Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 934

ทะเลสมบัติ (อ่านฟรี)

แปลโดย iPAT 

 

การคลี่คลายค่ายกลวิญญาณขนาดใหญ่ต้องใช้เวลาหลายเดือน

 

มือของฟางหยวนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพื่อคลี่คลายค่ายกลวิญญาณดังกล่าว ในเวลาเดียวกันเขาก็ต้องเฝ้าระวังราชาปลาหมึกอสูร

 

‘นั่น!’ ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้นเมื่อเขามองเห็นสิ่งปลูกสร้างบางอย่างที่อยู่ภายในแม้ภาพจะค่อนข้างคลุมเครือก็ตาม

 

แต่ในเวลานี้ราชาปลาหมึกอสูรได้กลับมาถึงแล้ว

 

เขาต้องถอย

 

ฟางหยวนถอนหายใจและตัดสินใจล่าถอยทันที

 

ราชาปลาหมึกอสูรมาถึงตำแหน่งเดิมของมันและมองไปรอบๆ

 

มันรู้สึกว่าถึงความผิดปกติบางอย่าง

 

ราชาปลาหมึกอสูรขมวดคิ้วลึกและเริ่มตรวจสอบรังของมัน

 

อย่างไรก็ตามมันกลับไม่พบสิ่งใดขณะที่กลิ่นอายผิดปกติก็เริ่มจางหาย หลังจากชั่วครู่ ราชาปลาหมึกอสูรจึงค่อยๆสงบและนอนลงอีกครั้ง

 

แต่มันยังเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา

 

ฟางหยวนผ่อนคลายลงและค่อยๆล่าถอยออกไปอย่างระมัดระวัง

 

พิจารณาจากที่พักของมัน ราชาปลาหมึกอสูรตัวนี้ดูเหมือนจะมีตำแหน่งสูงสุด หากมันถูกโจมตี ผู้ใดจะรู้ว่ามันจะเรียกฝูงปลาหมึกอสูรที่กำลังต่อสู้อยู่ด้านนอกกลับมาหรือไม่

 

หากเป็นเช่นนั้น ฟางหยวนจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

 

“ที่นี่น่าจะปลอดภัยแล้ว” ฟางหยวนเลือกมุมที่ไม่สะดุดตาในรังของปลาหมึกอสูรก่อนจะกระตุ้นใช้วิญญาณท่องแดนอมตะ

 

แม้ค่ายกลวิญญาณจะถูกจัดตั้งโดยผู้อมตะบางคน แต่หลังจากตรวจสอบ ฟางหยวนพบว่ามันถูกทิ้งร้างไว้นานแล้ว ด้วยเหตุนี้ความเสี่ยงที่จะบุกเข้าไปจึงไม่สูงนัก

 

เพื่อค้นหาวิธีลบสถานะผีดิบ นี่เป็นความเสี่ยงที่เขาต้องแบกรับ

 

เมื่อความจริงเบื้องหลังการล่มสลายของวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงถูกเปิดเผย ทุกคนจะไล่ล่าเขา ในสถานการณ์นี้ ยิ่งเขาลบสถานะผีดิบได้เร็วเท่าใด มันก็ยิ่งดีต่อตัวเขาเท่านั้น

 

ภายในเวลาสามลมหายใจ ร่างของฟางหยวนหายไปจากจุดนั้นและปรากฏตัวอีกครั้งด้านในค่ายกลวิญญาณขนาดใหญ่

 

ด้านนอกค่ายกลวิญญาณคือราชาปลาหมึกอสูร แต่ตอนนี้ฟางหยวนอยู่ด้านในค่ายกลวิญญาณที่ถูกแยกออกจากโลกภายนอกอย่างสมบูรณ์

 

‘ในที่สุดข้าก็มาถึงที่นี่’ ฟางหยวนระวังตัวอย่างมาก

 

การพุ่งเข้าสู่ค่ายกลวิญญาณโดยตรงเป็นเรื่องที่อันตรายมาก เขาอาจถูกโจมตีจากทุกทิศทางทันทีที่มาถึง

 

อย่างไรก็ตามฟางหยวนยังไม่พบการโจมตีใด นี่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าค่ายกลวิญญาณไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ใด

 

ฟางหยวนถอนหายใจด้วยความโล่งอกแต่ก็ยังระวังตัว

 

แม้ค่ายกลวิญญาณจะไม่ถูกบังคับโดยบางคนแต่มันยังสามารถทำงานได้ด้วยเจตจำนงที่ถูกทิ้งไว้

 

ตัวอย่างเช่น วังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงที่ถูกควบคุมโดยเจตจำนงของเทพอมตะตะวันเดือด

 

ที่นี่เป็นพื้นที่ที่ถูกสร้างขึ้นโดยวิธีการบนเส้นทางแห่งห้วงมิติ ดังนั้นมันจึงมีขนาดใหญ่โตพร้อมกับท้องฟ้าสีเหลืองและพื้นทรายสีม่วง

 

ทรายสีม่วงราวกับพื้นดินที่อุดมสมบูรณ์เพราะมีพืชพันธุ์มากมายเติบโตขึ้นไม่ต่างจากป่าดิบชื้นในเขตร้อน

 

“หญ้าพู่กัน ท้อแห่งชีวิต ถั่วอมตะ ดอกไม้เหล็กโลหิต…” ด้วยการกวาดตามองเพียงครั้งเดียว ฟางหยวนพบทรัพยากรอมตะจำนวนมหาศาล

 

กระทั่งคนที่เต็มไปด้วยความอดทนยังต้องตกใจ

 

แม้ทรัพยากรอมตะส่วนใหญ่จะเป็นทรัพยากรระดับหกหรือเจ็ดแต่สิ่งที่น่าตกใจก็คือปริมาณของพวกมัน

 

“ทรัพยากรเหล่านี้มาจากทั้งห้าภูมิภาค ผีดิบอมตะที่สร้างสถานที่แห่งนี้มีเบื้องหลังเช่นไรกันแน่?”

 

ในการรวบรวมทรัพยากรอมตะจำนวนมหาศาลเช่นนี้จำเป็นต้องใช้กำลังคนและความพยายามอย่างมาก

 

นอกจากนั้นทรัพยากรหลายชนิดก็ไม่ใช่ทรัพยากรที่จะรวบรวมได้โดยง่าย หากปราศจากความชำนาญ พวกเขาจะไม่สามารถเก็บเกี่ยวมัน

 

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือกำแพงภูมิภาค

 

ยิ่งระดับการบ่มเพาะสูงเท่าใด ผู้อมตะก็ยิ่งได้รับผลกระทบจากกำแพงภูมิภาคมากเท่านั้น

 

“เป็นไปได้หรือไม่ว่า…” ฟางหยวนพยายามคาดเดา

 

เขาเคยคิดว่าที่นี่เป็นมรดกของผีดิบอมตะที่ยิ่งใหญ่บางคน แต่ตอนนี้ดูเหมือนมันจะไม่ใช่สิ่งที่คนเพียงผู้เดียวจะสามารถสร้างขึ้น มันต้องเป็นระดับกองกำลังและต้องเป็นกองกำลังขนาดใหญ่เท่านั้น

 

เนื่องจากกองกำลังขนาดเล็กและกลางมักมีผู้อมตะอยู่เพียงสองหรือสามคน มันไม่เพียงพอที่จะรวบรวมทรัพยากรระดับนี้

 

เมื่อมองไปยังทะเลสมบัติด้านหน้า ช่วยไม่ได้ที่หัวใจของฟางหยวนจะเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้น

 

“ความมั่งคั่งระดับนี้มันเพียงพอให้ข้าหลอมรวมวิญญาณอมตะหลายร้อยครั้ง! บางทีในชีวิตก่อนหน้าของข้า กองกำลังพันธมิตรผีดิบของภาคเหนือสามารถผงาดขึ้นได้ก็เป็นเพราะทรัพยากรเหล่านี้!”

 

มันเหมือนคลังเก็บสมบัติขนาดใหญ่ที่มีทรัพยากรกองเป็นภูเขาอยู่ภายใน

 

มูลค่าของมันยากที่จะประเมิน ฟางหยวนรู้เพียงว่ามันล้ำค่ามาก

 

หากเขาค่อยๆสะสมหินวิญญาณอมตะสองพันก้อนต่อเดือน กระทั่งหนึ่งพันปี เขาก็ยังไม่ประสบความสำเร็จถึงจุดเดียวกันนี้

 

“แต่เปรียบเทียบกับทรัพยากรจำนวนนับไม่ถ้วน ค่ายกลวิญญาณนี้ยิ่งมีค่ามากกว่า!”

 

ทรัพยากรจากทั้งห้าภูมิภาคสามารถอยู่ร่วมกันได้โดยไม่ต่อต้านกัน ชัดเจนว่ามันเป็นเพราะค่ายกลวิญญาณ

 

“โชคดีที่ข้าไม่ได้ทำลายค่ายกลวิญญาณนี้ มิฉะนั้นข้าอาจเสียใจในภายหลัง หากได้รับค่ายกลวิญญาณนี้ ข้าจะสามารถเพาะปลูกทรัพยากรจำนวนนับไม่ถ้วน มันดียิ่งกว่ามิติช่องว่างของผู้อมตะ!”

 

ฟางหยวนรู้สึกยกย่องผู้สร้างค่ายกลวิญญาณนี้อย่างช่วยไม่ได้

 

มิติช่องว่างของผีดิบอมตะตายไปแล้ว หากมีค่ายกลวิญญาณชนิดนี้ เขาสามารถใช้มันทดแทนมิติช่องว่าง

 

“อย่างไรก็ตามค่ายกลวิญญาณนี้มีพลังป้องกันค่อนข้างต่ำและไม่สามารถเคลื่อนย้าย มันยังห่างไกลจากความสะดวกสบาย หือ…ทรายสีม่วงเหล่านี้ดูแปลกประหลาดเล็กน้อย…”

 

ฟางหยวนก้มลงและใช้มือช้อนทรายสีม่วงขึ้นมา

 

ทรายละเอียดมาก บางส่วนไหลลงไปตามช่องว่างระหว่างนิ้วมือของฟางหยวน

 

“แต่สิ่งที่ข้าต้องการคือวิธีลบสถานะผีดิบ มันอยู่ที่ใด?” ฟางหยวนโยนทรายสีม่วงทิ้งไปขณะที่เขาคิดถึงเป้าหมายหลัก

 

เขาไม่รีบร้อนที่จะรวบรวมทรัพยากรอมตะและเริ่มบินขึ้นสู่ท้องฟ้า

 

เมื่อเวลาผ่านไป ความสุขบนใบหน้าของฟางหยวนก็ค่อยๆเลือนหายและถูกแทนที่ด้วยความไม่สบายใจ

 

“มีบางอย่างไม่ถูกต้อง” เขาหยุดและมองไปยังกองทรัพยากรอมตะที่ไร้จุดสิ้นสุด

 

“มันสงบเกินไป ไม่มีกระทั่งลม มันเงียบยิ่งกว่ามิติช่องว่างที่ตายไปแล้วของข้า” ฟางหยวนพบสิ่งผิดปกติ

 

“ที่นี่มีเพียงพืชแต่ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่น มันไม่มีแม้แต่แมลงสักตัว” ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายเย็นเยียบ

 

เขาทะยานร่างกลับลงไปบนพื้นและหยิบหญ้าพู่กันขึ้นมา

 

ทันใดนั้นร่างกายของฟางหยวนพลันสั่นสะท้านขึ้น

 

หญ้าพู่กันบนพื้นทรายไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงแต่หญ้าพู่กันที่ฟางหยวนหยิบขึ้นมากลับเริ่มเหี่ยวเฉาลงก่อนจะกลายเป็นทรายสีม่วงร่วงหล่นลงบนพื้น

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น?” ฟางหยวนหรี่ตามองและทดลองหยิบทรัพยากรอมตะชนิดอื่นขึ้นมา

 

ผลลัพธ์ที่ได้เหมือนกับครั้งก่อนหน้า

 

“แปลก! เหตุผลที่พวกมันถูกเรียกว่าทรัพยากรอมตะเพราะพวกมันมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าจำนวนมากแฝงอยู่ หากพวกมันถูกทำลาย พลังงานแห่งเต๋าจะต้องปั่นป่วน แต่มันกลับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น!”

 

เมื่อมองไปยังทรัพยากรอมตะจำนวนนับไม่ถ้วน ฟางหยวนรู้สึกราวกับกำลังมองกองซากศพ

 

นี่ทำให้ฟางหยวนยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้น

 

เขารีบบินขึ้นสู่ท้องฟ้าและสร้างระยะห่างจากทรายสีม่วง

 

“มีบางอย่างแปลกประหลาดเกี่ยวกับค่ายกลวิญญาณนี้ การสร้างระยะห่างจากทรายสีม่วงอาจไม่มีประโยชน์ ทรัพยากรอมตะทั้งหมดอาจเกี่ยวข้องกับค่ายกลวิญญาณ ก่อนที่ข้าจะรู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น มันจะดีที่สุดหากข้ารีบหาวิธีลบสถานะผีดิบและจากไปอย่างรวดเร็วที่สุด”

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset