Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – บทที่ 1364 ราชันมังกรเข้าสู่ความฝัน

ในเวลาต่อมา ราชันภูเขาม่วงดีดนิ้ว

 

ท่าไม้ตายอมตะถูกกระตุ้นใช้งาน แสงสีม่วงระเบิดออกไปในรัศมีหลายพันก้าว

 

การเคลื่อนที่ของราชันมังกรหยุดลง เขาไม่สามารถเคลื่อนย้ายสถานที่ในพริบตาเพื่อเข้าใกล้ราชันภูเขาม่วงได้อีกต่อไป

 

‘เขามองเห็นมันและสามารถตอบโต้ได้อย่างรวดเร็ว…การต่อสู้กับผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาเป็นเรื่องที่ยากลำบากไม่เปลี่ยน’ ราชันมังกรหยุดการโจมตีของเขาและถอนหายใจ

 

การเคลื่อนย้ายสถานที่ในพริบตาของเขาเกิดการเสียงคำรามของมังกรก่อนหน้านี้ ทุกที่ที่เสียงคำรามไปถึง เขาสามารถเคลื่อนย้ายสถานที่ไปที่นั่น

 

แต่วิธีนี้มีข้อจำกัดด้านเวลา

 

ราชันภูเขาม่วงมองเห็นสิ่งนี้และใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาเลียนแบบผลกระทบนเส้นทางแห่งเสียงเพื่อชำระล้างสภาพแวดล้อม

 

นั่นทำให้ราชันมังกรไม่สามารถเคลื่อนย้ายสถานที่ในพริบตาได้อีก

 

“เช่นนั้นลองวิธีนี้” ราชันมังกรเปิดปากขณะที่เขี้ยวมังกรสองซี่หลุดออกมา

 

หลังจากนั้นมันก็กลายเป็นดาบโค้งสีขาว

 

ท่าไม้ตายอมตะ ดาบโค้งเขี้ยวมังกร!

 

ดาบโค้งสองเล่มพุ่งเข้าโจมตีราชันภูเขาม่วงทันที

 

ดาบโค้งเขี้ยวมังกรหมุนวนอยู่รอบๆราชันภูเขาม่วง ทุกครั้งที่พวกมันโจมตีจะมีแสงดาบอันแหลมคมส่องประกายขึ้นบนร่างของราชันภูเขาม่วง

 

‘ใช้วิธีนี้เพื่อหยุดข้างั้นหรือ?’

 

‘เขี้ยวมังกร…พวกมันแข็งแกร่งมาก นี่ต่างจากท่าไม้ตายอมตะทั่วไป’

 

ราชันภูเขาม่วงรู้สึกถึงแรงกดดัน

 

พลังอำนาจของเขี้ยวมังกรไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ราชันภูเขาม่วงตระหนักได้ว่าเขาต้องจัดการท่าไม้ตายอมตะนี้อย่างรวดเร็วที่สุด

 

…..

 

‘ท่านสีม่วงใช้ทักษะที่แท้จริงออกมาแล้ว แต่ท่านยังถูกปราบปรามโดยราชันมังกร’ อิงอู๋เซี่ยบินไปข้างหน้าและสังเกตการต่อสู้ของราชันภูเขาม่วงกับราชันมังกร

 

เห็นได้ชัดว่าราชันมังกรแข็งแกร่งกว่าราชันภูเขาม่วง

 

ในแง่ของพลังการต่อสู้ ราชันมังกรเทียบเท่ากับโป้ชิง แม้ราชันภูเขาม่วงจะเป็นผู้อมตะระดับแปดเช่นกันแต่เขายังอ่อนแอกว่าโดยธรรมชาติ

 

‘พลังการต่อสู้ของท่านสีม่วงลดลงมาก นี่เป็นเพราะท่านใช้ท่าไม้ตายอมตะสร้างกายาแห่งความฝันจำนวนมากเพื่อจัดการอาณาจักรแห่งความฝัน ระหว่างกระบวนการนี้ท่านต้องแบ่งดวงวิญญาณของตนเองออกมา นี่เป็นเรื่องที่เจ็บปวดมาก!’

 

อิงอู๋เซี่ยเต็มไปด้วยความกังวล

 

ราชันภูเขาม่วงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของราชันมังกรตั้งแต่แรก แต่ก่อนหน้านี้เขายังต้องสร้างกายาแห่งความฝันจำนวนมาก นี่ทำให้พลังการต่อสู้ของเขายิ่งลดน้อยลงไปอีก เมื่อเวลาผ่านไป ราชันภูเขาม่วงจะพ่ายแพ้ในที่สุด

 

‘เร็ว เร็ว เร็ว!’ อิงอู๋เซี่ยกระตุ้นตนเอง

 

เขาจะไม่บอกเรื่องนี้กับฟางหยวนแม้พวกเขาจะทำงานร่วมกัน

 

โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาไม่ได้ทำข้อตกลงบนเส้นทางแห่งข้อมูลใดๆ อิงอู๋เซี่ยไม่สามารถไว้ใจฟางหยวนได้อย่างเต็มที่

 

แต่กระทั่งเขาจะต้องการทำข้อตกลง สถานการณ์ก็ไม่อนุญาตให้พวกเขาทำ และแม้พวกเขาจะทำได้ ฟางหยวนก็จะไม่ทำข้อตกลงดังกล่าว

 

ทั้งสองฝ่ายต้องการสร้างความร่วมมือแต่พวกเขาก็ไม่สามารถไว้ใจกันอย่างสมบูรณ์

 

อย่างไรก็ตามเพราะศัตรูคือวังสวรรค์ พวกเขาจึงต้องสร้างความร่วมมือ

 

“พบแล้ว ทิศตะวันออกเฉียงเหนือมีรังไหมกำลังก่อตัวขึ้น ไปที่นั่นเร็วเข้า” เป็นเพียงเวลานี้ที่ฟางหยวนถ่ายทอดเสียง

 

อิงอู๋เซี่ยมองไปในทิศทางนั้นและรู้สึกลังเล

 

หากเขาทำตามคำแนะนำของฟางหยวน เขาต้องเข้าไปในอาณาเขตของผู้อมตะภาคใต้ มีผู้อมตะภาคใต้อยู่ที่นั่นมากมาย

 

ฟางหยวนสามารถเชื่อถือได้หรือไม่? นี่เป็นกับดักหรือไม่?

 

“หากข้าต้องการทำร้ายเจ้า เจ้าคงตายไปนานแล้ว!” ฟางหยวนกล่าวราวกับรู้ความคิดของอิงอู๋เซี่ย

 

อิงอู๋เซี่ยต้องยอมรับว่าฟางหยวนพูดเรื่องจริง เขาคิด ‘บางทีฟางหยวนอาจไม่ต้องการฆ่าข้าแต่ต้องการจับข้าทั้งเป็น หากเขาต้องการจับข้า เขาต้องเตรียมการ มีค่ายกลวิญญาณหรือท่าไม้ตายเขตแดนอยู่ที่นั่นหรือไม่?’

 

แต่คราวนี้อิงอู๋เซี่ยกลับส่ายศีรษะและเลิกลังเล

 

เขาต้องเดิมพัน

 

นาทีนี้เขาต้องเดิมพันเท่านั้น!

 

เขาบินไปยังทิศทางที่ฟางหยวนชี้นำ

 

ในไม่ช้าเขาก็พบผู้อมตะภาคใต้

 

‘บัดซบ!’ หัวใจของอิงอู๋เซี่ยเต้นแรง

 

ผู้อมตะภาคใต้พบเขาเช่นกัน

 

แต่เมื่อเขากำลังจะพุ่งเข้าโจมตีอิงอู๋เซี่ย ใบหน้าของเขากลับเปลี่ยนแปลงไป หลังจากลังเลใจ เขาบินหนีไปด้วยการแสดงออกที่ซับซ้อน

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น?” อิงอู๋เซี่ยตะลึง

 

นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว

 

พวกเขาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของฟางหยวนงั้นหรือ?

 

แล้วเหตุใดเขาถึงแสดงออกเช่นนั้น เขาดูไม่เต็มใจและกระทั่งโกรธเล็กน้อย

 

อิงอู๋เซี่ยรู้สึกสับสนมากขึ้น

 

เขายังเดินหน้าต่อไปและพบผู้อมตะภาคใต้คนที่สาม คนที่สี่ แต่คนทั้งสองก็ทิ้งเขาไปเช่นกัน

 

แน่นอนว่านี่เป็นการจัดการของฟางหยวน

 

เขาส่งผู้อมตะภาคใต้ทั้งหมดออกไปโดยใช้ข้ออ้างเรื่องภาพรวม

 

ตัวอย่างเช่น สถานที่นั้นต้องการเจ้ามากกว่า พันธมิตรกำลังตกอยู่ในอันตราย หากเจ้าไม่ไป พวกเขาจะตาย และ เพิกเฉยต่อผีอมตะระดับหก ข้าส่งคนอื่นมาจัดการเขาแล้ว

 

ด้วยข้ออ้างที่สมเหตุสมผล ทำให้อิงอู๋เซี่ยเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้โดยปราศจากอุปสรรค

 

ไม่มีผู้ใดคาดหวังว่าวูอี้ไห่จะร่วมมือกับนิกายเงา

 

ในเวลานี้วังสวรรค์ยังไม่ได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของฟางหยวน แล้วผู้อมตะภาคใต้จะคาดคิดถึงเรื่องนี้ได้อย่างไร?

 

ด้วยความช่วยเหลือจากฟางหยวน อิงอู๋เซี่ยเข้าใกล้จุดหมายมากขึ้นเรื่อยๆ

 

“หือ มีรังไหมอยู่ที่นี่จริงๆ” ผู้อมตะระดับเจ็ดอี้ไห่ถิงค้นพบอย่างกะทันหัน

 

เขาบินเข้าไปหารังไหมแสง

 

“หยุด!” อิงอู๋เซี่ยที่พึ่งมาถึงตะโกนเสียงดัง

 

อี้ไห่ถิงแปลกใจ “ผู้ใด? เขาเป็นผู้สร้างมันงั้นหรือ?”

 

อี้ไห่ถิงไม่สนใจอิงอู๋เซี่ยและยังบินเข้าไปหารังไหมแสง

 

แต่ในเวลาต่อมาวิสัยทัศน์ของอี้ไห่ถิงกลับเปลี่ยนแปลงไป

 

เขาถูกเคลื่อนย้ายสถานที่โดยพลังอำนาจของค่ายกลวิญญาณ

 

“วูอี้ไห่! ข้ากำลังจะ…” อี้ไห่ถิงตระหนักถึงเรื่องนี้และตะโกน

 

เห็นได้ชัดว่าเขากำลังจะประสบความสำเร็จในการกำจัดรังไหมแสง แต่ฟางหยวนกลับกลายเป็นอุปสรรค

 

“ข้ารู้ แต่ที่อื่นต้องการเจ้ามากกว่า อย่ากังวล ข้าสังเหตเห็นศัตรูแล้ว ข้าจะจัดการเขาเอง” ฟางหยวนขัดจังหวะอี้ไห่ถึง

 

อี้ไห่ถิงต้องการกล่าวมากกว่านี้แต่วิสัยทัศน์ของเขากลับเปลี่ยนไปอีกครั้ง เขาถูกเคลื่อนย้ายไปที่อื่น!

 

“วูอี้ไห่ผู้นี้ เขาคิดว่าเขาสามารถใช้ข้าเป็นตัวหมากเบี้ยเพราะเขาควบคุมค่ายกลวิญญาณงั้นหรือ? ฮืม!” อี้ไห่ถิงไม่มีความสุขแต่เขาก็ไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับเจตนาของฟางหยวน

 

ฟางหยวนไม่ได้เคลื่อนย้ายเขาแบบสุ่มแต่มีผู้อมตะภาคใต้บางคนกำลังจะตายเพราะเทพธิดาเมี่ยวหยินอยู่จริงๆ

 

อี้ไห่ถิงเข้าสู่การต่อสู้และลืมความไม่พอใจที่มีต่อฟางหยวนไปอย่างรวดเร็ว

 

อิงอู๋เซี่ยรู้สึกราวกับอยู่ในความฝัน

 

ก่อนหน้านี้เมื่อเห็นอี้ไห่ถิงกำลังจะประสบความสำเร็จ เขารู้สึกสิ้นหวังมาก

 

แต่ในวินาทีต่อมา เขากลับทะยานจากขุมนรกขึ้นสู่สรวงสวรรค์ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวกะทันหันเกินไป

 

มันทำให้อิงอู่เซี่ยรู้สึกมึนงงเล็กน้อย

 

เขากรีดร้องเมื่อคิดถึงบางสิ่ง “แท้จริงแล้วเจ้าสามารถควบคุมค่ายกลวิญญาณทั้งหมด! ตอนนี้เจ้าคือผู้ใดกันแน่?”

 

ฟางหยวนรู้ว่าไม่สามารถปกปิดเรื่องนี้ “จะเป็นผู้ใดได้ ข้าคือวูอี้ไห่”

 

ดวงตาของอิงอู๋เซี่ยแทบหลุดออกมาจากเบ้า

 

คำตอบนี้น่าทึ่งเกินไป ฟางหยวนมาถึงจุดนี้ได้ด้วยวิธีใด

 

หลังจากยอมรับความจริงเรื่องนี้ อิงอู๋เซี่ยก็เข้าใจทุกสิ่ง

 

ไม่แปลกเลยที่ผู้อมตะภาคใต้เปิดทางให้เขา อิงอู๋เซี่ยรู้สึกว่ามันเป็นการแสดงที่น่าขันมาก

 

แต่ไม่นานเขาก็เริ่มกังวล

 

‘ฟางหยวนมีท่าไม้ตายคลี่คลายความฝัน เขาอยู่ที่นี่มาเป็นเวลานานโดยไม่มีผู้ใดรู้ เขามีแผนการที่ยิ่งใหญ่ เขาต้องได้รับกำไรมหาศาลอย่างแน่นอน!’

 

‘เกือบแล้ว หากไม่ใช่เพราะแผนการของท่านสีม่วง ฟางหยวนอาจอยู่ที่นี่ต่อไปอีกนาน และนั่นจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับนิกายเงา’

 

อารมณ์ของอิงอู๋เซี่ยเปลี่ยนจากความตกใจเป็นความตระหนักรู้และความกังวล แต่ในที่สุดเขาก็มาถึงรังไหมแสง

 

“กลิ่นอายนี้ รังไหมระดับเจ็ด!” อิงอู๋เซี่ยรู้สึกตื่นเต้นมาก

 

“ข้าจะเลือกผิดได้อย่างไร? แล้วเจ้ารอสิ่งใดอยู่?” ฟางหยวนหัวเราะ

 

อิงอู๋เซี่ยพยักหน้าและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะของเขา

 

ท่าไม้ตายนี้ส่งผลกระทบทันที

 

ดวงวิญญาณของอิงอู๋เซี่ยและวิญญาณของเขาพุ่งเข้าสู่รังไหมแสง

 

ในเวลาเดียวกันร่างผีดิบอมตะระดับหกก็ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

 

รังไหมแสงแตกออกขณะที่อิงอู๋เซี่ยในร่างกายาแห่งความฝันระดับเจ็ดปรากฏตัวขึ้น

 

“อย่าขัดขืน ข้าจะส่งเจ้าไปเดี๋ยวนี้” เสียงของฟางหยวนดังขึ้นในใจของอิงอู๋เซี่ย

 

ในช่วงเวลาต่อมาอิงอู๋เซี่ยจึงถูกเคลื่อนย้ายไปยังสนามรบของราชันมังกรและราชันภูเขาม่วง

 

โดยปราศจากความลังเล อิงอู๋เซี่ยใช้ไพ่ตายของเขาทันที

 

นำวิญญาณสู่ความฝัน!

 

“หือ!?” การแสดงออกของราชันมังกรเปลี่ยนไปขณะที่เขาถูกลากเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน

 

ราชันภูเขาม่วงตะลึง “เกิดสิ่งใดขึ้น?”

 

ในเวลาต่อมาเขาได้รับการถ่ายทอดเสียงจากอิงอู๋เซี่ย “ข้าอยู่ที่นี่ ท่านสีม่วง ตอนนี้ข้าอยู่ในร่างกายาแห่งความฝันระดับเจ็ด!”

 

“ดี” ราชันภูเขาม่วงดีใจมาก ในที่สุดไพ่ตายของเขาก็ถูกใช้งาน

 

“หลังจากผ่านอุปสรรคมากมาย ข้าได้รับร่างนี้มาด้วยความช่วยเหลือจากฟางหยวน ปัจจุบันเขาคือวูอี้ไห่ เขากำลังควบคุมค่ายกลวิญญาณของผู้อมตะภาคใต้ เขาต้องการร่วมมือกับพวกเรา!”

 

“โอ้!?” ดวงตาของราชันภูเขาม่วงส่องประกายขึ้น “ยอดเยี่ยม ส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้เขา เราจะคุยกัน”

 

เมื่อฟางหยวนร่วมมือกับนิกายเงา สถานการณ์ดูเหมือนจะพลิกกลับในที่สุด

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset