Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – บทที่ 1497 ชัยชนะที่เจ็บปวด

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1497 ชัยชนะที่เจ็บปวด

แปลโดย iPAT  

 

“น่ารังเกียจ! น่ารังเกียจเกินไป! เขาลอบโจมตีจริงๆ!”

 

“ชายผู้นี้ไร้ยางอายเกินไป เขาช่างน่ารังเกียจนัก!”

 

“พิจารณาตามความแข็งแกร่ง เห็นได้ชัดว่าเขาอ่อนแอกว่า”

 

ผู้คนรอบข้างเริ่มประณามเทพปีศาจปล้นสวรรค์วัยเยาว์

 

“เจ้า เจ้า เจ้า!” คู่ต่อสู้ของเด็กหนุ่มคืบคลานขึ้นมาจากพื้น เขาพูดติดอ่างด้วยความโกรธและชี้นิ้วออกไป “เจ้าคนไร้ยางอาย! หาก…หากมีความกล้า…ก็…มาสู้กันใหม่!”

 

อย่างไรก็ตามสายตาของเขายังพร่ามัวจากผลกระทบของท่าไม้ตายดวงตาสีเทาและเขาไม่รู้ว่าฟางหยวนอยู่ที่ใด ดังนั้นเขาจึงชี้นิ้วไปผิดทิศทาง นั่นทำให้เกิดเป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างน่าขัน

 

ฟางหยวนเย้ยหยัน “ชนะก็คือชนะ เหตุใดต้องต่อสู้ใหม่?”

 

หลังจากนั้นฟางหยวนก็ไม่สามารถกล่าวสิ่งใดได้อีกเพราะเขากลายเป็นผู้สังเกตการณ์และสูญเสียการควบคุมร่างกายอีกครั้ง

 

อาณาจักรแห่งความฝันยังดำเนินต่อไป

 

เด็กหนุ่มมองฝูงชนที่กำลังโห่ร้องด้วยร่างกายสั่นเทา

 

เขาค่อยๆยกมือขึ้นด้วยความตกใจ

 

‘เหตุใด? เหตุใดข้าถึงใช้ท่าไม้ตายดวงตาสีเทา?’

 

‘เห็นได้ชัดว่าข้าต้องการต่อสู้อย่างยุติธรรมและโยนเขาลงจากสนามประลอง แต่เหตุใดข้าถึงเลือกวิธีลอบโจมตี?’

 

เด็กหนุ่มเกลียดชังการกระทำเช่นการลอบโจมตี นี่ทำให้เขารู้สึกละอายใจมาก

 

เหตุใดเขาถึงลอบโจมตี?

 

เขาชอบการต่อสู้ที่ตรงไปตรงมาและไม่เคยใช้อุบายร้ายกาจมาก่อน

 

เขาไม่ชอบหรือกล่าวให้ถูกต้องกว่านั้นก็คือเขาดูแคลนการกระทำเช่นนี้

 

แต่เหตุใดเขาถึงทำเช่นนั้น!?

 

เสียงหัวเราะที่บ้าคลั่งของชาเซี่ยวดังขึ้นในใจของเขา “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า สนุกมาก น่าสนุกเกินไปแล้ว หลานชายที่ดี เจ้าคล้ายท่านปู่ผู้นี้มาก เจ้าไม่เคยฝึกฝนท่าไม้ตายดวงสีเทา แต่เจ้ากลับสามารถใช้มันได้อย่างสมบูรณ์ เจ้าลอบโจมตีได้ในเวลาที่เหมาะสมและคว้าชัยชนะมาได้ทันที ดีมาก ดีมาก”

 

ชาเซี่ยวยกย่องซ้ำแล้วซ้ำอีก

 

เด็กหนุ่มตกตะลึง

 

ถูกต้อง เขาไม่เคยฝึกฝนท่าไม้ตายดวงตาสีเทา แต่เหตุใดเขาถึงสามารถใช้งานมัน? แล้วยังชำนาญมาก!

 

“นี่มันเรื่องไร้สาระใด!?” เด็กหนุ่มคำรามอยู่ในใจ

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า หลานชายที่ดีของข้า ให้ปู่บอกเหตุผลให้เจ้าฟัง ในความเป็นจริงเจ้าเป็นคนแบบนี้ ธรรมชาติของเจ้าเป็นเช่นนี้ อย่าฝืนตนเอง ปล่อยธรรมชาติที่แท้จริงของเจ้าออกมา” ชาเซี่ยวหัวเราะเสียงดังแต่มันกลับเป็นการซ้ำเติมบาดแผลในใจของเด็กหนุ่ม

 

เด็กหนุ่มตกใจมาก แต่ในไม่ช้าดวงตาของเขาก็ส่องประกายขึ้น “ไม่ นี่ไม่ใช่การกระทำของข้า เป็นเจ้าใช่หรือไม่? เจ้าควบคุมร่างกายของข้า!”

 

“ฮ่าฮ่า แม้ข้าจะทำได้ แตข้าไม่ได้ทำ นี่เป็นทางเลือกของเจ้า เจ้าย่อมเข้าใจดี”

 

“ไม่ ต้องเป็นเจ้าอย่างแน่นอน! ข้าจะทำเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร!?” เด็กหนุ่มยังไม่ยอมรับ

 

“เด็กโง่!” ชาเซี่ยวดุ

 

ภายนอกใบหน้าของเด็กหนุ่มดูมุ่งมั่นแน่วแน่แต่ในใจเขากำลังทะเลาะกับชายชรา

 

อย่างไรก็ตามในมุมมองของผู้ชมพฤติกรรมของเขาดูเย่อหยิ่งและดูไม่สนใจคำวิพากษ์วิจารณ์ของพวกเขาแม้แต่น้อย ดังนั้นเสียงโห่ร้องจึงยิ่งดุเดือดมากขึ้น

 

สำหรับฟางหยวน หัวใจของเขารู้สึกสั่นไหว

 

เขาเป็นผู้ควบคุมร่างกายขณะต่อสู้แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับส่งอิทธิพลต่อเหตุการณ์ต่อไปของอาณาจักรแห่งความฝัน

 

นี่เป็นสถานการณ์ที่ฟางหยวนไม่เคยพบมาก่อนขณะสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันอื่น

 

ในอาณาจักรแห่งความฝันอื่นๆ แม้เขาจะส่งอิทธิพลต่อเหตุการณ์บ้างแต่โดยรวมแล้วเรื่องราวในอาณาจักรแห่งความฝันเหล่านั้นก็จะไม่เปลี่ยนแปลงไป

 

ผลลัพธ์ของอาณาจักรแห่งความฝันถูกกำหนดไว้แล้ว มันมีกฎเกณฑ์ในการผ่านด่านที่ชัดเจน

 

‘แต่อาณาจักรแห่งความฝันของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ทำให้ข้ารู้สึกเหมือนกำลังใช้ชีวิตอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง! มันไม่ธรรมดา!’

 

อาณาจักรแห่งความฝันประเภทนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากประสบการณ์ชีวิตของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ แต่หลังจากการเข้าร่วมของฟางหยวน อาณาจักรแห่งความฝันกลับเปลี่ยนแปลงไป หากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สะสมมากขึ้น ผลลัพธ์สุดท้ายของมันจะแตกต่างจากเดิมหรือไม่?

 

ฟางหยวนตระหนักถึงเรื่องนี้และรู้สึกว่าต้องระมัดระวังให้มากขึ้น

 

ในไม่ช้าก็ถึงคราวที่เขาต้องต่อสู้อีกครั้ง

 

“เจ้าดูไม่เหมือนคนเลวทราม แต่รอบก่อนเหตุใดเจ้าถึงใช้วิธีสกปรกกับลูกพี่ลูกน้องของข้า” คู่ต่อสู้รอบนี้ของเด็กหนุ่มเป็นผู้หญิงที่เต็มไปด้วยความกล้าหาญ

 

เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว เขาไม่ต้องการอธิบายแต่เขายังกล่าว “เป็นความเข้าใจผิด”

 

“ฮ่าฮ่า เข้าใจผิดงั้นหรือ?”

 

“เจ้าลอบโจมตีแต่กลับไม่ยอมรับงั้นหรือ?”

 

“มีคนเห็นเหตุการณ์มากมายแต่ชายผู้นี้ยังกล้าปฏิเสธ!”

 

ผู้ชมตะโกนด้วยความโกรธ

 

เด็กสาวขมวดคิ้ว “ข้าไม่สนว่ามันเป็นความเข้าใจผิดหรือไม่ ข้าจะล้างแค้นให้ลูกพี่ลูกน้องของข้า ดังนั้นไม่เพียงข้าจะเอาชนะเจ้า แต่ข้าจะทำให้แน่ใจว่าเจ้าจะพบกับความทุกข์ทรมาน!”

 

เด็กสาวพุ่งออกมา

 

“รอก่อน!” เด็กหนุ่มยื่นมือออกไป “ข้ายังมีเรื่องที่ต้องการกล่าว ฟังข้าก่อน!”

 

“เอาล่ะ พูดมา ข้าจะทำให้เจ้ายอมรับความพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์!” เด็กสาวหยุดเท้าและกล่าว

 

แต่ในจังหวะนี้ดวงตาของเด็กหนุ่มกลับส่องประกายน่ากลัว เขายกมือขึ้น

 

ท่าไม้ตายดวงตาสีเทา!

 

เด็กสาวไม่ทันระวังตัว นางถูกโจมตีโดยตรง

 

“บัดซบ! เขาทำมันอีกครั้ง!”

 

“ชายผู้นี้ใช้วิธีสกปรกอีกแล้ว!”

 

“ระวัง รีบป้องกันตัว!”

 

เด็กหนุ่มเข้าประชิดตัวเด็กสาวอย่างรวดเร็ว เขายกขาขวาขึ้นและต้องการเตะเด็กสาวออกไป

 

แต่เด็กสาวมีประสบการณ์การต่อสู้ แม้นางจะมองไม่เห็นแต่นางยังสามารถใช้หูฟังเสียงลมเพื่อระบุตำแหน่ง

 

‘ข้ามองไม่เห็นเลย หากการต่อสู้ยืดเยื้อ มันจะไม่เป็นผลดี ข้าต้องจบการต่อสู้อย่างรวดเร็วที่สุด’ เด็กสาวตัดสินใจอย่างชาญฉลาด

 

นางไม่ถอยแต่ส่งหมัดออกไป

 

“ฟิ้ว!”

 

เสียงลมดังขึ้น มันเป็นการโจมตีที่รุนแรง เห็นได้ชัดว่ามันเกี่ยวข้องกับวิญญาณ

 

หากเด็กหนุ่มส่งลูกเตะออกไปก่อนหน้านี้ เขาจะไม่สามารถหลบเลี่ยงการโจมตีและจะได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

แต่ในขณะนี้เด็กหนุ่มไม่ใช่ตัวของเขาเองแต่ถูกควบคุมโดยฟางหยวน

 

ความคิดของฟางหยวนน่ากลัวมาก เขาอาจดูเหมือนกำลังจะเตะเด็กสาว แต่แท้จริงแล้วมันเป็นเพียงการหลอกลวง

 

ด้านหนึ่งเขากำลังสำรวจเด็กสาว แม้นางจะมองไม่เห็น แต่ยังมีวิธีการตรวจสอบมากมายอยู่บนโลกใบนี้

 

ในทางกลับกันฟางหยวนกำลังใช้ประโยชน์จากผู้ชม

 

เสียงตะโกนและการแจ้งเตือนของผู้คนเหล่านั้นทำให้เด็กสาวเข้าใจผิด

 

สายตาของนางพร่ามัว ในการต่อสู้ที่ดุเดือด นางไม่มีเวลาคิดมาก นั่นทำให้นางรู้สึกว่าการแจ้งเตือนของผู้คนรอบข้างถูกต้องโดยสามัญสำนึก

 

มนุษย์มักคล้อยตามความคิดของคนส่วนมาก เมื่อผู้คนเชื่อว่าบางสิ่งถูกต้อง เด็กสาวก็จะเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริงเช่นกัน

 

เป็นไปตามความคาดหมายของฟางหยวน เด็กสาวเริ่มชกและทำเรื่องผิดพลาด

 

ฟางหยวนเย้ยหยัน เขาดึงขาขาวกลับอย่างใจเย็นและหลบการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างง่ายดาย จากนั้นเขาก็คว้าแขนของเด็กสาวและดึงนางไปด้านข้าง

 

เด็กสาวต้องการชนะในทันทีและใช้กำลังมากเกินไปขณะที่ฟางหยวนใช้สิ่งนี้เพื่อตอบโต้

 

ฟางหยวนฉวยโอกาสนี้กระแทกหน้าท้องส่วนล่างของเด็กสาวอย่างรุนแรงด้วยเข่าของเขา

 

“ตุบ!”

 

ด้วยเสียงอันแผ่วเบา เด็กสาวได้รับบาดเจ็บ ดวงตาที่ปิดสนิทของนางเปิดขึ้นด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าที่งดงามของนางกลายเป็นแดงก่ำขณะที่เส้นเลือดสีน้ำเงินโป่งพองขึ้นบนหน้าผากของนาง

 

นางรู้สึกราวกับลำไส้ใหญ่และอวัยวะภายในของนางพันกัน ความเจ็บปวดแทบทำให้นางหยุดหายใจ

 

แต่ก่อนที่นางจะได้สัมผัสกับความเจ็บปวดนี้อีกครั้ง ฟางหยวนกลับใช้ฝ่ามือสับลงบนลำคอของนาง

 

เด็กสาวหมดสติทันที

 

นางล้มลงกับพื้นและไม่เคลื่อนไหว

 

ฟางหยวนชนะ!

 

ผู้ชมที่อยู่รอบๆเงียบไปชั่วครู่ก่อนที่เสียงโห่ร้องจะปะทุขึ้น

 

“น่ารังเกียจ น่ารังเกียจเกินไป!”

 

“ชัยชนะเช่นนี้ช่างน่ารังเกียจนัก!”

 

“ไร้ยางอายนัก! น่าเสียดายที่คู่ต่อสู้ของเขาไร้เดียงสาเกินไป เห็นได้ชัดว่านางแข็งแกร่งกว่า แต่นางกลับตกหลุมพรางของเขา!”

 

ผู้ชมทั้งโกรธและดูแคลนเด็กหนุ่ม

 

“ข้าทำสิ่งใดลงไป ข้าทำเช่นนี้อีกแล้วงั้นหรือ?” เด็กหนุมตกตะลึงอีกครั้งขณะที่ฟางหยวนกลับไปเป็นผู้สังเกตการณ์อีกหน

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า นั่นคือเจ้า เจ้าทำทุกสิ่งด้วยตัวเจ้าเอง” ชาเซี่ยวหัวเราะเสียงดัง “ข้าไม่ได้ทำสิ่งใดเลย เจ้าเข้าใจแล้วใช่หรือไม่? การต่อสู้ทั้งหมดเป็นสิ่งที่เจ้าเลือกด้วยตัวเจ้าเอง”

 

“ไม่ ไม่จริง ข้าจะเป็น…คนเลวเช่นนั้นได้อย่างไร?” เด็กหนุ่มรู้สึกเจ็บปวดขณะที่หางตาของเขากระตุกเล็กน้อย

 

“เจ้าเป็นคนขี้ขลาดจริงๆ แต่ท่านปู่ชอบ! เจ้าแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ชัยชนะของเจ้าสะอาดหมดจด ความไร้ยางอายและความน่ารังเกียจของเจ้าเหมือนข้าในวัยเยาว์” ชาเซี่ยวหัวเราะด้วยความพึงพอใจ

 

“เกิดเรื่องบ้าใดขึ้น?” เด็กหนุ่มอยากจะร้องไห้ ความรุ่งโรจน์และเกียรติยศทั้งหมดที่เขาสะสมมาในชีวิตก่อนหน้าได้รับผลกระทบอย่างมาก

 

“ครั้งหนึ่งข้าเคยได้ยินว่ามีบางคนมีพรสวรรค์ในการต่อสู้ตั้งแต่กำเนิด เมื่อพวกเขาเข้าสู่สถานการณ์คับขัน พวกเขามักจะแสดงสัญชาตญาณที่เฉียบแหลมออกมาโดยไม่รู้ตัว สิ่งเหล่านี้ทำให้พวกเขาค้นพบตัวตนที่ซ่อนอยู่และทำให้พวกเขาก้าวเข้าสู่ความรุ่งโรจน์” ชาเซี่ยวกล่าว

 

เด็กหนุ่ม “…..”

 

เด็กหนุ่มยังชนะต่อไปในการแข่งขันย่อย

 

ทุกการต่อสู้ของเด็กหนุ่ม ฟางหยวนจะเข้าแทนที่และควบคุมการต่อสู้ทั้งหมด

 

แม้ฝ่ายตรงข้ามจะระมัดระวัง แต่ฟางหยวนคือผู้ใด? ประสบการณ์การต่อสู้ของเขาอาจกล่าวได้ว่ากว้างใหญ่ราวกับมหาสมุทร คู่ต่อสู้ตัวเล็กตัวน้อยเหล่านี้จะแข่งขันกับเขาได้อย่างไร?

 

ชัยชนะเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาของฟางหยวน

 

แต่สำหรับเด็กหนุ่ม มันเป็นการเดินทางที่เจ็บปวด

 

‘ลึกๆแล้วข้าเป็นคนเช่นนี้งั้นหรือ?’

 

‘ในชีวิตก่อนหน้า เพราะข้าได้รับการคุ้มครอง ข้าไม่เคยเผชิญหน้ากับแรงกดดันที่มากพอ ดังนั้นในโลกใบนี้และตอนนี้ที่ข้ากำลังต่อสู้ ธรรมชาติที่แท้จริงของข้าจึงปรากฏขึ้นงั้นหรือ?’

 

‘ข้าเป็นคนเช่นนั้น…ข้าทำให้ตระกูลของข้าต้องอับอาย ข้าเป็นความอับอายของท่านอาจาย์ และข้าทำให้ชื่อเสียงของครอบครัวเสื่อมเสีย!’

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset