Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – บทที่ 1246 อุโมงค์มิติ (อ่านฟรี)

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1246 อุโมงค์มิติ (อ่านฟรี)

แปลโดย iPAT 

ช่วงเวลาในพายุเมฆาดาวเต็มไปด้วยความยากลำบาก

แต่หลังจากผ่านไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง ผู้อมตะที่อยู่ในหอคอยวายุเริ่มตระหนักถึงบางสิ่ง บางคนกล่าว “ทุกคนไม่มีดาวตกพุ่งเข้าปะทะพวกเรามาสักพักแล้ว

เป็นเพียงเวลานี้ที่พวกเขาพบว่ากระแสลมที่ปกป้องหอคอยวายุอยู่ได้หายไปแล้ว

ท่ามกลางความมืดมิด พวกเขาเห็นหอคอยวายุเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้อย่างราบรื่น

หลังจากชั่วครู่เสียงโห่ร้องยินดีจึงระเบิดขึ้นภายในหอคอยวายุ

เราทำได้!”

เกือบไปแล้ว แม้จะได้รับการปกป้องจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะ แต่การอยู่ในสวรรค์สีดำก็ทำให้พวกเราเกือบตาย

ต้องขอบคุณท่านไป่เฉินเทียน มิฉะนั้นพวกเราคงตายอยู่ในพายุเมฆาดาว

กลุ่มผู้อมตะกล่าวด้วยความยินดี

ไป่เฉินเทียนคิด ‘พวกเราสามารถหลบหนีจากพายุเมฆาดาวเพราะพลังอำนาจของวิญญาณแห่งความรัก’

ในช่วงเวลาสำคัญ พลังงานลึกลับจากวิญญาณแห่งความรักชี้นำเส้นทางที่ถูกต้องให้กับไป่เฉินเทียน

ไป่เฉินเทียนนำหอคอยวายุเคลื่อนที่ไปตามทิศทางนั้นและสามารถหลบหนีจากพายุเมฆาดาวได้อย่างรวดเร็ว

แต่การแสดงออกของไป่เฉินเทียนยังคงมืดมน

พวกเราสามารถหลบหนีจากอันตราย แต่เว่ยหลิงหยางไม่มีวิญญาณแห่งความรัก ข้าเกรงว่าพวกเขาจะพบกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก

หลังจากขาดการติดต่อกับคฤหาสน์วิญญาณอมตะอีกสองหลัง ไป่เฉินเทียนยังไม่ได้เดินหน้าต่อแต่เคลื่อนที่ไปรอบๆเพื่อค้นหาพวกเขา

โชคดีที่ครึ่งวันต่อมาเขาสามารถติดต่อกับเว่ยหลิงหยางได้สำเร็จ

เว่ยหลิงหยางนำค่ายนักรบและศาลานกขมิ้นทะลวงผ่านพายุเมฆาดาวมาอย่างยากลำบาก นอกจากนั้นพวกเขายังถูกซุ่มโจมตีโดยฝูงสัตว์อสูร

หลังจากได้รับแจ้งเรื่องนี้ ไป่เฉินเทียนนำหอคอยวายุกลับไปช่วยพวกเขา

อย่างไรก็ตามพวกเขากลับต้องอ้าปากค้างเมื่อเห็นค่ายนักรบและศาลานกขมิ้นอีกครั้ง

คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสองหลังอยู่ในสภาพที่ไม่น่ามอง นอกจากนั้นพวกเขายังอยู่ภายใต้การปิดล้อมของฝูงอสูรฟ้า

อสูรฟ้าอาศัยอยู่ในสวรรค์ทั้งเก้า อสูรฟ้าแต่ละตัวเป็นสัตว์อสูรเดียวดาย ผู้นำของพวกมันเป็นสัตว์อสูรบรรพกาล

ท่ามกลางพวกมันมีอสูรฟ้าเดียวดายหลายพันตัวและยังมีอสูรฟ้าบรรพกาลอีกนับร้อยตัว

ค่ายนักรบและศาลานกขมิ้นได้รับความเสียหายอย่างหนักและตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย

ไป่เฉินเทียนรีบเข้าไปช่วยและทำให้เกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่

ท่าไม้ตายอมตะจำนวนนับไม่ถ้วนถูกส่งออกไปราวกับดอกไม้ไฟ

อสูรฟ้าเดียวดายค่อยๆเสียชีวิตลงแต่ตัวอื่นยังเข้ามาแทนที่อย่างไม่รู้จบสิ้น

ในช่วงเวลาสำคัญค่ายนักรบต้องระเบิดพลังอำนาจที่แท้จริงของมันออกมาและปลดปล่อยเงาดำพุ่งออกไปทุกทิศทุกทาง

ฝูงอสูรฟ้าไม่สามารถต่อต้านการโจมตีนี้ กระทั่งผู้นำของพวกมันก็ยังไม่กล้าเผชิญหน้าโดยตรง

หอคอยวายุสร้างกระแสลมขึ้นมาอีกครั้งขณะที่เสียงขับร้องของนกนับพันตัวดังขึ้นจากศาลานกขมิ้น

คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามทำงานร่วมกันและสามารถหลบหนีออกมาได้ในที่สุด

สถานการณ์เลวร้ายมาก!” ไป่เฉินเทียนกับเว่ยหลิงหยางลอบสื่อสารกันด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามได้รับความเสียหายอย่างหนัก ศาลานกขมิ้นพังทลายลงกว่าครึ่ง เราต้องพักและกู้คืนความแข็งแกร่ง นักรบหมื่นมังกรยังไม่ตื่นขณะที่พลังงานอมตะของข้าถูกใช้ไปเกินครึ่งแล้ว”

พลังงานอมตะจะส่งผลกระทบต่อความแข็งแกร่งของผู้อมตะ

ไป่เฉินเทียนใช้พลังงานอมตะไปมากกว่าครึ่งเช่นเดียวกับเว่ยหลิงหยาง

แม้คฤหาสน์วิญญาณอมตะจะทรงพลัง แต่ค่าใช้จ่ายของพวกมันก็สูงมาก

นี่คือเหตุผลที่ฟางหยวนไม่เคยวางแผนที่จะสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะ

แม้เขาจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหลรวมถึงเมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์ แต่เขาไม่มีพลังงานอมตะของเทพอมตะตะวันเดือดอีกต่อไป ด้วยพลังงานอมตะของเขา มันไม่เพียงพอที่จะควบคุมคฤหาสน์วิญญาณอมตะให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คฤหาสน์วิญญาณอมตะพึ่งพาพลังงานอมตะมากเกินไป มีเพียงผู้อมตะระดับแปดเท่านั้นที่สามารถดูแลค่าใช้จ่ายชนิดนี้

กลับมาที่คณะเดินทางจากภาคกลาง ตอนนี้พวกเขาพึ่งมาได้เพียงครึ่งทางเท่านั้น

ดูเหมือนตอนนี้เรามีเพียงต้องใช้อุโมงค์มิติเท่านั้น” เว่ยหลิงหยางกล่าวอย่างเคร่งขรึม

ไป่เฉินเทียนตะลึงก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย “นั่นเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้พวกเราสามารถเดินทางไกลและไปถึงจุดหมาย”

ผู้อมตะระดับแปดทั้งสองเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ยิ่งพบกับความยากลำบากมากเท่าใด จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของพวกเขาก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นเท่านั้น พวกเขาไม่คิดที่จะถอยกลับ

แม้การเดินทางของพวกเขาจะไม่เป็นไปตามความคาดหวัง แต่เทพธิดาจื่อเว่ยเตรียมแผนสำรองเอาไว้แล้ว

อุโมงค์มิติคือหนึ่งในนั้น!

…..

วังสวรรค์แห่งโชค

เหยากวงมองเห็นการเคลื่อนไหวของคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหลังของภาคกลางได้จากสถานที่แห่งนี้

วังสวรรค์แห่งโชคส่งผลกระทบต่อโชคแห่งสวรรค์พิภพ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในสวรรค์สีดำไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเจตจำนงสวรรค์แต่มันเป็นการแทรกแซงของวังสวรรค์แห่งโชค นี่เป็นพลังอำนาจอันไร้เทียมทาน ด้วยการคงอยู่ของวังสวรรค์แห่งโชค ผู้ใดยังกล้าบุกภาคเหนือ!” เหยากวงรู้สึกตื่นเต้นมาก น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชมต่อเทพอมตะตะวันเดือด

เหยากวงมองราชันใต้และกล่าวต่อ “ในที่สุดข้าก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดท่านถึงสามารถสงบจิตใจ ด้วยการคงอยู่ของวังสวรรค์แห่งโชค ไม่มีผู้ใดสามารถบุกรุกภาคเหนือ!”

ราชันใต้หัวเราะ “วังสวรรค์แห่งโชคประจำการอยู่ที่นี่มาเป็นเวลามากกว่าสามแสนปี มันส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อสวรรค์สีดำ กระทั่งสวรรค์สีขาวก็ยังได้รับอิทธิพลจากมัน นี่คือพลังอำนาจของโชคแห่งสวรรค์พิภพ!”

เหยากวงคิดถึงหม่าหงหยุนและกล่าว “โชคแห่งสวรรค์พิภพยิ่งใหญ่มาก ดังนั้นโชคของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดจึงไม่สามารถเปรียบเทียบ แต่ตอนนี้วิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์อยู่ในมือของปีศาจอมตะเซี่ยหู”

เหยากวงเห็นพลังอำนาจของวังสวรรค์แห่งโชคที่สามารถกำหราบคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามของภาคกลางและต้องการปลุกปั่นให้ราชันใต้ใช้มันจัดการปีศาจอมตะเซี่ยหู

แต่ราชันใต้กลับส่ายศีรษะและเผยรอยยิ้ม “หม่าหงหยุนมีสายเลือดตระกูลฮวงจินของเราและเป็นทายาทของบรรพชนตะวันเดือด ไม่มีปัญหาหากเขาได้รับวิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์ สำหรับปีศาจอมตะเซี่ยหู มันจะไม่ง่ายหากเขาต้องการฉกชิงวิญญาณอมตะดวงนี้ไป

เหยากวงยังกังวล “ปีศาจอมตะเซี่ยหูหลอมรวมมันมาเป็นเวลานานแล้ว เพียงพลังอำนาจของวิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์จะทำให้เขาล้มเหลวตลอดไปได้งั้นหรือ?”

ราชันใต้ส่ายศีรษะ “แน่นอนว่าไม่ กระทั่งวิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์จะมีพลังอำนาจกึ่งระดับเก้า มันก็ยังไม่สามารถต่อต้านผู้อมตะระดับแปด นอกจากนั้นเขายังมีท่านหญิงหว่านซู หนึ่งในสี่ปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของภาคเหนือ แต่เจ้าคิดว่าถ้ำสวรรค์นิรันดรไม่ทำสิ่งใดเลยงั้นหรือ? พวกเราจะไม่ปล่อยให้วิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์ตกอยู่ในมือของคนนอก พวกเราเตรียมตัวมานานแล้ว หากปีศาจอมตะเซี่ยหูไม่พบมัน เขาจะไม่ประสบความสำเร็จในการหลอมรวม

เหยากวงเข้าใจในที่สุดว่าถ้ำสวรรค์นิรันดรลงมือไปนานแล้วแต่ไม่มีผู้ใดตระหนักถึงสิ่งเหล่านั้น

ยอดเยี่ยมเปรียบเทียบกับถ้ำสวรรค์นิรันดร ปีศาจอมตะเซี่ยหูก็ไม่ต่างจากลิงที่วิ่งอยู่บนฝ่ามือของพวกเรา!” เหยากวงรู้สึกประทับใจมาก

สายตาของเขาที่มองราชันใต้เปลี่ยนไปอีกครั้ง เขารู้สึกว่าราชันใต้ผู้นี้ช่างลึกลับเกินกว่าจะหยั่งถึงและเหมือนรุ่นพี่ที่น่าเคารพ

แต่ในเวลาต่อมาใบหน้าของราชันใต้กลับเปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน

ราชันใต้รู้สึกสับสนและตะโกนออกมา “เกิดสิ่งใดขึ้นผู้อมตะภาคกลางหายตัวไปอย่างกะทันหัน!?”

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset