Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 967

หายนะร่วงหล่นราวกับสายฝน

แปลโดย iPAT 

 

“หือ เกิดสิ่งใดขึ้น?” กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ที่อยู่ห่างออกไปหลายพันลี้มองขึ้นไปบนท้องฟ้าทีละคน

 

แม้แต่ผู้ใช้วิญญาณมนุษย์บนภูเขาอี้เทียนยังรู้สึกหนาวเย็นอย่างไม่สามารถอธิบาย

 

“ครืน…”

 

เสียงท้องฟ้าคำรามอย่างต่อเนื่องราวกับกองทัพขนาดใหญ่กำลังลั่นกลองสงคราม

 

ตั้งแต่เขาสู่ภูเขาอี้เทียน ฟางหยวนใช้ทุกวินาทีในการปรับแต่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหล แต่ความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นทำให้เขาต้องหยุดมือและมองขึ้นไปบนท้องฟ้า

 

สูงขึ้นไป ฟางหยวนสามารถมองเห็นจุดแสงจำนวนมาก

 

หลังจากชั่วครู่จุดแสงเหล่านี้จึงร่วงหล่นลงมาบนภูเขาอี้เทียน

 

“มันคือภัยพิบัติพันไข่มุกแสง!” ผู้อมตะบางคนอุทานด้วยความตกใจ

 

“ไม่ถูกต้อง ภัยพิบัติพันไข่มุกแสงมีไข่มุกแสงเพียงหนึ่งพันชิ้น แต่นี่คือภัยพิบัติแสนไข่มุกแสง!”

 

“ภัยพิบัติเกิดขึ้นได้อย่างไร?” ผู้อมตะหลายคนงุนงง

 

“บางคนกำลังก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะงั้นหรือ?” กลุ่มผู้อมตะมองไปที่ภูเขาอี้เทียนด้วยความสงสัย

 

ฟางหยวนตื่นตัวและระวังตัวเป็นอย่างมาก

 

ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักถึงพลังงานบางอย่างที่กำลังตรวจสอบร่างกายของเขา

 

แม้เขาจะมีท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คลุมเครือ แต่แกนหลักของมันเป็นเพียงวิญญาณระดับหก มันสามารถหลอกผู้อมตะระดับหกเท่านั้น หากถูกตรวจสอบอย่างจริงจังโดยผู้อมตะระดับเจ็ดหรือแปด ตัวตนที่แท้จริงของเขาจะถูกค้นพบ

 

ฟางหยวนรู้สึกกังวลก่อนที่เขาจะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

 

เขาไม่ถูกเปิดเผย!

 

“ไม่มีสิ่งใดผิดปกติ?” ผู้อมตะหลายคนประหลาดใจ

 

พวกเขาตรวจสอบทุกคนบนภูเขาอี้เทียนและบริเวณใกล้เคียงแต่ไม่มีผู้ใช้วิญญาณระดับห้าขั้นสุดยอดคนใดที่กำลังจะก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ

 

เมื่อพวกเขากำลังจะใช้วิธีการตรวจสอบที่ทรงพลังมากขึ้น ไข่มุกแสงก็มาถึงแล้ว

 

“เราไม่สามารถปล่อยให้ภัยพิบัตินี้ส่งผลกระทบต่อภูเขาอี้เทียน!”

 

“ถูกต้อง เราต้องปกป้องมัน!”

 

กลุ่มผู้อมตะเริ่มคาดเดาต่อไปว่าภัยพิบัติอาจเกิดจากสนามรบแห่งความโกลาหล

 

ในไม่ช้ากลุ่มผู้อมตะภาคใต้ทั้งหมดจึงบรรลุข้อตกลง

 

พวกเขาจะร่วมมือกันปกป้องผลประโยชน์ของทุกคน

 

แม้ไข่มุกแสงจะมีจำนวนมาก แต่ผู้อมตะที่อยู่ที่นี่ก็มีไม่น้อย ท่ามกลางผู้คนเหล่านี้มีผู้อมตะระดับแปดถึงสี่คน ผู้อมตะระดับเจ็ดจำนวนเก้าคน และผู้อมตะระดับหกอีกมากมาย

 

ด้วยความร่วมมือของกลุ่มผู้อมตะ ไม่มีไข่มุกแสงเม็ดใดสามารถสัมผัสภูเขาอี้เทียน

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า” ผู้บ่มเพาะสันโดษระดับแปด เพิ่งซื่อหลง ลูบเคราหัวเราะ “ไม่ว่าผู้ใดที่ฉวยโอกาสนี้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ เขาช่างมีความคิดสร้างสรรค์นัก”

 

“เราต้องหาตัวคนผู้นี้ มนุษย์คนใดที่กล้าทำให้พวกเราเสียหน้า!” ผู้อมตะระดับเจ็ด อี้ฉิงเติ้ง เผยรอยยิ้มเย็นชา มนุษย์ผู้นี้ใช้ผู้อมตะเป็นโล่ป้องกันภัยพิบัติ นี่เป็นสิ่งที่ผู้อมตะไม่สามารถยอมรับ

 

“มนุษย์ผู้นี้เป็นลูกหลานของผู้ใด? ยอมรับมา มิฉะนั้นพวกเจ้าจะสูญเสียใบหน้าหากความจริงถูกเปิดเผย” ผู้อมตะหวังไคหัวเราะเบาๆ

 

ผู้อมตะหลายคนมองหน้ากันแต่ไม่มีผู้ใดยอมรับ

 

การแสดงออกของผู้อมตะระดับแปด เหรินอี้หยาง กลายเป็นมืดมน เขาคำราม “เจ้าไม่รู้ว่าสิ่งใดดีกับตนเองและยังซ่อนตัวจากพวกเรา คิดว่าพวกเราโง่งั้นหรือ?”

 

“ดูนั่น ภัยพิบัติใหม่กำลังจะตกลงมาอีกครั้ง!” ผู้อมตะคนหนึ่งตะโกน

 

ท้องฟ้าถูกอาบย้อนด้วยสีดำ

 

อุณหภูมิรอบๆลดลงอย่างรวดเร็ว

 

หิมะและลูกเห็บร่วงหล่นลงมาราวกับพายุน้ำแข็ง

 

การแสดงออกของอี้ฉิงเติ้งเปลี่ยนไป เขาอุทาน “พายุน้ำแข็งแห่งความมืด!”

 

“ผู้ใดกำลังก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ เขากระทั่งดึงดูดภัยพิบัติของสุดยอดกายาทั้งสิบ!”

 

“ไม่ นี่ไกลเกินกว่าสุดยอดกายาทั้งสิบไปแล้ว!”

 

“มันมาแล้ว!”
“อดทนไว้!”

 

พายุน้ำแข็งแห่งความมืดเป็นหนึ่งในสิบภัยพิบัติของสุดยอดกายา

 

เผชิญหน้ากับภัยพิบัติชนิดนี้ ผู้อมตะหลายคนได้รับบาดเจ็บสาหัส หลายคนต้องการล่าถอย

 

‘แปลก เพราะสนามรบแห่งความโกลาหลกำลังจะปรากฏขึ้นอีกครั้ง สวรรค์จึงส่งภัยพิบัติลงมางั้นหรือ? ไม่ นั่นเป็นไปไม่ได้ ข้าไม่มีวิญญาณอมตะ ข้าไม่สามารถอยู่ที่นี่และเผชิญหน้ากับภัยพิบัติเหล่านี้อย่างโง่งม ข้าต้องล่าถอยทันที’ กั่วหลาวคิดก่อนจะบินขึ้นสู่ท้องฟ้า

 

“เจ้าผู้นี้ช่างวิ่งหนีได้เร็วนัก” อี้ฉิงเติ้งหัวเราะเย้ยหยัน เขายืนมือไพล่หลังอย่างสบายๆแต่เขายังสามารถรับมือพายุน้ำแข็ง

 

อย่างไรก็ตามผู้อมตะระดับหกหลายคนเริ่มเลียนแบบกั่วหลาว

 

ผู้อมตะส่วนใหญ่เป็นผู้อมตะระดับล่างที่ไม่มีวิญญาณอมตะ ปราศจากวิญญาณอมตะคอยปกป้อง พวกเขาจะได้รับบาดเจ็บ

 

แต่ในเวลาต่อมา กั่วหลาวกลับปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งกลางกลุ่มผู้อมตะ

 

กั่วหลาวตะลึง!

 

เขามาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร?

 

หลังจากไม่นาน ผู้อมตะระดับหกคนอื่นๆก็ถูกส่งตัวกลับมาที่นี่เช่นเดียวกัน

 

“มีคนซุ่มโจมตี! บางคนวางค่ายกลวิญญาณบนเส้นทางแห่งห้วงมิติเอาไว้รอบๆ!” กลุ่มผู้อมตะตระหนักรู้ได้อย่างรวดเร็ว

 

เพิ่งซื่อหลงระเบิดกลิ่นอายระดับแปดออกมาและกวาดตามองไปรอบๆ “ผู้ใด? ออกมา!”

 

“หึหึหึ…” เสียงหัวเราะที่น่ากลัวของผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อดังขึ้น เขาปรากฏตัวพร้อมกับผู้อมตะชุดคลุมดำอีกหลายสิบคน

 

ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อชี้นิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้า “ทุกคน ฟังคำแนะนำของข้า ภัยพิบัติครั้งที่สามมาถึงแล้ว”

 

ทุกคนมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยฝูงราชสีห์

 

สัตว์อสูรเดียวดาย ราชสีห์ปราณ!

 

ราชสีห์เหล่านี้เป็นสัตว์อสูรบนเส้นทางแห่งพลังปราณ พวกมันสามารถบินได้ตั้งแต่กำเนิด

 

มีราชสีห์ปราณมากกว่าหกพันตัว นี่ทำให้ใบหน้าของผู้อมตะระดับหกกลายเป็นซีดเผือด

 

ผู้อมตะระดับแปด เจียอี้ คำรามด้วยความโกรธ “เรื่องเล็กน้อย หลบไป!”

 

เขาสะบัดแขนเสื้อส่งเคียววายุจำนวนนับไม่ถ้วนออกไปทุกทิศทาง

 

ฝูงราชสีห์ปราณกรีดร้องด้วยความเจ็ดปวด หลายตัวเสียชีวิตและถูกหั่นเป็นชิ้นๆ เลือดและชิ้นเนื้อสาดเทลงมาราวกับสายฝน

 

“เคียววายุเจียอี้ช่างแข็งแกร่งนัก” ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อเผยรอยยิ้มชื่นชม

 

เจียอี้ขมวดคิ้วและส่งเคียววายุพุ่งเข้าโจมตีม่านเยี่ยนซื่อ แต่ก่อนที่เคียววายุจะถึงตัวศัตรู มันกลับถูกทำลายลงอย่างสมบูรณ์โดยค่ายกลวิญญาณ

 

“พวกเขาคือผู้ใดและมีจุดประสงค์ใด?”

 

“คนกลุ่มนี้ช่างกล้าหาญนัก พวกเขากำลังรนหาที่ตาย!”

 

“พวกเจ้ากล้าต่อต้านผู้อมตะทั้งหมดของภาคใต้งั้นหรือ!?”

 

กลุ่มผู้อมตะต่างตะโกนสาปแช่งและรู้สึกสงสัยอยู่ในใจ

 

อย่างไรก็ตามโดยยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ ภัยพิบัติครั้งใหม่ก็ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

“โฮก…”

 

เสียงฟ้าร้องราวกับมังกรคำราม

 

เมฆกลายเป็นสีแดงเพลิง

 

“เมฆาเพลิงโลกันทั้งสี่!” บางคนตะโกน

 

“ระวังตัวให้ดี ข้าเคยเผชิญหน้ากับเมฆาเพลิงโลกันทั้งสี่มาก่อน มันมีทั้งหมดสี่ชั้น ชั้นด้านบนจะยิ่งรุนแรงมากขึ้น” ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งไฟเตือน

 

“ป้องกัน!”

 

“นอกจากนี้ยังมีภัยพิบัติมังกรคำราม มันเป็นสองภัยพิบัติในครั้งเดียว!”

 

“ต่อสู้ด้วยพลังทั้งหมด!”

 

กลุ่มผู้อมตะร่วมมือกันต่อต้านภัยพิบัติที่เกิดขึ้น

 

‘ภัยพิบัติเมฆาเพลิงโลกันทั้งสี่ขยายวงกว้างไปไกลกว่าพันลี้ เหตุใดจึงรุนแรงนัก?’ บนภูเขาอี้เทียน ฟางหยวนเฝ้ามองด้วยความตกใจ

 

เมฆเหล่านี้ปิดกั้นการมองเห็นของผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์แต่ไม่สามารถขัดขวางการมองเห็นของฟางหยวน

 

ตอนนี้เขารู้สึกไม่สบายใจมาก

 

‘ดูเหมือนข้าจะตกลงสู่หลุมพรางของกลุ่มผู้อมตะชุดคลุมดำเหล่านี้เรียบร้อยแล้ว พวกเขาดูคล้ายกับผู้อมตะชุดคลุมดำของนิกายเงาที่ไห่ลั่วหลันเคยอธิบายไว้ พวกเขากล้าต่อต้านผู้อมตะทั้งหมดของภาคใต้ พวกเขาพยายามทำสิ่งใด? ดูเหมือนภัยพิบัติเหล่านี้จะไม่ใช่ภัยพิบัติที่เกิดจากการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะของบางคนแต่เป็นฝีมือของกลุ่มคนชุดคลุมดำ’

 

ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อวางค่ายกลวิญญาณขนาดใหญ่เอาไว้รอบๆทำให้ผู้อมตะภาคใต้ไม่สามารถหลบหนีและต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติเท่านั้น

 

เมื่อเวลาผ่านไปภัยพิบัติก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งผู้อมตะระดับเจ็ดก็เริ่มรู้สึกถึงความยากลำบาก

 

หลังจากชั่วระยะเวลาหนึ่ง การแสดงออกของผู้อมตะระดับแปดยังเปลี่ยนเป็นไม่น่ามอง

 

“ถอยไป ให้ข้ารับมือมัน!” เพิ่งซื่อหลงตัดสินใจให้ท่าไม้ตาย

 

คลื่นแสงระเบิดออกไปเป็นวงกว้าง ห้วงมิติเกิดการสั่นสะเทือนสามครั้งก่อนจะกลับสู่เสถียรภาพ

 

“นี่คือค่ายกลวิญญาณใด!?” หัวใจของผู้อมตะภาคใต้จมดิ่งลง

 

ภัยพิบัติทั้งรุนแรงและรวดเร็วไม่ต่างจากสายฝนที่สาดเทลงมา ขณะเดียวกันพวกเขาก็ไม่สามารถจากไป

 

“อดทนไว้!” เจียอี้ตะโกน “เรายังมีโอกาส! ภัยพิบัติร่วงหล่งลงมาอย่างต่อเนื่องแต่มันก็ส่งผลกระทบต่อค่ายกลวิญญาณรอบๆเช่นกัน!”

 

ได้ยินเรื่องนี้ กลุ่มผู้อมตะเริ่มมีความหวัง

 

ผู้อมตะระดับหกบางคนตายไปแล้วแต่ผู้ที่เหลือรอดก็ยังไม่ยอมแพ้

 

หากค่ายกลวิญญาณถูกทำลาย พวกเขาจะสามารถหลบหนี

 

ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อเปิดปากกล่าวเบาๆ “อู๋เซี่ย”

 

ชายผู้หนึ่งเดินขึ้นมาจากด้านหลัง

 

เขามีเส้นผมสีดำหยักศกที่ยาวลงมาถึงไหล่ ดวงตาของเขาส่องประกายหลากหลายสีสันราวกับวังน้ำวนที่หมุนไปอย่างไม่รู้จบสิ้น

 

อย่างไรก็ตามตอนนี้เขากำลังเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าและเผยรอยยิ้มโง่งม

 

“อู๋เซี่ย” ชายชราม่านเยี่ยนซื่อเรียกซ้ำอีกครั้ง

 

“อา…ท่านเรียกข้า ข้ากำลังชมการแสดงดอกไม้ไฟ” ผู้อมตะหนุ่มตอบด้วยรอยยิ้ม

 

ม่านเยี่ยนซื่อเผยรอยยิ้มขมขื่น “นี่ไม่ใช่การแสดงดอกไม้ไฟแต่เป็นภัยพิบัติ แม้มันจะงดงามแต่มันเต็มไปด้วยอันตราย ทั้งหมดนี้คือเจตจำนงสวรรค์ที่พยายามทำลายพวกเรา มันคือศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเรา”

 

ผู้อมตะหนุ่มตอบกลับด้วยการแสดงออกที่จริงจัง “โอ้ เป็นเช่นนี้ เช่นนั้นก็บอกเจตจำนงสวรรค์ให้ออกมา ข้าจะจัดการมันเอง!”

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset