Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – บทที่ 1416 การมาถึงของหงหยุน

ฟางหยวนไม่สามารถบังคับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

 

แม้เขาจะต้องการสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะชำระล้างตัวเองแต่ปราศจากวิญญาณอมตะที่สำคัญเขาก็ไม่สามารถทำได้

 

‘นอกจากนั้นข้ายังต้องหยิบยืมพลังของนิกายหลางหยาเพื่อหลอมรวมวิญญาณ’

 

ฟางหยวนได้รับมรดกของราชันภูเขาม่วง แต่เขายังขาดวิญญาณอมตะ เขามีแผนการที่จะหลอมรวมวิญญาณอมตะอีกมากมาย

 

หากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาปฏิเสธ แล้วเขาจะทำอย่างไร?

 

ฟางหยวนต้องพิจารณาถึงปัญหานี้

 

เขามักจะทำสิ่งต่างๆโดยคำนึงถึงผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดก่อนเสมอ

 

‘หากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาปฏิเสธที่จะให้ยืมวิญญาณอมตะยันต์ค่ายกล ข้าต้องใช้มิติช่องว่างของผู้อื่น’

 

ฟางหยวนมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าจำนวนมาก มันเป็นเรื่องยากที่เขาจะเข้าไปในมิติช่องว่างของสมาชิกนิกายเงาคนอื่นๆ

 

เว้นเพียงพวกเขาจะวางมิติช่องว่างลงเพื่อสร้างสมดุลเท่านั้น

 

หลังจากฟางหยวนเข้าสู่มิติช่องว่างของอีกคน เขาจะใช้วิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเพื่อเร่งเวลาของที่นั่น

 

ด้วยวิธีนี้หนึ่งวันของโลกภายนอกก็อาจเท่ากับหนึ่งเดือนในมิติช่องว่าง

 

สิ่งนี้จะช่วยให้เขาได้รับเวลาอันมีค่าในการทำงาน

 

เขาจะสามารถชำระล้างร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งข้อมูลทั้งหมด

 

นี่คือแผนการของฟางหยวนในกรณีที่เขาไม่มีทางเลือกอื่น

 

แต่วิธีนี้มีข้อบกพร่องร้ายแรงเช่นกัน

 

หลังจากวางมิติช่องว่างลง พวกเขาต้องหยุดเดินทางขณะที่วังสวรรค์กำลังไล่ล่าพวกเขา มีความเป็นไปได้สูงมากที่ศัตรูจะมีวิธีทะลวงเข้าสู่แดนศักดิ์สิทธิ์

 

นอกจากนั้นหากฟางหยวนปรับเปลี่ยนเวลาในมิติช่องว่างบ่อยเกินไป สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาในมิติช่องว่างของพวกเขาจะเกิดความปั่นป่วนและจะทำให้เวลาในมิติช่องว่างของพวกเขาหยุดเดิน

 

จากการคำนวณ ฟางหยวนตระหนักว่าหากเขาใช้วิธีนี้กับผู้ใด คนผู้นั้นจะพบภัยพิบัติทันที

 

นี่เป็นเรื่องยากลำบาก

 

เจตจำนงสวรรค์พยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารฟางหยวน

 

แม้ฟางหยวนจะใช้มิติช่องว่างของอีกคน แต่เจตจำนงสวรรค์ก็ยังมองเห็นทุกอย่างและสามารถจัดการฟาหงยวนในภัยพิบัติ มันจะใช้พลังทั้งหมดเพื่อสังหารผู้อมตะที่ฟางหยวนเลือกระหว่างภัยพิบัติอย่างแน่นอน

 

ฟางหยวนและคนอื่นๆสามารถร่วมมือกันต่อต้านภัยพิบัติ

 

แต่วังสวรรค์กำลังไล่ล่าพวกเขา

 

เมื่อพิจารณาจากเวลาและความเร็ว วิธีการวางมิติช่องว่างลงเพื่อกำจัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งข้อมูลมีความเสี่ยงสูงมาก พวกเขาต้องต่อสู้กับภัยพิบัติและยังต้องเผชิญหน้ากับผู้อมตะจากวังสวรรค์ในเวลาเดียวกัน

 

มันเสี่ยงเกินไป

 

หากฟางหยวนใช้มิติช่องว่างจักรพรรดิ มันจะยิ่งอันตราย

 

ฟางหยวนมีความกังวลข้อหนึ่ง ‘ก่อนหน้านี้มีเพียงฟงจิวเก้อที่ไล่ล่าพวกเรา ข้าสงสัยว่าผู้อมตะจากวังสวรรค์จะปรากฏตัวขึ้นกี่คนในครั้งต่อไป!?’

 

ดังนั้นในช่วงเวลานี้ฟางหยวนจึงต้องเดินทางอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่เปิดโอกาสให้วังสวรรค์ปิดล้อมพวกเขา

 

ทะเลทรายตะวันตกใหญ่โตมาก วังสรรค์ต้องเข้าสู่ภูมิภาคอื่น ขณะเดียวกันฟางหยวนก็สามารถใช้ค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศเคลื่อนย้ายสถานที่ มันเป็นเรื่องยากที่ฝ่ายตรงข้ามจะค้นหาและฆ่าพวกเขา

 

เมื่อถึงเวลาที่กำหนด หลายร่างก็บินเข้ามาหาฟางหยวน

 

พวกเขาก็คือไป่หนิงปิง ไห่ลั่วหลัน และคนอื่นๆ

 

โดยปกติแล้วเมื่อฟางหยวนอนุมาน พวกเขาจะกระจายตัวออกไปเพื่อเฝ้าระวังสภาพแวดล้อม

 

“ฟางหยวน เมื่อใดค่ายกลวิญญาณอมตะชำระล้างตัวเองจะเสร็จสมบูรณ์? เราต้องวิ่งต่อไปอีกนานเท่าใด?” ไป่หนิงปิงบินลงมาและขมวดคิ้วถาม

 

ฟางหยวนไม่จำเป็นต้องมองไปรอบๆ เขารู้สึกได้ว่าทุกคนกำลังมองมาที่เขาด้วยคำถามเดียวกัน

 

“รออีกหน่อย” ฟางหยวนกล่าว

 

ไป่หนิงปิงก่นเสียงเย็นด้วยความไม่พอใจ

 

นางเป็นคนใจร้อนที่สุดในกลุ่ม วิถีชีวิตเช่นนี้ไม่น่าตื่นเต้น นางรู้สึกเบื่อหน่าย

 

“เจ้าไม่จำเป็นต้องสร้างค่ายกลวิญญาณนั้น เพียงจัดตั้งค่ายกลวิญญาณล่อลวงศัตรูและสังหารพวกเขาให้หมด!” ไป่หนิงปิงแนะนำ

 

ฟางหยวนส่ายศีรษะ “เจ้าคิดว่ามันง่ายงั้นหรือ? เราจะหาสาขาของสายธารแห่งกาลเวลามากมายมาจากที่ใด?”

 

ค่ายกลวิญญาณที่เคยทำร้ายฟงจิวเก้อก่อนหน้านี้มาจากมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน

 

ไห่ฟานสร้างค่ายกลวิญญาณนี้ขึ้นมาเพื่อป้องกันสัตว์อสูรแรกกำเนิด

 

เนื่องจากวิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำจะดึงดูดอสูรปีแรกกำเนิดให้เข้าสู่มิติช่องว่างของผู้อมตะผ่านสาขาของสายธารแห่งกาลเวลา ดังนั้นไห่ฟานจึงต้องใช้ค่ายกลวิญญาณนี้เพื่อบังคับให้อสูรปีแรกกำเนิดกลับไปในสายธารแห่งกาลเวลา

 

แน่นอนว่าวิธีนี้เป็นไพ่ตายที่สามารถใช้ในเวลาที่ไม่มีทางเลือกอื่นเท่านั้น

 

ด้วยการทำลายสาขาของสายธารแห่งกาลเวลา เวลาในมิติช่องว่างจะหยุดนิ่ง มันเป็นเรื่องยากที่จะดึงสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาเข้าไปอีกครั้ง

 

“ข้ารู้สึกเช่นเดียวกัน ข้าไม่ชอบการถูกตามล่า”

 

“แต่ข้าจะรวบรวมความเกลียดชังเอาไว้ในใจเพื่อรอเวลาที่เหมาะสมในการตอบโต้และจัดการคนเหล่านั้นอย่างรุนแรง”

 

“นั่นคือสิ่งที่เจ้าต้องการมิใช่หรือ? ความตื่นเต้นในอนาคต”

 

“ฮืม!” ไป่หนิงปิงก่นเสียงเย็นอีกครั้งและหยุดกล่าว

 

“เอาล่ะ ไปกันเถอะ ที่นี่ไม่ปลอดภัยแล้ว” ฟางหยวนพึ่งกล่าวจบเมื่อการแสดงออกของไป่หนิงปิงและคนอื่นๆเปลี่ยนไป

 

บนท้องฟ้า เมฆสีแดงลอยลงมา

 

นางรำหงหยุน!

 

นางมองมาที่ฟางหยวนและคนอื่นๆที่อยู่บนเนินทราย

 

“สนมซุ้ย พวกเขาคือผู้ใด? เหตุใดเจ้าถึงอยู่กับพวกเขา?” นางรำหงหยุนถามด้วยน้ำเสียงตำหนิ

 

สนมซุ้ยก็คือเทพธิดาซุ้ยป๋อ

 

“หงหยุน?” อิงอู๋เซี่ยรู้สึกประหลาดใจก่อนที่นางจะเปิดปากถามด้วยการแสดงออกที่สนุกสนาน “เหตุใดเจ้าถึงมาที่นี่?”

 

เมฆสีแดงเคลื่อนลงมาอย่างช้าๆขณะที่นางรำหงหยุนเฝ้ามองเทพธิดาซุ้ยป๋อผู้นี้

 

อิงอู๋เซี่ยใช้ร่างกายของเทพธิดาซุ้ยป๋อโดยการสลับวิญญาณ เป็นธรรมดาที่มันจะมีข้อบกพร่องบางอย่าง

 

หากเป็นผู้อมตะทั่วไป นางรำหงหยุนอาจเห็นข้อบกพร่อง แต่นี่คืออิงอู๋เซี่ย

 

แล้วอิงอู๋เซี่ยคือผู้ใด?

 

เขาคือร่างแยกของเทพปีศาจจิตวิญญาณ รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของเขาเหนือกว่าฟางหยวนหลายเท่า

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณเป็นผู้สร้างเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ เขามีร่างแยกจำนวนนับไม่ถ้วน ร่างแยกเหล่านี้แฝงตัวอยู่ในห้าภูมิภาคได้อย่างไร้ข้อบกพร่อง แน่นอนว่าอิงอู๋เซี่ยต้องมีวิธีปกปิดร่องรอยของตนเอง

 

ดังคาดหลังจากนางรำหงหยุนใช้วิธีตรวจสอบของนาง นางไม่พบสิ่งผิดปกติกับเทพธิดาซุ้ยป๋อผู้นี้

 

การแสดงออกของนางดูอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย “เจ้ากำลังมีปัญหา ป้ายวิญญาณและโคมไฟวิญญาณของเจ้าได้รับผลกระทบ ข้ากับสามีเป็นห่วงเจ้า ดังนั้นข้าจึงออกมาช่วยเจ้า แต่ดูเหมือนเจ้าจะสบายดี”

 

นางรำหงหยุนถามอีกครั้ง “พวกเขาคือผู้ใด? หือ เหตุใดข้าถึงรู้สึกคุ้นเคยกับพวกเขา?”

 

นางรำหงหยุนมองไปที่ฟางหยวน

 

ทันใดนั้นการแสดงออกของนางก็เปลี่ยนแปลงไป นางตกใจมาก “หลิวกวนซื่อ?”

 

นางรำหงหยุนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง เป็นเรื่องธรรมดาที่นางจะได้รับข้อมูลมากกว่าผู้อมตะทั่วไป

 

และตอนนี้ฟางหยวนก็อยู่ในร่างที่แท้จริงของเขา

 

“เป็นข้า” ฟางหยวนตอบอย่างเย็นชาและสงบนิ่ง

 

นางรำหงหยุนถอยห่างออกไปเล็กน้อย

 

เผชิญหน้ากับหลิวกวนซือ นางรู้สึกถึงแรงกดดัน

 

นี่คือคนที่สามารถต่อสู้กับผู้อมตะระดับแปด!

 

ไม่นานมานี้ชื่อเสียงของเขาโด่งดังไปทั่วโลก สถานะของเขาเท่าเทียมกับฟงจิวเก้อ

 

‘โชคดีที่ข้ามีเจตจำนงของสามีและวิญญาณอมตะระดับแปด มิฉะนั้น…’ นางรำหงหยุนรู้สึกอุ่นใจขึ้นเมื่อนึกถึงเรื่องนี้

 

นางกล่าว “สนมซุ้ย เจ้าทำให้สามีและข้ากังวล เจ้ารวมกลุ่มกับผู้อมตะจากภูมิภาคอื่น นอกจากนั้นเจ้ายังไม่แม้แต่จะส่งข่าวถึงพวกเรา!”

 

นางรำหงหยุนมีเป้าหมายของนางเอง นางกล่าวเรื่องนี้เพื่อสร้างความบาดหมางระหว่างบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงและเทพธิดาซุ้ยป๋อ

 

บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงชื่นชอบเทพธิดาซุ้ยป๋อมากที่สุด แน่นอนว่านางรำหงยุนอิจฉามาก ดังนั้นนางจะไม่ทิ้งโอกาสที่จะโจมตีเทพธิดาซุ้ยป๋อ

 

นางกล่าวกับอิงอู๋เซี่ยแต่แท้จริงแล้วเป้าหมายของนางคือเจตจำนงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง

 

สายตาของฟางหยวนกลายเป็นมืดครึ้มขณะที่ไป่หนิงปิงและไห่ลั่วหลันมองหน้ากัน

 

คำกล่าวของนางรำหงหยุนชัดเจนว่านางไม่สนใจหลิวกวนซือ ความมั่นใจของนางย่อมมาจากพลังอำนาจที่อยู่เบื้องหลังนาง

 

ฟางหยวน ไป่หนิงปิง ไห่ลั่วหลันเข้าใจเรื่องนี้ แต่อิงอู๋เซี่ย เทพธิดาเมี่ยวหยิน และเทพธิดากระต่ายขาวไม่ตระหนักถึง

 

“เอาล่ะ เล่าเรื่องของเจ้ามา ซุ้ยป๋อ ข้าอยากรู้มาก” เป็นเพียงเวลานี้ที่เจตจำนงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงออกมาจากร่างของนางรำหงหยุน

 

‘นางมีไพ่ตาย’ อิงอู๋เซี่ยคิด

 

‘นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญ มาดูกันว่าอิงอู๋เซี่ยจะผ่านมันไปได้อย่างไร?’ ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น

 

ไป่หนิงปิงและคนอื่นๆกังวลเล็กน้อย

 

อิงอู๋เซี่ยเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วแต่ในความเป็นจริงเขายังเด็ก ทักษะการแสดงของเขาด้อยกว่าฟางหยวน มันเป็นเรื่องยากที่บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงจะไม่รู้สึกถึงข้อบกพร่องบางอย่างจากการแสดงของอิงอู๋เซี่ย

 

แล้วเขาจะทำได้หรือไม่?

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset