Ryoushin no Shakkin wo Katagawari Shite Morau Jouken wa Nihon’ichi Kawaii Joshikousei to Issho ni Kurasu Koto Deshita – ตอนที่ 19: ถูกของนายชินจิ

ทันทีที่เริ่มพักเที่ยงผมก็อยากจะโดดหนีออกไปให้พ้นๆจากห้องเรียนเหมือนกับกระต่าย ผมมั่นใจเลยว่าตอนที่ทำกิจกรรมชมรมหลังเลิกเรียนพวกสมาชิกชมรมคนอื่นๆจะเชื่อมโยงเหตุการณ์เมื่อเช้านี้กับการที่ผมขาดเรียนไปเมื่อช่วงสุดสัปดาห์แล้วก็ไล่จี้ผมเรื่องนู่นนี่นั่นแต่ก่อนหน้านั้นผมจะต้องก้มต่ำให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แล้วก็……

“จะไปไหนเหรอคะยูยะคุง? เราสัญญากันไว้แล้วไม่ใช่เหรอคะว่าจะทานมื้อเที่ยงด้วยกันน่ะ? ชั้นลำบากมากๆในการทำข้าวกล่องมื้อเที่ยงให้นายเลยนะคะนายจะไม่ทานมันสักหน่อยเหรอคะ?…….”

ครับผม ผมโดนคาเอเดะจับได้ซะแล้ว

รอยยิ้มบนใบหน้าของโอสึกิซังเองก็ทำให้ผมหงุดหงิดซะมัด

ต้องล้อกันเล่นแน่ๆ

ยัยบ้าเอ้ย! ผมก็แค่อยากได้ความสงบสุขกลับคืนมาเท่านั้นเองนะ!

“ชั้นทำสเต๊กแฮมเบิร์กที่เมื่อวานยูยะคุงบอกว่ามันอร่อยและชั้นก็อยากให้ยูยะคุงได้ทานเป็นมื้อเที่ยงมาน่ะค่ะ เพราะงั้นก็เลยตื่นแต่เช้าลุกขึ้นมาทำให้ค่ะ”

ใช่แล้ว คาเอเดะเป็นคนจัดการทำมื้อเย็นของพวกเราเมื่อคืนนี้อย่างที่เธอพูดนั่นแหละ

น้ำฉ่ำๆที่อยู่ในตัวเนื้อที่ไหลออกมาตอนที่เอาเนื้อออกมาจากกระทะแสดงให้เห็นว่าตัวเนื้อเป็นเกรดที่ดีมากพอๆที่คุณจะได้กินตามภัตตาคารแล้วรสชาติและความหวานของไขมันมันหมูที่แทรกอยู่ในนั้นก็ช่างนุ่มละมุนอร่อยสุดๆไปเลย

“แล้วก็……….ชั้นอยากจะลองทานมื้อเที่ยงกับคนที่ชั้นรักมาตลอดเลยล่ะค่ะ…..ได้ไหมคะ?”

“….มะ-มันก็ต้องได้แน่นอนอยู่แล้วน่ะสิ”

แล้วผมจะปฏิเสธคนที่ทำหน้าหงอยแบบนี้ได้ยังไงกันเล่า?

แล้วก็สายตาของผู้คนที่อยู่รอบๆนี่มัน!

“ข้าวกล่องทำมือของฮิโตสึบะซังเรอะ! อิจฉาซะจนอยากตายเลยเว้ย!”

“นี่หมอนั่นคิดจะปฏิเสธคำเชิญชวนไปกินข้าวด้วยกันเรอะ?! ไหงเอ็งถึงได้คิดจะปฏิเสธกันห๊ะ!? ลองปฏิเสธดูดิตรูฆ่าเอ็งแน่!”

“นี่ เธอบอกว่าเมื่อคืนนี้เธอก็ทำงั้นรึ? ไม่มีทางหน่า นี่พวกเขาอาศัยอยู่ด้วยกันอย่างงั้นเหรอ? นี่มันเป็นพัฒนาการด้านความรักแบบไหนกันเนี่ย? ไม่สิ นี่มันเหมือนกับพัฒนาการในเกมโป๊เลยไม่ใช่รึยังไงกัน!”

สายตาที่เต็มไปด้วยความชิงชังของเหล่าชายหนุ่มและเสียงซุบซิบสาปแช่งทิ่มแทงทะลุร่างกายของผมแล้วก็มีผู้ชายคนนึงที่พูดว่ามันเหมือนกับเกม 18+ ไม่มีผิดแต่ไอ้ท่อนนั้นก็ฟังดูไม่เหมาะกับอายุของเขาเหมือนกันนั่นแหละ

แต่ก็เห็นด้วยนะเรื่องที่ว่ามันเป็นพัฒนาการแบบเดียวกับในนิยายไม่มีผิดเลยน่ะ

ส่วนพวกสาวๆก็พูดว่า

“ช่างสง่าอะไรอย่างนี้นะฮิโตสึบะซัง……..ชั้นเองก็หวังลึกๆว่าจะได้เจอคนแบบเธอในเร็ววันบ้างจัง……”

“อิจฉาจังที่เธอทำอาหารเก่งแล้วก็ได้ทำเบนโตะให้กับคนที่เธอรักด้วยน่ะ……..ชั้นเองก็ควรลองทำอาหารดูบ้างดีไหมนะ?”

“ก็ได้ยินมาอยู่นะว่ามีหลายคนที่สนใจโยชิสุมิคุงกองหน้าของทีมฟุตบอลน่ะแต่เขาเองก็ไม่มีโอกาสที่จะชนะคาซุฮะซังแบบเดียวกับฮิงุเระคุงล่ะนะ พวกนกที่ตื่นเช้าออกหากินก่อนก็จะจับหนอนได้เสมอนั่นแหละ”

เอาล่ะ เอาเป็นว่าทำเป็นไม่ได้ยินอะไรก็แล้วกัน

ทำไมน่ะเหรอ? ก็เพราะคาเอเดะเธอก็แว่บมาอยู่ข้างๆผมอย่างกับความไวแสงแล้วน่ะสิ

แล้วด้วยความกดดันเงียบๆนี้ถ้าผมจะพูดออกมาว่า “เอาจริงๆผมก็ดังพอตัวอยู่นะ”

มันก็ง่ายที่จะจินตนาการออกเลยว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น

“นายจะต้องมองมาที่ชั้นคนเดียวเท่านั้นนะคะยูยะคุงแล้วชั้นก็จะมองแค่นายด้วยเหมือนกันค่ะ”

ผมรู้สึกเคืองตัวเองจริงๆที่มีนิสัยที่เวลาคิดเรื่องอะไรมันก็จะปรากฏออกมาบนใบหน้าของตัวเองอย่างง่ายดาย

ผมไม่ได้เอ่ยคำพูดใดออกไปเลยแต่เจ้าหล่อนก็ชนะผมได้อย่างใสๆ

เธอยิ้มกว้างให้กับผมขณะที่เอามือกอดอกแน่นและในขณะที่ผมกำลังอึ้งอยู่ที่ห้องเรียนก็ก้องกังวาลไปด้วยเสียงกัดฟันกรอดๆของเหล่าผู้ชายและเสียงวี๊ดว้ายของพวกผู้หญิง

“อะแฮ่ม….ยูยะ……..ขอโทษที่มาขัดจังหวะตอนที่กำลังจู๋จี๋กันอยู่นะแต่ถ้านายไม่รีบล่ะก็พวกเราจะไม่มีเวลากินมื้อเที่ยงกันพอดีน่ะสิ แล้วนายจะเอาไงล่ะ? จะไปโรงอาหารมะ? หรือจะกินมันตรงนี้เลยดี?”

เฮ้ย ชินจิแกใครว่ากำลังจู๋จี๋กันอยู่ห๊ะ?!

ไม่ใช่ว่าตอนนี้มันดูเหมือนว่าชั้นจะเป็นฝ่ายที่ถูกแกล้งอยู่ฝ่ายเดียวเลยไม่ใช่รึยังไง?

“อืมๆ ชั้นไม่เห็นอะไรเลยนะ อันที่จริงมันก็ทำให้ชั้นรู้สึกอายอยู่หน่อยๆนะเนี่ยที่เห็นพวกนายกำลังจู๋จี๋กันอยู่แบบนี้น่ะ”

“โธ่ อย่าพูดแบบนั้นสิชินคุง ชั้นเองก็ยังอยากจะจู๋จี๋กับนายเหมือนอย่างเคยนะ ไม่ได้เหรอ?”

“แน่นอนว่าได้สิ ชั้นก็ชอบที่จะจู๋จี๋กับเธอเหมือนกันนะอากิโฮะ”

ไอ้เจ้าชินจิ! นี่นายกำลังบิ้วบรรยากาศจนจะทำให้ชั้นเกือบจะได้ยินเพลง

[นกเขาคู่รัก] เข้ามาในหัวอยู่แล้วนะเฮ้ย!

ดูเซ่! คาเอเดะหล่อนมองมาที่ชั้นอย่างอิจฉาตาร้อนแล้วเนี่ย!

ขอล่ะ ให้ชั้นได้พักบ้างเถอะ!!!

“นี่ยูยะคุง…..พวกเราเองก็ควรจะเลิฟๆกันให้มากกว่านี้บ้างนะคะ”

“เอาล่ะ! เรามีเวลาไม่มากแล้ว มากินข้าวกันเถอะ! มาๆต่อโต๊ะเลยชินจิ! 2 โต๊ะคงจะไม่พองั้นเอามาต่ออีกเลย! สองคนนั้นพวกเขาอยู่ที่โรงอาหารกันเพราะงั้นไม่เป็นไรหรอก”

ผมไม่ยอมให้เธอมาบอกผมหรอกนะว่าจะต้องทำอะไรยังไง

แล้วเธอก็แง่ง่อนอยู่ตรงด้านข้างของผม

แต่ครั้งนี้ผมจะไม่ยอมลดการ์ดของตัวเองอีกแล้ว!

อีกอย่างเธอจะมาพองเหมือนกับปลาปักเป้าไม่ได้หรอกนะ!

ผมจิ้มไปที่แก้มของเธอจนทำให้เธอแก้มที่กลมตุ้บป่องของเธอปล่อยลมออกมา

โอ้วว ปากเล็กๆของผู้หญิงคนนี้น่ารักขนาดนี้ได้ยังไงกันนะ?

“นี่ อากิโฮะ ชั้นควรจะพูดดีไหมนะ? แต่ว่านี่เราแพ้แล้วสินะเนี่ย?”

“อืมมมม…..ปล่อยไว้แบบนี้มันน่าสนใจดีนะ แต่ยังไงชั้นว่าเราควรเข้าไปหยุดพวกเขาก่อนดีกว่าเพราะเดี๋ยวบรรยากาศในห้องเรียนจะกลายเป็นอึมครึมกันพอดี ชินคุงจัดการทีสิ!”

“ชั้นเรอะ นี่ชั้นต้องเข้าไปขัดเรอะ? ไม่ล่ะไม่ เป็นไปไม่ได้หรอก! ดู 2 คนนั้นสิอากิโฮะ

ไอ้เจ้ายูยะก็ยิ้มแบบที่ชั้นไม่เคยเห็นหมอนี่ยิ้มมาก่อนแถมแก้มของคาเอเดะซังก็ดูผ่อนคลายดูก็รู้เลยว่าเธอไม่อยากให้หยุดน่ะ! ชั้นเข้าไปขัดไม่ไหวหรอก…….”

เจ้าชินจิกับโอสึกิจังเนี่ยน่ารำคาญจริงๆเลยแฮะ

ผมก็แค่ชอบแก้มของคาเอเดะที่นุ่มนิ่มอย่างกับเค้กข้าวแค่นั้นเอง

หืม? เดี๋ยวนะ นี่เรากำลังสนุกอยู่รึเนี่ย?

“งื้อ……ยูยะคุงพอได้แล้วค่า…..”

พอนึกขึ้นได้คาเอเดะที่ผมกำลังจับแก้มของเธออยู่ก็หน้าแดงพร้อมกับหน้ามุ่ยไปด้วยก็ทักท้วงผม

นี่เราเผลอทำอะไรลงไปล่ะเนี่ย?

ผมเลิ่กลั่กแล้วดึงมือออกทันที

“เฮะๆ เป็นครั้งแรกเลยที่ยูยะคุงสกินชิพกับชั้นแบบนี้น่ะ จากนี้ไปเรามาแนบชิดกันให้มากขึ้นกันเถอะนะคะ 

ผมอยากจะคิดว่าตัวผมแค่คิดไปเองว่าตัวเองเห็นเครื่องหมายรูปหัวใจต่อท้ายประโยคด้วยน่ะ

“ยูยะ ชั้นว่านายห้ามใจตัวเองหน่อยก็ดีนะ”

อ่า ถูกของนายเลยชินจิ

Ryoushin no Shakkin wo Katagawari Shite Morau Jouken wa Nihon’ichi Kawaii Joshikousei to Issho ni Kurasu Koto Deshita

Ryoushin no Shakkin wo Katagawari Shite Morau Jouken wa Nihon’ichi Kawaii Joshikousei to Issho ni Kurasu Koto Deshita

Ryoushin no Shakkin wo Katagawari Shite Morau Jouken wa Nihon’ichi Kawaii Joshikousei to Issho ni Kurasu Koto Deshita

Comment

Options

not work with dark mode
Reset