Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – บทที่ 1369 ยืมวิญญาณอมตะ

ดวงตาของฟางหยวนเบิกกว้าง

 

ชื่อเสียงและบารมีของผู้อมตะระดับเก้าท่วมท้นอยู่ในหัวใจของผู้ใช้วิญญาณและผู้อมตะทุกคน

 

แต่ตอนนี้เทพปีศาจจิตวิญญาณกลับถูกจับโดยผู้อมตะระดับแปด

 

‘ราชันมังกรคือผู้ใดกันแน่? ช่างแข็งแกร่งนัก!’

 

‘อย่างไรก็ตามเทพปีศาจจิตวิญญาณตายไปนานแล้ว นี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวของดวงวิญญาณที่เหลืออยู่เท่านั้น’

 

‘หากดวงวิญญาณของเทพปีศาจจิตวิญญาณอยู่ในสภาพที่ดี ราชันมังกรจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่น่าเสียดายหลังจากความล้มเหลวในการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียนและติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝันมาเป็นเวลานาน ดวงวิญญาณของเทพปีศาจจิตวิญญาณอ่อนแอลงจนถึงจุดต่ำสุด’

 

ฟางหยวนคิดกับตนเอง หากดวงวิญญาณของเขาติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝันโดยปราศจากท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝัน ดวงวิญญาณของเขาจะอยู่ได้เพียงไม่กี่วันก่อนจะแตกสลายไปอย่างสมบูรณ์

 

สำหรับเทพปีศาจจิตวิญญาณ เขาสามารถอดทนได้เป็นเวลานานขณะที่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่ในสภาพที่สามารถต่อสู้ได้

 

ไม่ใช่เรื่องแปลกหากราชันมังกรจะสามารถจับกุมเขา

 

ท้ายที่สุดราชันมังกรก็อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดขณะที่เทพปีศาจจิตวิญญาณอยู่ในสภาพที่อ่อนแอที่สุด

 

ยุคสมัยของเทพปีศาจจิตวิญญาณจบสิ้นไปนานแล้ว

 

ครั้งหนึ่งเขาเคยเข่นฆ่าผู้คนและสร้างยุคสมัยที่วุ่นวาย

 

ในช่วงเวลาเหล่านั้นเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดบนโลกใบนี้และมีสถานะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

 

อย่างไรก็ตามเวลาไหลราวกับสายน้ำ ในที่สุดชีวิตของเขาก็จบสิ้นลง

 

แต่กระทั่งหลังจากความตาย เทพปีศาจจิตวิญญาณก็ยังไม่ยอมแพ้

 

เขาสร้างนิกายเงารวมถึงกองกำลังพันธมิตรผีดิบขึ้นมาและพยายามท้าทายสวรรค์อีกครั้ง

 

โป้ชิงเป็นความพยายามครั้งแรกของเทพปีศาจจิตวิญญาณ เขาเป็นกึ่งระดับเก้าที่ล้มเหลวในภัยพิบัติขณะที่ศพของเขาจมลงสู่น้ำตกสวรรค์

 

วิญญาณทารกอมตะเป็นความพยายามครั้งที่สอง แต่สวรรค์วางแผนต่อต้านเขาโดยนำฟางหยวนย้อนเวลากลับมา

 

ความล้มเหลวบนภูเขาอี้เทียนทำให้เทพปีศาจจิตวิญญาณสูญเสียรากฐานทั้งหมด แต่ด้วยกองกำลังที่เหลืออยู่ของนิกายเงา พวกเขายังสามารถสร้างพายุใหญ่

 

จนถึงตอนนี้เทพปีศาจจิตวิญญาณล้มเหลวอย่างสมบูรณ์และถูกจับโดยราชันมังกรของวังสวรรค์

 

“ยุคที่ยิ่งใหญ่กำลังจะมาถึง ตัวละครเก่าเช่นพวกเราควรนอนหลับอย่างสงบและไม่พยายามแสดงเป็นตัวละครหลักในยุคปัจจุบัน เทพปีศาจจิตวิญญาณ ยุคของเจ้าจบไปนานแล้ว” ราชันมังกรถอนหายใจก่อนจะนำเทพปีศาจจิตวิญญาณเก็บไว้ในมิติช่องว่างเทียมของเขา

 

“อ๊าก…” ราชันภูเขาม่วงกรีดร้องด้วยดวงตาแดงก่ำ

 

เมื่อเห็นเทพปีศาจจิตวิญญาณตกเป็นเชลย เขาแทบกลายเป็นบ้า

 

เมื่อร่างหลักถูกจับ ความหวังทั้งหมดก็สูญสิ้น

 

สูญเสียครั้งใหญ่!

 

แต่ราชันภูเขาม่วงเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา การพุ่งเข้าโจมตีราชันมังกรอย่างบ้าคลั่งเป็นเพียงการฆ่าตัวตายอย่างโง่เขลาเท่านั้น

 

นั่นจะทำให้พวกเขาพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์

 

เขาสูดหายใจลึกและเคลื่อนที่เข้าสู่แดนศักดิ์สิทธิ์ของนิกายเงา

 

“หนี? เหตุใดยังคิดว่าสามารถหลบหนี?” ราชันมังกรลอยขึ้นไปในอากาศ เขามองราชันภูเขาม่วงด้วยสายตาเย็นชา

 

ทางเข้าแดนศักดิ์สิทธิ์ปิดลงแล้วขณะที่กองทัพอสูรวิญญาณกลับมาปกป้องมัน

 

ราชันมังกรหัวเราะด้วยความเย่อหยิ่ง เขาหันหน้าไปทางค่ายกลวิญญาณและเห็นความก้าวหน้าของเทพธิดาจื่อเว่ยก่อนจะหันหน้ากลับไปและใช้ท่าไม้ตายอมตะกับแดนศักดิ์สิทธิ์ของนิกายเงา

 

ประตูมังกร!

 

ประตูมังกรที่สง่างามและยิ่งใหญ่ปรากฏขึ้น

 

ประตูมังกรเปิดออกและเผยให้เห็นทัศนียภาพภายในแดนศักดิ์สิทธิ์ของนิกายเงา

 

ท่าไม้ตายอมตะประตูมังกรสามารถเปิดทางเข้าแดนศักดิ์สิทธิ์!

 

ราชันมังกรหัวเราะและก้าวเข้าไปในประตูมังกรก่อนที่มันจะปิดตัวลง

 

เกิดการต่อสู้ที่ดุเดือดขึ้นในแดนศักดิ์สิทธิ์ของนิกายเงาแต่ภายนอกยังเงียบสงบ

 

สามารถจิตนาการได้อย่างง่ายดายว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ของนิกายเงาไม่ใช่สถานที่ปลอดภัย ราชันมังกรต้องเผชิญหน้ากับกองทัพอสูรวิญญาณอย่างไม่รู้จบสิ้น

 

“พวกเขากำลังทำสิ่งใด?” ผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคใต้มองหน้ากัน

 

ทันใดนั้นพวกเขาก็ตระหนักว่าไม่มีศัตรูเหลืออยู่

 

ราชันภูเขาม่วงกับราชันมังกรอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ของนิกายเงาขณะที่ไป่หนิงปิง ไห่ลั่วหลัน อิงอู๋เซี่ย กายาแห่งความฝัน และคนอื่นๆ ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางอาณาจักรแห่งความฝัน

 

สิ่งเดียวที่ยังเคลื่อนไหวอยู่ในสนามรบคือกองทัพอสูรวิญญาณ

 

อสูรวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังอาละวาดอยู่ในสนามรบ

 

ส่วนหนึ่งติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน พวกมันไม่สามารถหลบหนีและสลายตัวไปอย่างรวดเร็ว

 

อสูรวิญญาณส่วนใหญ่ตระหนักถึงอันตรายจากอาณาจักรแห่งความฝัน ดังนั้นพวกมันจึงหลบหนีด้วยสัญชาตญาณ

 

อสูรวิญญาณจะกลืนกินดวงวิญญาณของรูปแบบชีวิตทุกชนิดเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง

 

ด้วยเหตุนี้ผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคใต้จึงกลายเป็นเป้าหมายหลักของอสูรวิญญาณเหล่านี้แม้พวกมันจะไม่สามารถต่อสู้ก็ตาม

 

“วูอี้ไห่ รีบส่งพวกเราเข้าไปในค่ายกลวิญญาณ!” ผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคใต้ตะโกน

 

พวกเขาไม่ต้องการจากไป

 

ตอนนี้นิกายเงาแพ้แล้ว แต่วังสวรรค์ยังไม่แสดงเจตนาสังหารต่อผู้อมตะภาคใต้

 

ผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคใต้คิดว่าวังสวรรค์อยู่ฝ่ายเดียวกับพวกเขา

 

ท้ายที่สุดพวกเขาก็เป็นฝ่ายธรรมะเช่นเดียวกันแม้จะอยู่ต่างภูมิภาคก็ตาม

 

แน่นอนว่ายังมีปัจจัยสำคัญอีกหนึ่งประการที่จะส่งผลต่อการตัดสินใจของพวกเขา

 

นั่นคืออาณาจักรแห่งความฝัน

 

ในมุมมองของผู้อมตะภาคใต้ อาณาจักรแห่งความฝันเหล่านี้เป็นทรัพยากรของพวกเขา มันเป็นของพวกเขา!

 

นอกจากนี้ในการต่อสู้ระหว่างราชันมังกรและราชันภูเขาม่วงรวมถึงการปรากฏตัวของเทพปีศาจจิตวิญญาณ ในที่สุดพวกเขาก็ได้เรียนรู้รายละเอียดที่ซ่อนอยู่ในการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน

 

มีความลับเกี่ยวกับผู้อมตะระดับเก้าอยู่ที่นี่ อาจมีการเผชิญหน้ากับโชคลาภโดยบังเอิญ แล้วผู้ใดจะต้องการจากไป?

 

นี่คือค่ายกลวิญญาณของภาคใต้และกำลังเสริมของพวกเขาก็กำลังเดินทางมา

 

สำหรับหอคอยดวงตาสวรรค์และจ้าวเย่ฉุ้ย พวกมันยังต่อสู้กันและติดอยู่ในสถานการณ์ชะงักงัน

 

ฟางหยวนออกคำสั่ง “ทุกคนกำจัดอสูรวิญญาณเหล่านี้ กำลังเสริมของพวกเราใกล้มาถึงแล้ว สังหารอสูรวิญญาณเพื่อทำให้ศัตรูอ่อนแอลง หากปล่อยพวกมันเอาไว้จะเกิดปัญหาใหญ่ตามมา นี่คือความรับผิดชอบของฝ่ายธรรมะ!”

 

คำกล่าวเหล่านี้เต็มไปด้วยเหตุผลแต่ผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคใต้ไม่ฟังเขา

 

“กำลังเสริมกำลังมามิใช่หรือ? ปล่อยให้พวกเขาจัดการพวกมัน!”

 

“ถูกต้อง ข้าเหนื่อยมากแล้ว ข้าต้องการพักผ่อน”

 

“แม้ตอนนี้เราจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เราเสียค่าใช้จ่ายไปมากมาย เราต้องรักษาความแข็งแกร่งเอาไว้และไม่ใช้มันอย่างฟุ่มเฟือย”

 

ฟางหยวนก่นเสียงเย็น “ข้าบอกให้ไป อย่าไร้สาระ!”

 

ผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคใต้สาปแช่งแต่ฟางหยวนไม่สนใจ

 

เขากำลังจะทำเรื่องสำคัญ

 

นั่นคือการขอความช่วยเหลือจากตระกูลวู

 

“เร็วเข้า ที่นี่อันตรายมาก สถานการณ์ซับซ้อนมาก รีบส่งวิญญาณที่ข้าต้องการผ่านสวรรค์สีเหลืองมาให้ข้า”

 

“อย่ากังวล ข้าจะรับผิดชอบทั้งหมด!”

 

“เหตุใดต้องเป็นวิญญาณอมตะสายโลหิต? ข้าต้องใช้มันในค่ายกลวิญญาณเพื่อเพิ่มพลังอำนาจของมัน!”

 

“เหตุใดมันจึงยากนักที่ข้าจะยืมวิญญาณ? เหตุใดต้องกังวล? นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ข้ายืมวิญญาณอมตะ!”

 

“กระไรนะ!? การยืมวิญญาณอมตะจากคลังสมบัติของตระกูลวูต้องได้รับการอนุมัติจากผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งงั้นหรือ?”

 

ฟางหยวนรีบติดต่อวูหยง

 

“พี่ใหญ่ ช่วยข้าเร็วเข้า!”

 

วูหยงกำลังควบคุมคฤหาสน์วิญญาณอมตะ เมื่อเขาได้ยินเสียงของน้องชาย เขาเร่งตอบกลับ “เกิดสิ่งใดขึ้น? เจ้าต้องการสิ่งใด?”

 

“ข้าแน่ใจว่าท่านรู้สถานการณ์เป็นอย่างดี ตอนนี้ข้ากำลังควบคุมค่ายกลวิญญาณ นี่เป็นโอกาสที่ดี มันทำให้ตระกูลวูสามารถควบคุมจุดทรัพยากรนี้และกำหราบกองกำลังอื่นๆ เราจะเป็นอิสระจากสถานการณ์ที่ยากลำบาก!” ฟางหยวนกล่าวอย่างจริงใจ

 

วูหยงเงียบไปชั่วขณะ

 

สนามรบนี้ไม่ได้ถูกปิดผนึก ผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคใต้สามารถสื่อสารกับตระกูลของตนโดยใช้วิธีบนเส้นทางแห่งข้อมูล

 

สำหรับตระกูลวู พวกเขามีฟางหยวน วูเหลียว รวมถึงผู้อมตะของตระกูลเฉียว

 

ดังนั้นกำลังเสริมทั้งหมดจึงเข้าใจสถานการณ์ในสนามรบ วูหยงก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

 

ในช่วงเวลาสำคัญฟางหยวนกอบกู้สถานการณ์และเข้าควบคุมค่ายกลวิญญาณแทนจื่อกุ้ย วูหยงย่อมรู้เรื่องนี้โดยธรรมชาติ

 

เมื่อเขาได้ยินครั้งแรก เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่ได้คาดหวังว่าน้องชายของเขาจะมีความสำเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลถึงระดับนี้ แต่วูหยงสามารถยอมรับเรื่องนี้

 

เพราะเหตุใด?

 

เนื่องจากก่อนหน้านี้ฟางหยวนแข่งขันกับจื่อซานเกี่ยวกับปัญหาบนเส้นทางแห่งค่ายกล ข่าวลือของพวกเขาก่อให้เกิดความโกลาหลขึ้นในช่วงเวลาหนึ่ง

 

ฟางหยวนเปิดเผยความสำเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลของตน นี่ทำให้ทุกคนตกใจ แต่ด้วยเหตุนี้ ทุกคนจึงสามารถยอมรับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ได้อย่างง่ายดาย

 

หากวูอี้ไห่เป็นผู้อมตะที่เกิดและเติบโตขึ้นในภาคใต้ เขาต้องเผชิญหน้ากับข้อสงสัยมากมาย แต่ความจริงก็คือวูอี้ไห่มาจากทะเลตะวันออกและไม่เป็นที่รู้จักมากนัก

 

ดังนั้นฟางหยวนจึงมีพื้นที่เพียงพอที่จะแสดงความสามารถ

 

ฟางหยวนต้องการวิญญาณอมตะขีดจำกัดชื่อเสียงเพื่อสนับสนุนค่ายกลวิญญาณและทำกำไรให้กับตระกูลวู

 

วูหยงลังเล

 

แต่เขาเชื่อฟางหยวน

 

เขาไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของวูอี้ไห่

 

สิ่งที่ทำให้วูหยงลังเลคือแผนการของฟางหยวน มันจะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด หากล้มเหลว สถานการณ์ทางการเมืองของตระกูลวูจะเป็นอย่างไร?

 

ในฐานะผู้นำ เขาต้องมองการณ์ไกล เขาไม่สามารถฉกฉวยผลประโยชน์เล็กๆที่อยู่ตรงหน้าโดยไม่คิดให้รอบคอบ

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset