Ryoushin no Shakkin wo Katagawari Shite Morau Jouken wa Nihon’ichi Kawaii Joshikousei to Issho ni Kurasu Koto Deshita – ตอนที่ 14: อย่างกับคู่แต่งงานใหม่เลยแหนะ

พวกเราพากันออกจากบ้านตอน 10 โมง และมุ่งหน้าไปยังคัปปาบาชิ

(TL NOTE : คัปปาบาชิเป็นหนึ่งในย่านของโตเกียวที่มีร้านขายพวกเครื่องครัวต่างๆนาๆ)

ตามแผนที่วางเอาคือซื้อพวกภาชนะบนโต๊ะอาหารต่างๆ

มันก็มีภาชนะบนโต๊ะอาหารหลากหลายสไตล์ให้เลือกสรรมากมายทำให้เลือกยากเข้าไปอีกและไม่เพียงเท่านี้ยังมีพวกอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ตามวาระเทศกาล ร้านตัวอย่างอาหารและอื่นๆโดยรวมแล้วจัดเป็นเมืองที่แค่ได้สำรวจไปตามที่สถานที่ต่างๆก็รู้สึกสนุกแล้วจริงๆ อีกอย่างสิ่งที่น่าจับตามองอย่างยิ่งเลยนั่นก็คือแววตาของฮิโตสึบะซังที่ส่องประกายมันก็เลยทำให้แสดงเสน่ห์อันสุดแสนจะไร้เดียงสาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้นของเธอออกมา

(TL NOTE : ร้านตัวอย่างอาหารก็คือมันจะมีร้านนึงที่อยู่ในคัปปาบาชิที่สามารถให้เราลองสร้างเมนูอาหารที่ปั้นโดยขี้ผึ้งได้โดยจะมีคนพาทำในร้านส่วนผลงานที่ออกมาก็จะเหมือนๆกับตัวอย่างอาหารที่ตั้งอยู่ตามหน้าร้านอาหารญี่ปุ่น อาทิ ฟูจิ , ยาโยอิ ประมาณนั้นครับ)

หลังจากทานมื้อเที่ยงเสร็จพวกเราก็เข้าไปในร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าในอิเคะบุโระกัน

และก็ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านมาจำนวนหนึ่งรวมถึงตู้เย็นด้วยซึ่งมันก็เป็นการตัดสินใจที่ยากเย็นจนน่าประหลาดใจ

เมื่อนึกถึงรายการทีวีที่บอกว่าคนขายที่ใส่แว่นและมีรอยย่นหน่อยๆดูทรงจะเป็นผู้ที่มีภูมิความรู้มากที่สุดในสาขาของตน ฮิโตสึบะซังจึงเข้าไปพูดคุยกับคนขายลักษณะตรงตามที่อธิบายไปเมื่อครู่และถามเรื่องนี้เรื่องนั้น

พนักงานขายเองก็ไม่ได้มีท่าทีรำคาญที่พวกเราเป็นเด็กมัธยมปลายและเขาก็อดทนฟังความต้องการของพวกเราทั้งด้านความจำเป็นและด้านประสิทธิภาพการใช้งาน จากนั้นเขาก็แนะนำตัวสินค้าที่เหมาะสมกับความต้องการของพวกเราไปทีละตัวๆ

การพูดคุยกันเป็นไปได้อย่างน่าทึ่งสุดๆแถมเขาก็ยังเสนอส่วนลดให้เราอีกด้วย

สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าก็คือยิ่งผมฟังเขามากเท่าไหร่ผมก็ยิ่งเชื่อมั่นในการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของฮิโตสึบะอิเล็กทรอนิกส์มากยิ่งขึ้นเท่านั้น

แต่ถึงอย่างนั้นการพูดคุยก็ดำเนินไปได้อย่างยาวนานซะเหลือเกินจนเวลาเลยหนึ่งทุ่ม เมื่อพวกเราทำตามขั้นตอนการจ่ายตังเสร็จสรรพ

ฮิโตสึบะซังเป็นคนซื้อข้าวของของวันนี้เป็นหลักและผมก็ติดสอยห้อยตามเธอมาแต่ก็แน่นอนว่าผมก็ออกความเห็นอยู่ทุกๆที่ที่จำเป็น แม้ว่าจะเป็นเรื่องง่ายๆ ที่จะทำตัวเป็น Yes-man แต่ฮิโตสึบะซังกับผมพวกเราก็อาศัยอยู่ด้วยกัน มันก็คงไม่ดีแน่ถ้าจะปล่อยให้เธอทำทุกอย่างคนเดียว

 (TL NOTE : Yes-man ก็คนประเภทชอบตอบตกลงเออออห่อหมกไปซะทุกเรื่อง) 

แล้วไอ้เรื่องที่จะไม่พูดไม่ได้เลยก็คือการจ่ายเงินเป็นเงินสดแบบก้อนใหญ่ก้อนเดียวจบ

ตอนที่เธอดึงเงินสดเป็นฟ่อนออกมาจากซองหนาๆที่ปิดสนิท แม้แต่พนักงานที่ดูกระตือรือร้นในร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก็ยังแข็งค้างไปเลย 

ผมเองก็อ้าปากค้างจนหุบปากตัวเองไม่ได้เหมือนกัน

 

“คุณพ่อของชั้นท่านมอบเงินทุนส่วนตัวบางส่วนกับให้ชั้นมาน่ะค่ะ แต่ในทางกลับกันชั้นก็ต้องคอยรายงานว่าซื้อพวกเครื่องมืออุปกรณ์อะไรไปบ้างเพราะฉะนั้น คุณช่วยมอบนามบัตรของคุณให้ชั้นได้ไหมคะ? เพื่อที่ชั้นจะได้ไปเสนอชื่อของคุณให้เขา”

“….คะ-ครับผ๊ม!”

 

พนักงานขายยื่นนามบัตรให้กับฮิโตสึบะซังพร้อมกับมือสั่นหน่อยๆ

ส่วนฮิโตสึบะซังก็ยิ้มราวกับเทพธิดาแล้วก็รับมันมา

 

“ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ต้องขอขอบคุณคุณจริงๆเลย วันนี้ชั้นมีประการณ์ในการช้อปปิ้งที่เพลิดเพลินมากเลยค่ะ ไว้ชั้นจะแจ้งให้คุณพ่อทราบเรื่องคุณอย่างแน่นอนค่ะ”

 

หลังจากนั้นคุณพนักงานขายก็อาจจะเดินไปในเส้นทางอาชีพที่ในที่สุดมันก็สามารถพาเขาไต่เต้าไปขึ้นไปสู่ระดับผู้บริหารได้

แต่นั่นมันก็เป็นอีกเรื่องนึง

 

“แล้วยูยะคุงอยากจะทำอะไรรึเปล่าคะ? อยากจะกลับไปทานมื้อเย็นที่บ้านไหม?”

“ไม่ล่ะ วันนี้ผมเหนื่อยสุดๆเลย ถ้าพวกเราจะต้องกลับไปทำอะไรสักอย่างกินผมว่าตอนที่พวกเรากลับถึงบ้านมันก็อาจจะดึกเกินไปแล้วก็ได้นะ ทำไมพวกเราไม่หาอะไรกินกันก่อนแล้วค่อยกลับบ้านล่ะ? หรือถ้าอยากจะกินพาสต้าง่ายๆหรืออะไรอย่างอื่นล่ะก็ ผมทำให้ได้อยู่นะ”

 

อย่างแรกเลยคือไม่มีอาหารกลับบ้านเลย

โชคดีที่ตู้เย็นจะจัดส่งไปเป็นอย่างแรกในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้

ซูเปอร์มาเก็ตยังคงเปิดอยู่และคงจะกินเวลาไม่มากนักในการที่จะทำพาสต้าแม้ว่าเราจะสุ่มๆเลือกหยิบซื้อมา

 

“ยูยะคุง อยากจะทำให้ชั้นทานเหรอคะ? นายเหนื่อยแต่ก็………ยังอยากที่จะทำอยู่เหรอคะ?”

“แน่นอน ผมก็ชอบกินอาหารที่ฮิโตสึบะซังทำอยู่นะ แต่มันก็ไม่จำเป็นต้องเป็นวันนี้ก็ได้ อีกอย่างในอนาคตก็มีโอกาสตั้งเยอะแยะนี่นา……..ใช่ไหมล่ะ?”

“ค่ะ ใช่แล้วค่ะ! ไว้พรุ่งนี้ชั้นจะแสดงฝีมือให้นายดูเองก็แล้วกันนะคะยูยะคุง เพราะงั้นเตรียมตัวเตรียมใจไว้ได้เลยค่ะ! เอาล่ะ ตัดสินใจแล้ว รีบไปหามิยาโมโตะซังแล้วก็ไปซูเปอร์มาร์เก็ตกันเถอะค่ะ! ชั้นจะตั้งตาคอยการทำอาหารของยูยะคุงนะคะ!”

 

เธอจูงมือผมด้วยรอยยิ้มที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวันแล้วพวกเราก็ออกจากร้านไป

ผมบอกว่าผมจะทำพาสต้าแต่เอาเข้าจริงๆผมควรทำอะไรดีล่ะเนี่ย?

ผมสงสัยว่าฮิโตสึบะซังจะชอบมันรึเปล่านี่สิ

ผมทั้งตื่นเต้นและกระวนกระวายว่าเธอจะมอบสีหน้าของเธอแบบไหนให้กับผมกันในตอนที่เธอกินอาหารฝีมือผมน่ะ แต่การที่คิดว่าวันอย่างวันนี้จะได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผมมันก็เพียงพอที่จะทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจ

Ryoushin no Shakkin wo Katagawari Shite Morau Jouken wa Nihon’ichi Kawaii Joshikousei to Issho ni Kurasu Koto Deshita

Ryoushin no Shakkin wo Katagawari Shite Morau Jouken wa Nihon’ichi Kawaii Joshikousei to Issho ni Kurasu Koto Deshita

Ryoushin no Shakkin wo Katagawari Shite Morau Jouken wa Nihon’ichi Kawaii Joshikousei to Issho ni Kurasu Koto Deshita

Comment

Options

not work with dark mode
Reset