Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1165

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1165 เย่ฟานปะทะไป่หนิงปิง

แปลโดย iPAT 

 

ฟางหยวนมองพื้นที่เน่าเปื่อยและถอนหายใจ

 

“ในที่สุดข้าก็สามารถก้าวข้ามภัยพิบัติพิภพครั้งที่ห้า!”

 

ฟางหยวนใช้ความพยายามอย่างมากในการจัดการกระแสน้ำทมิฬ แต่ด้วยมรดกของไห่ฟาน เขาจึงสามารถก้าวข้ามภัยพิบัติได้โดยไม่ยากลำบากมากนัก

 

ภูมิประเทศเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ฟางหยวนต้องกู้คืนสภาพแวดล้อม โชคดีที่ภาคตะวันตกน้อยเป็นทะเลทรายที่แห้งแล้งอยู่แล้ว ดังนั้นความสูญเสียของฟางหยวนจึงไม่มากนัก

 

ในความเป็นจริงฟางหยวนสามารถทิ้งสถานที่แห่งนี้ไว้โดยไม่จำเป็นต้องแก้ไข

 

โชคลาภและภัยพิบัติมีความสัมพันธ์ไม่ต่างจากเหรียญสองด้าน

 

สถานที่แห่งนี้ไม่สามารถเพาะปลูก แต่ด้วยสภาพแวดล้อมพิเศษ พืชและสัตว์ที่ดุร้ายหลายชนิดยังสามารถอาศัยและเติบโตขึ้น

 

แน่นอนว่าฟางหยวนต้องกำจัดเจตจำนงสวรรค์ที่ตกค้างออกไป

 

แต่นี่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย

 

สิ่งสำคัญคือภัยพิบัติพิภพครั้งที่ห้าสิ้นสุดลงแล้ว

 

หลังจากกลับแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ฟางหยวนสรุปว่าภัยพิบัติพิภพครั้งนี้รุนแรงกว่าสี่ครั้งแรกแต่ไม่เกินความคาดหมายของเขามากนัก

 

มีเหตุผลสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้เขาสามารถก้าวข้าม นั่นคือความแข็งแกร่งของฟางหยวนที่เพิ่มสูงขึ้น

 

‘ดูเหมือนภัยพิบัติพิภพจะไม่เป็นปัญหาสำหรับข้าอีกต่อไป พวกมันไม่สามารถหยุดข้า ตอนนี้มีเพียงภัยพิบัติมนุษย์ที่ข้าต้องระวัง’

 

ฟางหยวนคิดถึงภัยพิบัติมนุษย์ที่เกิดขึ้นในภัยพิบัติพิภพครั้งที่สี่และรู้สึกถึงอันตราย

 

ภัยพิบัติมนุษย์น่าสะพรึงกลัวมาก กระทั่งมังกรหินแรกกำเนิดยังปรากฏตัวขึ้น สิ่งนี้เกินขีดจำกัดของฟางหยวน โชคดีที่แผนการต้มตุ๋นทำให้เขารอดชีวิตมาได้อย่างฉิวเฉียด

 

‘เนื่องจากภัยพิบัติพิภพไม่สามารถสังหารข้า นั่นหมายความว่าตอนนี้เจตจำนงสวรรค์กำลังปลุกระดมภัยพิบัติมนุษย์’

 

‘เจตจำนงสวรรค์กำลังวางแผนใช้ภัยพิบัติมนุษย์เพื่อทำลายข้า’

 

‘ข้าไม่พบภัยพิบัติมนุษย์ในภัยพิบัติพิภพครั้งนี้เพราะข้าเป็นปีศาจต่างโลกที่สมบูรณ์แบบ เจตจำจงสวรรค์ไม่สามารถตรวจสอบแผนการของข้าล่วงหน้าและเนื่องจากข้าเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มันจึงไม่มีเวลาเพียงพอที่จะสร้างภัยพิบัติมนุษย์!’

 

เจตจำนงสวรรค์ไม่ใช่เจตจำนงปลอม มันส่งอิทธิพลต่อผู้คนได้ไม่มากนัก หลังจากทั้งหมดมนุษย์มีสติปัญญาสูงที่สุดท่ามกลางสิ่งมีชีวิตทั้งหมด

 

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ฟางหยวนตระหนักว่าไม่ควรเผชิญหน้ากับภัยพิบัติในสถานที่เดิมๆ

 

‘อย่างไรก็ตามครั้งนี้ข้าต้องการร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งปฐพีแต่สุดท้ายข้ากลับได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งความมืด’

 

ฟางหยวนประสบความสำเร็จในการกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะมิติภัยพิบัติ

 

แต่เจตจำนงสวรรค์ไม่ต้องการให้ฟางหยวนได้รับสิ่งที่เขาต้องการ ดังนั้นเจตจำนงสวรรค์จึงส่งภัยพิบัติบนเส้นทางแห่งความมืดมาแทนภัยพิบัติบนเส้นทางแห่งปฐพี

 

หลังจากใช้วิญญาณอมตะสัมผัสแห่งเต๋าตรวจสอบ ฟางหยวนพบว่าร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งความมืดของเขาเพิ่มขึ้นและเข้าใกล้หนึ่งหมื่นร่องรอย

 

‘ก่อนหน้านี้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งความมืดของข้ามีน้อยมากแต่หลังจากก้าวข้ามภัยพิบัติครั้งนี้ มันเพิ่มขึ้นอย่างน้อยเก้าพันร่องรอย! ข้าทำกำไรได้มากทีเดียว!’

 

แม้ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งความมืดของฟางหยวนจะต่ำแต่เขามีวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืด

 

วิญญาณอมตะดวงนี้มีประโยชน์มาก มันสามารถซ่อนการคงอยู่ของเขาจากการรับรู้ของเจตจำนงสวรรค์ได้ในระดับหนึ่ง เทพธิดาเจียงหยูเคยใช้สิ่งนี้เพื่อซ่อนร่างสุดยอดกายาของไห่ลั่วหลันมาแล้ว

 

สำหรับภัยพิบัติครั้งนี้ฟางหยวนใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน

 

สถานการณ์ที่ถ้ำสวรรค์ไห่ฟานยังไร้ทางออก

 

ชูตู๋มีพลังการต่อสู้ระดับเจ็ดขณะเดียวกันเขาก็ได้รับการปกป้องจากถ้ำสวรรค์ มันถือเป็นปราการที่แข็งแกร่ง

 

อย่างไรก็ตามฟางหยวนสามารถบอกได้ว่าจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูยังเป็นฝ่ายเหนือกว่า แม้เขาจะไม่สามารถทะลวงเข้าไปและถูกผลักดันออกมาซ้ำๆ

 

แต่จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูสามารถโจมตีหรือล่าถอยได้ดังใจปรารถนา หากเปรียบเทียบ ชูตู๋ทำได้เพียงป้องกันและไม่รู้ว่าจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูจะโจมตีหรือใช้วิธีใดต่อไป

 

‘ชูตู๋จะพ่ายแพ้ในที่สุดแต่ตอนนี้มันยังไม่ถึงขีดจำกัดของเขา’ ฟางหยวนประเมิน

 

เขาคิดว่าหากชูตู๋ตายในการต่อสู้ครั้งนี้ เขาจะได้รับประโยชน์หรือเสียประโยชน์

 

หลังจากพิจารณาฟางหยวนสรุปว่าชูตู๋มีชีวิตอยู่ดีกว่า

 

มีเหตุผลหลายประการ

 

ประการแรก ฟางหยวนลงทุนกับชูตู๋ไปมากแล้ว นั่นคือวิญญาณอมตะเรียกภัยพิบัติระดับเจ็ด หากชูตู๋เสียชีวิต วิญญาณอมตะดวงนี้จะถูกทำลายไปพร้อมกับเขา

 

ประการที่สอง ชูตู๋เป็นพันธมิตรของฟางหยวน ฟางหยวนไม่สามารถละทิ้งชูตู๋หากชูตู๋ขอความช่วยเหลือ

 

ประการที่สาม ภัยพิบัติของฟางหยวนจะรุนแรงขึ้นทุกครั้ง วิญญาณอมตะเรียกภัยพิบัติที่อยู่กับชูตู๋สามารถช่วยฟางหยวนได้มาก การดำรงอยู่ของชูตู๋มีประโยชน์ต่อการบ่มเพาะของฟางหยวนอย่างไม่ต้องสงสัย

 

ประการที่สี่ หากฟางหยวนประสบความสำเร็จในการช่วยปกป้องถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน ในอนาคตฟางหยวนจะสามารถเก็บเกี่ยวคริสตัลสวรรค์ที่ถือกำเนิดขึ้นในถ้ำสวรรค์ไห่ฟานได้อีกครั้ง

 

‘ดูเหมือนข้าต้องช่วยชูตู๋ต่อต้านจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู’ ฟางหยวนตัดสินใจ

 

อย่างไรก็ตามเขาไม่รีบร้อนลงมือ

 

เขาพึ่งก้าวข้ามภัยพิบัติ เขาต้องการเวลาพักผ่อนและเติมเต็มองุ่นเขียวอมตะ

 

นี่เป็นข้ออ้างที่สมเหตุสมผล มันไม่ถือเป็นการทำผิดข้อตกลงพันธมิตร แม้ชูตู๋จะรู้ เขาก็ไม่สามารถตำหนิฟางหยวน

 

…..

 

ภาคใต้ ภูเขามงกุฎสุริยัน

 

ตอนนี้เป็นเวลากลางคืนที่ดวงจันทร์ส่องสว่าง

 

“ผู้ใดอีก?” เย่ฟานยืนอยู่บนหินก้อนใหญ่ด้วยความเย่อหยิ่ง

 

กลุ่มผู้ใช้วิญญาณฝ่ายตรงข้ามรู้สึกลังเลและหวาดกลัว

 

“เย่ฟาน เจ้าถูขับกไล่ออกจากตระกูลของเจ้า เจ้าเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษ พวกเราก็เป็นผู้บ่มเพาะสันโดษเช่นกัน เหตุใดเจ้าต้องสร้างความยากลำบากให้กับพวกเรา?” ผู้ใช้วิญญาณผู้หนึ่งกล่าว

 

เย่ฟานหัวเราะ “ก่อนที่เราจะต่อสู้กัน พวกเจ้าพยายามใช้จำนวนคนที่มากกว่าจัดการข้า เหตุใดตอนนี้พวกเจ้าไม่กล่าวถึงเรื่องนั้น? พวกเจ้าเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษเช่นเดียวกันงั้นหรือ? ยึดครองภูเขาและปล้นชิงผู้คน ในฐานะผู้ใช้วิญญาณ พวกเจ้ากลั่งแกล้งผู้อ่อนแอกว่าและสังหารมนุษย์ธรรมดาอย่างไร้ยางอาย พวกเจ้าเป็นผู้ใช้วิญญาณปีศาจ ไม่ใช่ผู้บ่มเพาะสันโดษ!”

 

“พวกเราบริสุทธิ์ โจรชั่วที่แท้จริงตายไปแล้วโดยน้ำมือของเจ้า พวกเราเพียงถูกบังคับให้ทำเท่านั้น”

 

“นอกจากนี้ตั้งแต่นายท่านปีศาจขาวมาที่นี่ พวกเราก็หยุดอาชญากรรมทั้งหมด!”

 

กลุ่มผู้ใช้วิญญาณกรีดร้อง

 

การแสดงออกของเย่ฟานผ่อนคลายลง

 

ตามข้อมูลที่เขาได้รับ สถานการณ์เป็นเช่นนี้จริงๆ

 

ตั้งแต่ไป่หนิงปิงเข้ายึดครองภูเขามงกุฎสุริยันและภูเขาแห่งความเงียบ นางเข้าควบคุมกลุ่มผู้ใช้วิญญาณปีศาจและไม่ได้สั่งให้พวกเขาทำเรื่องชั่วร้ายใดๆ

 

“ฮืม หากไม่ใช่เพราะเรื่องนี้พวกเจ้าตายไปแล้ว ข้าจะปล่อยให้พวกเจ้ามีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?” เย่ฟานตะคอก “ข้าเป็นตัวแทนของตระกูลเฉิง ข้าต้องผ่านภูเขามงกุฎสุริยันและภูเขาแห่งความเงียบ ข้าจะรออยู่ที่นี่ บอกให้ปีศาจขาวออกมาพบข้า มิฉะนั้นข้าจะฆ่าทุกคนที่นี่!”

 

เย่ฟานเข้าใจสถานกาณณ์เป็นอย่างดี

 

เขารู้ว่าการป้องกันของภูเขาแห่งความเงียบแข็งแกร่งกว่าภูเขามงกุฎสุริยัน เขาเพียงผู้เดียวไม่สามารถผ่านมันไปได้

 

การแจ้งเตือนศัตรูเพื่อล่อให้ปีศาจขาวออกมาเป็นวิธีที่ดีที่สุด

 

แต่ในขณะที่เย่ฟานกล่าว เสียงที่เย็นชาสายหนึ่งกลับดังขึ้น “ไม่จำเป็น ข้าอยู่ที่นี่แล้ว”

 

หลังจากนั้นเงาร่างมากกว่าสิบร่างจึงปรากฏขึ้นบนภูเขา

 

กลุ่มผู้ใช้วิญญาณปีศาจส่งเสียงโห่ร้อง “นายท่านปีศาจขาว! นายท่านปีศาจขาวมาช่วยพวกเราแล้ว!”

 

เย่ฟานเฝ้ามองอย่างระมัดระวัง ผู้ใช้วิญญาณทั้งหมดที่พึ่งปรากฏตัวแข็งแกร่งกว่าผู้คนบนภูเขามงกุฎสุริยัน พวกเขาล้วนเป็นผู้ใช้วิญญาณปีศาจหรือผู้บ่มเพาะสันโดษที่มีชื่อเสียง

 

แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเย่ฟานมากที่สุดคือหญิงที่อยู่ตรงกลาง

 

หญิงผู้นี้อยู่ในชุดคลุมขาว เส้นผมของนางเป็นสีเงินที่เงางามและส่องประกาย ดวงตาของนางเป็นสีฟ้าราวกับน้ำทะเลที่เงียบสงบ ใบหน้าของนางซีดขาว การแสดงออกเย็นชา แต่ความงามอันเป็นที่สุดของนางไม่สามารถปกปิด

 

นางนั่งเอนกายอยู่บนเก้าอี้ไม้ไผ่อย่างผ่อนคลายและกระทั่งปิดเปลือกตาลง มีมนุษย์หิมะสี่ตนแบกเก้าอี้ของนางเอาไว้

 

หัวใจของเย่ฟานสั่นสะท้าน

 

เขาท่องเที่ยวไปทั่วและเห็นสิ่งต่างๆมามากมาย แต่ในแง่ของรูปลักษณ์ ไป่หนิงปิงมีความงามระดับเทพ! ผู้เดียวที่สามารถแข่งขันกับนางมีเพียงเฉิงซินซื่อ

 

“นายท่านปีศาจขาว พวกเราพยายามปกป้องที่นี่อย่างเต็มที่แล้ว” ในจังหวะนี้ผู้ใช้วิญญาณปีศาจผู้หนึ่งเร่งคุกเข่าลงและคลานเข้าไปหาไป่หนิงปิง

 

“ผู้ที่พยายามหลบหนีและไม่ยอมต่อสู้เช่นเจ้าสมควรตาย” ไป่หนิงปิงเปิดเปลือกตาขึ้น ร่างกายของผู้ใช้วิญญาณปีศาจที่คุกเข่าอยู่บนพื้นแข็งค้างและตายในเวลาต่อมา

 

ผู้ใช้วิญญาณปีศาจตกตะลึง ร่างกายของทุกคนสั่นสะท้านขึ้นด้วยความหวาดกลัว

 

เย่ฟานตกใจเช่นกัน ความประทับใจแรกที่ดีต่อไป่หนิงปิงหายไปอย่างสิ้นเชิง

 

“ดังคาด! เจ้ากระทั่งสังหารคนของตนเอง!” เย่ฟานตะโกนด้วยความโกรธ

 

ไป่หนิงปิงเผยรอยยิ้มบางและชี้นิ้วไปที่เย่ฟาน

 

เย่ฟานรู้สึกถึงมวลอากาศเย็นที่พุ่งเข้าปกคลุมขาซ้ายของเขาเอาไว้

 

เขามองลงไปเพื่อเห็นขาซ้ายของเขามีชั้นน้ำแข็งก่อตัวขึ้น

 

‘นี่เป็นท่าไม้ตายชนิดใด ข้าใช้ท่าไม้ตายสายป้องกันไปแล้วแต่กลับไม่สามารถป้องกันมัน!’ เย่ฟานตกใจมาก

 

ตลอดมาวิธีการป้องกันของเขาไม่เคยล้มเหลว แต่ตอนนี้มันกลับไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิงต่อหน้าไป่หนิงปิง

 

‘การบ่มเพาะของปีศาจขาวอยู่ในระดับใดกันแน่? วิธีการของข้าได้รับมาจากท่านหญิงเฉิงชิงชิงที่เป็นผู้อมตะ! แต่มันกลับไร้ประโยชน์! ดูจากการแสดงออกของนาง นางยังไม่ได้ใช้ความสามารถทั้งหมด ข้าจะตายอยู่ที่นี่งั้นหรือ?’ หัวใจของเย่ฟานจมดิ่งลง

 

เขาประเมินไป่หนิงปิงต่ำเกินไปมาก เขาไม่เคยคิดว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาจะแตกต่างกันมากถึงเพียงนี้ แต่หลังจากตกตะลึง เย่ฟานยังสามารถสงบจิตใจลงอย่างรวดเร็ว เจตจำนงแห่งการต่อสู้ของเขาพุ่งสูงขึ้นเมื่อเผชิญหน้ากับความสิ้นหวัง

 

 

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset