Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – บทที่ 1277 การพบกันของหม่าและจ้าว

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1277 การพบกันของหม่าและจ้าว

แปลโดย iPAT 

ผู้อมตะคลื่นสมุทรเชื่อว่าวิญญาณความพยายามเป็นเพียงเรื่องไร้สาระ

แต่ผู้อมตะดำส่ายศีรษะ “วิญญาณความพยายามไม่ใช่วิญญาณที่สมมติขึ้น แท้จริงแล้วมันเคยปรากฏมาก่อน

ผู้อมตะคลื่นสมุทรตะลึง “เหตุใดข้าไม่เคยรู้เรื่องนี้?”

“นี่เป็นสิ่งที่ข้าได้เรียนรู้ขณะที่เดินทางท่องเที่ยวไปในภาคเหนือ คนที่สามารถหลอมรวมวิญญาณความพยายามคือเทพอมตะบัวสวรรค์ เขาเป็นหนึ่งในผู้เข้าสู่ประตูแห่งชีวิตและความตายและนำแม่น้ำหวนคืนมายังโลกใบนี้ เขาเป็นเจ้าของแม่น้ำหวนคืนคนแรก

เทพอมตะบัวสวรรค์เป็นเช่นนั้นแล้วเหตุใดแม่น้ำหวนคืนจึงตกอยู่ในมือของปีศาจอมตะเซี่ยหู?” ผู้อมตะคลื่นสมุทรถาม

ผู้อมตะดำส่ายศีรษะ “ข้าไม่แน่ใจเกี่ยวกับรายละเอียดหือเกิดสิ่งใดขึ้น?”

เป็นเพียงเวลานี้วิญญาณระดับมนุษย์บางดวงของค่ายกลวิญญญาณรองเกิดการระเบิดขึ้นโดยไม่คาดคิด

มันทำให้เสาแสงหดเล็กลงสิบส่วน

ผู้อมตะคลื่นสมุทรเริ่มประหม่า “ส่วนหนึ่งของค่ายกลวิญญาณรองถูกทำลาย เจ้าไม่ซ่อมมันงั้นหรือ?”

ผู้อตะดำส่ายศีรษะ “สถานการณ์นี้อยู่ในความคาดหมายของข้า ค่ายกลวิญญาณรองไม่สามารถอดทนต่อพลังอำนาจของแม่น้ำหวนคืน มันจะถูกทำลายในที่สุด นอกจากนั้นค่ายกลวิญญาณนี้ยังมีจุดอ่อน เมื่อมันถูกใช้งานไปแล้ว มันจะไม่สามารถซ่อมแซม เว้นเพียงค่ายกลวิญญาณทั้งหมดจะหยุดทำงาน

ผู้อมตะคลื่นสมุทรขมวดคิ้ว “แม่น้ำหวนคืนยังมาไม่ถึงที่นี่ แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไป?”

ผู้อมตะดำยิ้ม “อย่ากังวล ข้าเป็นผู้สร้างค่ายกลวิญญาณนี้ เหตุใดข้าจะไม่ตระหนักถึงปัญหานี้แท้จริงแล้วการพังทลายของค่ายกลวิญญาณเป็นประโยชน์ต่อพวกเรา

ผู้อมตะคลื่นสมุทรสับสน “ค่ายกลวิญญาณที่ถูกทำลายจะมีประโยชน์ใด?”

ทุกสิบส่วนที่มันพังทลายลง การไหลของแม่น้ำหวนคืนจะชะลอตัวลงสิบส่วนเช่นกัน ด้วยวิธีนี้แม่น้ำหวนคืนจะไม่กลืนกินพวกเราเข้าไป แต่มันจะกวาดคนอื่นๆให้ห่างออกไป” ผู้อมตะดำอธิบาย

ยอดเยี่ยม!” ผู้อมตะคลื่นสมุทรปรบมือชมเชย ดวงตาของเขาส่องประกายขึ้น “หม่าหงหยุนและจ้าวเหลียนหยุนอยู่ด้านหน้าสุด นั่นหมายความว่าพวกเขาจะเป็นคนสุดท้ายที่ถูกกวาดออกไป

ผู้อมตะดำพยักหน้า “ถูกต้อง

ในแม่น้ำหวนคืน

ท่านไป่เฉินเทียน!” ผู้อมตะภาคกลางสามคนทักทายไป่เฉินเทียน

ไป่เฉินเทียนพยักหน้า ตอนนี้พวกเขาสามารถรวมกลุ่มห้าคน ด้วยการเพิ่มขึ้นของคนทั้งสาม กลุ่มของไป่เฉินเทียนจึงมีทั้งหมดเก้าคน

พวกเจ้าเห็นหม่าหงหยุนกับจ้าวเหลียนหยุนหรือไม่?” ผู้อมตะบางคนถาม

ผู้อมตะสามคนส่ายศีรษะ

แล้วพวกเจ้าเห็นคนผู้นี้หรือไม่?” ไป่เฉินเทียนอธิบายรูปร่างหน้าตาและเสื้อผ้าของฟางหยวนให้พวกเขาฟัง

ผู้อมตะทั้งสามมองหน้ากัน หนึ่งในนั้นกล่าว “ข้าคิดว่าข้าเห็นเขา แต่ข้าไม่ได้หยุดเขา ข้าซ่อนตัวอยู่หลังแผ่นไม้และลอยมาตามกระแสน้ำ เขาว่ายไปข้างหน้าโดยไม่สังเกตเห็นข้า

ไป่เฉินเทียนพยักหน้า

บุคคลผู้นี้ไม่อยู่ในข้อมูลของพวกเรา เขาเป็นมิตรหรือศัตรู?” บางคนถามด้วยความงุนงง

ไป่เฉินเทียนเป็นผู้อมตะระดับแปดที่ยิ่งใหญ่ เขาจะไม่ขอข้อมูลเกี่ยวกับผู้อมตะระดับเจ็ดโดยไร้เหตุผล

หากกล่าวถึงระดับการบ่มเพาะของฟางหยวน มันอาจไม่โดดเด่น เพราะผู้อมตะภาคกลางส่วนใหญ่ก็เป็นผู้อมตะระดับเจ็ด แต่คำกล่าวต่อไปของไป่เฉินเทียนกลับทำให้หัวใจของพวกเขาสั่นสะท้านขึ้น

เขาเป็นศัตรูตัวฉกาจ หากพวกเจ้าพบเขา ระวังให้มาก ในแง่ของการต่อสู้ด้วยร่างกาย เขามีความแข็งแกร่งพอๆกับข้า!”

ผู้อมตะภาคกลางพยักหน้าด้วยการแสดงออกที่เคร่งขรึม

ตอนนี้เราควรทำอย่างไร?” บางคนถาม

พวกเรามีกำลังคนมากกว่า เราจะว่ายน้ำและกำจัดศัตรูของเราในแม่น้ำหวนคืน นั่นเป็นวิธีที่ดีที่สุด!” ไป่เฉินเทียนกล่าวและปลดปล่อยเจตนาสังหารออกมาอย่างชัดเจน

นี่เป็นกลยุทธ์ที่ดี

ผู้อมตะภาคกลางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของปีศาจอมตะเซี่ยหูและราชันภูเขาม่วงในยามปกติ นอกจากนั้นพวกเขายังสูญเสียค่ายนักรบ แต่การปรากฏขึ้นของแม่น้ำหวนคืนถือเป็นโอกาสที่ดี

ไป่เฉินเทียนรู้สึกว่าตราบเท่าที่พวกเขาสามารถใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ พวกเขาจะสามารถกำจัดศัตรูและได้รับชัยชนะ

หือเกิดสิ่งใดขึ้น?” เป็นเพียงเวลานี้ที่ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งวารีของภาคกลางรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของแม่น้ำหวนคืน

ต่อมาพวกเขาก็เห็นแม่น้ำหวนคืนค่อยๆสงบลง

หินและซากสัตว์ถูกกวาดออกไปอย่างรวดเร็ว

แต่สิ่งที่ผิดปกติคือพวกมันเคลื่อนที่เร็วกว่าก่อนหน้าถึงห้าเท่า!

นี่เป็นไปได้อย่างไร?” ผู้อมตะภาคกลางถูกพัดพาไปในพริบตา

ไป่เฉินเทียนเป็นคนแรกที่ตอบสนองและตะโกน “ว่ายน้ำ อย่าหยุดแม้แต่วินาทีเดียว แม่น้ำหวนคืนกลับสู่สภาวะปกติของมันแล้ว หากเราหยุด กระแสน้ำจะพัดพวกเราไป!”

เมื่อได้รับคำเตือนของไป่เฉินเทียน ผู้อมตะภาคกลางคนอื่นๆพยายามว่ายน้ำอย่างเต็มที่

มันยากมาก!”

“แม่น้ำดูเหมือนสงบแต่แท้จริงแล้วกระแสน้ำกลับรุนแรงกว่าก่อนหน้าหลายเท่า!”

ท่อนซุงและซากศพเหล่านั้นกำลังกีดขวางพวกเรา

ผู้อมตะภาคกลางค้นพบว่าการว่ายน้ำในแม่น้ำหวนคืนในสภาวะปกติยิ่งยากลำบากกว่าก่อนหน้าเป็นอย่างมาก

เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ยิ่งว่ายเท่าใด มันก็ยิ่งยากลำบากเท่านั้นพวกเราต้องพยายามพวกเราไม่ต้องไปจนสุดทาง ตราบเท่าที่เราพบศัตรู เราจะฆ่าพวกเขา หากเราสามารถกำจัดผู้อมตะระดับแปดได้อย่างน้อยหนึ่งคน พวกเราจะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ!” ไป่เฉินเทียนยกขวัญกำลังใจ

ผู้อมตะภาคกลางตอบรับด้วยการโห่ร้อง

แม่น้ำหวนคืนเป็นโอกาสของพวกเรา!”

ท่านไป่เฉินเทียนมองไปข้างหน้า ข้างหน้ากระแสน้ำเชี่ยวกรากมาก!”

ไป่เฉินเทียนได้ยินและรู้สึกว่ามันแปลก

เขาขมวดคิ้ว

การว่ายน้ำในส่วนที่สงบนิ่งยากกว่าการว่ายน้ำในน้ำไหล หากพวกเขายังอยู่ในส่วนนี้ พวกเขาจะหมดแรงอย่างรวดเร็ว

เร็ว ว่ายไปยังเขตน้ำไหล!” ไป่เฉินเทียนแนะนำ

ผู้อมตะภาคกลางตอบสนองด้วยการเพิ่มความเร็ว

ฟางหยวนว่ายอยู่ในแม่น้ำและพยายามค้นหาอิงอู๋เซี่ย อย่างไรก็ตามเขายังไม่พบร่องรอยของเป้าหมาย

ในแม่น้ำหวนคืนมีคลื่นขนาดใหญ่พัดมาเป็นครั้งคราว ภายในคลื่นเหล่านี้มีซากสัตว์และเศษหินจำนวนนับไม่ถ้วน

สถานการณ์ในแม่น้ำหวนคืนถือว่าซับซ้อนมาก สิ่งสำคัญก็คือมันกว้างมาก

ฟางหยวนไม่สามารถขึ้นไปสังเกตการณ์อยู่บนที่สูง แม้เขาจะมีสายตาที่ดี แต่เขายังมองไม่เห็นสิ่งใดมากนัก

ตลอดเทางเขาพบผู้อมตะมากมาย ท่ามกลางผู้อมตะเหล่านี้มีทั้งผู้อมตะภาคกลางและสมาชิกกองกำลังพันธมิตรภูเขาหิมะ

ฟางหยวนหลีกเลี่ยงพวกเขาทั้งหมด

การต่อสู้กับคนเหล่านี้จะทำให้เขาเสียเวลาและไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ใดๆ

แม่น้ำหวนคืนกว้างเกินไป ข้าอาจผ่านอิงอู๋เซี่ยขณะที่ข้าจมลงไปใต้น้ำ หรือข้าอาจเผชิญหน้ากับเขาอย่างกะทันหัน ทุกอย่างล้วนเป็นไปได้ทั้งสิ้น!’

แต่ฟางหยวนไม่ยอมแพ้

เพราะมีโอกาสสูงที่อิงอู๋เซี่ยจะอยู่ข้างหน้า

เขาว่ายน้ำสุดกำลังและเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว ร่างทารกอมตะทำให้เขามีสายตา ความแข็งแกร่ง และความเร็วในการฟื้นฟูเทียบเท่ากับผู้อมตะระดับแปด สิ่งสำคัญที่สุดคือความสามารถในการว่ายน้ำของฟางหยวน

ทั้งหมดนี้ทำให้เขาสามารถเอาชนะผู้อมตะส่วนใหญ่

อีกด้านหนึ่ง จิ้งจอกเสือดาวที่กำลังว่ายอยู่ในแม่น้ำพุ่งเข้าโจมตีจ้าวเหลียนหยุน

จิ้งจอกเสือดาวมีร่างกายขนาดเล็กและสามารถว่ายน้ำ ดังนั้นมันจึงรอดชีวิตในแม่น้ำหวนคืน

ไปให้พ้น!” มู่หลิงหลานตบจิ้งจอกเสือดาวและใช้แขนอีกข้างคว้าจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้

จ้าวเหลียนหยุนเป็นผู้อมตะเทียม นางมีรากฐานที่ต่ำมากและแทบไม่มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าอยู่บนร่างกาย เมื่อปราศจากความช่วยเหลือจากวิญญาณ นางจึงอ่อนแอไม่ต่างจากมนุษย์ธรรมดา

โชคดีที่นางอยู่ใกล้กับผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งวารีมู่หลิงหลาน

มู่หลิงหลานทำให้นางรอดชีวิตมาถึงตอนนี้

ร่างกายของมู่หลิงหลานเต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งวารี เขาสามารถหายใจได้อย่างอิสระใต้น้ำ เขาสามารถว่ายน้ำได้ดี ตลอดทางเขาปกป้องจ้าวเหลียนหยุนและพานางว่ายไปข้างหน้า

ข้างหน้ามีเนินดิน” หลังจากสังหารจิ้งจอกเสือดาว ดวงตาของมู่หลิงหลานก็ส่องประกายขึ้น เขาเห็นเนินดินลอยอยู่ในแม่น้ำ

เนินดินนี้เกิดจากดินที่ลอยได้ ไม่แปลกใจเลยที่มันไม่จมน้ำเราไปพักที่นั่นกันเถอะ!” มู่หลิงหลานลากจ้าวเหลียนหยุนและปีนขึ้นไปบนเนินดินด้วยความยากลำบาก

จ้าวเหลียนหยุนเหนื่อยมาก นางเหมือนคนใกล้ตาย

เมื่อนางขึ้นไปบนเนินดิน นางนอนลงและไม่ขยับเขยื้อน

มู่หลิงหลานเหนื่อยมากเช่นกัน

เดี๋ยวมีบางคนอยู่ที่นี่!” มู่หลิงหลานยืนขึ้น

ใจเย็น ใจเย็น” ร่างหนึ่งค่อยๆเดินออกมาจากป่าบนเนินดิน

มู่หลิงหลานเห็นคนผู้นี้และตกตะลึง

ร่างของจ้าวเหลียนหยุนแข็งค้างราวกับรูปปั้น

เพราะคนที่ปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาก็คือหม่าหงหยุน!

ผู้อมตะทั้งหมดอยู่ในสภาพที่เลวร้าย แต่หม่าหงหยุนกลับสวมเสื้อผ้าที่สะอาดสะอ้านขณะที่เขาเคี้ยวผลไม้อยู่ในปาก

เจ้าคือหม่าหงหยุนงั้นหรือ?” มู่หลิงหลานตะโกนด้วยความประหลาดใจ

จ้าวเหลียนหยุนพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะลุกขึ้น

นางมองหม่าหงหยุนและขยับปากแต่ไม่มีเสียงออกมา ด้วยการใช้วิญญาณแห่งความรักก่อนหน้านี้ นางไม่สามารถส่งเสียงและต้องใช้วิญญาณในการสื่อสาร แต่ในแม่น้ำหวนคืน วิญญาณไม่สามารถใช้งาน

ในที่สุดจ้าวเหลียนหยุนก็พบคนที่นางรักและคิดถึงมาตลอด

นางกระวนกระวายใจมากขณะก้าวเท้าออกไป

แต่ในวินาทีต่อมา นางกลับลังเล

ตอนนี้สภาพของนางดูเป็นอย่างไรนางเข้าใจอย่างชัดเจน

นางไม่ใช่เด็กผู้หญิงอีกต่อไป นางเป็นหญิงชราผมขาว ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอย และร่างกายที่เหมือนกิ่งไม้แห้ง

แล้วหม่าหงหยุนจะจดจำนางได้หรือไม่?

นางสามารถพบคนรักในรูปลักษณ์นี้ได้งั้นหรือนางสามารถทนให้เขาเห็นนางในสภาพนี้ได้เช่นนั้นหรือ?

จ้าวเหลียนหยุนสูญเสียความกล้าหาญทั้งหมดของนาง

นางก้มศีรษะลงและไม่กล้าสบตาหม่าหงหยุน

แต่นางกลับได้ยินหม่าหงหยุนตะโกน “เจ้าคือคุณหนูเสี่ยวหยุน?”

ร่างของจ้าวเหลียนหยุนสั่นสะท้านขึ้น

นางเงยหน้าเพียงเพื่อที่จะเห็นว่าหม่าหงหยุนโยนผมไม้ทิ้งและวิ่งเข้ามาหานาง

คุณหนูเสี่ยวหยุนคุณหนูเสี่ยวหยุนข้าคิดถึงท่านมาก!” หม่าหงหยุนตะโกนเสียงดัง

มู่หลิงหลานเห็นสิ่งนี้และเกิดความรู้สึกซับซ้อน เขาอธิบาย “เทพธิดาจ้าวกลายเป็นเช่นนี้เพราะนางรีบมาจากภาคกลางเพื่อช่วยเจ้า!”

คุณหนูเสี่ยวหยุน!” หม่าหงหยุนจับมือจ้าวเหลียนหยุนและยืนอยู่ตรงหน้านางแต่ไม่ได้กล่าวสิ่งใด

ในเวลานี้จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกว่านี่เป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ การเสียสละทั้งหมดของนางคุ้มค่า!

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset