Scholar’s Advanced Technological System – ตอนที่ 1117 ผมจะพิสูจน์ที่นี่แหละ

ณ ทางเข้ามหาวิทยาลัยจินหลิง

ชายชรามองดูใบหน้าของหนุ่มๆ บนถนนที่กำลังเดินไปมาพลุกพล่าน สักพักเขาก็ถอนหายใจ

“มันเปลี่ยนไปมากจริงๆ”

ชายคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก… ชิวเฉิงถง ศาสตราจารย์ประจำที่ฮาร์วาร์ด ผู้ก่อตั้งศูนย์คณิตศาสตร์ของมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่

คนที่ยืนอยู่ข้างๆ กับเขาคือเซี่ยงหัวหนานจากสถาบันวิทยาศาสตร์

แม้ว่าเขาจะไม่ได้มาที่นี่บ่อยๆ เพราะเขาอาศัยอยู่ที่ประเทศจีน แต่เขามักจะได้ยินเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยจินหลิงอยู่เสมอ

เมื่อเขาได้ยินเสียงของผู้เฒ่าชิว เขาก็ยิ้มและพูดต่อ

“มันเปลี่ยนไปมากจริงๆ เมื่อห้าปีก่อน พวกเขายังคงแข่งขันกับมหาวิทยาลัยออโรร่าในห้าอันดับแรกอยู่เลย แต่ตอนนี้พวกเขาเกือบจะอยู่ที่ด้านบนสุดของประเทศไปแล้ว ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณนักวิชาการลู่ ในทุกครั้งที่ผมคุยกับเพื่อนๆ จากมหาวิทยาลัยออโรร่า พวกเขาต่างพากันอิจฉาที่ไม่มีนักวิชาการอย่างลู่โจวจากมหาวิทยาลัยของพวกเขาเลยสักคน”

“โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่มหาวิทยาลัยจินหลิงได้ทำการปฏิรูปการศึกษาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พวกเขายิ่งประสบความสำเร็จอย่างมากด้วยการสนับสนุนจากนักวิชาการลู่ เมื่อเขากลับมาจากพรินซ์ตันครั้งแรก เขาก็ได้สร้างโครงการฝึกอบรมความสามารถสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรีและได้รับการรับรองจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศอย่างง่ายดาย แน่นอนว่ามันจะเป็นแบบนี้ทั่วทั้งประเทศในอนาคตแน่นอน”

เมื่อผู้เฒ่าชิวได้ยินคำพูดของเซี่ยง เขาก็ยิ้มและพูดว่า “ถ้าคุณต้องการให้การศึกษาก้าวหน้า สิ่งที่เราต้องการคือการเปลี่ยนแปลงจากบนลงล่าง การพึ่งพาแค่คนหนึ่งๆ หรือมหาวิทยาลัยที่ยิ่งใหญ่เพียงไม่กี่คนนั้นไม่เพียงพอ”

ผู้เฒ่าชิวหยุดชั่วครู่ ก่อนที่จะยิ้มและกล่าวว่า “แต่ผมคิดว่าเราควรตั้งตารออนาคตข้างหน้า”

มีคนมากมายที่อุทิศตนเพื่ออุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ของการศึกษา

ระบบการศึกษาของจีนนั้นใช้เวลาไม่นานก็สามารถเจริญได้

นักวิชาการเซี่ยงยิ้มและพูดว่า “หยุดรออยู่ข้างนอกกันเถอะ ผมแน่ใจว่าผู้เฒ่าสวี่กำลังยุ่งอยู่แน่ๆ”

“ก็ถูก” ผู้เฒ่าชิวพยักหน้าและมองไปที่นักวิชาการเซี่ยงในขณะที่เขาพูด “คุณต้องแนะนำให้ผมรู้จักกับเขาสักหน่อย ผมยังไม่รู้จักเขาดีพอ”

นักวิชาการเซี่ยงยิ้มและพูด

“ไม่ต้องเป็นห่วง

“เขาตั้งหน้าตั้งตารอที่จะพบคุณอยู่!”

นับตั้งแต่ลู่โจวอัปโหลดบทความของเขาไปที่ arXiv บรรยากาศของมหาวิทยาลัยจินหลิงก็เปลี่ยนไป

คนทั้งโลกให้ความสนใจกับที่มหาวิทยาลัยจินหลิงเป็นอย่างมาก

ไม่นานมหาวิทยาลัยจินก็ได้กลายเป็นศูนย์กลางคณิตศาสตร์ของโลก และชุมชนคณิตศาสตร์และวิชาการต่างหันมาสนใจรายงานนี้

อาจารย์ใหญ่สวี่มีความสุขมาก

ด้านหนึ่งเขากำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมการประชุมรายงาน ส่วนอีกด้านเขารู้สึกปลาบปลื้มกับชื่อเสียงและอิทธิพลที่รายงานนี้นำมาสู่มหาวิทยาลัยจิน

แม้ว่าพวกเขาจะเคยมีรายงานที่คล้ายคลึงกันมาก่อน แต่ผลรวมของรายงานก่อนหน้านี้ทั้งหมดก็ยังไม่สำคัญเท่ารายงานนี้เลยสักนิดเดียว

ส่วนเหตุผลนั้น…

เป็นเพราะว่ารายงานนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการไขปริศนาที่บุคคลในประวัติศาสตร์ทิ้งไว้เบื้องหลัง แต่เป็นเพราะการนิยามอนาคตของคณิตศาสตร์ที่มีอิทธิพลต่อโลกทั้งใบไปแล้ว

วันเวลาได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว และในอีกไม่นานก็จะถึงวันประชุมการบรรยาย

นักวิชาการจากทั่วทุกมุมโลกได้มารวมตัวกันที่หอประชุมวิทยาเขตแห่งใหม่ของมหาวิทยาลัยจินหลิง

จริงแล้วๆ การบรรยายประเภทนี้ควรจัดในหอประชุมของมหาวิทยาลัยเก่า ซึ่งมีประวัติศาสตร์และน่าจดจำมากกว่า แต่ด้วยจำนวนผู้เข้าร่วมที่มากเกินไป ดังนั้นสถานที่จึงถูกกำหนดให้เป็นโรงยิมของวิทยาเขตแห่งใหม่แทน

เมื่อการเตรียมการทั้งหมดเสร็จสิ้น ลู่โจวก็เดินขึ้นไปบนเวทีโดยเขาสวมสูทสีดำสนิท

เขามองดูสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านและรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที

ทุกคนตั้งแต่อาจารย์มหาวิทยาลัยจินหลิงตลอดไปจนถึงเพื่อนเก่าของเขาที่พรินซ์ตัน พวกเขาทั้งหมดมารวมกันที่นี่เพื่อรอให้เขาได้พูด

บอกตามตรงว่าเขาจำไม่ได้ว่าเคยบรรยายไปกี่ครั้งแล้ว

แต่นี่เป็นครั้งที่สำคัญที่สุดอย่างในชีวิตเขาไม่ต้องสงสัย

นี่อาจเป็นรายงานคณิตศาสตร์ฉบับสุดท้ายของเขาที่เคยมีก็ได้…

เขาเอื้อมมือออกไปและถือไมโครโฟนเอาไว้

วินาทีที่เขาสัมผัสไมโครโฟน ทั้งหมดก็เงียบลง

ไม่มีใครบังคับให้ทำเช่นนี้

ไม่มีใครบอกให้พวกเขาเงียบ

แต่พวกเขาได้ทำความเข้าใจร่วมกันแล้ว ทุกคนกำลังรอให้ลู่โจวพูด

ลู่โจวรอประมาณสองสามวินาที และกระแอมในลำคอก่อนจะกล่าวเปิดงานของเขา

“ขอบคุณทุกคนที่สละเวลาจากตารางงานที่ยุ่งๆ ของคุณเพื่อเดินทางมาจากทั่วทุกมุมโลก

“ผมขอขอบคุณมหาวิทยาลัยจินหลิงสำหรับการจัดเตรียมและจัดการบรรยายในครั้งนี้ด้วยครับ

“เอาล่ะ เรามาเริ่มกันเถอะ”

ลู่โจวหันกลับมาและกดเลเซอร์พอยเตอร์เพื่อนำเสนอ

พาวเวอร์พอยต์ได้เปลี่ยนเป็นสไลด์ที่มีบทคัดย่อวิทยานิพนธ์ทันที

ลู่โจวมองไปที่กระดานไวท์บอร์ดและหยิบปากกามาร์กเกอร์ขึ้นมา เขาเริ่มเขียนในขณะที่เขาก็อธิบายทฤษฎีการรวมแรงครั้งใหญ่ของเขาไปด้วย

ทุกคนต่างพากันตั้งใจฟัง

คนที่นั่งใกล้ด้านหลังถึงกับหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อซูมไปที่ไวท์บอร์ด

เวลาได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป

แม้ว่าลู่โจวจะหมกมุ่นอยู่กับโลกของคณิตศาสตร์มากจนเขาไม่ทันสังเกตว่านาฬิกากำลังเดินอยู่เลย

อย่างเช่นตอนนี้ที่เวลาได้ผ่านไปกว่าสามชั่วโมงแล้ว แขนและไหล่ของลู่โจวเริ่มรู้สึกเจ็บขณะที่เขาก็ได้หยุดเขียนในที่สุด

กระดานไวท์บอร์ดแปดแผ่นเต็มไปด้วยงานเขียนของเขา

ไวท์บอร์ดแต่ละอันมีคำและสัญลักษณ์ที่เขียนอย่างประณีต…

“นั่นคือทฤษฎีการรวมแรงครั้งใหญ่ครับ”

เมื่อเขาได้ยินเสียงความโกลาหลในฝูงชนเกิดขึ้น เขาก็หันกลับมาและพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบ

“ผมมั่นใจว่าพวกคุณบางคนต้องมีคำถามและข้อสงสัยในใจแน่นอน

“นี่เป็นเพียงบทสรุปของเอกสารเท่านั้น ผมจะใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงในตอนท้ายการบรรยายเพื่อตอบคำถามของพวกคุณ

“แต่ตอนนี้ผมจะสาธิตการประยุกต์ใช้ทฤษฎีการรวมแรงครั้งใหญ่ให้ดูก่อน

“เราบอกว่าคุณค่าของทฤษฎีบทคือความสามารถในการพิสูจน์สมการและการคาดเดาได้

“เนื่องจากข้อจำกัดด้านเวลา ดังนั้นผมจะยกตัวอย่างเพียงตัวอย่างเดียวเท่านั้น

“หวังว่าทุกคนจะจับตาดูด้วยความตั้งใจ”

ลู่โจวหันกลับมาหยิบปากกาอีกครั้ง

ตอนนี้…

เขาได้เขียนบนกระดานไวท์บอร์ดที่เก้า

ชิวเฉิงถงนั่งอยู่ท่ามกลางฝูงชน และเขาก็สับสนว่าลู่โจวนั้นกำลังวางแผนจะทำอะไร

ศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์ก็เช่นกัน เขามองดูการเคลื่อนไหวของลู่โจวด้วยใบหน้าที่สงสัย

แต่ความสับสนของพวกเขาก็อยู่ไม่นาน

เพราะเมื่อลู่โจวจดสามคำแรกเสร็จ รูม่านตาของพวกเขาหดเล็กลงทันที

“ข้อคาดการณ์มาตรฐานของก็อตเท็นดิ๊ก?!”

ดวงตาของศาสตราจารย์เดอลีงย์เบิกกว้างขึ้นจนเกือบจะถลนออกมา เขาเกือบจะกระโดดออกจากเก้าอี้

ข้อคาดการณ์มาตรฐานของก็อตเท็นดิ๊ก!

นี่เป็นหนึ่งในประพจน์ที่สำคัญที่สุดในเรขาคณิตเกี่ยวกับพีชคณิตแล้ว!

แม้ว่าจะไม่ใช่รางวัลมิลเลนเนียม และไม่ใช่สมการ 23 ข้อของฮิลเบิร์ท แต่มันสำคัญกว่าสมการเหล่านั้นเสียอีก!

เหตุผลที่มันไม่รวมอยู่ในรายการสมการยากๆ เหล่านั้นก็เพราะคนส่วนใหญ่คิดว่าประพจน์นี้ไม่สามารถแก้ไขได้ในศตวรรษนี้ได้

ไม่ใช่แค่ศาสตราจารย์เดอลีงย์และฟาลติ้งส์ที่งุนงง เพราะนักวิชาการเกือบทั้งหมดในนี้ก็ต่างพากันตกตะลึงกับลู่โจว

เขาหมายถึงอะไร โดยการใช้ทฤษฎีการรวมแรงครั้งใหญ่เหรอ?

ทำไมเขาถึงเขียนข้อคาดการณ์มาตรฐานของก็อตเท็นดิ๊กล่ะ?

เขาจะทำอะไร?

หรือบางที…

ทุกคนสามารถเดาได้ว่าลู่โจวกำลังวางแผนจะทำอะไรต่อไป

ทุกคนแทบจะไม่อยากที่จะเชื่อว่าลู่โจวจะพิสูจน์สมการนี้ได้

ลู่โจวเมินความโกลาหลที่เกิดขึ้น ตอนนี้เขาตั้งใจเขียนประพจน์ที่สร้างปัญหาให้กับโลกคณิตศาสตร์มาหลายทศวรรษบนไวท์บอร์ด

[ทุกแรงจูงใจควรมีการสลายผลรวมโดยตรง โคโฮโมโลยีของคำสั่งทั้งหมดในพื้นที่ที่กำหนดสามารถแสดงผ่านผลรวมโดยตรงของการสลายตัวนี้]

เขาหยุดเขียน

และเมื่อลู่โจวหันไปเผชิญหน้ากับคนดู เขาก็สงบสติอารมณ์ได้อย่างดีเยี่ยมราวกับว่ามันเป็นเรื่องปกติ

“ผมแน่ใจว่าทุกคนในสาขาการวิจัยนี้จะสามารถเข้าใจถึงประพจน์นี้ได้

“ผมจะพิสูจน์มัน

“ตอนนี้”

ราวกับว่าลู่โจวเพิ่งทิ้งระเบิดปรมาณูลงในชุมชนคณิตศาสตร์ ณ ตอนนี้!

…………………………

Scholar’s Advanced Technological System

Scholar’s Advanced Technological System

The Overachiever's Black Tech System, 学霸的黑科技系统
Score 6.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2018 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Scholar’s Advanced Technological Systemหลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล “ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?” “ไม่ได้” “เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?” “ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset