Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 959

สนามรบแห่งความโกลาหล (อ่านฟรี)

แปลโดย iPAT 

 

มันเป็นการต่อสู้ที่รุนแรงมาก

 

อย่างไรก็ตามมันเป็นเพียงภาพมายาที่ไม่ส่งผลกระทบต่อโลกแห่งความเป็นจริง

 

การต่อสู้ดำเนินมาถึงจุดสำคัญ ผู้อมตะระดับแปดเงยหน้าหัวเราะอย่างดุเดือด “ข้าเป็นผู้อมตะระดับแปดและยังมีสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริง แต่ผู้อมตะระดับเจ็ดเช่นเจ้ากลับกล้าท้าทายข้างั้นหรือ?”

 

ผู้อมตะลึกลับที่มีรอยสักรูปดอกบัวสีแดงอยู่กลางหน้าผากหัวเราะเบาๆและกล่าวเสียงเรียบ “ราชันเทพยุทธ์สวรรค์ ความพ่ายแพ้ของท่านถูกกำหนดไว้แล้ว รับสิ่งนี้!”

 

หลังกล่าวจบคำผู้อมตะระดับเจ็ดสะบัดมือส่งบางสิ่งออกไปทันที

 

ใบหน้าของผู้อมตะระดับแปดราชันเทพยุทธ์สวรรค์ถูกแทนที่ด้วยความตกใจ “คฤหาสน์วิญญาณอมตะ! มันคือคฤหาสน์วิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

 

ผู้อมตะระดับเจ็ดเผยรอยยิ้มภาคภูมิใจ “ให้ข้าแนะนำท่าน นี่คือผลงานของข้า สนามรบแห่งความโกลาหล!”

 

“สนามรบแห่งความโกลาหล?” ไป่หนิงปิงขมวดคิ้ว เท่าที่เขารู้ ไม่มีคฤหาสน์วิญญาณอมตะชนิดนี้อยู่ในภาคใต้

 

สนามรบแห่งความโกลาหลทรงพลังมาก

 

ไม่ว่าราชันเทพยุทธ์สวรรค์จะส่งการโจมตีใดออกมา สนามรบแห่งความโกลาหลก็สามารถดูดซับและปิดผนึกพวกมันได้ทั้งหมด

 

นอกจากนั้นมันยังสะท้อนกลับไปหาศัตรู นี่ทำให้ราชันเทพยุทธ์สวรรค์ต้องรับมือกับการโจมตีของตนเองอย่างช่วยไม่ได้

 

ภาพเหตุการณ์ดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง การต่อสู้ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกขณะ

 

สุดท้ายด้วยความช่วยเหลือจากสนามรบแห่งความโกลาหล ผู้อมตะระดับเจ็ดจึงเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ

 

ผู้อมตะระดับเจ็ดชนะผู้อมตะระดับแปด!

 

แต่ผู้อมตะระดับเจ็ดก็สูญเสียค่าใช้จ่ายมหาศาลเช่นกัน

 

ในช่วงท้ายของการต่อสู้ ผู้อมตะระดับแปดต้องเปลี่ยนตนเองเป็นผีดิบอมตะเพื่อรักษาชีวิต ผู้อมตะระดับเจ็ดไม่สามารถสังหารฝ่ายตรงข้ามและทำได้เพียงใช้สนามรบแห่งความโกลาหลผนึกเขาไว้ใต้ดินเท่านั้น

 

เพื่อเอาชนะราชันเทพยุทธ์สวรรค์ ผู้อมตะระดับเจ็ดต้องทิ้งสนามรบแห่งความโกลาหลเอาไว้ที่นี่

 

เมื่อการต่อสู้สิ้นสุด เขามองไปยังสนามรบแห่งความโกลาหลที่อยู่ใต้พิภพและถอนหายใจก่อนจะบินจากไป

 

เงาร่างของผู้อมตะหายไปแต่ภาพมายายังดำเนินต่อ

 

สนามรบกลับสู่ความเงียบสงบ ต้นไม้เริ่มเติบโตขึ้นหลังจากฝนตก ฤดูกาลเปลี่ยนแปลงไป ที่ราบทุ่งหญ้าค่อยๆยกตัวขึ้นเป็นภูเขา

 

มีภาพมนุษย์เดินผ่านภูเขาลูกนี้เป็นครั้งคราว

 

ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติหรือการต่อสู้ระหว่างสัตว์ร้าย ทุกเหตุการณ์ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว

 

สุดท้ายภูมิประเทศในภาพมายาก็เปลี่ยนเป็นภูเขาไร้นามแห่งนี้

 

ภาพมายาหยุดอยู่ที่นี่ ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพเดิม

 

ดวงตาของไป่หนิงปิงส่องประกายขึ้นด้วยความประหลาดใจ เขาเข้าใจแล้วว่าวิญญาณอมตะที่ได้รับมาจากผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อคือวิญญาณอมตะสายตรวจสอบบนเส้นทางแห่งกาลเวลา

 

มันเจาะเข้าไปในสายธารแห่งกาลเวลาและแสดงภาพในอดีตออกมาให้เห็น

 

“นี่หมายความว่ามีคฤหาสน์วิญญาณอมตะอยู่ที่นี่!?” หัวใจของไป่หนิงปิงแทบกระโดดออกมาจากหน้าอกด้วยความตื่นเต้น

 

แน่นอนว่าเขารู้คุณค่าของคฤหาสน์วิญญาณอมตะ

 

มีเพียงกองกำลังที่มีผู้อมตะเท่านั้นจึงจะถูกเรียกว่ากองกำลังระดับแนวหน้า แต่กระทั่งกองกำลังระดับแนวหน้ายังมีไม่กี่กองกำลังที่สามารถครอบครองคฤหาสน์วิญญาณอมตะ

 

“หากข้าได้รับสนามรบแห่งความโกลาหล มันจะช่วยข้าได้มาก ข้าสามารถจัดการนิกายเงาและจากไป สิ่งนี้จะดึงดูดผู้อมตะจำนวนมากให้เข้ามา ข้าต้องรีบแล้ว!”

 

ไป่หนิงปิงต้องการยึดครองสนามรบแห่งความโกลาหลแต่เขายังลังเล

 

เขานึกถึงผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อ

 

หากเขาเข้าไป เขาจะตกลงสู่หลุมพรางของม่านเยี่ยนซื่อหรือไม่?

 

บางทีม่านเยี่ยนซื่ออาจคำนวณการตอบสนองของเขาไว้แล้ว

 

“หากข้าเคลื่อนไหวโดยไม่คิดให้รอบคอบ ข้าอาจถูกหลอกใช้โดยไม่รู้ตัว”

 

ไป่หนิงปิงตัดสินใจสำรวจพื้นที่ก่อนจะลงมือกระทำการสิ่งใด

 

อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือเมื่อเขาเข้าใกล้ภูเขาไร้นามในระยะหนึ่ง เขากลับรู้สึกอ่อนแรงและแทบจะไม่สามารถใช้ความคิด

 

ไป่หนิงปิงถอยหลังกลับด้วยความตกใจก่อนจะนึกถึงคำกล่าวของชายชราม่านเยี่ยนซื่อ

 

“เขาบอกว่าหลังจากทำภารกิจสำเร็จ ให้รีบล่าถอยออกมา ภูเขาไร้นามจะกลายเป็นเขตต้องห้ามของผู้อมตะ หากผู้อมตะเข้าไปจะได้รับอันตราย”

 

ไป่หนิงปิงขมวดคิ้ว นี่อาจเป็นเขตต้องห้ามที่ม่านเยี่ยนซื่อกล่าวถึง

 

หากมันเป็นเขตต้องห้ามจริง แล้วเขาจะฉกชิงสนามรบแห่งความโกลาหลได้อย่างไร

 

ไป่หนิงปิงคิด ‘เป็นไปได้หรือไม่ว่ามีเงื่อนงำเกี่ยวกับการรับมอบสนามรบแห่งความโกลาหลซ่อนอยู่ในภาพมายา?’

 

ภาพมายาฉายซ้ำอีกครั้งและอีกครั้งแต่ไป่หนิงปิงยังไม่พบเบาะแสใด

 

สิ่งที่เขาค้นพบคือภาพมายาจะฉายซ้ำอย่างไม่รู้สิ้นสุดขณะที่เขตต้องห้ามก็ขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ

 

ตอนนี้เขาอยู่ห่างจากภูเขาไร้นามถึงสิบลี้แต่เขายังรู้สึกอ่อนแรง

 

เมื่อมองไปยังสมบัติล้ำค่าที่ห่างออกไปเรื่อยๆ ช่วยไม่ได้ที่ไป่หนิงปิงจะรู้สึกไม่สบายใจ

 

เขาอยู่ที่นี่เป็นเวลาสามวันและพยายามซ่อนภาพมายาเหล่านั้น

 

กลิ่นอายของวิญญาณอมตะถูกลบออกไปแล้วแต่เขาไม่สามารถซ่อนภาพมายาดังกล่าว

 

แม้ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อจะช่วยให้เขาก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะแต่เขาก็ไม่ได้รับวิญญาณอมตะใดๆ

 

ภาพมายาเกิดจากวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา เป็นธรรมดาที่ไป่หนิงปิงจะไม่สามารถใช้วิธีของมนุษย์เพื่อปิดซ่อนมัน

 

แน่นอนว่าหากเขาสามารถใช้ท่าไม้ตายระดับมนุษย์ที่ทรงพลัง เขาอาจสามารถปกปิดได้เป็นการชั่วคราว แต่รากฐานของไป่หนิงปิงตื้นมาก เขาไม่มีวิธีการเช่นนั้น

 

‘หากฟางหยวนอยู่ที่นี่ เขาจะทำเช่นไร?’ ในช่วงเวลาที่น่ากังวล ภาพของฟางหยวนปรากฏขึ้นในใจของเขา

 

แม้เขาจะไม่สนใจฟางหยวนอีกต่อไป แต่ความสามารถของฟางหยวนยังประทับอยู่ในหัวใจของเขา

 

เขาคิดก่อนจะหยุดคิดและรีบปัดเป่ามันทิ้งไปอย่างรวดเร็ว

 

ทันใดนั้นเขาพลันตระหนักได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือแผนการของนิกายเงา

 

แต่นิกายเงาต้องการทำสิ่งใด?

 

พวกเขาไม่ได้ต้องการยึดครองสนามรบแห่งความโกลาหลอย่างเงียบๆ แต่กลับประกาศให้โลกรู้?

 

“สนามรบโบราณและคฤหาสน์วิญญาณอมตะอาจทำให้ภาคใต้เกิดความโกลาหล ผู้อมตะทั้งฝ่ายธรรมะและปีศาจจะมุ่งหน้ามาที่นี่เพื่อหาวิธียึดครองสนามรบแห่งความโกลาหล การปลุกปั่นความวุ่นวายคือเป้าหมายของนิกายเงางั้นหรือ? ทำเช่นนี้แล้วพวกเขาจะได้รับสิ่งใด?”

 

ไป่หนิงปิงตบหน้าผากอย่างรุนแรงเพื่อเรียกสติของตนให้กลับคืนมา

 

“หลายวันนี้ข้าทำสิ่งใดอยู่!? ข้าปล่อยให้ความโลภเข้าครอบงำจิตใจ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ข้าตามหา ภูเขาไร้นามเแห่งนี้จะกลายเป็นศูนย์กลางของพายุใหญ่ ผู้อมตะเกือบทั้งหมดของภาคใต้จะมาที่นี่ ข้าเป็นเพียงผู้อมตะระดับหก ข้าไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้นานนัก ข้าต้องรีบออกไป ถูกต้อง ข้าควรกลับไปถามตาแก่ม่านเยี่ยนซื่อว่าเขากำลังทำสิ่งใด เขาต้องการใช้สิ่งนี้ล่อฟางหยวนให้ออกมางั้นหรือ?”

 

ไป่หนิงปิงกลับไปที่ศาลาหินแต่ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อไม่ได้อยู่ที่นี่อีกแล้ว

 

ไป่หนิงปิงรีบไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์ของนิกายเงาแต่เขากลับไม่สามารถเข้าไป เขาไม่แม้แต่จะสามารถติดต่อสมาชิกนิกายเงา มันราวกับว่านิกายเงารวมถึงผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อหายไปอย่างสมบูรณ์

 

คลื่นแห่งความสงสัยพุ่งเข้าจู่โจมหัวใจของไป่หนิงปิง เขารู้สึกราวกับถูกทิ้ง เขาไม่รู้ว่ามันเกิดสิ่งใดขึ้นและทำได้เพียงคาดเดาเท่านั้น

 

…..

 

ภาคกลาง น้ำตกสวรรค์

 

ด้านล่างของน้ำตกสวรรค์เต็มไปด้วยแสงสว่าง

 

ผู้อมตะของภาคกลางจำนวนมากมองไปที่แหล่งกำเนิดแสงด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า

 

ผีดิบอมตะลอยอยู่ท่ามกลางแสงสว่างนั้น รูปลักษณ์ของเขาไม่ต่างจากตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่

 

เขาก็คือโป้ชิง!

 

“ผู้ใดจะคิดว่าโป้ชิงจะกลายเป็นผีดิบอมตะ”

 

“ย้อนกลับไปผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณเทพธิดาโม่เหยาเผชิญหน้ากับภัยพิบัติพร้อมกันแต่มีเพียงโป้ชิงอยู่ที่นี่ ดูเหมือนโม่เหยาจะตายไปแล้ว”

 

“ตามบันทึก ภัยพิบัติครั้งนั้นน่ากลัวมาก คิดไม่ถึงว่าโป้ชิงจะสามารถรักษาชีวิต เขาต้องแข็งแกร่งถึงเพียงใด?”

 

กลุ่มผู้อมตะพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์

 

“ศพถูกเก็บไว้นานแล้ว ผู้ใดจะรู้ว่ามีความลับซ่อนอยู่มากเท่าใด ตราบเท่าที่เราได้รับมัน เราอาจสามารถถอดรหัสความลับเกี่ยวกับวิธีการบ่มเพาะของโป้ชิง แม้จะไม่ได้รับมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งดาบ แต่การวิจัยนี้จะสร้างประโยชน์มหาศาลให้กับนิกาย”

 

ผู้อมตะส่วนใหญ่มาจากนิกายโบราณทั้งสิบ พวกเขากำลังพิจารณาสถานการณ์

 

สำหรับปีศาจอมตะและผู้บ่มเพาะสันโดษ พวกเขาให้ความสนใจกับวิญญาณอมตะที่อยู่กับผีดิบอมตะโป้ชิง

 

“มีกลิ่นอายของวิญญาณอมตะจำนวนมากออกมาจากร่างของโป้ชิง นี่เป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้ พวกมันล้วนเป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งดาบ ข้าจะพอใจมากหากได้รับแม้เพียงหนึ่งดวง”

 

ปีศาจอมตะและผู้บ่มเพาะสันโดษไม่กล้าคิดที่จะฉกชิงร่างผีดิบของโป้ชิง พวกเขาต้องการเพียงผลประโยชน์เล็กๆน้อยๆก่อนจะล่าถอยอย่างรวดเร็วที่สุด

 

ในความเป็นจริงเมื่อผู้อมตะเหล่านี้เข้าสู่น้ำตกสวรรค์ พวกเขาก็ได้รับผลประโยชน์บางอย่างเรียบร้อยแล้ว

 

ซากศพของสัตว์อสูรจำนวนมากกระจัดกระจายอยู่รอบๆ ตราบเท่าที่พวกเขาสำรวจอย่างระมัดระวัง พวกเขาก็จะได้รับบางสิ่ง

 

อย่างไรก็ตามมรดกที่แท้จริงของโป้ชิงดึงดูดใจเกินไป

 

มนุษย์ตายเพื่อความมั่งคั่ง วิหคตายเพื่ออาหาร เมื่อพวกเขามาถึงจุดนี้ ผู้ใดจะต้องการจากไปโดยง่าย?

 

 ———————

พรุ่งนี้หยุด

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset