Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – บทที่ 1519 สร้างปัญหา

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1519 สร้างปัญหา

แปลโดย iPAT  

 

ฟางอันเล่ยถูกดาบลิ้นสีม่วงแทง ร่างกายของนางแข็งค้างขณะที่ใบหน้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วง

 

ดาบลิ้นสีม่วงรวดเร็วมาก มันแทงทะลุร่างของนางและพุ่งต่อไปที่ฟางหยวน

 

แต่เมื่อถึงจุดนี้ฟางหยุนและฟางเล้งก็ตอบสนองได้แล้ว พวกเขาควบคุมและปลดปล่อยพลังอำนาจของคฤหาสน์วิญญาณอมตะทำให้ดาบลิ้นสีม่วงถูกผลักดันกลับไป

 

เถาวัลย์เลื้อยพันเข้าห่อหุ้มร่างกายของฟางอันเล่ยเอาไว้ขณะที่ดอกไม้หลากหลายสีสันเติบโตขึ้น มันกำลังรักษาอาการบาดเจ็บของนาง

 

ใบหน้าของฟางหยวนกลายเป็นเคร่งขรึม ดวงตาของเขาซ่อนความเย็นชาเอาไว้ เขากำลังครุ่นคิดอย่างหนัก

 

กำลังเสริมของตระกูลฟางมาถึงแล้ว ตอนนี้มีคฤหาสน์วิญญาณอมตะสามหลังได้แก่ หอดอกไม้ร่วงโรย กรงสัตว์อสูร และอู่เรือพิพากษา คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหลังสามารถสร้างท่าไม้ตายเขตแดนอมตะเขาวงกตดอกท้อที่ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ

 

ในชีวิตแรกของฟางหยวน ระหว่างสงครามห้าภูมิภาค ท่าไม้ตายเขตแดนอมตะนี้สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลฟางเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นข้อมูลของนิกายเงายังเน้นย้ำให้ระวังสิ่งนี้

 

หลังจากต่อสู้มาระยะหนึ่ง ฟางหยวนรู้สึกถึงความแปลกประหลาดบางอย่างของวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์

 

ก่อนหน้านี้ชิงโจวเปิดประตูวังและโจมตีด้วยพลังทั้งหมด นั่นทำให้ฟางหยวนได้เรียนรู้ความจริงบางอย่าง

 

ดูเหมือนมันจะเป็นอสูรวิญญาณแรกกำเนิดที่ควบคุมคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดหลังนี้แต่มันไม่สามารถปลดปล่อยพลังอำนาจที่แท้จริงของคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดหลังนี้ออกมาได้อย่างเต็มที่

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดสามารถโจมตีและป้องกัน การโจมตีด้วยการพุ่งชนเป็นวิธีการที่ตรงไปตรงมาและประหยัดเวลามากที่สุด แต่คฤหาสน์วิญญาณอมตะมีความสามารถทุกประเภทเช่นดอกไม้กระจกหรือกล้วยไม้แห่งหุบเขาที่ว่างเปล่าของหอดอกไม้ร่วงโรย กล่าวถึงคุกทมิฬของเผ่าไห่ มันก็สามารถเก็บสัตว์อสูรบรรพกาลเอาไว้ภายในและทำให้พวกมันตกเป็นทาส

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะแต่ละหลังมีพลังอำนาจพิเศษที่แตกต่างกัน หากคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดไม่สามารถใช้ท่าไม้ตายของมันและทำได้เพียงเคลื่อนที่ไปรอบๆ มันย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเจ็ดทั้งสามหลังของตระกูลฟาง

 

แต่หากตระกูลฟางสามารถกำหราบหรือยึดครองคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดหลังนี้ได้สำเร็จ แล้วฟางหยวนจะได้รับสิ่งใด?

 

ตามข้อตกลงพันธมิตร ฟางหยวนจะได้รับเพียงวิญญาณอมตะระดับหกและทรัพยากรอมตะเท่านั้น

 

นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ว่าหลังจากตระกูลฟางได้รับคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด พวกเขาจะบังคับให้ฟางหยวนทำข้อตกลงใหม่

 

ในสถานการณ์ปัจจุบัน เมื่อเห็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะอยู่ต่อหน้า ฟางหยวนจะไม่ต้องการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้อย่างไร

 

แต่การจะทำเช่นนั้นได้ เขาต้องสร้างสมดุลระหว่างความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่าย ดังนั้นฟางหยวนจึงพึ่งพาดาบลิ้นสีม่วงเพื่อทำให้ตระกูลฟางอ่อนแอลงโดยการกำจัดฟางอันเล่ย

 

เมื่อข้อตกลงพันธมิตรถูกสร้างขึ้นแล้ว ฟางหยวนจะต่อสู้กับตระกูลฟางโดยตรงได้อย่างไร?

 

อย่างไรก็ตามข้อตกลงพันธมิตรที่สร้างขึ้นก่อนหน้าค่อนข้างหละหลวม พวกมันแทบไม่ครอบคลุมสิ่งใดเลย

 

ดังนั้นฟางหยวนจึงปลอดภัยหลังจากวางแผนกำจัดฟางอันเล่ย

 

ฟางอันเล่ยไม่รู้เกี่ยวกับช่องโหว่นี้งั้นหรือ?

 

แน่นอนนางรู้!

 

ในความเป็นจริงนี่เป็นเจตนาแอบแฝงที่ชั่วร้ายของตระกูลฟางตั้งแต่เริ่มต้น

 

ฟางอันเล่ยวางแผนใช้ประโยชน์จากฟางหยวน ดังนั้นหากนางเพิ่มข้อตกลงมากเกินไป มันจะเป็นการทำร้ายตัวเอง

 

ด้วยเหตุนี้ฟางอันเล่ยจึงจงใจสร้างข้อตกลงที่หละหลวม นอกจากนั้นสถานการณ์ยังเร่งด่วน แม้ฟางหยวนจะค้นพบและโต้แย้ง นางก็สามารถใช้ข้อแก้ตัวนี้

 

และแน่นอนว่าฟางหยวนค้นพบ!

 

เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์และเป็นนักวางแผนเช่นกัน แต่เขาแสร้งทำเป็นไม่สังเกตเห็นและทำตัวราวกับตกเป็นเหยื่อ

 

“ช่างกล้าหาญนัก!”

 

“เราต้องฆ่าสิ่งชั่วร้ายเหล่านี้!”

 

ผู้อมตะตระกูลฟางกรีดร้องด้วยความโกรธหลังจากเรียนรู้สถานการณ์ของฟางอันเล่ย

 

กรงสัตว์อสูรและอู่เรือพิพากษาเข้าสู่สนามรบอย่างรวดเร็ว

 

แต่ก่อนที่พวกมันจะสามารถทำสิ่งใด วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ก็ปลดปล่อยแสงระยิบระยับออกมา

 

ชิงโจวพยายามอย่างที่ดีที่สุดแต่ยังไม่สามารถสังหารฟางหยวน ตอนนี้มันอ่อนแอลงมากด้วยการปราบปรามของวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์

 

วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์เริ่มปลดปล่อยพลังอำนาจออกมาด้วยตัวของมันเอง แสงสีเขียวแพร่กระจายไปทั่วสนามรบ ผีเฒ่าไป่จุน สนมอินทรีย์ และอสูรวิญาณที่เหลือบินเข้าไปในวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์

 

พวกมันถอย!

 

สิ่งนี้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของทุกคน

 

กระทั่งฟางหยวนยังตกใจเล็กน้อย นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ

 

ผู้อมตะตระกูลฟางลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะบังคับคฤหาสน์วิญญาณอมตะออกไล่ล่าวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์

 

ผู้อมตะตระกูลฟางบางคนบินออกมจากกรงสัตว์อสูรและเข้าไปใจหอดอกไม้ร่วงโรย “อันเล่ย!”

 

แต่ฟางอันเล่ยหมดสติไปแล้ว

 

ฟางหยุนและฟางเล้งเต็มไปด้วยความกังวล ฟางเล้งกล่าวด้วยความรู้สึกผิด “เราไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา มันเป็นความผิดของเรา”

 

ผู้อมตะตระกูลฟางมองพวกเขาอย่างดุเดือด “แน่นอนว่ามันเป็นความผิดของพวกเจ้า!”

 

ต่อมาสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เขาตรวจสอบและพบว่าฟางอันเล่ยกำลังจะตาย เขาตะโกน “อันเล่ย เจ้าต้องอดทน!”

 

เขาทดลองใช้วิธีรักษาทั้งหมดแต่ยังไม่เป็นผล

 

ในเวลานี้แสงสีส้มก็พุ่งออกจากกรงสัตว์อสูรตรงเข้าสู่หน้าผากของฟางอันเล่ย

 

สีม่วงบนใบหน้าของฟางอันเล่ยเลือนหายไป นางรอดชีวิตแต่นางยังไม่ได้สติ

 

“ท่าไม้ตายนี้แปลกมาก มันเป็นท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณแต่ส่งผลกระทบบนเส้นทางแห่งพิษ นางถูกวางยาพิษ! ข้าทำได้เพียงระงับอาการบาดเจ็บของนางเอาไว้แต่ข้าไม่สามารถรักษา!” เป็นเพียงเวลานี้ที่ผู้อมตะสูงอายุเดินเข้ามา เขาอยู่ในชุดคลุมสีเหลืองและแสดงออกอย่างเคร่งขรึม

 

“คารวะผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่สาม” ฟางหยุนและฟางเล้งเร่งทักทาย

 

‘ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่สามของตระกูลฟาง ฟางฮั่วเฉิง…’ ฟางหยวนนึกถึงข้อมูลของคนผู้นี้

 

“เป็นเจ้า! เจ้าเข้ามาซ่อนตัวในหอดอกไม้ร่วงโรยและทำให้อันเล่ยถูกโจมตี! เจ้าคืออาชญากรที่อยู่เบื้องหลังสิ่งนี้!” ผู้อมตระกูลฟางที่ประคองร่างฟางอันเล่ยเอาไว้กรีดร้องมาที่ฟางหยวน

 

ฟางหยวนมองด้วยสายตาเย็นชาและก่นเสียงเย็นด้วยความเย่อหยิ่ง “เจ้าคือผู้ใด?”

 

“ข้าคือฟางเฉิน…” ผู้อมตะผู้นั้นตอบ

 

แต่ก่อนที่เขาจะกล่าวจบประโยค ฟางหยวนก็โบกแขนเสื้อ “ข้าไม่สนว่าเจ้าคือผู้ใด หากเจ้าไม่มีความสุข เราก็มาสู้กัน ไม่ว่าจะดวลด้วยการต่อสู้หรือวาทะกรรม ข้าก็จะรับคำท้า หากเจ้าต้องการใช้กองกำลังของตระกูลฟางจัดการข้า ซวนปู้จิน ฮ่าฮ่า เจ้าสามารถทดลอง”

 

หลังกล่าวจบคำ ดวงตาของฟางหยวนก็ส่องประกายเย็นเยียบและกวาดตามองไปรอบๆด้วยท่าทางของผู้ชนะ

 

“ไม่!” ฟางเล้งและฟางหยุนหวาดกลัวมาก ฟางหยวนแข็งแกร่งมาก พวกเขาเกรงว่าทั้งสองฝ่ายจะต่อสู้กัน

 

ในความคิดเห็นของพวกเขา ไม่ใช่เรื่องผิดปกติที่ฟางหยวนจะเข้ามาซ่อนตัวในหอดอกไม้ร่วงโรย

 

การใช้ประโยชน์จากคฤหาสน์วิญญาณอมตะเป็นเรื่องปกติของผู้อมตะโดยไม่ต้องกล่าวถึงผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

 

ฟางหยวนช่วยพวกเขาเอาไว้ ฟางหยุนรู้สึกว่าเขาเป็นผู้มีพระคุณ สิ่งสำคัญฟางหยวนมีบทบาทอย่างมากในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ หากเขาไม่กำหราบอสูรวิญญาณแรกกำเนิดแมงมุมเหิน หอดอกไม้ร่วงโรยอาจพังพินาศไปแล้ว

 

สำหรับการโจมตีของดาบลิ้นสีม่วง ฟางหยวนอาจไม่คาดคิดว่าฟางอันเล่ยจะถูกโจมตี

 

ในความเป็นจริงกระทั่งฟางหยุนและฟางเล้งก็ไม่คาดหวังว่าฟางอันเล่ยจะไม่สามารถหลบมัน นี่เป็นเหตุผลว่าเหตุใดพวกเขาถึงตกตะลึงกับเรื่องที่เกิดขึ้น

 

“ฟางเฉิน ระวังคำพูดด้วย สหายซวนปู้จินเป็นพันธมิตรของตระกูลฟาง เรามีข้อตกลงพันธมิตร เขาต่อสู้อย่างหนักในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ เจ้าจะใส่ความเขาได้อย่างไร?” ฟางฮั่วเฉิงตำหนิ

 

หลังจากนั้นเขาก็หันหน้ามาทางฟางหยวน “ฟางเฉินเป็นสามีของฟางอันเล่ย เขาเป็นห่วงภรรยามากเกินไป เขาไม่ได้ตั้งใจสร้างความขุ่นเคืองให้กับสหาย ข้าหวังว่าเจ้าจะยกโทษให้เขา”

 

ฟางเฉินเป็นสามีของฟางอันเล่ย?

 

ฟางหยวนเข้าใจทันทีว่าฟางเฉินเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษที่ถูกคัดเลือกให้เข้าสู่ตระกูลฟางผ่านการแต่งงานกับฟางอันเล่ย หลังจากนั้นเขาจึงเปลี่ยนมาใช้แซ่ฟาง

 

หลังจากถูกดุ ฟางเฉินก็ก้มหน้าลงและไม่กล้ากรีดร้องอีก เขาพยายามรักษาฟางอันเล่ยแม้มันจะไร้ประโยชน์ก็ตาม

 

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น เขาคิด ‘ฟางหยุนและฟางเล้งกังวล ฟางฮั่วเฉิงเป็นจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ ฟางเฉินก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ในฐานะเขยของตระกูลฟาง เขาต้องแสดงบทบาทของตนและดูแลภรรยาที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่น่าเสียดายที่ข้าไม่กลัวพวกเขา’

 

ฟางหยวนไม่กลัวเพราะข้อตกลงพันธมิตร

 

ฟางอันเล่ยทำข้อตกลงพันธมิตรในนามของตระกูลฟาง หากตระกูลฟางละเมิดข้อตกลง ฟางอันเล่ยต้องเผชิญหน้ากับผลกระทบย้อนกลับที่รุนแรง ในสภาพปัจจุบันของนาง นางจะทนได้อย่างไร?

 

ผลกระทบย้อนกลับจะฆ่านางทันที!

 

นี่คือสิ่งที่ฟางหยวนอยากเห็น

 

แน่นอนว่ามีวิธีทำลายข้อตกลงพันธมิตร แต่วิธีการเหล่านั้นมีความเสี่ยง พวกมันไม่ปลอดภัย

 

กระทั่งตระกูลฟางจะมีวิธีการดังกล่าว แต่ในสภาพปัจจุบันของฟางอันเล่ย พวกเขาย่อมไม่กล้าใช้งานมัน

 

อาจกล่าวได้ว่าฟางอันเล่ยที่หมดสติอยู่ในขณะนี้คือปราการป้องกันของฟางหยวน

 

ฟางหยวนเย้ยหยัน “สหาย ฟางฮั่วเฉิง ตระกูลฟางของเจ้าต้องให้คำตอบที่ดีแก่ข้า มิฉะนั้นข้าจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไป!”

 

“อา…” ฟางหยุนและฟางเล้งมองหน้ากันน พวกเขาไม่รู้ว่าผู้อาวุโสซวนปู้จินต้องการทำสิ่งใด

 

กระทั่งฟางเฉินที่กำลังก้มหน้าลงก็หันหน้าไปมองฟางหยวน สายตาของเขามีความหมายว่า ‘คนผู้นี้ช่างเอาแต่ใจนัก ทั้งที่ข้าไม่ได้ยั่วยุเจ้าอีก แต่เจ้ากลับสร้างปัญหาให้เราโดยตรง?’

 

ฟางฮั่วเฉิงรู้สึกสับสนแต่ยังกล่าวอย่างเหมาะสม “สหายหมายความว่าอย่างไร? ตระกูลฟางของข้าทำสิ่งใดผิดเช่นนั้นหรือ?”

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset