Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – บทที่ 1374 บินจากไป

เทพปีศาจจิตวิญญาณเป็นผู้อมตะระดับเก้าที่สร้างเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ

 

แล้วตัวตนเช่นนี้จะถูกค้นวิญญาณโดยง่ายได้อย่างไร

 

เทพปีศาจปล้นสวรรค์บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งห้วงมิติ เขาสามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะผนึกศักดิ์สิทธิ์และผนึกภูตผีที่สามารถใช้งานได้อย่างถาวรและไม่พึ่งพาพลังงานอมตะ

 

แม้เทพปีศาจจิตวิญญาณจะไม่มีพลังงานอมตะและวิญญาณอมตะ เขาก็ไม่ควรถูกมองข้าม

 

ราชันภูเขาม่วงมอบมรดกทั้งหมดของเขาให้ฟางหยวน นี่เป็นกำไรที่เหนือกว่าความคาดหมายของเขาไปไกลมาก

 

‘ราชันภูเขาม่วงต้องการช่วยคนเหล่านี้แม้เขาจะไม่ได้กล่าวออกมา เขาอาจกลัวว่าข้าจะสงสัยและไม่ยอมรับของขวัญจากเขา?’

 

‘เขาทุ่มสุดตัวเพื่อสิ่งนี้’

 

‘หากข้าสามารถใช้ประโยชน์จากคนเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่ พวกเขาจะช่วยข้าได้มาก พวกเขาไม่เหลือทางเลือกอื่นแล้ว พวกเขาต้องยอมรับข้าเท่านั้น’

 

‘เช่นนั้นข้าก็จะพาพวกเจ้าไปด้วย’

 

ฟางหยวนไม่เคยเป็นคนใจแคบ

 

เขาเป็นคนเช่นนี้ตั้งแต่ก่อนเดินทางมายังโลกใบนี้ และหลังจากผ่านประสบการณ์มากมาย เขายิ่งใจกว้างมากขึ้น

 

ไป่หนิงปิง ไห่ลั่วหลัน และนางเสือดำเคยทรยศเขา

 

แต่แล้วอย่างไร?

 

ฟางหยวนเข้าใจการกระทำของพวกนางอย่างสมบูรณ์

 

เขาคิดถึงเรื่องเหล่านี้อยู่ในหัวเพียงเสี้ยวพริบตา

 

เขาเก็บเจตจำนงของราชันภูเขาม่วงเอาไว้ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

โดยปราศจากวิญญาณอมตะและพลังงานอมตะ ระดับภัยคุกคามจากเจตจำนงของราชันภูเขาม่วงแทบเป็นศูนย์

 

ในอนาคตเว้นเพียงเขาจะไม่มีทางเลือก ฟางหยวนจะไม่มอบวิญญาณอมตะและพลังงานอมตะให้กับเจตจำนงของราชันภูเขาม่วงอย่างแน่นอน

 

สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง ฟางหยวนไม่มีเวลาตรวจสอบกำไรของเขา

 

เขาเริ่มสื่อสารกับเจตจำนงของราชันภูเขาม่วง

 

เขาถามเกี่ยวกับวิธีควบคุมอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดที่ราชันภูเขาม่วงเคยกล่าวเอาไว้ก่อนหน้านี้

 

เกราะหวนคืนมีความเสี่ยงสูง อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเป็นตัวเลือกแรกของเขา

 

ข้อดีของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดคือความเร็วและความสามารถในการทะลวงมิติของมัน ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเป็นสัตว์อสูรแรกกำเนิดที่มีร่างกายแข็งแกร่งมาก

 

แต่เงื่อนไขแรกของฟางหยวนก็คือการควบคุมมัน

 

แม้ฟางหยวนจะมีวิญญาณอมตะขีดจำกัดชื่อเสียง แต่มันยังไม่ใช่ของเขา เขายืมมันมาจากตระกูลวู นอกจากนั้นมันยังเป็นเพียงวิญญาณอมตะระดับเจ็ด มันอาจไม่เพียงพอที่จะควบคุมสัตว์อสูรระดับแปด

 

ในไม่ช้าฟางหยวนก็เรียนรู้วิธีการของราชันภูเขาม่วง

 

สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือเขารู้วิธีการนี้เช่นกัน

 

นี่เป็นวิธีบนเส้นทางแห่งทาสและเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล มันเรียกว่า ทาสแปดสิบต่อร้อย

 

ผู้ที่คิดค้นวิธี้นี้เป็นผู้อมตะของทะเลตะวันออก เขาเกิดมาเป็นทาส เขาใช้ทุกโอกาสที่ได้รับปีนป่านขึ้นสู่จุดสูงสุดของชีวิต

 

เขาเป็นอัจฉริยะบนเส้นทางแห่งทาส

 

ปกติแล้ววิธีบนเส้นทางแห่งทาสจะใช้สถานะที่สูงกว่าปกครองสถานะที่ต่ำกว่า แต่เขากลับทำสิ่งตรงข้าม เขาใช้สัตว์อสูรที่มีสถานะต่ำกว่าปกครองสัตว์อสูรที่มีสถานะสูงกว่า

 

กองกำลังพันธมิตรผีดิบของทะเลตะวันออกครอบครองมรดกนี้เอาไว้ขณะที่เนื้อหาบางส่วนถูกขายให้สมาชิกของพวกเขา

 

ฉลามปีศาจเคยซื้อส่วนหนึ่งของมรดกนี้และใช้มันควบคุมฉลามนิ้วกาลเวลา

 

โชคไม่ดีที่เขาถูกกำหราบโดยนางมารผลาญสวรรค์และสุดท้ายพวกเขาทั้งหมดก็ถูกบูชายัญเพื่อหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะ

 

รากฐานของนิกายเงาลึกมาก ราชันภูเขาม่วงเป็นร่างแยกรุ่นแรกของเทพปีศาจจิตวิญญาณ แน่นอนว่าราชันภูเขาม่วงไม่ได้มีเพียงวิธีเดียวที่สามารถกดขี่สัตว์อสูรแรกกำเนิด แต่สิ่งที่ราชันภูเขาม่วงมอบให้ฟางหยวนในเวลานี้คือวิธีนี้

 

‘ท่าไม้ตายอมตะนี้เรียกว่าทาสแปดสิบต่อร้อย’

 

‘ท่าไม้ตายนี้ไม่ยาก ข้ามีวิญญาณอมตะที่จำเป็นทั้งหมด วิญญาณระดับมนุษย์สามารถซื้อได้จากสวรรค์สีเหลือง ดูหมือน…นิกายเงาจะพัฒนาท่าไม้ตายนี้ขึ้นไปอีกขั้นแล้ว’

 

‘สิ่งที่ข้าขาดตอนนี้คือสัตว์อสูรเดียวดายและสัตว์อสูรบรรพกาลประเภทนกอินทรีย์’

 

ความคิดของเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดก็กำลังเติบโตขึ้น

 

ฟางหยวนเริ่มซื้อสัตว์อสูรเดียวดายและสัตว์อสูรบรรพกาลประเภทนกอินทรีย์จากสวรรค์สีเหลือง

 

ตลาดสัตว์อสูรเดียวดายและสัตว์อสูรบรรพกาลในสวรรค์สีเหลืองใหญ่มาก

 

แต่นกอินทรีย์ค่อนข้างหายาก

 

ในเวลาเร่งด่วน ฟางหยวนไม่มีทางเลือกมากนัก เขาลังเลเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจ

 

เขาประกาศในสวรรค์สีเหลืองว่าเขาต้องการซื้อสัตว์อสูรประเภทนกอินทรีย์ในราคาสูงและยังสามารถแลกเปลี่ยนวิญญาณอมตะ

 

สิ่งนี้ทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นทันที

 

ใช้วิญญาณอมตะซื้อสัตว์อสูรเดียวดายและสัตว์อสูรบรรพกาล!?

 

วิญญาณอมตะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและหายากขณะที่สัตว์อสูรเดียวดายและสัตว์อสูรบรรพกาลง่ายที่จะเพาะเลี้ยงและฝึกฝน

 

เห็นได้ชัดว่าเขาขาดทุน

 

อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่สนใจมัน

 

ในไม่ช้าเขาก็ได้รับความสนใจจากผู้อมตะจำนวนมาก

 

“ข้ามีสัตว์อสูรเดียวดายและสัตว์อสูรบรรพกาลที่มีสายเลือดผสมของอินทรีย์สวรรค์ ท่านมีวิญญาณอมตะชนิดใด?” ผู้อมตะคนแรกถาม

 

อินทรีย์สวรรค์เลือดผสมไม่ใช่อินทรีย์ธรรมดา มันมีศีรษะเป็นอินทรีย์แต่มีร่างกายเป็นมนุษย์ มันมีกรงเล็บอันแหลมคมและมีเท้าเป็นเท้าอินทรีย์ แน่นอนว่ามันมีปีก

 

‘อินทรีย์สวรรค์เลือดผสมอาจมีรูปลักษณ์ที่แปลกประหลาด แต่มันก็เป็นอินทรีย์จริงๆ ข้าสามารถใช้งานมันได้’ ฟางหยวนคิดก่อนถาม “ท่านมีอยู่เท่าใด?”

 

“ข้ามีอินทรีย์สวรรค์เลือดผสมระดับสัตว์อสูรเดียวดายสามสิบสามตัวและมีระดับสัตว์อสูรบรรพกาลเจ็ดตัว” ผู้อมตะคนเดิมตอบกลับ

 

ฟางหยวนพยักหน้าและกล่าวโดยไม่ลังเล “ข้าจะซื้อพวกมันด้วยวิญญาณอมตะระดับหก”

 

“เพียงวิญญาณอมตะระดับหก? นี่เป็นสัตว์อสูรบรรพกาลเจ็ดตัว!” ผู้อมตะกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

 

ฟางหยวนตะโกน “หากไม่ขายก็หลีกทาง!”

 

ทัศนคติของผู้อมตะผู้นั้นเปลี่ยนไปทันที “โอ้ อย่าพึ่งโกรธ ข้าจะขาย ข้าจะขายพวกมัน! ข้าจะไม่ขายได้อย่างไร?”

 

ธุรกรรมเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็วและยิ่งสร้างความโกลาหลมากขึ้น

 

“เขาใช้วิญญาณอมตะซื้อสัตว์อสูรจริงๆ? นี่เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!”

 

“มีบางสิ่งผิดปกติกับสมองของเขา! อินทรีย์สวรรค์เลือดผสมเหล่านั้นยังไม่เพียงพอสำหรับความพยายามสิบครั้งในการหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับหก”

 

การหลอมรวมวิญญาณอมตะยากเกินไป มันมีโอกาสสำเร็จต่ำมาก

 

สิบครั้งอาจดูมาก แต่ในความเป็นจริง ผู้อมตะต้องใช้ความพยายามมากว่าห้าสิบหรือหกสิบครั้งเพื่อหลอมรวมวิญาณอมตะ

 

“มันไม่ใช่การหลอกลวง? คนผู้นี้กำลังมีปัญหาบางอย่าง?” ผู้อมตะบางคนสงสัย

 

“นี่คือสวรรค์สีเหลือง ผู้ใดจะสามารถหลอกลวง? แสงสมบัติเป็นของจริง”

 

“ถึงคราวของข้าแล้ว ข้ามีอินทรีย์สีรุ้งมากกว่าร้อยตัว” คนต่อไปเริ่มเจรจา

 

อินทรีย์สีรุ้งมีขนาดค่อนข้างเล็กและเป็นเพียงสัตว์อสูรเดียวดาย ไม่เคยมีอินทรีย์สีรุ้งระดับสัตว์อสูรบรรพกาลปรากฏขึ้นมาก่อน

 

อินทรีย์สีรุ้งไม่แข็งแกร่ง พวกมันชอบไล่ตามสายรุ้ง สิ่งเดียวที่พวกมันมีคือความเร็วที่โดดเด่น

 

“เอาล่ะ วิญญาณอมตะระดับหกดวงนี้จะเป็นของเจ้า” ฟางหยวนพร้อมซื้อ

 

ผู้ขายถาม “เราสามารถเปลี่ยนเป็นวิญญาณอมตะดวงอื่นหรือไม่? ข้าใช้ความพยายามนานกว่าร้อยปีเพื่อเลี้ยงดูพวกมัน”

 

ทัศนคติของฟางหยวนยังมั่นคง “หากไม่แลกเปลี่ยนก็ไปซะ!”

 

“ไม่ ไม่ ไม่”

 

“จะแลกเปลี่ยนหรือไม่?”

 

“แลก แลก แลก!”

 

ฟางหยวนพยักหน้าและถอนหายใจ “หากข้าไม่ต้องการนกอินทรีย์อย่างเร่งด่วน พวกเจ้าจะได้รับผลประโยชน์เหล่านี้งั้นหรือ? เร็วเข้า นำวิญญาณอมตะไปและส่งสินค้ามา เวลาของข้ามีค่ามาก”

 

จากนั้นผู้อมตะทั้งหมดจึงเริ่มเรียกฟางหยวนว่าผู้อาวุโส

 

ความโกลาหลในสวรรค์สีเหลืองดึงดูดความสนใจของผู้อมตะทั้งห้าภูมิภาค

 

แน่นอนว่าท่ามกลางพวกเขามีวังสวรรค์และถ้ำสวรรค์นิรันดรรวมอยู่ด้วย

 

อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถหยุดฟางหยวน

 

สวรรค์สีเหลืองรักษาความเป็นกลางเสมอ ไม่มีผู้ใดรู้ตำแหน่งที่ตั้งของมัน และไม่มีผู้ใดมีอิทธิพลเหนือมัน

 

ในช่วงเวลาสั้นๆ ฟางหยวนสามารถรวบรวมสัตว์อสูรเดียวดายและสัตว์อสูรบรรพกาลประเภทนกอินทรีย์ได้เป็นจำนวนมาก

 

แต่เขาก็ต้องจ่ายด้วยวิญญาณอมตะระดับหกสามดวงและวิญญาณอมตะระดับเจ็ดอีกหนึ่งดวง

 

นอกจากนั้นเขายังสามารถรวบรวมวิญญาณระดับมนุษย์ที่จำเป็นทั้งหมด

 

ฟางหยวนเริ่มกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะทาสแปดสิบต่อร้อย

 

แม้เขาจะไม่สามารถเสียเวลาแม้แต่วินาทีในสถานการณ์ปัจจุบัน แต่เขายังระมัดระวังมากในความพยายามครั้งแรก

 

“พรวด!”

 

เขากระอักเลือดออกมาและล้มเหลว

 

บุรุษคนก่อนหน้า!

 

ฟางหยวนฟื้นตัวขึ้นทันที

 

เขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะทาสแปดสิบต่อร้อยอีกครั้ง

 

ล้มเหลว!

 

หลังจากล้มเหลวสามครั้ง เขาก็ประสบความสำเร็จในครั้งที่สี่

 

แสงสว่างขึ้นบนร่างของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด

 

มันเงยหน้ากรีดร้องก่อนจะก้มศีรษะยอมจำนนต่อฟางหยวน

 

“สำเร็จ!” ฟางหยวนยังไม่ได้ดื่มด่ำกับช่วงเวลาแห่งความสุขขณะที่ไห่ลั่วหลันส่งเสียงมา “เร็วๆนี้ข้าจะสูญเสียการควบคุมค่ายกลวิญญาณ!”

 

ฟางหยวนกัดหันแน่น เขาปล่อยอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดออกมาทันที

 

“อย่าคิดว่าสามารถหลบหนี!” เสียงที่แฝงความผิดหวังของเทพธิดาจื่อเว่ยดังขึ้น

 

ฟางหยวนกลายเป็นผู้นำคนใหม่ของนิกายเงาภายใต้จมูกของนางและยังพยายามหลบหนีโดยไม่แยแสการคงอยู่ของนางแม้แต่น้อย

 

แต่ในจังหวะนี้ฟางหยวนกลับนำเจตจำนงของราชันภูเขาม่วงออกมาพร้อมกับวิญญาณอมตะและพลังงานอมตะ

 

“ฟางหยวน จำสิ่งที่ข้าบอกเจ้าให้ดี รีบไป” เจตจำนงของราชันภูเขาม่วงกล่าวก่อนจะส่งท่าไม้ตายอมตะพุ่งไปยังค่ายกลวิญญาณ

 

ในเวลาต่อมาอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดก็นำฟางหยวนและคนอื่นๆทะลวงห้วงมิติออกไปจากค่ายกลวิญญาณ

 

ด้วยการกระพือปีกเพียงครั้งเดียว มันทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

 

ด้วยการกระพือปีกครั้งที่สอง มันกลายเป็นจุดเล็กๆที่ขอบฟ้าและหายไปจากมุมมองสายตาของทุกคน

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset