Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – บทที่ 1354 พลังของไห่และไป่

การไล่ล่าของฟางหยวนล้มเหลว แต่ผู้ใดจะคิดว่านิกายเงาจะมอบโอกาสที่ยิ่งใหญ่ให้เขาในครั้งนี้

 

เนื่องจากวิญญาณทารกอมตะ นิกายเงาจะไม่ปล่อยฟางหยวนไป หากฟางหยวนไม่กำจัดพวกเขาและปล่อยให้นิกายเงาสามารถเติบโต เขาจะจบลงเช่นเดียวกับหม่าหงหยุน

 

หลังจากกำจัดนิกายเงา เขาจะสามารถกำจัดจุดอ่อนของการเชื่อมโยงโชค

 

ด้วยวิธีนี้เขาจะค่อยๆพัฒนาขึ้นด้วยการใช้ประโยชน์จากอาณาจักรแห่งความฝัน

 

ในสงครามห้าภูมิภาค เขาจะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์เพื่อหาโอกาสทำลายล้างวังสวรรค์

 

หากสถานการณ์ดำเนินไปตามความคาดหวัง เมื่อเขาก้าวเข้าสู่ระดับเก้า เขาจะเข้าใกล้เป้าหมายชีวิตนิรันดร์อีกก้าวหนึ่ง

 

นี่คือแผนการบ่มเพาะของฟางหยวน

 

แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือยุคที่ยิ่งใหญ่กำลังจะมาถึง

 

อย่างไรก็ตามในความคิดเห็นของฟางหยวน นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่เขาจะกำจัดนิกายเงา

 

เพราะนิกายเงาไม่รู้ว่าฟางหยวนอยู่ที่นี่

 

ผู้ใดจะรู้ว่าวูอี้ไห่คือเขา? กระทั่งวูหยงพี่ชายของเขาก็ยังไม่รู้

 

การกำจัดวูอี้ไห่และปลอมตัวเป็นคนผู้นี้ถือเป็นแผนการที่ยอดเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัย

 

แม้จะมีความเสี่ยง แต่มันก็ทำให้เขาได้รับโอกาส

 

และฟางหยวนต้องฉวยโอกาสนี้

 

‘หากเป็นไปได้ข้าควรจับเทพปีศาจจิตวิญญาณ!’

 

‘ด้วยวิธีนี้ ข้าจะได้รับประสบการณ์การบ่มเพาะและความทรงจำที่ล้ำค่ามากมายจากเขา…’

 

สิ่งที่ฟางหยวนสนใจมากที่สุดคือท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝัน

 

ด้วยท่าไม้ตายนี้ ฟางหยวนจะกลายเป็นตัวตนอันดับหนึ่งในแง่ของการสำรวจอาณาจักรแห่งความฝัน เขาจะมีข้อได้เปรียบมหาศาล โลกทั้งใบจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

 

แน่นอนว่านี่เป็นเพียงความคิดเพ้อฝันของฟางหยวนเท่านั้น

 

…..

 

ตอนนี้เทพธิดาเมี่ยวหยินมีแขนหกข้าง การโจมตีของนางรุนแรงขึ้นกว่าก่อนหน้าอีกมาก

 

อย่างไรก็ตามเฉียวซื่อหลิวยังสามารถป้องกันตัว

 

ดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นสีเขียว เส้นผมสีดำของนางกลายเป็นกิ่งหลิวที่ยื่นออกมาจนถึงเอว

 

เทพธิดาที่งดงามที่สุดของภาคใต้ทั้งสองกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดและอยู่ในสถานการณ์ที่ไร้ทางออก

 

…..

 

“บัดซบ! ข้าสู้ไม่ไหว ข้าต้องหนี!” ปีศาจอมตะผู้หนึ่งพยายามล่าถอย

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่กลิ่นอายที่ทรงพลังปะทุขึ้นด้านหลังเขา

 

“หนูสกปรก ตาย!” ผู้อมตะฝ่ายธรรมะผู้หนึ่งตะโกนและยื่นมืออกมาคว้าศีรษะของปีศาจอมตะเอาไว้

 

ต่อมาสายฟ้าสีน้ำเงินก็ระเบิดออกไปรอบๆ

 

ปีศาจอมตะกลายเป็นโครงกระดูกที่ไหม้เกรียมจนไม่เหลือเค้าโครงของมนุษย์

 

“ฮืม ไม่รู้จักขีดจำกัดของตนเอง กล้ายโสต่อหน้าข้า อี้ไห่ถิง งั้นหรือ!?” ผู้อมตะฝ่ายธรรมะปล่อยมือขณะที่ซากศพของปีศาจอมตะร่วงลงบนพื้นและแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

…..

 

“พวกเจ้าทำได้เพียงเท่านี้งั้นหรือ?” ผู้อมตะฝ่ายธรรมะที่มีร่างกายเพียวบางและมีจมูกสูงกล่าวด้วยความเย่อหยิ่งและผิดหวัง

 

“อย่ายโสเกินไ!”

 

“ไท่ซินเจี้ยน เราเหนือกว่าเจ้า แต่เจ้ายังมีหน้ากล่าว…อา…”

 

ผู้บ่มเพาะสันโดษสามคนที่โจมตีไท่ซินเจี้ยนเย้ยหยันแต่การแสดงออกของพวกเขากลับเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

 

กลิ่นอายที่ทรงพลังปะทุออกมาจากร่างของไท่ซินเจี้ยนในเวลานี้

 

ผู้บ่มเพาะสันโดษทั้งสามรีบล่าถอย

 

สายลมทำให้เสื้อผ้าของเขาสะบัดตัวขึ้นสู่อากาศ แต่ไท่ซินเจี้ยนยังสงบนิ่ง เขาปิดเปลือกตาและกล่าวอย่างช้าๆ “ไร้ประโยชน์ ข้าเห็นทุกการเคลื่อนไหวของพวกเจ้า จุดอ่อนทั้งหมดของพวกเจ้าถูกเปิดเผยต่อหน้าข้า ไม่มีความลับใดหลุดรอดจากสายตาของข้า”

 

“บัดซบ!” ผู้บ่มเพาะสันโดษผู้หนึ่งสาปแช่งแต่ในจังหวะนี้ร่างกายของเขากลับสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง

 

“ฉับ ฉับ ฉับ”

 

สามเสียงดังขึ้นเมื่อปราณดาบสามเล่มตัดศีรษะของผู้บ่มเพาะสันโดษทั้งสามออกจากร่างกาย

 

…..

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า” ไห่ลั่วหลันหัวเราะเสียงดังแม้นางจะได้รับบาดเจ็บ

 

เฉิงกุ้ยหลี่เป็นผู้อมตะระดับเจ็ด แต่เขามองไห่ลั่วหลันด้วยความตกใจ การแสดงออกของเขาไม่ผ่อนคลายเหมือนก่อนหน้าอีกต่อไป

 

“ดังคาด ผู้อมตะภาคเหนือบ้าคลั่งการต่อสู้” เฉิงกุ้ยหลี่ไม่เต็มใจยอมแพ้แต่อาการบาดเจ็บของเขาสาหัสมาก

 

‘ถอย’ ความคิดนี้ปรากฏขึ้นในใจของเขา

 

ไห่ลั่วหลันสังเกตเห็นและเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน “เจ้าจะหนีไปที่ใด?”

 

“หมายความว่าอย่างไร?” เฉิงกุ้ยหลี่รู้สึกสังหรณ์ร้าย

 

“ฮูม…”

 

เปลวเพลิงลุกไหม้ขึ้นจากบาดแผลของเขารวมถึงดวงตา รูหู รูจมูก และปาก

 

“อ๊าก…” เสียงกรีดร้องแห่งความเจ็บปวดดังไปทั่วสนามรบก่อนที่เขาจะเสียชีวิต

 

ไห่ลั่วหลันจ้องมองอย่างเย็นชา “ไม่ใช่ว่าเจ้าเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดงั้นหรือ?”

 

…..

 

“เร็ว ข้าต้องการกำลังเสริม!” ช่ายเฮ่าซิงกรีดร้องขณะล่าถอย

 

หากเปรียบเทียบกับก่อนหน้า เขาได้สูญเสียจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ไปอย่างสมบูรณ์แล้ว ตอนนี้เขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและวิตกกังวล

 

เทพธิดามังกรไป่หนิงปิงเดินไปข้างหน้าทีละก้าว

 

นางงดงามมาก แต่ในมุมมองสายตาของช่ายเฮ่าซิง นางไม่ต่างจากปีศาจที่น่าสะพรึงกลัว ตอนนี้เขาไม่ต้องการสิ่งใดนอกจากหลบหนีไปให้ไกลที่สุด

 

แต่ในสถานการณ์นี้หากเขาพยายามหลบหนีออกจากสนามรบ เขาจะกลายเป็นเพียงอาหารของจ้าวเย่ฮุ้ย

 

ช่ายเฮ่าซิงต้องต่อสู้ต่อไปอย่างไม่เต็มใจ

 

พลังการต่อสู้ของไป่หนิงปิงและไห่ลั่วหลันสูงมาก

 

ไป่หนิงปิงได้รับมรดกที่แท้จริงของไป่เซียง วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งหิมะและน้ำแข็งเข้ากันได้ดีกับสุดยอดกายาน้ำแข็งแห่งความมืดของนาง

 

สำหรับไห่ลั่วหลัน นางมีสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริง แต่นางใช้วิญญาณอมตะและวิธีการบนเส้นทางแห่งไฟที่ได้รับจากนางมารผลาญสวรรค์

 

ช่ายเฮ่าซิงได้รับกำลังเสริมมาแล้วครั้งหนึ่งแต่พวกเขาถูกไป่หนิงปิงสังหารทั้งหมด

 

แน่นอนว่าไป่หนิงปิงต้องจ่ายด้วยราคาที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน

 

ปาเต๋อเป็นผู้บังคับบัญชาการต่อสู้ของฝ่ายธรรมะในครั้งนี้ เมื่อเขาได้ยินเสียงตะโกนของช่ายเฮ่าซิง ความสนใจของเขาก็ถูกดึงดูดไป

 

“ไท่ซินเจี้ยนโปรดช่วยช่ายเฮาซิงด้วย” ปาเต๋อคิดก่อนจะส่งข้อความ

 

“ตกลง” ไท่ซินเจียงบินไปทางไป่หนิงปิงทันที

 

กลิ่นอายที่ทรงพลังของเขาดึงดูดความสนใจของไป่หนิงปิง รูม่านตาของนางหดเล็กลงขณะที่นางกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะ

 

“กำลังเสริมมาแล้ว ข้าอยู่ที่นี่!” เมื่อเห็นร่างของไท่ซินเจี้ยน ช่ายเฮ่าซิงรู้สึกมีความสุขมาก

 

แต่เพียงเมื่อเขาผ่อนคลายจิตใจลง เขาก็เผยจุดอ่อนขณะที่ไป่หนิงปิงฉวยโอกาสโจมตีทันที

 

“บัดซบ!” ไท่ซินเจี้ยนมาสายไปก้าวหนึ่ง เขาสบถด้วยความโกรธเมื่อเห็นช่ายเฮ่าซิงกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งก่อนจะแตกสลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งจำนวนนับไม่ถ้วน

 

ไป่หนิงปิงเผยรอยยิ้มบาง นางมองไท่ซินเจี้ยนและกล่าวเสียงเย็น “ท่าไม้ตายของข้าเรียกว่าน้ำแข็งแตกสลาย เจ้าอยากลองหรือไม่?”

 

…..

 

‘ช่ายเฮ่าซิงตายแล้ว แม้มังกรหญิงผู้นี้จะเป็นผู้อมตะระดับหก แต่พลังการต่อสู้ของนางเทียบเท่ากับผู้อมตะระดับเจ็ดชั้นแนวหน้า!’ หัวใจของปาเต๋อจมดิ่งลง

 

เขามองไปรอบๆสนามรบและพบว่าแนวป้องกันยังไม่พังทลายลง

 

ฝ่ายธรรมะมีข้อได้เปรียบแม้ค่ายกลวิญญาณจะเสียหาย

 

แม้ฝ่ายธรรมะจะพบกับความสูญเสีย แต่นิกายเงาก็มีคนตายเช่นกัน ขวัญกำลังใจของพวกเขาลดลง บางคนเริ่มหวั่นไหว

 

‘ฝ่ายตรงข้ามมีผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงเพียงสี่คน เทพธิดากระต่ายขาว เทพธิดาเมี่ยวหยิน เทพธิดามังกร และผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งไฟ ตราบเท่าที่เราสามารถกำจัดหนึ่งในนั้น ขวัญกำลังใจของพวกเขาจะตกต่ำลง’ เมื่อคิดได้เช่นนี้ปาเต๋อจึงหันหน้าไปทางฟางหยวนอีกครั้ง

 

สถานการณ์ของฟางหยวนยังไม่เปลี่ยน แต่ความคิดกระดองเต่าเพิ่มขึ้นถึงระดับสามแสนหลังแล้ว พวกมันบินอยู่รอบๆสนามรบและผลักดันนางเสือดำให้ถอยห่างออกไป

 

ปาเต๋อก่นเสียงเย็นด้วยความโกรธ “วูอี้ไห่ หยุดป้องกัน! ในฐานะผู้อมตะตระกูลวู เจ้ากลับไม่มีความกล้าที่จะต่อสู้ เจ้ากลัวตายงั้นหรือ? ให้ข้าบอกเจ้า เจ้าเป็นตัวแปรสำคัญในการต่อสู้ครั้งนี้ เจ้าคือความหวังของพวกเรา ตราบเท่าที่เจ้าสามารถสังหารนางเสือดำและไปสนับสนุนคนอื่นๆ มันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ สถานการณ์จะหันมาทางพวกเรา!”

 

ฟางหยวน “…”

 

เต่าพยากรณ์เหมือนภูเขาที่ไม่ตอบสนองต่อคำกล่าวของปาเต๋อ

 

“บัดซบ! คนผู้นี้ยังทำตัวเหมือนเดิม ข้าไม่อยากจะเชื่อ!” ปาเต๋อกัดฟันแน่น

 

“เสร็จแล้ว!” เป็นเพียงเวลานี้ที่จื่อกุ้ยเปิดเปลือกตาขึ้น

 

“สำเร็จ?” ปาฉวนฟงถามด้วยความตื่นเต้น

 

“แน่นอน ข้าอนุมานแล้ว ตอนนี้เราต้องจัดการค่ายกลวิญญาณและกระตุ้นใช้งานแนวป้องกันที่สาม หากประสบความสำเร็จ ท่าไม้ตายอมตะค่ำคืนสีเทาจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป” จื่อกุ้ยพยักหน้า

 

“ดี!” ปาเต๋อถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

เขามองไปที่จ้าวเย่ฮุ้ย

 

สัตว์อสูรแรกกำเนิดกำลังพักผ่อน มันยังไม่ได้เคลื่อนไหว

 

“สถานการณ์หันมาหาฝ่ายธรรมะของเราแล้ว” ปาเต๋อรู้สึกมีความสุขมาก

 

แต่ความรู้สึกของฟางหยวนยังห่างไกลจากคำว่าดี

 

‘ราชันภูเขาม่วงยังไม่ปรากฏตัว เขามีแผนการใด?’ ฟางหยวนรู้สึกเหมือนกำลังถูกผลักเข้ามุม

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset