สมาชิกนิกายเงากลับปรากฏตัวออกมาตั้งแต่แรก

 

เนื่องจากค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาถูกจัดตั้งไปแล้ว ฟางหยวนก็ไม่รีบร้อนที่จะล่าถอยอีกต่อไป

 

เหตุผล?

 

เพราะสถานการณ์เลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นแล้ว

 

เช่นเดียวกับชีวิตก่อนหน้า วิญญาณท่องแดนอมตะไม่สามารถใช้งานในกรณีนี้

 

แม้เขาจะมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหล เขาก็ยังต้องใช้เวลาพอสมควรในการทำลายค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา

 

ฟางหยวนเรียนรู้ท่าไม้ตายเขตแดนมามากมายโดยเฉพาะในแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่ที่ทะเลตะวันออก

 

แม้เขตแตนในแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่จะยอดเยี่ยมแต่มันปราศจากคนควบคุม

 

กระทั่งฟางหยวนจะไม่ใช่ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งค่ายกลและไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ แต่อย่างน้อยเขาก็มีความเข้าใจบางอย่าง

 

หากเขาออกไปตอนนี้ ไม่เพียงเขาจะตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มผู้อมตะภาคใต้ นิกายเงาก็จะไม่ปล่อยเขาจากไปพร้อมกับคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหลเช่นกัน

 

‘กำหราบผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดก่อน จากนั้นค่อยหาโอกาสใช้คฤหาสน์วิญญาณอมตะกวาดล้างสิ่งกีดขวาง’ ฟางหยวนคิด

 

การปรากฏตัวของนิกายเงาทำให้ฟางหยวนสามารถตัดสินใจ

 

เขารู้สึกผ่อนคลายลงและเริ่มจัดการผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปด

 

สิ่งที่ทำให้ฟางหยวนตกใจก็คือผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดยังมีความแข็งแกร่งเหลืออยู่เล็กน้อย

 

เผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่ไม่ธรรมดา ฟางหยวนกระตุ้นใช้พลังอำนาจของคฤหาสน์วิญญาณอมตะอย่างดุเดือด

 

‘ผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดตนนี้เป็นนักวางแผนที่ชาญฉลาด! ก่อนหน้านี้เขาพยายามปรับแต่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะอย่างลับๆแต่เขาล้มเหลว ด้วยความเหนื่อยล้า เขาจึงเข้าสู่การจำศีลเพื่อสะสมความแข็งแกร่งโดยมีความหวังว่าเมื่อเขาตื่นขึ้นเขาจะสามารถพลิกสถานการณ์’

 

ฟางหยวนคาดเดาและรู้สึกชื่นชมคู่ต่อสู้โดยไม่ได้ตั้งใจ

 

ผีดิบอมตะตนนี้บ่มเพาะบนเส้นทางความแข็งแกร่ง แต่เขากลับมีความสามารถบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ไม่ธรรมดา

 

ผู้ใดจะรู้ว่าเขากำลังคิดสิ่งใดอยู่

 

แต่ฟางหยวนรู้ว่ามันเป็นวิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ทิ้งทางออกสายหนึ่งไว้ให้เขาในกรณีที่เลวร้ายที่สุด

 

บางทีผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดตนนี้อาจตื่นและหลับมาหลายครั้งแล้ว

 

หากไม่ใช่เพราะการแทรกแซงของฟางหยวน วันหนึ่งผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดจะสามารถปลดปล่อยตนเองได้อย่างแน่นอน

 

นอกจากนั้นเขายังจะได้รับคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหลอีกด้วย

 

แต่น่าเสียดายที่แผนการของเขาถูกขัดขวางโดยฟางหยวน

 

ขณะที่ฟางหยวนกำลังจัดการผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปด บนท้องฟ้าเหนือภูเขาอี้เทียนก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

 

ภัยพิบัติสวรรค์พิภพมากมายร่วงหล่นลงมาและสร้างความเสียหายครั้งใหญ่ให้กับกลุ่มผู้อมตะภาคใต้

 

ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่พยายามทำลายค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา แต่พวกเขาไม่สามารถ

 

เช่นเดียวกับครั้งก่อน พวกเขาคิดว่าอิงอู๋เซี่ยเป็นจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้าม เมื่อผู้อมตะระดับแปดของภาคใต้พุ่งเข้าโจมตีอิงอู๋เซี่ย พวกเขาก็ถูกส่งเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันและจบลงด้วยความพ่ายแพ้

 

ต่อมา พวกเขาหันไปโจมตีผีดิบอมตะสุดยอดกายาที่เป็นแกนกลางของค่ายกลวิญญาณแต่ยังถูกขัดขวางโดยผู้อมตะนิกายเงา

 

เมื่อเวลาผ่านไป ภายใต้พลังอำนาจของคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหล ผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดก็อ่อนแอลงอย่างต่อเนื่อง

 

ฟางหยวนมองเห็นความหวังมากขึ้น สำหรับผู้อมตะภาคใต้ เกือบทั้งหมดเสียชีวิตไปแล้ว

 

ผู้อมตะระดับแปดที่เหลืออยู่เพียงสองคนได้รับบาดเจ็บสาหัสและกำลังหลบหนีภัยพิบัติสวรรค์พิภพรวมถึงผู้อมตะนิกายเงาอย่างน่าอนาถ

 

ไม่ใช่ว่าฟางหยวนไม่ต้องการช่วยเหลือผู้อมตะระดับแปดเหล่านี้ แต่เขาไม่มีทางเลือก

 

เขายังไม่สามารถกำหราบผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นเขาจึงไม่มีเวลาสนใจคนอื่น

 

อย่างไรก็ตามเขายังพยายามส่งข้อมูลเกี่ยวกับพลังของอิงอู๋เซี่ยให้กับผู้อมตะระดับแปดทั้งสอง

 

แต่เขตต้องห้ามของภูเขาอี้เทียนขยายตัวออกไปในวงกว้างและยังปิดกั้นการส่งข้อมูลของฟางหยวนอีกด้วย

 

ฟางหยวนเคยทดลองใช้วิธีอื่นๆแต่ยังล้มเหลว

 

หลังจากพยายามหลายครั้ง ฟางหยวนจึงตัดใจยอมแพ้และทุ่มเทความสนใจทั้งหมดกับผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดเท่านั้น

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่หอคอยขนาดใหญ่ค่อยๆลอยลงมาจากท้องฟ้าอย่างเงียบงัน

 

หอคอยดวงตาสวรรค์!

 

“ท่านเจ้าวัง ผู้อมตะภาคใต้ตายเกือบหมดแล้ว เราควรลงมือเลยหรือไม่?” ไป่เฉินเทียนถาม

 

ด้วยความช่วยเหลือจากหอคอยดวงตาสวรรค์ เจ้าวังสามารถมองเห็นเหตุการณ์ด้านล่างได้อย่างชัดเจน

 

“ช่างทรงพลังนัก มันดูเหมือนค่ายกลวิญญาณรูปแบบการต่อสู้โบราณ แต่ในความเป็นจริงมันใช้พลังงานแห่งเต๋าจากร่างสุดยอดกายาเป็นแรงขับเคลื่อนท่าไม้ตายเขตแดน อย่างไรก็ตามพวกเขายังขาดสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริง หากสามารถรวมพลังอำนาจของสุดยอดกายาทั้งสิบ พลังอำนาจของมันจะน่าสะพรึงกลัวมากขึ้น” เจ้าวังกล่าว

 

“ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาพยายามยึดครองร่างผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดที่อยู่ใต้ภูเขา” เหลียนจิ่วเฉิงแสดงความคิดเห็น

 

เจ้าวังลูบเคราและกล่าวต่อ “ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะครอบครองผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดเพราะก่อนหน้านั้นพวกเขาต้องผ่านด่านคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหล ตอนนี้เราต้องรอก่อน กลุ่มของโป้ชิงยังไม่ปรากฏตัว”

 

“ในการเดินทางครั้งนี้ เรานำผู้อมตะสิบสามคนมาพร้อมกับหอคอยดวงตาสวรรค์ แต่เราข้ามกำแพงภูมิภาคและเดินทางผ่านสวรรค์สีขาวมาโดยไม่ได้หยุดพัก ตอนนี้เราไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด”

 

“ศัตรูยังมีไพ่ตายซ่อนอยู่ ปล่อยพวกเขาอาละวาดไปก่อน แม้ผู้อมตะภาคใต้จะตาย มันก็ยังมีภัยพิบัติสวรรค์พิภพ ฮืม คนที่ควรตายแต่กลับไม่ยอมตาย พวกเขาต้องพบกับความโกรธเกรี้ยวของสวรรค์! ภัยพิบัติจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ”

 

เจ้าวังไม่ได้รีบร้อน

 

เรื่องนี้แตกต่างจากชีวิตก่อนหน้าของฟางหยวน

 

ครั้งก่อนพวกเขาโจมตีทันทีเมื่อค้นพบผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปด

 

แต่ครั้งนี้พลังอำนาจของผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดถูกกำหราบโดยฟางหยวน เขาไม่แม้แต่จะสามารถขยับร่างกายและไม่ได้ปรากฏตัวออกมา ดังนั้นเจ้าวังสวรรค์จึงไม่รีบร้อนเคลื่อนไหว

 

แม้สมาชิกของวังสวรรค์ทั้งหมดจะเป็นผู้อมตะระดับแปดและมีเป้าหมายเดียวกัน แต่เจ้าวังก็ไม่ประมาท

 

‘วังสวรรค์ยังไม่เคลื่อนไหว?’ ห่างออกไป โป้ชิงมองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยการแสดงออกที่เคร่งขรึม

 

ในชีวิตก่อนหน้าของฟางหยวน โป้ชิงไม่สามารถบุกโจมตีนิกายบัวสวรรค์และหันไปโจมตีนิกายเทพยุทธ์อมตะ นั่นทำให้การเตรียมตัวของนิกายเงากลายเป็นไร้ประโยชน์

 

แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป ผีดิบอมตะเทพเจ็ดดารากับซ่งซื่อซิงไม่ตายและร่วมมือกับหยูมู่ฉานกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายขนส่งนำพวกเขาไปยังนิกายบัวสวรรค์ได้อย่างรวดเร็ว

 

การโจมตีครั้งนี้เป็นหนึ่งในแผนการของนิกายเงา

 

โป้ชิงกับคนอื่นๆสามารถถ่วงเวลาก่อนจะล่าถอย

 

อย่างไรก็ตามเจ้าวังสวรรค์ไม่ใช่ตัวตนที่จะสามารถหลอกลวงได้โดยง่าย ความไม่สบายใจนำเขากลับวังสวรรค์และกระตุ้นใช้หอคอยดวงตาสวรรค์ นั่นทำให้เขาค้นพบสิ่งที่เกิดขึ้นบนภูเขาอี้เทียนและระดมผู้อมตะของวังสวรรค์เดินทางมาที่นี่โดยไม่หยุดพัก

 

“เมื่อพวกเขาไม่เคลื่อนไหว เช่นนั้นพวกเราก็จะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน” เสียงของซ่งซื่อซิงดังขึ้นผ่านวิญญาณสื่อสาร

 

โป้ชิงพยักหน้า “ข้าจะไปก่อน”

 

ในเวลาต่อมา แสงสายหนึ่งพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าก่อนที่คฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ใหญ่โตจะปรากฏขึ้นในมุมมองสายตาของทุกคน

 

“หือ?” เจ้าวังสวรรค์ประหลาดใจ คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ซ่อนอยู่ในค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา นั่นทำให้เขาไม่ตระหนักถึงการคงอยู่ของมัน

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้พุ่งกระแทกภูเขาอี้เทียนอย่างแรง

 

การแสดงออกของฟางหยวนกลายเป็นเย็นชา

 

‘คฤหาสน์วิญญาณอมตะเมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์!’ เขากัดฟันแน่น เมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์ที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยของเผ่ามนุษย์วิหคปรากฏขึ้นโดยไม่คาดคิด

 

ฟางหยวนรู้สึกไม่สบายใจเมื่อเห็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ปรากฏขึ้น

 

ผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดกำลังจะถูกกำหราบอย่างสมบูรณ์ ฟางหยวนอยู่ห่างจากความสำเร็จเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น แต่ตอนนี้เขาต้องหยุด!

 

เมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์โจมตีภูเขาอี้เทียนโดยตรง ฟางหยวนต้องใช้สนามรบแห่งความโกลาหลต่อต้านมัน

 

หากไม่กระตุ้นการทำงานของคฤหาสน์วิญญาณอมตะ มันจะไม่สามารถปลดปล่อยพลังอำนาจ ขณะที่พลังงานอมตะคือตัวชี้วัดความแข็งแกร่งของมัน

 

กระทั่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเก้าหอคอยดวงตาสวรรค์ยังถูกดาบแสงของโป้ชิงตัดขาดขณะที่มันอยู่ในสภาวะไร้การควบคุม

 

‘สนามรบแห่งความโกลาหล ไป!’

 

ฟางหยวนเรียกมันและเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาอย่างไม่ลังเล

 

ภูเขาอี้เทียนแตกสลายไปในพริบตาขณะที่สนามรบแห่งความโกลาหลพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าราวกับดาวหางสีแดง

 

ตอนนี้ฟางหยวนเข้าไปอยู่ภายในคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหลและควบคุมมันอย่างเป็นทางการแล้ว

 

“เมืองขนนกศักดิ์สิทธ์…” ฟางหยวนพึมพำก่อนส่งพลังงานอมตะระดับเก้าออกไป

 

พวกมันก็คือพลังงานอมตะระดับเก้าของเทพอมตะตะวันเดือดที่ไม่สามารถดูแคลน!

 

หลังจากได้รับพลังงานอมตะระดับเก้า สนามรบที่เรืองแสงสีแดงกลับระเบิดแสงสว่างราวกับภูเขาไฟปะทุขึ้นอย่างกะทันหัน

 

“อันใด!?” โป้ชิงที่อยู่ภายในเมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์ตกใจ

 

“บึม!” เสียงระเบิดครั้งใหญ่ดังขึ้น

 

เมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์ถูกส่งลอยกลับหลังโดยสนามรบแห่งความโกลาหล

 

เมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นซากปรักหักพังขณะที่วิญญาณจำนวนมากบินกระจัดกระจายออกไปในอากาศ

 

ฟางหยวนเอาชนะโป้ชิงในครั้งเดียว!

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset