Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – บทที่ 1423 ยกระดับหมื่นตัวตน

ทะเลทรายตะวันตก

 

บนท้องฟ้าที่สดใส ดวงอาทิตย์กำลังส่องแสง

 

อาณาจักรแห่งความฝันสีแดงลอยอยู่กลางอากาศ

 

นางรำหงหยุนและเจตจำนงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงถูกขังอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝันและไม่สามารถหลบหนี

 

นางบำเรอรัตติกาลและนางกำนัลชิงเหลียนบินไปรอบๆอาณาจักรแห่งความฝัน

 

วิญญาณหลายดวงบินออกมาจากมือของพวกนางและถูกจัดตั้งไว้รอบๆอาณาจักรแห่งความฝัน

 

พวกนางกำลังสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะเพื่อปิดผนึกอาณากจักรแห่งความฝันนี้

 

เหตุผลก็คือทุกกองกำลังบนโลกใบนี้กำลังค้นคว้าเกี่ยวกับอาณาจักรแห่งความฝัน

 

ในยุคนี้มีผู้อมตะเพียงไม่กี่คนที่มีวิธีการต่อต้านอาณาจักรแห่งความฝัน

 

แม้บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงจะเป็นผู้อมตะระดับแปดและได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่ง แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกใดๆต่อหน้าอาณาจักรแห่งความฝัน

 

แต่เขาไม่สามารถละทิ้งนางรำหงหยุนและวิญญาณอมตะระดับแปด

 

หลังจากไตร่ตรอง บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงจึงตัดสินใจผนึกอาณาจักรแห่งความฝันเอาไว้

 

“มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น”

 

“ข้าจะดูแลความปลอดภัย เจ้าจงทำขั้นตอนสุดท้ายให้สำเร็จ”

 

นางบำเรอรัตติกาลเฝ้าระวังขณะที่นางกำนัลชิงเหลียนกำลังจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะ

 

ท่ามกลางนางสนมของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง นางบำเรอรัตติกาลมีพลังการต่อสู้สูงที่สุด นางกำนัลชิงเหลียนยังด้อยกว่านาง

 

ก่อนหน้านี้เมื่อทั้งสองได้ยินเสียงลึกลับบอกตำแหน่งของเทพธิดาซุ้ยป๋อ พวกนางตื่นตัวอย่างมาก

 

นางกำนัลชิงเหลียนนำวิญญาณอมตะระดับเจ็ดออกมาเพื่อจัดตั้งค่ายกลวิญญาณ

 

‘วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกฎส่งผ่าน?’ เมื่อเห็นวิญญาณอมตะดวงนี้ ดวงตาของฟงจิวเก้อที่ซ่อนตัวอยู่ส่องประกายขึ้น

 

‘หากข้ามีวิญญาณอมตะส่งผ่าน ข้าจะสามารถขยายระยะเวลาของท่าไม้ตายอมตะเพลงทางผ่านแสง นอกจากนั้นข้ายังสามารถลดจำนวนวิญญาณระดับมนุษย์และความความยุ่งยากในการกระตุ้นใช้งานมันได้อีกด้วย’

 

‘ผู้ใดจะคิดว่าบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงจะมีวิญญาณอมตะดวงนี้’

 

ฟงจิวเก้อถอนหายใจ

 

‘แม้ข้าจะมีท่าไม้ตายอมตะเพลงรับสมบัติที่ช่วยให้ข้าสามารถปรับแต่งวิญญาณอมตะป่า แต่ในสถานการณ์นี้ โอกาสประสบความสำเร็จมีน้อยเกินไป’

 

นางบำเรอรัตติกาลและนางกำนัลชิงเหลียนระวังตัวมาก เป็นเรื่องยากที่บางคนจะคว้าวิญญาณอมตะไปจากพวกนาง อาจมีเพียงเทพปีศาจปล้นสวรรค์เท่านั้นที่ทำได้

 

วิญญาณอมตะส่งผ่านเป็นแกนกลางของค่ายกลวิญญาณอมตะของพวกนาง

 

หลังจากจัดตั้งค่ายกลวิญญาณสำเร็จ นางบำเรอรัตติกาลและนางกำนัลชิงเหลียนจึงสามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

“เอาล่ะ เราสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะสำเร็จแล้ว”

 

“ด้วยค่ายกลวิญญาณนี้ เราสามารถมาที่นี่ได้เกือบทันที  มาดูกันว่าผู้ใดจะกล้าล้อเล่นกับพวกเรา!”

 

ผู้อมตะหญิงทั้งสองเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร

 

แต่ฟงจิวเก้อไม่ปรากฏตัวตั้งแต่ต้นจนจบ

 

เมื่อไม่เห็นผู้ใด ผู้อมตะหญิงทั้งสองรู้สึกโล่งใจแต่ก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

 

จากนั้นพวกนางก็จากไป

 

ฟงจิวเก้อติดตามพวกนางไปชั่วครู่ก่อนจะตระหนักว่าจุดหมายของพวกนางก็คือทะเลทรายหมื่นรูปปั้น

 

‘แปลก เหตุใดพวกนางไม่ไปหาเทพธิดาซุ้ยป๋อ? ตามบุคลิกของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง เขาจะไม่ทำสิ่งใดเลยได้อย่างไร? อย่าบอกว่าเกิดบางสิ่งขึ้นกับบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง?’

 

ฟงจิวเก้อได้รับข้อมูลมากมายจากวังสวรรค์ เขาเข้าใจความคิดของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง คนผู้นี้เป็นคนเอาแต่ใจและเจ้าคิดเจ้าแค้น ดังนั้นฟงจิวเก้อจึงใช้แผนการนี้ แต่บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงกลับไม่หลงกล เขาเพิกเฉยต่อเทพธิดาซุ้ยป๋ออย่างสิ้นเชิง

 

นี่เป็นเรื่องแปลก

 

แผนการของฟงจิวเก้อที่จะใช้บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงกดดันฟางหยวนล้มเหลวอย่างสมบูรณ์

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่ฟงจิวเก้อได้รับการติดต่อ

 

เขาจากมาอย่างลับๆและพบกับผู้อมตะระดับแปดของวังสวรรค์สองคนหลังเนินทราย

 

พวกเขาก็คือผู้อมตะสองคนที่ช่วยหยุดวูหยงในภาคใต้

 

ขณะที่ฟงจิวเก้อออกไล่ล่าฟางหยวน พวกเขาไล่ล่าอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด แต่น่าเสียดายที่อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดมีโชคที่เชื่อมต่อกับฟางฟยวน

 

ย้อนกลับไปเพื่อรักษาพลังการต่อสู้ระดับแปด ฟางหยวนใช้วิญญาณอมตะเชื่อมโยงโชคกับมันเพื่อที่เขาจะสามารถค้นหาตำแหน่งที่อยู่ของมัน

 

แม้ฟางหยวนจะมีวิธีตรวจสอบมากมาย แต่พิจารณาถึงความสามารถของผู้อมตะจากวังสวรรค์ ฟางหยวนจึงตัดสินใจใช้วิธีบนเส้นทางแห่งโชค

 

ท้ายที่สุดแล้วกองกำลังเดียวที่เป็นเลิศด้านโชคมีเพียงถ้ำสวรรค์นิรันดร

 

แม้เทพอมตะตะวันเดือดจะเป็นเทพอมตะแต่เขาไม่เคยเข้าร่วมกับวังสวรรค์หรือส่งมอบมรดกบนเส้นทางแห่งโชคให้วังสวรรค์

 

ดังนั้นหลังจากฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายอมตะผลาญวิญญาณระเบิดโชค โชคของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดจึงพุ่งสูงขึ้นและสามารถหลบหนี หลังจากนั้นลั่วเว่ยหยินได้ช่วยชีวิตมันเอาไว้และยังลบร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งข้อมูลทั้งหมดของวังสวรรค์ออกจากร่างของมันอีกด้วย

 

นี่ทำให้ผู้อมตะจากวังสวรรค์ไม่สามารถไล่ล่าอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดได้อีกต่อไป

 

พวกเขาล้มเหลวและถูกตำหนิโดยเทพธิดาจื่อเว่ย

 

หลังจากนั้นเทพธิดาจื่อเว่ยจึงส่งพวกเขามาเป็นกำลังเสริมให้กับฟงจิวเก้อ

 

“เรารู้เรื่องอาณาจักรแห่งความฝันแล้ว ทัศนคติของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงแปลกจริงๆ เราได้รับคำสั่งจากท่านหญิงจื่อเว่ย เราจะไปสืบข่าวเกี่ยวกับบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง” สองผู้อมตะจากวังสวรรค์กล่าว

 

การตอบสนองของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงต่างไปจากปกติ

 

ฟงจิวเก้อสามารถสัมผัสได้ถึงสิ่งผิดปกติบางอย่าง ดังนั้นเทพธิดาจื่อเว่ยที่เป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาย่อมสามารถอนุมานได้มากกว่า

 

นางอนุมานว่ามีโอกาสสูงมากที่ตอนนี้บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงกำลังได้รับบาดเจ็บและอ่อนแอมาก

 

หากพวกเขาตรวจสอบ บางทีพวกเขาอาจสามารถฉกชิงมรดกที่แท้จริงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง หรือแม้จะไม่ได้รับประโยชน์ใด มันก็ยังสามารถสร้างความปั่นป่วนให้กับทะเลทรายตะวันตกและการกำจัดผู้อมตะระดับแปดของทะเลทรายตะวันตกก็จะเป็นประโยชน์ต่อวังสวรรค์ในอนาคต

 

ท้ายที่สุดแล้วสงครามห้าภูมิภาคก็กำลังจะมาถึง

 

ภาคกลางต้องเผชิญหน้ากับสี่ภูมิภาค พวกเขาต้องเตรียมตัวและทำให้ภูมิภาคอื่นอ่อนแอลง

 

ฟางหยวนบินขึ้นไปบนท้องฟ้า

 

ไม่กี่วันที่ผ่านมาฟงจิวเก้อไม่ได้ไล่ล่าพวกเขา ดังนั้นฟางหยวนจึงหยุดใช้ค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศ

 

หลังจากทั้งหมดค่าใช้จ่ายของมันก็สูงเกินไป

 

ค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศมีไว้สำหรับกรณีฉุกเฉินเท่านั้น

 

สำหรับคนอื่นๆ พวกเขาเข้าไปในมิติช่องว่างของฟางหยวน

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น เขาบินลงไปด้านล่างอย่างช้าๆ

 

เมื่อเขาลงถึงพื้น เขาเปิดทางให้สมาชิกนิกายเงาออกมา

 

“ปกป้องข้า ข้าจะจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะชำระล้างตัวเองที่นี่” ฟางหยวนกล่าว

 

เขานั่งอยู่ตรงกลาง

 

ความจริงก็คือค่ายกลวิญญาณอมตะชำระล้างตัวเองได้ถูกจัดตั้งขึ้นแล้วในภาคกลางน้อย

 

แต่ค่ายกลวิญญาณอมตะนี้ยังไม่เป็นไปตามความคาดหวังของเขาอย่างสมบูรณ์

 

ตอนนี้ฟางหยวนกำลังหลอมรวมค่ายกลวิญญาณอมตะที่ได้รับมาจากนางรำหงหยุนเข้ากับค่ายกลวิญญาณอมตะชำระล้างตัวเอง

 

สองชั่วโมงต่อมา ใบหน้าของฟางหยวนก็ปกคลุมไปด้วยเหงื่อ เขาเปิดเปลือกตาขึ้นและปล่อยลมหายใจออกมา

 

สองค่ายกลวิญญาณอมตะรวมเป็นหนึ่ง

 

สิ่งสำคัญก็คือจิตวิญญาณค่ายกล

 

หลังจากหลอมรวมสองค่ายกลวิญญาณอมตะ จิตวิญญาณค่ายกลก็ถูกย้ายไปอยู่ในค่ายกลวิญญาณใหม่

 

เมื่อถึงจุดนี้ค่ายกลวิญญาณอมตะชำระล้างตัวเองก็เสร็จสมบูรณ์ มันสามารถกำจัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่ไม่พึงประสงค์ทั้งหมด

 

อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่รีบร้อนดำเนินการ เขานำวิญญาณอมตะรักตัวเองออกจากค่ายกลวิญญาณ

 

วิญญาณอมตะรักตัวเองเป็นแกนกลางของค่ายกลวิญญาณอมตะชำระล้างตัวเอง เมื่อมันถูกนำออกมา ค่ายกลวิญญาณอมตะจะพังทลายลง อย่างไรก็ตามค่ายกลวิญญาณนี้กลับไม่บุบสลาย

 

เหตุผลก็คือจิตวิญญาณค่ายกลสามารถกู้คืนมันด้วยการเพิ่มวิญญาณรักตัวเองระดับมนุษย์จำนวนมากเข้าไป

 

แต่วิธีนี้ใช้ได้เฉพาะกรณีฉุกเฉินเท่านั้น วิญญาณอมตะรักตัวเองยังเป็นแกนกลางที่เหมือนเสาหลักของอาคาร วิญญาณรักตัวเองระดับมนุษย์เป็นเพียงการค้ำยันอาคารหลังนี้ไว้เพียงชั่วคราวเท่านั้น

 

เมื่อเวลาผ่านไป ค่ายกลวิญญาณนี้จะพังทลายลงในที่สุด

 

ฟางหยวนคาดว่ามันจะคงอยู่ได้ประมาณสิบสี่ชั่วโมง

 

หากเขานำวิญญาณอมตะรักตัวเองกลับเข้าไปในเวลาที่กำหนด ค่ายกลวิญญาณจะไม่แตกสลาย

 

ฟางหยวนนำวิญญาณอมตะรักตัวเองออกเพื่อทดสอบความสามารถของจิตวิญญาณค่ายกล

 

อย่างไรก็ตามเขายังมีวัตถุประสงค์อื่น

 

วิญญาณอมตะรักตัวเองและวิญญาณอมตะความใคร่บินอยู่กลางอากาศในมิติช่องว่างจักรพรรดิขณะที่ฟางหยวนส่งพลังงานอมตะให้พวกมันและใช้งานวิญญาณระดับมนุษย์อีกมากมาย

 

ในเวลาต่อมาฟางหยวนได้สร้างเจตจำนงของตนเองจำนวนมหาศาลขึ้นรางกับคลื่นยักษ์

 

หลังจากนั้นเจตจำนงก็หลอมรวมกันจนกลายเป็นยักษ์ที่สูงสามสิบเมตร มันอยู่ในรูปลักษณ์ของฟางหยวน

 

“ต่อไป…” ฟางหยวนสูดหายใจลึกและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตน

 

ในเวลาต่อมาร่างยักษ์ก็หายไปและเปลี่ยนเป็นภูตมนุษย์จำนวนนับไม่ถ้วนอยู่ในภาคกลางน้อย

 

“สำเร็จ! ท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตนก้าวเข้าสู่ระดับใหม่แล้ว มันจะทำให้พลังการต่อสู้ของข้าเพิ่มสูงขึ้นอีกมาก!” ฟางหยวนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง

 

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset