Scholar’s Advanced Technological System – ตอนที่ 1054 เปิดตัวผลิตภัณฑ์

ณ กรุงนิวยอร์ก สนามบินนานาชาติจอห์น เอฟ เคนเนดี้

ชายสองคนที่ดูธรรมดานั่งอยู่ในมุมที่เทอร์มินัลนั่งรอ และพวกเขามีกระเป๋าเดินทางวางอยู่ข้างตัว

ถ้าเกิดมีใครในโลกฟิสิกส์เดินผ่านตรงนี้ พวกเขาคงจำชายสองคนนี้ได้ทันทีและขอลายเซ็น

น่าเสียดายที่ความเป็นไปได้ที่จะมีใครจำพวกเขาได้น้อยกว่าหนึ่งในหนึ่งพัน

ถึงแม้ว่าสำนักงานใหญ่ ILHCRC ในเซี่ยงไฮ้จะจัดงานไฮเอเนอร์จี้ฟิสิกส์รีเสิชซัมมิทในไม่กี่วัน ความเป็นไปได้ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมาก

แต่กระนั้น เนื่องจากในเทอร์มินัลนั่งรอทำให้เขาเป็นแค่คนทั่วไปอีกคน วิทเทนได้มีความสุขกับช่วงเวลาเงียบในที่สุด เขาสามารถคิดถึงปัญหาอย่างเงียบๆ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกรบกวน

แฟรงก์ วิลกเซค นั่งอยู่ข้างวิทเทน ซึ่งเขาก็กำลังจะไปงานประชุมในเซี่ยงไฮ้ วิลกเซคมองดูนิตยสารในมือของวิทเทนและหรี่ตามอง

[วงจรรวม 3.7Ghz ที่มีฐานเป็นฟิล์มนาโนทูบคาร์บอน]

อะไรวะเนี่ย?

“คุณสนใจวงจรรวมตั้งแต่เมื่อไหร่?”

ถึงแม้ว่าวิลกเซคไม่อยากรบกวนวิทเทน เขาก็อดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัย

“ผมไม่เข้าใจมันเท่าไหร่ แต่มันดูน่าสนใจ”

วิทเทนพลิกดูหน้านิตยสารและพูดว่า “ชิปใหม่ที่มีฐานจากวัสดุแกรฟีนถูกคาดว่าจะเปลี่ยนนิยมสารกึ่งตัวนำและปฏิวัติอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์…เฮ้อ ไม่แปลกใจที่ IEEE เพิกถอนงานเขียนนี้”

ถึงแม้ว่าเขาเป็นนักฟิสิกส์ มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่รู้เรื่องในศาสตร์ด้านอื่น

ในความเป็นจริงเขาได้ไปหลายประเทศมาแล้วและพูดคุยกับคนจำนวนมาก เขาจึงมีความรู้กว้างขวางกว่าคนส่วนใหญ่

ถึงแม้ว่า IEEE เป็นสมาคมมืออาชีพที่ไม่แสวงหากำไร IEEE มีสมาชิกส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยวิศวกรในด้านไฟฟ้าและวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาได้รับการยกเว้นจากอิทธิพลของอุตสาหกรรมหรือแม้แต่การเมือง

เมื่อเป็นเรื่องวงจรรวม ซึ่งมูลค่าการวิจัยสามารถถูกสะท้อนได้ในตลาด เส้นแบ่งระหว่างอุตสาหกรรมและวิชาการนั้นเลือนราง

ไม่ใช่แค่นั้น องค์กรนี้มีฐานอยู่ที่อเมริกา

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าชิปฐานคาร์บอนได้ทำให้อเมริกาเหนือสะเทือน…ซึ่งอาจจะกระทบต่ออุตสาหกรรมสารกึ่งตัวนำทั้งโลก บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Intel ที่มีอำนาจสูงในอุตสาหกรรมสารกึ่งตัวนำ ไม่อาจปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น

ในความเป็นจริง ถ้าเทคโนโลยีนี้ถูกสร้างขึ้นโดย Intel หรือ AMD มันจะไม่มีการต่อต้านเทคโนโลยีรุนแรงขนาดนี้

แต่เทคโนโลยีนี้ถูกสร้างโดยบริษัทที่อยู่ในขั้นกลางของห่วงโซ่อุตสาหกรรมโดยบริษัทต่างชาติ…

ไม่ใช่แค่นั้น บริษัทนี้ยังมีฐานอยู่ที่จีน

ถึงแม้ว่าบริษัทนี้มีฐานอยู่ในประเทศที่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐอเมริกา ทำเนียบขาวคงไม่ใจดีให้

การเพิกถอนจาก IEEE เป็นเพียงขั้นตอนแรก เป้าหมายคือการควบคุมอิสรภาพทางวิชาการ วิทเทนสามารถจินตนาการได้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น ผู้ผลิตสารกึ่งตัวนำอย่างเช่น Intel ควอลคอมม์ และ AMD จะสร้างพันธมิตรด้วยกัน พวกเขาจะใช้ผลกระทบของตัวเองในอุตสาหกรรมเพื่อกดดันห่วงโซ่อุตสาหกรรม โดยหวังว่าจะกีดกันเทคโนโลยีนี้…จนกว่าพวกเขาได้วิจัยเทคโนโลยีนี้เสร็จด้วยตัวเอง

แต่ว่าครั้งนี้ การโจมตีของ IEEE ล้มเหลวอย่างชัดเจน

ผู้คนที่เพิกถอนงานวิจัยของศาสตราจารย์ลู่ไม่คาดคิดว่าศาสตราจารย์ลู่จะสร้างนิตยสารของตัวเองและส่งงานวิจัยของตัวเองอีกครั้ง โดยเหมือนกันทุกคำ

ชุมชนวิชาการทั้งหมดรู้สึกอึ้งกับการกระทำของเขา

แต่วิทเทนไม่รู้สึกเซอร์ไพรส์

ท้ายที่สุดแล้วศาสตราจารย์ลู่เป็นคนที่สามารถต่อกรกับฟาลติ้งส์ได้

แม้แต่วิทเทนเองก็ไม่มีความกล้าและพลังงานที่จะเถียงกับชายเยอรมันดื้อรั้น

ศาสตราจารย์วิลกเซคมีสีหน้าครุ่นคิด และอยู่ดีๆ เขาถามว่า “คุณคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดีใช่ไหม?”

วิทเทนรู้ว่าเขากำลังถามอะไร เขาจึงยิ้มให้และตอบกลับว่า “ในระยะยาวถือเป็นเรื่องดี”

“คุณคิดแบบนั้นเหรอ?” วิลกเซคพูดว่า “เราได้ควบคุมโลกวิชาการในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา แต่ตอนนี้พวกเขากำลังเปลี่ยนกฎ อย่างน้อยภาษาวิชาการก็ถูกรวมแล้ว ผู้คนจึงไม่จำเป็นต้องเรียนจีนเพื่อที่จะอ่านงานวิจัยอีกแล้ว”

ถึงแม้ว่าฟิวเจอร์มีสองภาษา สำหรับคนในโลกวิชาการต่างชาติทางเลือกเดียวของพวกเขาคือการเรียนภาษาอื่น

สุดท้ายแล้วงานวิชาการต่างจากงานวรรณกรรม

งานที่ถูกแปลมาของวรรณกรรมจะไม่มีทางอ่านได้ดีกว่าต้นฉบับ

แต่สำหรับงานวิชาการ สำหรับผู้ที่ตามหาความจริง ไม่ว่ามันจะถูกแปลโดยคนทั่วไปหรือผู้เชี่ยวชาญ มันแทบไปเป็นไม่ได้ที่จะสะท้อนมุมมองวิชาการของผู้เขียนเดิมได้อย่างเต็มรูปแบบ

นอกจากนี้เมื่ออิทธิพลของฟิวเจอร์เพิ่มขึ้นถึงระดับของไซเอินซ์และเนเจอร์ มันก็จะยิ่งเพิ่มปัญหาความเฉพาะทางภาษามากขึ้นไปอีก

นี่เป็นสิ่งที่ทำให้วิลกเซคกังวล

ในความเป็นจริงเขาไม่ใช่คนเดียวที่คิดถึงเรื่องนี้

ผู้คนในโลกฟิสิกส์เริ่มกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้นับตั้งแต่การก่อตั้งของ ILHCRC

วิทเทนมองดูเพื่อนเก่าและยิ้มให้

เขาพลิกหน้านิตยสารฟิวเจอร์ดูและพูดว่า

“ภาษาไม่เคยเป็นอุปสรรคในการรุ่งเรืองด้านวิชาการ ในความเป็นจริงช่วงเวลาที่รุ่งเรืองที่สุดของโลกวิชาการยุโรปคือช่วงเวลาที่ยุโรปถูกแบ่งแยกมากที่สุด…มันยังเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดของวัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์”

“การเรียนภาษาอื่นมีปัญหาอะไรล่ะ? ผมเรียนฝรั่งเศสภายในหนึ่งเดือนตอนผมอยู่ที่เซิร์น ถึงแม้ว่าผมอายุไม่น้อยแล้ว มันใช้เวลาไม่นานที่จะเรียนภาษาอื่น…ผมแนะนำให้คุณพยายามเรียนจีนสักเล็กน้อย งานวิจัยจากปราสาทจันทราทั้งหมดถูกเผยแพร่ในภาษาจีน ILHCRC มีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆ ในชุมชนฟิสิกส์นานาชาติ ไม่ใช่แต่นั้น เครื่องชนอนุภาคแฮดรอนที่พื้นผิวดวงจันทร์กำลังจะเสร็จสิ้น เราอาจจะเดินทางไปเซี่ยงไฮ้มากกว่าสวิตเซอร์แลนด์และฝรั่งเศสรวมกันเสียอีก”

วิลกเซคส่ายหน้าและพูดว่า “ผมพยายามเรียนจีน…ตัวอักษรพวกนั้นมันยากเกินไป”

“สิ่งที่ยากไม่ใช่ตัวภาษาเอง มันเป็นอคติที่มีโดยไม่รู้ตัวและการต่อต้านข้อมูลใหม่” วิทเทนพูดอย่างสบายๆ “ในเวลาหลายครั้ง อคตินี้ยับยั้งไม่ให้เราเสาะหาความจริง เมื่อกับไม่กี่ศตวรรษก่อน เราเชื่ออย่างไม่สนใจโลกว่าโลกแบนและดวงอาทิตย์หมุนรอบตัวเรา”

“ผมจำได้ว่าพ่อของผมเคยบอกว่า พ่อบอกผมว่าวิทยาศาสตร์เป็นไอเดีย มันก็ยังเป็นเครื่องมือด้วย”

“คนจีนเป็นส่วนหนึ่งของโลกวิชาการแล้ว และพวกเขาไม่สามารถถูกละเลยได้ ความหยิ่งทะนงในใจเราได้ปล่อยให้เราเป็นคนโง่เขลา ความหยิ่งยโสสร้างปัญหาและตรรกะที่ผิดพลาดจำนวนมาก ปัญหาที่เราเผชิญอยู่เป็นผลพวงจากตรรกะบิดเบี้ยวพวกนี้…”

วิทเทนปิดนิตยสารในมือและมองดูศาสตราจารย์วิลกเซค เขายิ้มและพูดว่า

“โอเค มันใกล้ถึงเวลาขึ้นเครื่องแล้ว”

ILHCRC ไม่ใช่องค์กรเดียวที่จัดงานประชุมในเซี่ยงไฮ้

ในขณะที่วิทเทนและเพื่อนขึ้นเครื่องบินไปเซี่ยงไฮ้ เจ้าหน้าที่อาวุโสสองคนจาก Intel เมย์เบอร์รี่และสวอน มาถึงสนามบินนานาชาติเซี่ยงไฮ้

เมย์เบอร์รี่รู้สึกเจ็ทแล็ค เขาผ่านศุลกากรและหาวในขณะที่เขาเดินในสนามบิน

สวอนเดินอยู่ข้างเขา เขาขมวดคิ้วและพูดว่า “การเปิดตัวผลิตภัณฑ์จะเริ่มในอีกหนึ่งชั่วโมง…คุณแน่ใจนะว่าคุณไหว?”

“ผมสบายดี ผมก็แค่…เจ็ทแล็คนิดหน่อย” เมย์เบอร์รี่ส่ายหน้าแล้วนวดหัวตัวเองในขณะที่พูดว่า “จริงๆ แล้ว ผมคิดว่าผมคนเดียวก็พอ เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังดึงดูดความสนใจของเรา เราสามารถไม่สนใจพวกเขาและทำตามแผนของเรา”

“มันถูกต้องในทางทฤษฎี” สวอนมองดูข้างหน้าเขาและพูดว่า “แต่วิธีการเดียวที่เอาชนะคู่แข่งได้คือการเรียนรู้เกี่ยวกับคู่แข่ง เนื่องจากพวกนั้นยิ่งยโสพอที่จะให้เราได้โอกาสนี้ เราควรรับมันไว้”

“มันไม่สำคัญว่าพวกเขาวางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์อะไรที่งานประชุม เราต้องหาให้เจอว่าพวกเขาทำอะไรกับการวิจัยชิปฐานคาร์บอน”

……………………………….

Scholar’s Advanced Technological System

Scholar’s Advanced Technological System

The Overachiever's Black Tech System, 学霸的黑科技系统
Score 6.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2018 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Scholar’s Advanced Technological Systemหลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล “ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?” “ไม่ได้” “เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?” “ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset