Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1213

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1213 ธุรกิจขายโอกาส

แปลโดย iPAT 

ว่าไงนะ!?’ เมื่อได้ยินบทสนทนาของผู้อมตะทั้งสอง ฟางหยวนเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

เขากระโดดไปยังกิ่งไม้ที่อยู่ใกล้กับผู้อมตะทั้งสองมากที่สุด

นี่เป็นพฤติกรรมทั่วไปของลิงสายพันธุ์ที่ฟางหยวนปลอมแปลง ไม่มีสิ่งใดน่าสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้

ผู้อมตะทั้งสองไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น

แต่ฟางหยวนรู้ดีว่าผู้อมตะทั้งสองค้นพบการคงอยู่ของลิงตัวนี้ตั้งแต่แรก แต่ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยของฟางหยวนเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับแปดที่เหนือกว่าวิธีการตรวจสอบของพวกเขา

ผู้อมตะทั้งสองไม่มีข้อสงสัยใดๆและยังกล่าวต่อไป

หนึ่งในนั้นกล่าว “พี่ลั่ว ไม่จำเป็นต้องกังวล ข้าเข้าใจ เทพธิดากระต่ายขาวบอกข้าแล้ว ข้าต้องการสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันและทดสอบความสามารถของตนเอง แม้ข้า เจียวเหล่ยซือจะเป็นเพียงผู้บ่มเพาะสันโดษ แต่ข้าก็ยึดมั่นในคำสัญญา ตั้งแต่ข้าสัญญากับท่านและทำข้อตกลงบนเส้นทางแห่งข้อมูล ข้าจะฝ่าฝืนข้อตกลงได้อย่างไร?”

แน่นอนเพราะชื่อเสียงของเจ้า พวกเราพี่น้องจึงตกลงที่จะพบเจ้า มิฉะนั้นเจ้าจะไม่ได้เห็นแม้แต่เงาของพวกเรา ข้ามาที่นี่เพื่อนำเจ้าเข้าไปในค่ายกลวิญญาณ บอกพวกเขาว่าเจ้าเป็นสมาชิกตระกูลลั่วและมาที่นี่เพื่อนำวิญญาณอมตะไปให้พี่ชายของข้า” ผู้อมตะตระกูลลั่วอธิบายขณะเดินไปข้างหน้า

เจียวเหล่ยซือเดินตามอยู่ด้านหลังและตั้งใจฟัง

ฟางหยวนกระโดดไปยังกิ่งไม้อีกต้นและติดตามพวกเขาไปอย่างใกล้ชิด

หลังจากชั่วครู่ผู้อมตะทั้งสองก็หายตัวไป อย่างไรก็ตามตั้งแต่ต้นจนจบพวกเขาไม่พบการคงอยู่ของฟางหยวนและไม่มีข้อสงสัยใดๆทั้งสิ้น

น่าสนใจ’ ฟางหยวนกลับไปยังตำแหน่งเดิมด้วยความตื่นเต้น

เขาได้ยินข้อตกลงลับของผู้อมตะสองคนโดยบังเอิญ

ทั้งสองเลือกมาพบกันที่ภูเขาลูกนี้และพูดคุยต่อหน้าฟางหยวนโดยไม่คาดคิด

บังเอิญมาก!

โชคดีมาก!

จากบทสนทนาของพวกเขา เห็นได้ชัดว่าผู้อมตะฝ่ายธรรมะที่เป็นหนึ่งในผู้ปกป้องค่ายกลวิญญาณกำลังทำข้อตกลงลับกับผู้บ่มเพาะสันโดษเจียวเหล่ยซือ

ผู้อมตะฝ่ายธรรมะนำทางเจียวเหล่ยซือที่แสวงหาโอกาสเข้าสู่ค่ายกลวิญญาณ

ฟางหยวนเย้ยหยันเจียวเหล่ยซืออยู่ภายใน

เจ้าคิดว่าอาณาจักรแห่งความฝันง่ายดายงั้นหรือโอกาสงั้นหรือ? โดยปราศจากวิธีการบนเส้นทางแห่งความฝันจะมีโอกาสประสบความสำเร็จได้อย่างไร?’

‘ผู้อมตะฝ่ายธรรมะที่ถูกเรียกว่าพี่ลั่วต้องมาจากกองกำลังตระกูลลั่ว’

ฝ่ายธรรมะของภาคใต้มีกองกำลังใหญ่สิบสามกองกำลัง ตระกูลลั่วเป็นหนึ่งในนั้น

‘ข้าสามารถใช้วิธีนี้ผ่านค่ายกลวิญญาณและเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันหรือไม่?’ ฟางหยวนคิดถึงความน่าจะเป็นนี้อย่างช่วยไม่ได้

เขาชำเลืองมองค่ายกลวิญญาณอีกครั้งก่อนจะจากไป

ลิงฟางหยวนกระโดดไปตามกิ่งไม้ หลังจากครึ่งวันฟางหยวนเปลี่ยนร่างกลับเป็นมนุษย์ตามปกติ

ระยะนี้น่าจะปลอดภัยแล้ว’ ฟางหยวนประเมินอยู่ในใจ

เขาระวังตัวมากแต่เขายังไม่เข้าใจเกี่ยวกับค่ายกลวิญญาณนี้มากนัก

อย่างไรก็ตามแม้ผู้อมตะฝ่ายธรรมะบางคนจะพบร่องรอยของเขา มันก็ไม่มีปัญหา

ข้าไม่เชื่อว่าหลังจากฝ่ายธรรมะสร้างค่ายกลวิญญาณนี้ ปีศาจอมตะและผู้บ่มเพาะสันโดษจะไม่มาตรวจสอบมัน!’

ฟางหยวนเดาถูก

การต่อสู้บนภูเขาอี้เทียนทำให้เกิดคลื่นแห่งความโกลาหลขึ้นในภาคใต้

ผู้อมตะทุกคนของภาคใต้ต่างให้ความสนใจมัน

หลังการเสียชีวิตของผู้อมตะจำนวนมากบนภูเขาอี้เทียน อาณาจักรแห่งความฝันขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า

สิ่งนี้ดึงดูดผู้อมตะของภาคใต้ให้เข้ามาตรวจสอบ แต่ไม่ว่าจะเป็นนิกายเงา วังสวรรค์ หรือฟางหยวน ทุกฝ่ายต่างปิดปากเงียบ ดังนั้นผู้อมตะของภาคใต้จึงถูกผลักเข้าสู่ความมืด

ตั้งแต่กองกำลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้เข้ายึดครองอาณาจักรแห่งความฝันและสร้างค่ายกลวิญญาณผนึกมันเอาไว้ กลุ่มปีศาจอมตะและผู้บ่มเพาะสันโดษย่อมไม่เต็มใจ พวกเขาพยายามมาที่นี่เพื่อตรวจสอบและแสวงหาโอกาส

ผู้อมตะฝ่ายธรรมะมักพบร่องรอยของผู้คนเหล่านี้ แต่ตราบเท่าที่พวกเขาไม่โจมตีค่ายกลวิญญาณ ผู้อมตะฝ่ายธรรมะก็ไม่สนใจ

ฟางหยวนเลือกถ้ำแห่งหนึ่งบนภูเขาธรรมดาและอยู่ที่นี่สองสามวัน

เขารอให้เจียวเหล่ยซือออกจากค่ายกลวิญญาณ

การเคลื่อนไหวของเจียวเหล่ยซือไม่สามารถปกปิดเพราะทางเข้าออกค่ายกลวิญญาณเป็นเส้นทางเดียวกัน

เนื่องจากเจียวเหล่ยซือปลอมตัวเป็นผู้อมตะตระกูลลั่ว เมื่อเขาออกมา เขาต้องออกมาแบบเปิดเผย มิฉะนั้นเขาจะถูกสงสัย’ ฟางหยวนเห็นเจียวเหล่ยซือเดินออกมาจากค่ายกลวิญญาณก่อนจะบินจากไป ฟางหยวนรีบติดตามไปอย่างใกล้ชิด

หลังจากชั่วขณะเจียวเล่อซือร่อนลงบนยอดเขาไร้นามแห่งหนึ่ง

เขาหันหลังกลับและมองไปที่ฟางหยวน “สหาย เจ้าตามข้ามานานแล้ว เจ้าต้องการสิ่งใด?”

เจียวเหล่ยซือไม่มีท่าทีที่จะโจมตีหรือต่อสู้

นี่เป็นเพราะฟางหยวนจงใจเปิดเผยร่องรอยของตนตลอดการติดตามเจียวเหล่ยซือ

นอกจากนี้เขายังใช้วิญญาณทัศนคติเพื่อแสดงความเป็นมิตร

ดังนั้นเจียวเหล่ยซือจึงไม่ได้กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดี แต่เขายังต้องระวังตัว

ข้าต้องขออภัยที่ทำให้ท่านรู้สึกระแวง” ฟางหยวนทักทายและกล่าวด้วยความสุภาพ

การแสดงออกของเจียวเหล่ยซือผ่อนคลายลงเมื่อได้ยินถ้อยคำของฟางหยวน

เหตุผลก็คือฟางหยวนบอกว่าตนเองเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษที่อยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับอาณาจักรแห่งความฝัน เขายังเคยได้ยินมาว่าเจียวเล่อซือมีวิธีติดสินบนผู้อมตะฝ่ายธรรมะและสามารถเข้าไปในค่ายกลวิญญาณเพื่อสำรวจอาณาจักรแห่งความฝัน ฟางหยวนต้องการถามเจียวเหล่ยซือว่ามีโอกาสที่เขาจะสามารถเข้าไปหรือไม่

ข่าวแพร่สะพัดออกไปแล้ว กระทั่งคนนอกเช่นเจ้ายังได้รับข้อมูลนี้” เจียวเหล่ยซือเผยรอยยิ้มและไม่มีข้อสงสัย

มากับข้า มันเป็นเรื่องปกติที่เจ้าจะต้องการสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันเพื่อแสวงหาโอกาส อย่างไรก็ตามข้าไม่ใช่คนกลาง ข้าจะพาเจ้าไปพบเทพธิดากระต่ายขาว” เจียวเหล่ยซือกระตือรือร้นมาก

เขาอาจไม่รู้จักฟางหยวน แต่กลิ่นอายของผู้อมตะภาคใต้จากร่างของฟางหยวนเป็นของจริง

ผู้อมตะแต่ละภูมิภาคมีกลิ่นอายที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ภาคใต้ยังเป็นสถานที่ที่มีผู้บ่มเพาะสันโดษอยู่มากที่สุด มีผู้อมตะมากมายที่ไม่มีผู้ใดรู้จักตั้งแต่พวกเขาก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะจนเสียชีวิต

หลังจากเดินทางไม่ถึงหนึ่งวันฟางหยวนก็ได้พบกับเทพธิดากระต่ายขาว

ผู้อมตะหญิงผู้นี้อยู่ในรูปลักษณ์ของเด็กหญิงอายุประมาณยี่สิบปี ดวงตาของนางเป็นสีแดงเหมือนทับทิม ใบหน้ากลม และริมฝีปากเล็กๆที่ดูน่ารัก

ฉากการพบกับเทพธิดากระต่ายขาวทำให้ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจ

เนื่องจากเทพธิดากระต่ายขาวผู้นี้อยู่ในคฤหาสน์วิญญาณระดับมนุษย์ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาและสามารถมองเห็นได้อย่างเด่นชัด

เราทำธุรกิจอาณาจักรแห่งความฝัน พวกเจ้ามาถูกที่แล้ว!”

หากพวกเจ้าต้องการสำรวจอาณาจักรแห่งความฝัน ข้ามีหลากหลายวิธี มันขึ้นอยู่กับราคาที่พวกเจ้าสามารถจ่าย

ยิ่งพวกเจ้าจ่ายมากเท่าใด พวกเจ้าก็ยิ่งเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันได้เร็วเท่านั้น บางทีพวกเจ้าอาจได้รับความสำเร็จบางอย่างจากอาณาจักรแห่งความฝัน!”

เทพธิดากระต่ายขาวกล่าวพร้อมกับชี้นิ้วไปที่กำแพงด้านหลัง จากนั้นจึงหันหน้ามาทางฟางหยวน

มีรายชื่อผู้คนเขียนไว้บนกระดาน

ต้องรออีกห้าคน” เจียวเหล่ยซือเห็นสิ่งนี้และถอนหายใจ

เจ้าต้องรู้ถึงความสำคัญของโอกาสนี้!” เทพธิดากระต่ายขาวมองไปที่ฟางหยวน “ตามคำทำนาย เทพอมตะแห่งความฝันจะถือกำเนิดขึ้น นี่เป็นโอกาสที่คนผู้หนึ่งจะกลายเป็นเทพอมตะกระทั่งเจ้าจะได้รับผลประโยชน์เล็กๆเพียงครั้งเดียว ชีวิตของเจ้าก็จะเปลี่ยนไป หากเจ้าไม่ทดลองด้วยตนเอง เจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเจ้าจะประสบความสำเร็จหรือไม่?”

ถูกต้อง แม้เจ้าจะรู้ว่าเจ้าจะไม่สามารถประสบความสำเร็จ แต่เจ้าก็มั่นใจได้ว่าเจ้าจะไม่เสียใจในอนาคต” เจียวเหล่ยซือกล่าวเสริมจากด้านข้าง “อาณาจักรแห่งความฝันเป็นโอกาสที่ล้ำค่า แม้แต่ผู้อมตะฝ่ายธรรมะยังปรารถนาที่จะเข้าไปสำรวจมัน

ข้าต้องจ่ายเท่าใด?” ฟางหยวนแสร้งลังเล

เทพธิดากระต่ายขาวบอกราคา

ฟางหยวนแสดงท่าทางลังเล “ข้าจะพิจารณาก่อน

แน่นอน คิดให้ดี!” เทพธิดากระต่ายขาวยิ้ม

เป็นเพียงเวลานี้ที่ผู้อมตะหญิงผู้หนึ่งเดินเข้ามา เทพธิดากระต่ายขาวรีบเดินเข้าไปหานางและไม่สนใจฟางหยวนอีก “ท่านพี่เมียวหยิน ท่านมาคว้าโอกาสอีกครั้งเช่นนั้นหรือ?”

ผู้อมตะหญิงพยักหน้า “ข้ารู้สึกว่าครั้งนี้ข้าจะได้รับผลประโยชน์ที่มากขึ้นจากอาณาจักรแห่งความฝัน”

ฟางหยวนเดินออกจากคฤหาสน์วิญญาณระดับมนุษย์และบอกลาเจียวเหล่ยซือ

เจ้าต้องคิดให้ดี แต่ในความเห็นของข้า เจ้าควรตัดสินใจอย่างรวดเร็วที่สุด หากเจ้าคิดนานเท่าใด เวลาที่เจ้าจะได้เข้าไปก็ยิ่งล่าช้าออกไปเท่านั้น อย่าเสียเวลามากเกินไป” เจียวเหล่ยซือแนะนำ

ฟางหยวนแสดงความขอบคุณก่อนจะจากไป

ฮืม เขายังไม่ตัดสินใจอีกงั้นหรือ?” หลังจากพูดคุยกับเมียวหยิน เทพธิดากระต่ายขาวจึงเปิดปากถามเจียวเหล่ยซือ

เขาบอกว่าเขาต้องคิดเรื่องนี้อย่างรอบคอบ เห้อ…ข้าคิดว่าข้าจะได้รับค่าแนะนำเพื่อเติมเต็มความสูญเสียในครั้งนี้สักเล็กน้อย” เจียวเหล่ยซือเผยรอยยิ้มขมขื่น

เจียวเหล่ยซือ เจ้าร่ำรวยมาก อย่ามาทำตัวน่าสงสารต่อหน้าข้า!” เทพธิดากระต่ายขาวหัวเราะ “แต่คนที่เจ้านำมาดูเหมือนจะเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษที่ยากจน มิฉะนั้นเขาจะจากไปเช่นนี้งั้นหรือหากเขามีเงินทุนอยู่บ้าง เขาจะพูดคุยอีกสักพักก่อนจะจากไป

เจียวเหล่ยซือหัวเราะขมขื่น “ข้าไม่ได้ร่ำรวยอันใด แต่ข้าต้องขอบคุณเทพธิดากระต่ายขาวสำหรับคำชม กล่าวตามตรงราคานี้แพงมาก กระทั่งข้าก็ยังรู้สึกว่ามันเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่

เทพธิดากระต่ายขาวยิ้ม “ธุรกิจขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของทั้งสองฝ่าย แพงหรือไม่ขึ้นอยู่กับความคิดของแต่ละคน หลังจากทั้งหมดนี่คือโอกาสที่จะได้เป็นเทพอมตะแห่งความฝันมิใช่หรือ?”

เจียวเหล่ยซือพยักหน้าและตัดสินใจ “ข้าจะจ่ายเพื่อคว้าโอกาสอีกครั้ง!”

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset