Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – บทที่ 1465 ความแข็งแกร่งพุ่งทะยาน

แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ทวีปเมฆา

 

ฟางหยวนอยู่เพียงลำพังบนลานกว้าง

 

เขาสูดหายใจลึกและสงบจิตใจก่อนจะกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะ

 

‘ความคิดอุกกาบาตเพลิง’ ฟางหยวนกล่าวในใจ

 

ดวงตาของเขาส่องแสดงสีม่วงขณะที่หินอุกกาบาตขนาดเล็กปรากฏขึ้นรอบตัวเขา

 

หินอุกกาบาตเหล่านี้ลุกเป็นไฟแต่มันไม่มีความร้อน

 

“ไป” ฟางหยวนตะโกน หินอุกกาบาตที่ลอยอยู่รอบๆพุ่งออกไป

 

อุกกาบาตเพลิงขยายใหญ่ขึ้นนับร้อยนับพันเท่าในครั้งเดียว ท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยหินเหล่านี้

 

ต่อมาพวกมันก็พุ่งลงบนพื้นเมฆและทำให้เกิดทุ่งเพลิงที่ไร้ความร้อนและไร้เสียง

 

หลังจากทั้งหมดพวกมันไม่ใช่หินอุกกาบาตที่แท้จริงแต่เกิดจากกลุ่มก้อนความคิด

 

นี่คือท่าไม้ตายอมตะสายโจมตีของราชันภูเขาม่วง ความคิดอุกกาบาตเพลิง

 

จากนั้นฟางหยวนก็ชี้นิ้วออกไป

 

เปลวเพลิงดับลงขณะที่ดอกไม้ผลิบานขึ้นจากหลุมอุกกาบาตและทำให้เกิดทุ่งดอกไม้หลากหลายสีสัน

 

มันคือท่าไม้ตายอมตะความคิดดอกไม้เบ่งบานของราชันภูเขาม่วง

 

“น่าเสียดายที่เป้าหมายของข้าไม่ใช่ผู้อมตะ ดินเมฆไม่มีความคิด ดอกไม้เหล่านี้ไร้ประโยชน์และมีไว้เพื่อตกแต่งเท่านั้น” ด้วยเจตจำนงของฟางหยวน ทุ่งดอกไม้หายไปทันที

 

ร่างของฟางหยวนสั่นเบาๆ

 

ท่าไม้ตายอมตะร่างแยกความคิด!

 

ทันใดนั้นร่างแยกจำนวนนับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้น

 

ภายในไม่กี่ลมหายใจ พวกมันก็เพิ่มขึ้นนับแสนร่าง

 

ร่างจริงของฟางหยวนซ่อนอยู่ท่ามกลางพวกมันและไม่สามารถตรวจพบหากปราศจากท่าไม้ตายอมตะสายตรวจสอบที่ทรงพลัง

 

ท่าไม้ตายนี้คล้ายกับท่าไม้ตายดั้งเดิมของฟางหยวน

 

นั่นคือหมื่นตัวตนและใบหน้าที่คุ้นเคย

 

แต่ท่าไม้ตายอมตะของราชันภูเขาม่วงเหนือกว่าเพราะมันเกิดจากท่าไม้ตายเดียวขณะที่ส่งผลลัพธ์เทียบเท่ากับสองท่าไม้ตายอมตะของฟางหยวนและใช้พลังงานอมตะน้อยกว่า

 

ยังมีข้อได้เปรียบอีกหนึ่งประการ ท่าไม้ตายอมตะร่างแยกความคิดสร้างร่างแยกได้เร็วกว่าท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตน

 

แต่ข้อเสียของมันคือร่างแยกเหล่านี้ไม่มีพลังโจมตี พวกมันมีไว้เพื่อปกปิดร่างจริงเท่านั้น แต่ท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตนสามารถสร้างร่างแยกที่มีพลังโจมตีเป็นของตัวมันเอง

 

ฟางหยวนหยุดใช้ร่างแยกความคิดก่อนจะส่งหมอกออกจากฝ่ามือ

 

นี่คือท่าไม้ตายอมตะหมอกสับสน มันจะทำให้ผู้อมตะสูญเสียการรับรู้ทิศทาง

 

ต่อมาฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายอมตะเกราะความคิด

 

หลังจากนั้นเขายังใช้ท่าไม้ตายอมตะแสงแห่งปัญญาสีม่วง!

 

มันเป็นท่าไม้ตายที่ซับซ้อนที่สุดแต่ก็ทรงพลังที่สุดเช่นกัน

 

มันอนุญาตให้ผู้ใช้งานได้รับข้อมูลและเรียนรู้ท่าไม้ตายของศัตรู

 

เมื่อมันรวบรวมข้อมูลได้มากพอ ฟางหยวนจะสามารถใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาเพื่อจัดการท่าไม้ตายของศัตรูระหว่างการต่อสู้

 

สุดท้ายยังมีท่าไม้ตายอมตะสลายเจตจำนงที่สามารถคลี่คลายท่าไม้ตายของฝ่ายตรงข้าม

 

ฟางหยวนพยายามใช้มันแต่เขาประสบความสำเร็จหลังจากความพยายามครั้งที่สาม

 

ระหว่างกระบวนการนี้เขาได้รับบาดเจ็บ

 

แต่ด้วยการคงอยู่ของวิญญาณอมตะบุรุษคนก่อนหน้า เขาไม่กลัวอาการบาดเจ็บดังกล่าว

 

‘หลังจากฝึกฝนมาหลายวัน ข้าก็เข้าใจวิธีการของราชันภูเขาม่วงเกือบทั้งหมด’ ฟางหยวนคิด

 

ตอนนี้ผ่านมาครึ่งเดือนแล้วตั้งแต่เซี่ยเอ๋อมาหาเขา

 

ในช่วงเวลาเหล่านี้ฟางหยวนบ่มเพาะจิตวิญญาณและสามารถสะสมรากฐานได้ถึงระดับสิบล้านคนแล้ว

 

การพัฒนามิติช่องว่างเป็นไปอย่างราบรื่นและมั่งคง

 

นอกเหนือกจากนี้เขายังฝึกท่าไม้ตายอมตะ

 

การฝึกใช้ท่าไม้ตายอมตะเป็นเรื่องจำเป็น เนื่องจากการกระตุ้นใช้งานแต่ละครั้งมีความเสี่ยง หากมันล้มเหลว ตัวผู้ใช้งานจะได้รับอันตราย

 

ฟางหยวนมีมรดกจำนวนนับไม่ถ้วนและมีท่าไม้ตายอมตะอยู่มากมาย

 

อย่างไรก็ตามพื้นฐานของท่าไม้ตายอมตะคือวิญญาณอมตะ ฟางหยวนตัดสินใจฝึกฝนท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของราชันภูเขาม่วงเป็นอันดับแรกเพราะเขามีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาบางส่วนของราชันภูเขาม่วง

 

ราชันภูเขาม่วงเป็นร่างแยกรุ่นแรกของเทพปีศาจจิตวิญญาณ วิธีการของเขาทรงพลังและสามารถแข่งขันกับราชันมังกร

 

แม้ฟางหยวนจะไม่ได้รับวิญญาณอมตะทั้งหมดของราชันภูเขาม่วง แต่เขายังสามารถใช้แสงแห่งปัญญาเพื่อดัดแปลงท่าไม้ตายเหล่านั้น

 

หลังจากเสร็จสิ้นการฝึกฝนประจำวัน ฟางหยวนไปหาวิญญาณสติปัญญา

 

เขานั่งอยู่ด้านหน้าวิญญาณสติปัญญาและอาบแสงแห่งปัญญาเพื่อสรุปผลการฝึกฝนในครั้งนี้

 

ทุกครั้งหลังจากการฝึกฝน เขาจะทบทวนประสบการณ์ที่ได้รับและพัฒนาท่าไม้ตายให้ดีขึ้นไปอีก

 

โดยปกติแล้วการสร้างท่าไม้ตายขึ้นอยู่กับประสบการณ์ นิสัย และบุคลิกของผู้อมตะ

 

ท่าไม้ตายของผู้อื่นอาจไม่เหมาะสมกับตนเอง

 

ครู่ต่อมาฟางหยวนก็หยุดคิด ตอนนี้ไม่มีสิ่งใดที่เขาสามารถทำได้อีกต่อไป

 

‘หลังจากฝึกฝนและปรับเปลี่ยนมาหลายวัน ในที่สุดข้าก็ถึงขีดจำกัดแล้ว เพียงเมื่อความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของข้ายกระดับขึ้น ข้าจึงจะสามารถพัฒนาท่าไม้ตายเหล่านี้ได้อีกครั้ง’

 

ฟางหยวนไม่ฝืนตัวเอง

 

แต่การอนุมานในครั้งนี้ไม่ได้มุ่งเน้นที่เรื่องนี้ เขาพยายามสร้างท่าไม้ตายอมตะกินความแข็งแกร่ง

 

เดิมทีฟางหยวนมีวิญญาณอมตะกินความแข็งแกร่ง มันอนุญาตให้เขาดูดซับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าด้วยการกินเนื้อสัตว์อสูรบนเส้นทางควาแข็งแกร่ง แต่น่าเสียดายที่มันถูกทำลายไปแล้ว

 

แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ฟางหยวนมีวิญญาณอมตะมากมายและด้วยการพึ่งพาแสงแห่งปัญญา เขาสามารถคิดค้นท่าไม้ตายอมตะกินความแข็งแกร่ง

 

มันสามารถใช้ทดแทนวิญญาณอมตะกินความแข็งแกร่ง

 

‘การอนุมานประสบความสำเร็จในที่สุด!’ ฟางหยวนรู้สึกพึงพอใจมาก

 

เขาเริ่มอนุมานท่าไม้ตายนี้เมื่อหกวันก่อน สุดท้ายเขาก็ประสบความสำเร็จ

 

ท่าไม้ตายอมตะกินความแข็งแกร่งใช้วิญญาณอมตะอาหารว่างระดับหกเป็นแกนกลางและมีวิญญาณอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งอื่นๆเป็นส่วนสนับสนุนเพื่อทำให้มันกลายเป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่ง

 

ประสิทธิภาพของมันเหนือกว่าวิญญาณอมตะกินความแข็งแกร่งระดับหก แต่มันมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะท่าไม้ตายนี้พึ่งพาวิญญาณอมตะหลายดวงขณะที่วิญญาณอมตะกินความแข็งแกร่งสามารถทำสิ่งนี้ได้ด้วยตัวมันเอง

 

สรุปแล้วมีข้อดีก็มีข้อเสีย

 

ในวันต่อๆมา นอกจากการฝึกท่าไม้ตายอมตะของราชันภูเขาม่วง ฟางหยวนยังใช้ท่าไม้ตายอมตะกินความแข็งแกร่งเพื่อเพิ่มร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางความแข็งแกร่งให้กับตนเองอีกด้วย

 

เขามีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด มันมีประมาณห้าหมื่นร่องรอย ตามมาด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งน้ำแข็งและหิมะ เส้นทางแห่งโชค เส้นทางแห่งพลังปราณ และเส้นทางแห่งเสียง พวกมันมีมากกว่าหมื่นร่องรอย

 

เขามีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางความแข็งแกร่งไม่มาก เขาไม่เคยเผชิญหน้ากับภัยพิบัติที่เกี่ยวกับเส้นทางความแข็งแกร่ง แดนศักดิ์สิทธิ์ที่เขากลืนกินเข้ามาก็ไม่ได้มาจากเส้นทางความแข็งแกร่ง

 

ดังนั้นเขาจึงต้องการแก้ไขปัญหานี้

 

หลังจากไตร่ตรอง ฟางหยวนเลือกเส้นทางความแข็งแกร่ง

 

ท่าไม้ตายที่ทรงพลังที่สุดของเขาคือเกราะหวนคืนและหมื่นมังกร เกราะหวนคืนเป็นการป้องกัน หมื่นมังกรเป็นการโจมตี แต่ทั้งสองล้วนเกี่ยวข้องกับเส้นทางความแข็งแกร่ง การเพิ่มร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางความแข็งแกร่งจะช่วยเพิ่มพลังการต่อสู้ของเขาอย่างชัดเจน

 

สำหรับท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของราชันภูเขาม่วง พวกมันจะช่วยเพิ่มความหลากหลายในการต่อสู้กับสถานการณ์ต่างๆ แต่สิ่งที่กำหนดความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขามีเพียงเกราะหวนคืน

 

ฟางหยวนฝึกฝนอย่างหนักและใช้เวลาทุกวินาทีเพื่อมุ่งสู่จุดหมาย

 

สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยเช่นนี้หาได้ยากมาก

 

ตั้งแต่กำเนิดใหม่ นี่เป็นครั้งแรกที่ฟางหยวนมีโอกาสยกระดับความแข็งแกร่งและรากฐานของตนเองอย่างเต็มที่

 

พัฒนามิติช่องว่าง ฝึกฝนท่าไม้ตาย บ่มเพาะจิตวิญญาณ ฟางหยวนเติบโตขึ้นในทุกวัน

 

ความเร็วในการพัฒนาของเขาไม่มีผู้ใดเสมอเหมือน กระทั่งจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาายังลอบตกตะลึงอยู่อย่างลับๆ

 

นี่คือสิ่งที่วังสวรรค์ทำนายไว้ หลังจากได้รับมรดกของนิกายเงา รากฐานของฟางหยวนจะลึกเกินหยั่งถึง เมื่อเขาสามารถใช้มัน ความแข็งแกร่งของเขาจะพุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

ตั้งแต่เซี่ยเอ๋อเข้ารับการทดสอบ นางทำหน้าที่อย่างเชื่อฟังและขยันหมั่นเพียร แม้พลังการต่อสู้ของนางจะไม่เพียงพอ แต่นางมีทักษะด้านการตรวจสอบที่โดดเด่น นางสามารถทำงานร่วมกับนิกายเงาและล่าวิญญาณให้ฟางหยวนได้มากมาย

 

ฟางหยวนแสดงทัศนคติที่เย็นชาต่อการแต่งงานทำให้เกิดความขัดแย้งภายในเผ่ามนุษย์หิมะ ปิงหยวนซึ่งเป็นยายของเซี่ยเอ๋อเสนอให้มอบของขวัญให้กับฟางหยวนเพื่อแสดงความปรารถนาดีอีกครั้ง แต่กลุ่มผู้อมตะเผ่ามนุษย์หิมะที่นำโดยปิงเฟิงคัดค้าน พวกเขารู้สึกว่าราคาของการแต่งงานกับฟางหยวนสูงเกินไป

 

เนื่องจากภารกิจสำรวจไท่ชิวของนิกายหลางหยาดำเนินไปได้อย่างรวดเร็ว จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจึงมีความสุขและพอใจกับฟางหยวนมาก

 

วันนี้ขณะที่ฟางหยวนกำลังดูแลมิติช่องว่าง เขาได้รับคำร้องขอความช่วยเหลืออย่างกะทันหัน

 

เมื่อเขาเปิดเปลือกตาขึ้น จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาก็มาหาเขา

 

“ผู้อาวุโสฟางหยวน รีบไปช่วยเร็วเข้า สัตว์อสูรแรกกำเนิดปรากฏตัวขึ้นในไท่ชิว ผู้อมตะหลายคนของนิกายกำลังเผชิญหน้ากับมัน!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเต็มไปด้วยความกังวล

 

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset