Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – บทที่ 1525 สายฟ้าแห่งชีวิต

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1525 สายฟ้าแห่งชีวิต

แปลโดย iPAT  

 

การเคลื่อนไหวของฟางหยวนทำให้อสูรวิญญาณแรกกำเนิดตัวสุดท้ายที่ปกป้องวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ถูกพรากไป

 

มิติช่องว่างจักรพรรดิสูญเสียอสูรวิญญาณแรกกำเนิดสองตัวแต่ตอนนี้มันกลับได้รับอสูรวิญญาณแรกกำเนิดอีกสองตัว หนึ่งคือกระทิงหางเสือดาวและอีกหนึ่งคือยักษ์ตาเดียว

 

‘ซวนปู้จินเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาอย่างแท้จริง ตระกูลฟางของเราวางแผนมานานหลายชั่วอายุคน แต่ตอนนี้คนนอกผู้นี้กลับได้รับประโยชน์มหาศาลขณะที่เรายังไม่ได้รับวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ นอกจากวิญญาณอมตะระดับเจ็ด เขายังสามารถกำหราบอสูรวิญญาณแรกกำเนิดสองตัวและได้รับพลังการต่อสู้ระดับแปด!’

 

ผู้อมตะตระกูลฟางมีการแสดงออกที่แตกต่างกัน ผลประโยชน์ของฟางหยวนยิ่งใหญ่เกินไป กระทั่งผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่สามฟางฮั่วเฉิงยังรู้สึกอิจฉาเล็กน้อยโดยไม่ต้องกล่าวถึงผู้อมตะคนที่เหลือ

 

แต่นี่เป็นเรื่องปกติ

 

ตระกูลฟางพยายามอย่างเต็มที่แต่ตอนนี้ฟางหยวนกลับได้รับประโยชน์มากที่สุด ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้อมตะของตระกูลฟางจะรู้สึกอิจฉา

 

‘ซวนปู้จินมีความสามารถสูงมาก เขามีวิธีกำหราบอสูรวิญญาณแรกกำเนิด! ไม่แปลกใจเลยที่เขาสามารถอาศัยอยู่ในทะเลทรายผีเขียวและรวบรวมกองทัพอสูรวิญญาณ แต่…เหตุใดเขาถึงเลือกวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการโจรกรรม เขามีมรดกที่เกี่ยวข้องกับมันงั้นหรือ?’

 

‘วิญญาณอมตะจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่เป็นหนึ่งในวิญญาณอมตะเสาหลักบนเส้นทางแห่งการโจรกรรม มันถูกสร้างขึ้นโดยเทพปีศาจปล้นสวรรค์ บรรชนของตระกูลฟางได้รับมันมาโดยบังเอิญ ฮืม วิญญาณอมตะของตระกูลฟางจะได้รับโดยง่ายได้อย่างไร เราต้องใช้งานซวนปู้จินให้คุ้มค่า’

 

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่สองฟางตี้เฉิงคิด เขากำลังจะกล่าวบางสิ่ง แต่หลังจากกำหราบอสูรวิญญาณแรกกำเนิดสองตัว ฟางหยวนกลับปิดเปลือกตานั่งลงและแสร้งทำเป็นได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

“สหายซวนปู้จิน!?” ฟางตี้เฉิงเรียก

 

ฟางหยวนเงียบ

 

“สหายซวนปู้จิน อาการบาดเจ็บของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” ดวงตาของฟางตี้เฉิงส่องประกายเย็นเยียบ

 

“ดูเหมือนเจ้าจะได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุใดไม่ให้ข้าช่วยรักษาเจ้า?” ฟางตี้เฉิงยังไม่ยอมแพ้

 

ฟางหยวนเปิดเปลือกตาขึ้นและกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้งและเหนื่อยหน่าย “อย่ากังวล ข้าสบายดี ข้าสามารถกำหราบอสูรวิญญาณแรกกำเนิดทั้งสองตัว สิ่งสำคัญในเวลานี้คือการเอาชนะวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ ตอนนี้มันหยุดนิ่งและเป็นโอกาสที่ดี หากเจ้าทิ้งโอกาสนี้ไปอาจมีบางสิ่งเกิดขึ้นในภายหลัง”

 

“มันถูกขังอยู่ในเขาวงกตดอกท้อ จะเกิดสิ่งผิดพลาดขึ้นได้อย่างไร?” ผู้อมตะตระกูลฟางก่นเสียงเย็นด้วยความรังเกียจ

 

ดวงตาของฟางตี้เฉิงส่องประกายเย็นชาขณะจ้องมองฟางหยวน

 

แต่ฟางหยวนปิดเปลือกตาลงแล้ว

 

‘ซวนปู้จินผู้นี้ช่างไร้ยางอายนัก ข้าต้องการให้เขาโจมตีวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์เพื่อตรวจสอบอันตราย แต่เขากลับทำเช่นนี้ น่าเสียดายที่ข้อตกลงพันธมิตรไม่ให้สิทธิข้าออกคำสั่งเขา ตอนนี้ภาพรวมสำคัญกว่า วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์เป็นเป้าหมายของเรามานานหลายชั่วอายุคน เราไม่สามารถปล่อยมันไปได้’ กระทั่งปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งปัญญาฟางตี้เฉิงก็ยังไม่สามารถทำสิ่งใดกับฟางหยวนในเวลานี้

 

เขาออกคำสั่งให้คฤหาสน์วิญญาณอมตะโจมตีต่อไป กลีบดอกไม้จำนวนนับไม่ถ้วนโบนบินราวกับพายุ

 

ท่ามกลางพายุกลีบดอกไม้ นักรบบุปผาวายุจำนวนมากก่อตัวขึ้นและพุ่งเข้าโจมตีวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์

 

“ไปพิสูจน์ความจงรักภักดีของพวกเจ้าเดี๋ยวนี้” ภายในวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ เฉินอี้ออกคำสั่งสนมอินทรีย์และผีเฒ่าไป่จุนด้วยการแสดงออกที่เย็นชา

 

ทั้งสองมองหน้ากับด้วยความกังวล

 

สนมอินทรีย์กล่าวอย่างเคร่งขรึม “ด้วยกำลังของเรา การออกไปต่อสู้ก็เหมือนกับการฆ่าตัวตาย โปรดพิจารณาใหม่ด้วย นายท่านเฉินอี้!”

 

เฉินอี้หัวเราะเสียงเย็น “หากเจ้าขัดคำสั่งข้า เจ้าจะตายอย่างแน่นอน หากเจ้าออกไป ข้าจะสนับสนุนเจ้า ยังมีความหวังที่จะรอดชีวิต ตราบเท่าที่ข้ากำหราบอสูรวิญญาณแรกกำเนิดในตำนานตัวนี้ได้ทันเวลา ข้าจะให้รางวัลพวกเจ้า พวกเจ้ารู้ว่าข้าคือผู้ใด ข้าจะไม่โกหก จงตัดสินใจภายในเวลาสามลมหายใจ”

 

ทัศนคติของเฉินอี้แข็งกร้าวมาก ผีเฒ่าไป่จุนและสนมอินทรีย์ต้องเชื่อฟังคำสั่งของเขาเท่านั้น

 

“บึม บึม บึม…”

 

ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างดุเดือด

 

ผีเฒ่าไป่จุนและสนมอินทรีย์เป็นผู้อมตะระดับเจ็ด พวกเขาฉลาดกว่าอสูรวิญญาณแรกกำเนิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขาต่างเป็นปีศาจอมตะที่เต็มไปด้วยประสบการณ์

 

ผีเฒ่าไป่จุนและสนมอินทรีย์เป็นฝ่ายเสียเปรียบ แต่พวกเขายังสามารถหยุดยั้งนักรบบุปผาวายุ

 

อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปผีเฒ่าไป่จุนและสนมอินทรีย์ก็ได้รับบาดเจ็บมากขึ้นและตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย

 

เฉินอี้ทำงานหลายอย่างพร้อมกัน เขาต้องกระตุ้นใช้พลังอำนาจของวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์และกำหราบชิงโจว นอกจากนั้นเขายังต้องสังเกตการต่อสู้ เขาลอบยกย่องอยู่ภายใน ‘ท่าไม้ตายนี้น่าทึ่งมาก มันสามารถปลดปล่อยท่าไม้ตายหลายท่าออกมา สิ่งนี้ทำให้มันมีความยึดหยุ่นเหมือนค่ายกลวิญญาณรูปแบบการต่อสู้โบราณ นี่ไม่ง่ายเลย!’

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็ใช้พลังอำนาจของวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์โดยการยิงลำแสงไปที่ผีเฒ่าไป่จุนและสนมอินทรีย์

 

ทั้งสองตกใจมากแต่พวกเขาไม่พบสิ่งผิดปกติ

 

ตระกูลฟางโจมตีต่อเนื่องโดยไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้น

 

แต่ระหว่างการต่อสู้ พวกเขากลับตระหนักถึงบางสิ่ง

 

เมื่อใดก็ตามที่ผีเฒ่าไป่จุนและสนมอินทรีย์ได้รับบาดเจ็บ แสงลึกลับจะส่องประกายขึ้นมาจากร่างกายของพวกเขาและทำให้ความเสียหายของพวกเขาหายไป

 

“นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งไม้ของวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ มันอนุญาตให้ทุกการโจมตีที่พวกเจ้าได้รับย้ายมาที่วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์” เสียงของเฉินอี้ดังขึ้นในใจของคนทั้งสอง

 

ผีเฒ่าไป่จุนและสนมอินทรีย์รู้สึกมีความสุขและประหลาดใจ

 

พวกเขามีความสุขที่ตนเองยังมีคุณค่าสำหรับเฉินอี้ ตอนนี้พวกเขาได้รับความช่วยเหลือแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถต่อสู้ต่อไป

 

พวกเขาประหลาดใจที่เฉินอี้สามารถควบคุมวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างยอดเยี่ยม เขาใช้ท่าไม้ตายอมตะของมันไปถึงสองท่าแล้วในระยะเวลาสั้นๆตั้งแต่เขามาถึง ดูเหมือนวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์จะตกอยู่ในมือของเขาแล้ว

 

“หือ?” ฟางตี้เฉิงสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ในไม่ช้า

 

ผีเฒ่าไป่จุนและสนมอินทรีย์ต่อสู้โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของตนเอง เมื่อพวกเขาได้รับบาดเจ็บ อาการบาดเจ็บของพวกเขาจะหายไปทันที

 

‘นี่คือสิ่งใด? ไม่เพียงการโจมตีทางกายภาพแต่วิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลาและห้วงมิติก็ไร้ประโยชน์’

 

ฟางตี้เฉิงรู้สึกหนักใจ เขาออกคำสั่งผู้อมตะตระกูลฟาง “ใช้ท่าไม้ตายรักษาพวกเขา”

 

ผู้อมตะตระกูลฟางตกตะลึง พวกเขาต้องช่วยศัตรูงั้นหรือ?

 

แต่ไม่มีผู้ใดกล้าถามฟางตี้เฉิง ทุกคนรีบทำตามคำสั่งของเขาทันที

 

วิธีรักษาไม่มีประโยชน์ต่อผีเฒ่าไป่จุนและสนมอินทรีย์

 

“โอ้ ดูเหมือนจะมีผู้มีความสามารถอยู่ด้วย” ดวงตาของเฉินอี้ส่องประกายเจิดจ้า เขาสามารถบอกได้ว่าฟางตี้เฉิงกำลังตรวจสอบท่าไม้ตายของวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์อยู่ในขณะนี้

 

‘กระทั่งวิธีรักษาก็ไร้ประโยชน์…’ ฟางตี้เฉิงอนุมานและออกคำสั่งอีกครั้ง “ไม่ต้องสนใจพวกเขา โจมตีวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์โดยตรง!”

 

ผู้อมตะตระกูลฟางบังคับนักรบบุปผาวายุระเบิดตัวเองและปลดปล่อยท่าไม้ตายจำนวนมากออกไปโจมตีวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์

 

วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์สั่นสะท้านขึ้นแต่แกนกลางของมันยังไม่ได้รับอันตรายใดๆ

 

เฉินอี้พยักหน้ากับตนเอง

 

กลยุทธ์ของฟางตี้เฉิงยอดเยี่ยมมาก เขาสามารถอนุมานความสัมพันธ์ระหว่างผีเฒ่าไป่จุน สนมอินทรีย์ และวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ สุดท้ายจึงตัดสินใจตอบสนองได้อย่างชาญฉลาด

 

ท่าไม้ตายของผู้อมตะตระกูลฟางที่ปลดปล่อยออกมาผ่านนักรบบุปผาวายุได้รับการสนับสนุนจากเขาวงกตดอกท้อ มิฉะนั้นพวกมันจะไม่สามารถส่งผลกระทบต่อวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์

 

เฉินอี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย ตอนนี้เขายังไม่สามารถควบคุมวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างสมบูรณ์ ในบางแง่มุมเขายังไม่สามารถเปรียบเทียบกับชิงโจว

 

ชิงโจวสามารถบังคับวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ให้เคลื่อนที่ แต่อำนาจในส่วนนี้ยังอยู่ในมือของชิงโจว ดังนั้นเฉินอี้จึงไม่สามารถบังคับให้วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ขยับเขยื้อน

 

เฉินอี้สามารถสังหารชิงโจวและฉกชิงอำนาจนี้มา แต่ในกรณีนั้นแผนการของเขาจะหยุดชะงัก

 

ดังนั้นเฉินอี้จึงพยายามกำหราบชิงโจว หากเขาทำสำเร็จ ไม่เพียงเขาจะได้รับความช่วยเหลือจากชิงโจว เขายังสามารถบังคับวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ให้เคลื่อนที่

 

ตระกูลฟางเปลี่ยนกลยุทธ์ทำให้พวกเขากลายเป็นฝ่ายได้เปรียบ

 

ผีเฒ่าไป่จุนและสนมอินทรีย์ถูกเพิกเฉย

 

ทั้งสองมีเป้าหมายของตนเองเช่นกัน พวกเขาถูกเฉินอี้ควบคุมตั้งแต่แรก ตอนนี้ตระกูลฟางไม่สนใจพวกเขา มันทำให้พวกเขามีความสุข พวกเขาพยายามรักษาความแข็งแกร่งและไม่เข้าไปยุ่งกับการต่อสู้ของทั้งสองฝ่าย

 

วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์โจมตีตระกูลฟางเป็นเวลาหลายนาทีก่อนที่คิ้วของเฉินอี้จะคลายตัวลง

 

หลังจากไม่นานเขาก็สามารถควบคุมวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ได้มากขึ้น

 

‘น่าเสียดายที่มันไม่ใช่วิธีป้องกัน แต่หากข้าใช้วิธีนี้ ข้าจะสามารถเปลี่ยนสถานการณ์ได้เช่นกัน’ เฉินอี้คิด

 

ท่าไม้ตายอมตะสายฟ้าแห่งชีวิต!

 

วินาทีถัดมาวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ก็สั่นสะท้านขึ้น สายฟ้าสีเขียวปะทุขึ้นรอบๆวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์

 

“เปรี้ยง เปรี้ยง…”

 

ภายใต้การปะทุขึ้นของสายฟ้า นักรบบุปผาวายุถูกทำลายลงอย่างต่อเนื่อง

 

“ท่าไม้ตายนี้!” ดวงตาของฟางตี้เฉิงเปลี่ยนเป็นน่ากลัว

 

สายฟ้าแห่งชีวิตไม่เพียงทำลายนักรบบุปผาวายุแต่มันยังทำลายเขาวงกตดอกท้อ

 

แม้พวกเขาจะสามารถเติมเต็มต้นท้อเหล่านั้น แต่สถานที่ที่ถูกสายฟ้าทำลายกลับมีต้นสนเติบโตขึ้นและหยั่งรากลึกอยู่ที่นั่น

 

สายฟ้าแห่งชีวิตค่อยๆสร้างป่าโปร่งขึ้นรอบๆวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์

 

แม้มันจะไม่สามารถเปรียบเทียบกับเขาวงกตดอกท้อแต่มันสามารถต่อต้านเขาวงกตดอกท้อ

 

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset