Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 939

สุดยอดกายาคู่ 

แปลโดย iPAT 

 

เนื่องจากผู้คิดค้นวิธีการนี้ยังไม่ได้ตั้งชื่อให้มัน ฟางหยวนจึงตั้งชื่อมันอย่างเป็นทางการว่า วิธีฟื้นฟูมิติช่องว่างแห่งชีวิตและความตาย

 

คุณค่าของมันไม่สามารถประเมินได้

 

หากข้อมูลนี้รั่วไหลออกไป โลกของผู้บ่มเพาะจะตกสู่ความโกลาหล กระทั่งผู้อมตะระดับแปดก็ต้องเคลื่อนไหวและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อใช้ประโยชน์จากวิธีการนี้

 

เนื่องจากมิติช่องว่างแห่งชีวิตและความตายสามารถลดความรุนแรงของภัยพิบัติสวรรค์พิภพลงครึ่งหนึ่ง นั่นหมายความว่าพวกเขามีโอกาสก้าวข้ามภัยพิบัติเพิ่มขึ้นอีกห้าสิบส่วน

 

ในช่วงเวลาที่สงบสุข ผู้อมตะมักเสียชีวิตเพราะภัยพิบัติสวรรค์พิภพ ประวัติศาสตร์เต็มไปด้วยคำเตือนเกี่ยวกับอันตรายของภัยพิบัติเหล่านี้ ภัยพิบัติแต่ละครั้งไม่สามารถคาดเดา ความรุนแรงของพวกมันก็ไม่เท่ากัน แต่ความยากลำบากจะค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

 

ผู้อมตะต้องทำงานอย่างหนักในการฝึกฝนและเพิ่มความแข็งแกร่งของตนเพื่อก้าวข้ามภัยพิบัติแต่ละครั้ง

 

สิ่งสำคัญก็คือการบ่มเพาะจำเป็นต้องพึ่งพาทรัพยากรเช่น วิญญาณอมตะ ท่าไม้ตายอมตะ คฤหาสน์วิญญาณอมตะ และอื่นๆ

 

มิติช่องว่างของพวกเขาเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการบ่มเพาะและเก็บทรัพยากร

 

เนื่องจากสภาพแวดล้อมของมันเอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก ยิ่งไปกว่านั้นเวลาในมิติช่องว่างของพวกเขายังไหลเร็วกว่าโลกภายนอก นี่ทำให้พวกเขาได้รับประโยชน์มากขึ้น

 

การเก็บทรัพยากรไว้ในมิติช่องว่างย่อมปลอดภัยกว่าการถือพวกมันเดินทางไปรอบๆและเสี่ยงที่จะถูกปล้นชิง

 

หากพวกเขาพบผู้บ่มเพาะที่ทรงพลังและเอาแต่ใจเช่นนางมารผลาญสวรรค์ นางจะทำลายทรัพยากรเหล่านี้ในกรณีนี้ไม่สามารถฉกชิงมาเป็นของตน

 

อย่างไรก็ตามปัญหาคือภัยพิบัติสวรรค์พิภพจะส่งผลกระทบในเชิงลบต่อมิติช่องว่าง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผู้อมตะจะก้าวข้ามภัยพิบัติ นอกจากนั้นมันยังเป็นเรื่องยากที่จะปกป้องทรัพยากรจากความเสียหาย

 

ทรัพยากรส่วนใหญ่ในมิติช่องว่างมักจะถูกทำลายเมื่อภัยพิบัติมาเยือน

 

หลังจากนั้นผู้อมตะต้องเริ่มรวบรวมทรัพยากรใหม่อีกครั้ง

 

นี่คือวงจรอุบาทว์ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก!

 

ภัยพิบัติจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ผู้อมตะต้องเริ่มสะสมทรัพยากรใหม่ตั้งแต่ต้น นี่ทำให้การเติบโตของพวกเขาค่อนข้างล่าช้า ความแข็งแกร่งของผู้อมตะส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นไม่ทันกำหนดเวลา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถรับมือภัยพิบัติสวรรค์พิภพที่ถาโถมเข้ามา

 

ตั้งแต่โบราณ ผู้อมตะจำนวนนับไม่ถ้วนตกตายไประหว่างภัยพิบัติเหล่านี้

 

ผู้อมตะไป่หูเป็นตัวอย่างหนึ่งสำหรับเรื่องนี้

 

นางผ่านภัยพิบัติพิภพมาแล้วสี่ครั้ง แต่ในครั้งที่ห้า นางต้องเผชิญหน้ากับมนุษย์เงาสายฟ้าและเสียชีวิตเพราะมัน เจตจำนงของนางกลายเป็นจิตวิญญาณแผ่นดินของแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูที่ฟางหยวนฉกชิงมา

 

หนึ่งในวิธีลดภัยคุกคามจากภัยพิบัติสวรรค์พิภพก็คือย้ายทรัพยากรออกไปล่วงหน้า

 

ฟางหยวนเคยทำสิ่งนี้มาก่อน

 

แต่ในความเป็นจริงมีผู้อมตะเพียงไม่กี่คนที่จะใช้วิธีนี้

 

พวกเขาไม่ใช่คนโง่ แล้วเหตุผลคือสิ่งใด?

 

สาเหตุเนื่องมาจากมันเป็นตัวบ่งชี้ประเภทของภัยพิบัติสวรรค์พิภพ ตัวอย่างเช่น ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งไม้ที่ย้ายทรัพยากรบนเส้นทางแห่งไม้ออกไป เมื่อภัยพิบัติมาถึง พวกเขาอาจบนภัยพิบัติบนเส้นทางแห่งไฟ

 

เมื่อผู้อมตะสามารถก้าวข้ามภัยพิบัติครั้งนี้ พวกเขาจะได้รับพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งไฟ จากนั้นเมื่อพวกเขานำทรัพยากรบนเส้นทางแห่งไม้กลับเข้ามา พวกมันก็ไม่เหมาะสมที่จะอาศัยอยู่ในมิติช่องว่างนี้อีกต่อไป

 

ในทางตรงข้าม หากพวกเขาทิ้งทรัพยากรบนเส้นทางแห่งไม้ไว้ในมิติช่องว่าง มันจะเหนี่ยวนำภัยพิบัติบนเส้นทางแห่งไม้เข้ามา สุดท้ายพวกเขาจะได้รับพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งไม้เพิ่มขึ้นแม้ว่าทรัพยากรส่วนหนึ่งของพวกเขาจะพังทลายลงก็ตาม

 

กรณีของฟางหยวน เขาย้ายทรัพยากรเดิมออกไปก่อนการมาถึงของภัยพิบัติ นั่นเป็นเหตุให้เขาพบกับภัยพิบัติบนเส้นทางแห่งเลือดที่ไม่เหมาะสมกับทรัพยากรเหล่านั้น

 

อย่างไรก็ตามแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูอยู่บนเส้นทางแห่งทาสที่ไม่เหมาะสมกับเขาอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจมันมากนัก

 

ในกรณีของไท่เป่ยหยุนเฉิง เขาเก็บทรัพยากรไว้ที่เดิมก่อนเผชิญหน้ากับภัยพิบัติ แม้เขาจะพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ แต่รากฐานของเขาก็เพิ่มขึ้นหลังจากได้รับพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางที่เหมาะสมกับตนเอง

 

ข้อมูลเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของมิติช่องว่างที่มีชีวิตและตายไปแล้ว

 

แม้ผู้อมตะจะยิ่งใหญ่เพียงใดแต่ยังมีสวรรค์ที่เหนือกว่า ผู้อมตะต้องดิ้นรนฟันฝ่าอุปสรรคและภัยพิบัติอย่างไม่รู้จบสิ้นเพื่อความอยู่รอด

 

แต่หากพวกเขามีมิติช่องว่างที่มีชีวิตและตายไปแล้ว ทุกอย่างจะแตกต่างออกไป

 

มันสามารถลดความรุนแรงของภัยพิบัติได้ถึงห้าสิบส่วน!

 

เมื่อความรุนแรงของภัยพิบัติลดลง การสูญเสียทรัพยากรก็จะลดลงเช่นกัน ขณะที่พลังงานแห่งเต๋าที่พวกเขาจะได้รับกลับไม่ลดลง เรื่องนี้จะส่งผลกระทบอย่างมหาศาลต่อวงจรการบ่มเพาะของผู้อมตะ

 

เมื่อภัยพิบัติครั้งต่อไปมาถึง พวกเขาจะมีความพร้อมมากขึ้นในการรับมือกับศัตรู

 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นการค้นพบและความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคปัจจุบัน

 

มันสามารถเปลี่ยนโลกของการบ่มเพาะและเปลี่ยนประวัติศาสตร์

 

นี่ไม่ใช่เพียงวิธีฟื้นฟูมิติช่องว่างแห่งชีวิตและความตายแต่เป็นวิธีบ่มเพาะรูปแบบใหม่!

 

วิธีการบ่มเพาะของผู้ใช้วิญญาณได้รับการถ่ายทอดมาจากยุคของมนุษย์คนแรกและแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงมาจนถึงปัจจุบัน

 

หากวิธีใหม่ถูกเผยแพร่ออกไป มันจะไม่ต่างจากการค้นพบทฤษฎีสัมพันธภาพของไอน์สไตน์หรือกฎแรงโน้มถ่วงของนิวตัน

 

ในช่วงเริ่มต้น ผู้อมตะหลายคนอาจรู้สึกยากที่จะยอมรับ แต่เมื่อบางคนได้รับความสำเร็จ พวกเขาจะเริ่มเปลี่ยนความคิดและรู้สึกยกย่องสรรเสริญ

 

“โลกจะพัฒนาไปเรื่อยๆ การบ่มเพาะของผู้ใช้วิญญาณถือเป็นศาสตร์ชนิดหนึ่ง ดังนั้นมันจึงสามารถพัฒนาไปตามวันเวลา”

 

ฟางหยวนไตร่ตรองเรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง

 

ยิ่งเขาคิดมากเท่าใด เขาก็ยิ่งตระหนักถึงความฉลาดของวิธีนี้มากเท่านั้น

 

ในระยะเวลาสั้นๆ ฟางหยวนสามารถทำความเข้าใจอย่างคร่าวๆเท่านั้น เขายังไม่สามารถทำความเข้าใจสาระสำคัญได้อย่างถ่วงแท้

 

เขารู้เพียงว่าวิธีนี้เป็นแนวทางที่ถูกต้องและเหมาะสมกับเขา

 

อย่างไรก็ตามหากใช้มิติช่องว่างที่ตายไปแล้วเป็นรากฐานในการสร้างมิติช่องว่างแห่งชีวิตและความตาย มันยังมีข้อเสีย

 

ตัวอย่างเช่น แรกเริ่มมิติช่องว่างของฟางหยวนเป็นมิติช่องว่างระดับกลาง หลังจากกลายเป็นผีดิบอมตะ มิติช่องว่างของเขาตายและพังทลายลงอย่างต่อเนื่อง หากใช้มันเป็นรากฐานในการสร้างมิติช่องว่างใหม่ มิติช่องว่างของเขาจะกลายเป็นมิติช่องว่างระดับต่ำที่มีขนาดพื้นที่น้อยกว่ามาก เรื่องนี้ไม่เอื้อประโยชน์ต่อการบ่มเพาะในอนาคตของเขา

 

แต่เนื้อหาส่วนหนึ่งในวิธีนี้กล่าวว่าเขาสามารถใช้ซากศพของผีดิบอมตะบนเส้นทางที่ตรงกันเป็นส่วนประกอบในการยกระดับมิติช่องว่างแห่งชีวิตและความตาย หากมีซากศพของผีดิบอมตะบนเส้นทางเดียวกันมากพอ ผู้บ่มเพาะอาจได้รับมิติช่องว่างระดับสูง

 

นอกจากนั้นหากได้รับซากศพของผีดิบอมตะสุดยอดกายา มิติช่องว่างของของผู้บ่มเพาะอาจบรรลุถึงระดับสุดยอด

 

ไห่ลั่วหลันได้รับมิติช่องว่างระดับสุดยอดเมื่อก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริง ดังนั้นฟางหยวนจึงเข้าใจหลายสิ่งเกี่ยวกับมัน

 

“แดนศักดิ์สิทธิ์ระดับสุดยอดมีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุด มันสามารถผลิตองุ่นเขียวอมตะได้ปีละอย่างน้อยห้าสิบผล การไหลของเวลาในแดนศักดิ์สิทธิ์จะยิ่งรวดเร็วและสามารถผลิตทรัพยากรได้มากมายในระยะเวลาสั้นๆ สิ่งสำคัญก็คือสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงจะช่วยยกระดับพลังการต่อสู้ของข้าได้หลายเท่า!”

 

จากจุดนี้ฟางหยวนสามารถมองเห็นคุณค่าของวิธีฟื้นฟูมิติช่องว่างแห่งชีวิตและความตายได้มากขึ้น

 

สุดยอดกายาทั้งสิบ!

 

พวกมันมีพลังอันยิ่งใหญ่แต่ก็มีข้อเสียที่ใหญ่กว่า

 

เนื่องจากเวลาไหลเร็วขึ้น พวกเขาจึงพบกับภัยพิบัติเร็วขึ้น!

 

ในประวัติศาสตร์มีผู้อมตะระดับแปดที่ครอบครองสุดยอดกายาอยู่น้อยมาก แม้พวกเขาจะเหนือกว่าคนในระดับเดียวกันแต่พวกเขาไม่มีโอกาสเติบโต

 

อย่างไรก็ตามข้อบกพร่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อฟางหยวน

 

เหตุผลก็คือเขามีวิธีฟื้นฟูมิติช่องว่างแห่งชีวิตและความตาย

 

มิติช่องว่างแห่งชีวิตและความตายจะช่วยลดความรุนแรงของภัยพิบัติลงครึ่งหนึ่ง ดังนั้นความยากลำบากที่เขาต้องเผชิญจึงอยู่ในจุดที่สามารถยอมรับได้

 

“ข้าสามารถสร้างมิติช่องว่างระดับสูงด้วยการรวบรวมซากศพของผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งแต่หากข้าได้รับซากศพของผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริง ข้าจะสามารถสร้างมิติช่องว่างระดับสุดยอดเช่นเดียวกับผู้อมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงขณะที่ความรุนแรงของภัยพิบัติจะลดลงครึ่งหนึ่ง ตราบเท่าที่ข้ามีเวลาเพียงพอ ข้าจะสามารถเติบโตและบรรลุระดับเก้า!”

 

ดวงตาของฟางหยวนลุกไหม้ขึ้นด้วยความคาดหวัง

 

ผู้อมตะระดับเก้าคือผู้ปกครองโลกหล้า นี่คือข้อเท็จจริงที่ทุกคนยอมรับ

 

“หากวิธีนี้ดำเนินไปได้ด้วยดี ข้ายังสามารถใช้วิธีเดียวกันกับทะเลวิญญาณที่สองและเปลี่ยนมันให้เป็นมิติช่องว่างแห่งชีวิตและความตายบนเส้นทางแห่งกาลเวลาระดับสุดยอด! นอกจากสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริง ข้ายังจะได้ครอบครองสุดยอดกายาแสงจันทร์บรรพกาลอีกด้วย!”

 

สุดยอดกายาคู่!

 

ฟางหยวนแทบหลั่งน้ำตาเมื่อคิดถึงเรื่องนี้

 

ห้าร้อยปีในชีวิตก่อนหน้า เขาต้องอดทนกับความยากลำบากและเสี่ยงชีวิตมานับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดตอนนี้เขาก็เริ่มเห็นความหวังที่จะเติมเต็มความทะเยอทะยานและก้าวไปสู่ชีวิตนิรันดร์

 

ชีวิตนิรันดร์จะเป็นเพียงเป้าหมายที่ไร้สาระหากปราศจากความแข็งแกร่งที่เพียงพอ

 

“ผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งมีอยู่ไม่มาก ตั้งแต่ข้าเข้าร่วมกับกองกำลังพันธมิตรผีดิบ ข้ายังไม่พบผู้ใดบ่มเพาะอยู่บนเส้นทางความแข็งแกร่ง สำหรับสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริง แน่นอนว่ามีอยู่หนึ่ง นั่นก็คือ ไห่ลั่วหลัน!”

 

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้นด้วยความดุร้าย

 

“แม้ข้าจะร่วมมือกับเจ้าเพื่อหลบหนีจากแดนศักดิ์สิทธิ์เมืองหลวงและได้รับประโยชน์มากมายในภายหลัง แต่เพื่อเติมเต็มความทะเยอทะยานของข้า เจ้าจะต้องเป็นเครื่องสังเวย!”

 

รอยยิ้มบางปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฟางหยวน

 

โหดเหี้ยม!

 

เย็นชา!

 

ไร้หัวใจ!

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset