Scholar’s Advanced Technological System – ตอนที่ 123 อัจฉริยะหรือคนบ้า?

วันที่ห้าของงานประชุมทางวิชาการ…

มีชายสวมชุดสูทเดินไปที่ห้องสามศูนย์หกอย่างเร่งรีบก่อนที่เขาจะยื่นมือออกไปเคาะประตูอย่างสุภาพ

“คุณลู่โจว การพรีเซนต์ของคุณใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว คุณพร้อมแล้วหรือยัง?”

มีเสียงฝีเท้าดังมาจากในห้อง

จากนั้นก็มีเสียงพูดดังขึ้น

“ตอนนี้? ไม่ใช่ว่าผมพรีเซนต์ตอนบ่ายหรือ?”

ชายชุดสูทยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน เขากระแอมก่อนจะกล่าว “ในทางเทคนิคมันต้องเป็นอีกหนึ่งชั่วโมง แต่เนื่องจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นโดยนักข่าวเบลเยียม ตารางงานจึงมีการปรับเปลี่ยน…คุณเห็นอีเมลไหม?”

ในห้องเงียบไปชั่วครู่ มีเสียงถอนหายใจอย่างร้อนรนดังแว่วขึ้นมา

“…ผมขออาบน้ำก่อน”

พนักงานงานประชุมโล่งอก

“พวกเราต้องขออภัยในความไม่สะดวก…อีกอย่างโปรดอย่าใช้เวลาอาบน้ำนานเกินไป”

มีคนประมาณสองร้อยคนที่นั่งอยู่ในห้องบรรยายหนึ่งที่มีคนอยู่กันอย่างหนาแน่น ในหมู่คนเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นคนไร้ชื่อเสียง แต่ก็มีอยู่สองสามคนที่เป็นบุคคลชื่อดัง

ยกตัวอย่างศิษย์ที่น่าภูมิใจของจักรพรรดิคณิตศาสตร์ก็อตเทนดิ๊ก เดอลีงย์ และศาสตราจารย์หวังอี้ผิงจากมหาวิทยาลัยเยี่ยน

อาจเป็นเพราะสภาวะจิตใจที่ไม่ดีของลู่โจว เขาจึงสงบผิดปกติ เขาไม่ประหม่าเลยสักนิด

ลู่โจวปรับไมโครโฟน และเมื่อเขาได้รับสัญญาณจากเจ้าหน้าที่งานประชุม เขาก็เริ่มพูด

“ตอนนี้ทุกท่านน่าจะได้อ่านวิทยานิพนธ์ของผมไปแล้ว จากข้อตกลงเดิมของงานประชุม เนื้อหาที่จะบรรยายในวันนี้ควรเกี่ยวกับการศึกษาจำนวนเฉพาะของแมร์แซน…แต่เนื่องจากการปรับเปลี่ยนตารางเวลา ผมจึงต้องขอเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย”

ลู่โจวหยุดชั่วครู่ จากนั้นเขาก็มองเจ้าหน้าที่แล้วกล่าว “คุณช่วยเอาไวท์บอร์ดมาให้ผมได้ไหม?”

เจ้าหน้าที่ลังเลก่อนจะกล่าว “ครับ แต่ภาพจากโปรเจคเตอร์ที่แสดงบนไวท์บอร์ดนั้นแย่มาก มันจึงอาจทำให้บางคนมองไม่เห็น”

“แค่เอาปากกามาให้ผมก็พอ” ลู่โจวกล่าว จากนั้นเขาก็หันไปมองโปรเจคเตอร์ “ปิดโปรเจคเตอร์ไปเลยก็ได้”

ผู้ชมกระซิบกระซาบกันเอง พวกเขาไม่รู้ว่าลู่โจวจะทำอะไร

เจ้าหน้าที่ก็เฝ้าดูด้วยความสงสัยเช่นกัน แต่มันไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาได้รับคำขอแปลกๆ จากอัจฉริยะ ดังนั้นพวกเขาจึงรีบลากไวท์บอร์ดมาให้ลู่โจวอย่างรวดเร็ว

ลู่โจวขอบคุณพวกเขาก่อนจะหันหน้าไปทางไวท์บอร์ด เขาสูดลมหายใจแล้วเข้าสู่มิติของระบบ เขาเริ่มใช้งานช่วงเวลาแห่งการเกิดแรงบันดาลใจทันที

มันเป็นแรงบันดาลใจชั่วโมงสุดท้าย

เขาจะทำการพิสูจน์ให้เสร็จในชั่วโมงนี้!

เมื่อลู่โจวลืมตา เขาก็ยกปลายปากกาขึ้น

เขาเขียนการคำนวณบรรทัดแรกลงบนไวท์บอร์ด

ผู้ชมหัวเสียเล็กน้อย

ท้ายที่สุดแล้วลู่โจวก็ไม่ได้บรรยายอะไรเลย แม้แต่พาวเวอร์พอยนต์ก็ไม่ใช้ เพราะงี้แหละมือใหม่ถึงไม่เป็นที่ต้อนรับ

นักศึกษาสองคนที่นั่งอยู่หลังห้องบรรยายเก็บข้าวของแล้วรีบเดินออกนอกห้องไป

งานประชุมทางวิชาการเหลือไม่กี่วันเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเสียเวลาเปล่ากับการฟังการบรรยายที่ไร้ประโยชน์

แต่สำหรับเหล่าอัจฉริยะที่เข้าร่วมงานประชุมบ่อยๆ พวกเขาชินกับความปั่นป่วนแบบนี้แล้ว สีหน้าของพวกเขาไม่เปลี่ยนไปเลย พวกเขามุ่งเน้นที่ผลของการพรีเซนต์ ไม่ใช่ผู้พรีเซนต์

เมื่อลู่โจวเขียนการคำนวณบรรทัดที่สิบ จู่ๆ ศาสตราจารย์เดอลีงย์ก็มีสีหน้าแปลกใจ

เขาบอกผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ “เอาสมุดมาให้ฉันหน่อยได้ไหม?”

ผู้ช่วยรีบหยิบสมุดออกมา “ผมเอามาด้วยครับ”

“ขอบใจ”

ศาสตราจารย์เดอลีงย์วางสมุดไว้บนตักแล้วจ้องมองการคำนวณบนไวท์บอร์ด แววตาของเขาค่อยๆจริงจังขึ้น

ในขณะเดียวกันศาสตราจารย์หวังอี้ผิงที่นั่งอยู่อีกด้านของห้องบรรยายก็จ้องมองไปยังไวท์บอร์ดเช่นกัน

แม้ว่าด้วยเหตุผลด้านอายุ มันจึงเป็นเรื่องยากที่เขาจะเห็นบนไวท์บอร์ด แต่เขาก็ยังจ้องมองอย่างตั้งใจมาก

ข้างๆ เขาเป็นกลุ่มแลกเปลี่ยนด้านวิชาการจากมหาวิทยาลัยเยี่ยน กลุ่มนี้ประกอบด้วยนักศึกษาปริญญาตรีสามคนและนักศึกษาปริญญาโทและเอกอย่างละคน

เหว่ยเหวินจ้องมองไวท์บอร์ดแล้วถาม “เขากำลังทำอะไร?”

นั่นสิ

เขากำลังทำอะไร…

ศาสตราจารย์หวังก็สงสัยเช่นกัน

อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นการคำนวณบรรทัดที่สิบ เขาก็เงยหน้ามองอย่างไม่อยากจะเชื่อทันที

เขาอาจเดาได้แล้วว่าลู่โจวกำลังทำอะไร

เขาไม่อยากจะเชื่อเลย

เด็กคนนี้กำลังท้าทายปัญหาระดับโลกที่นี่? ข้อคาดการณ์จำนวนเฉพาะคู่แฝด?

เด็กคนนี้ต้องบ้าไปแล้ว…

“ตะแกรงของเอราทอสเทนีส? เขากำลังพิสูจน์ข้อคาดการณ์ที่สองของก็อลท์บัค? ไม่สิ ไม่ใช่ สูตรคำนวณเหล่านี้…” โมลิน่าจ้องมองไวท์บอร์ดแล้วพึมพำ “ศาสตราจารย์เซลล์เบิร์กตีพิมพ์วิทยานิพนธ์ใน’Year of Mathematics’ตอนปี 1995 เกี่ยวกับการศึกษาวิธีทอพอโลยีในทฤษฎีตะแกรง…เขากำลังท้าทายข้อคาดการณ์คู่แฝด!”

เมื่อลู่โจวเขียนคำนวณบรรทัดที่ยี่สิบ ผู้เข้าร่วมในห้องบรรยายสามสิบเปอร์เซ็นต์ ก็เข้าใจแล้วว่าเขากำลังทำอะไร

ส่วนคนที่เหลือนั้น พวกเขาไม่รู้เรื่องเลย

งานประชุมทางวิชาการประเภทนี้เปิดกว้างมาก และมาตรฐานการลงทะเบียนก็ไม่ได้สูงเกินไป ใครๆ ก็เข้าร่วมได้ ตราบใดที่พวกเขาจ่ายค่าลงทะเบียนราคาแพงล่ะก็นะ

อันที่จริงมันก็ไม่ได้สำคัญมากนักว่าคนๆ นั้นจะลงทะเบียนไหม

แม้ว่างานประชุมแบบนี้จะออกบัตรเชิญให้ แต่พนักงานก็ไม่ได้ตรวจสอบด้วยซ้ำ ดังนั้นหลายคนที่ไม่ได้ลงทะเบียนจึงยังแอบเข้ามาพูดคุยเกี่ยวกับคณิตศาสตร์กับผู้เข้าร่วมงานได้

ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือพวกเขาไม่สามารถพรีเซนต์โปสเตอร์ทางวิชาการของตนเอง ไม่อาจพักอยู่ในโรงแรมพรินซ์ตันและไม่สามารถเข้าร่วมงานเลี้ยงค็อกเทล

เหว่ยเหวินจ้องมองไวท์บอร์ดแล้วพลันเอ่ยขึ้นมา “ทฤษฎีจำนวนเฉพาะคี่สามของวีโนกราดอฟ”

ศาสตราจารย์หวังอี้ผิงพยักหน้าแล้วกล่าว “ใช่”

เหว่ยเหวินอดถามไม่ได้ “ศาสตราจารย์…เขากำลังทำอะไรกันแน่?”

ศาสตราจารย์หวังอี้ผิงยิ้มแล้วกล่าว “โอ้ เธอบอกไม่ได้เหรอ?”

เหว่ยเหวินดูมึนงง เขาส่ายหน้า

“งั้นก็แค่ดูต่อไป” ศาสตราจารย์หวังอี้ผิงถอนหายใจ ขณะที่เขามองไวท์บอร์ด เขาก็พยักหน้ายอมรับ “ดูเหมือนศาสตราจารย์ถังจะเมล็ดพันธุ์ที่ดี…ฉันคาดหวังในอีกยี่สิบปีข้างหน้าจริงๆ”

ลู่โจวไม่ได้สังเกตความเคลื่อนไหวในห้องบรรยาย สมาธิทั้งหมดของเขาจดจ่ออยู่บนไวท์บอร์ด แม้ว่าความเร็วการเขียนของเขาจะไม่ได้เร็วนัก แต่มันก็มีพลังและระมัดระวังเป็นพิเศษ

เวลาค่อยๆ ผ่านไป และเจ้าหน้าที่งานประชุมก็ยังคงเฝ้าดูอย่างตั้งใจ

ในที่สุดก็เหลือเวลาอีกห้านาที เจ้าหน้าที่เห็นว่าส่วน Q&A ยังไม่เริ่มเลย ดังนั้นเขาจึงกระแอมแล้วเอ่ยเตือนลู่โจว

“เหลือเวลาเพียงห้านาทีเท่านั้น”

ลู่โจวยืนอยู่หน้าไวท์บอร์ดเขียนสูตรคำนวณต่อไปราวกับว่าเขาไม่ได้ยินที่เจ้าหน้าที่พูด

เขาป้องกันสิ่งรบกวนจากภายนอกโดยสมบูรณ์

สุดท้ายห้านาทีนั้นก็ผ่านไป

เจ้าหน้าที่สองคนแลกเปลี่ยนสายตากันแล้วกำลังจะขัดจังหวะผู้พรีเซนต์

อย่างไรก็ตามมีหนึ่งในคนที่นั่งอยู่แถวหน้าพูดขึ้นมา

“ปล่อยให้เขาทำต่อไป”

คนพูดคือปิแยร์ เดอลิงย์

เมื่อได้ยินคนใหญ่คนโตคนนี้พูด เจ้าหน้าที่ก็ตกตะลึง

อย่างไรก็ตามเนื่องด้วยอาชีพเขา เจ้าหน้าที่จึงอธิบาย “แต่การพรีเซนต์คนต่อไปกำลังจะเริ่มแล้ว…”

ศาสตราจารย์เดอลีงย์วางสมุดไว้ข้างๆแล้วลุกขึ้นยืนก่อนจะกล่าวช้าๆ “การพรีเซนต์ถัดไปจะถูกย้ายไปห้องบรรยายที่ สี่ ใครอยากไป ไปได้เลย”

จากนั้นเขาก็นั่งลง

สิบนาทีผ่านไป ไม่มีใครออกไปจากห้องบรรยายที่ 1

ไม่มีใครยอมจากไป

คนที่ไม่เข้าใจเนื้อหานั้นได้ออกไปนานแล้ว ไม่มีใครนั่งอยู่จนถึงตอนนี้

ส่วนคนที่เหลือ ส่วนใหญ่เข้าใจว่าลู่โจวกำลังทำอะไร

การท้าทายปัญหาคณิตศาสตร์ระดับโลกระหว่างงานประชุม?

คนที่กล้าทำอะไรแบบนี้ไม่ใช่อัจฉริยะ แต่เป็นคนบ้า!

คนที่กำลังนั่งชมอยู่นั้น ถ้าพวกเขาไม่ได้กำลังเป็นสักขีพยานช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ พวกเขาก็กำลังชมเรื่องตลกครั้งใหญ่แทน

แต่ไม่ว่ายังไงมันก็เป็นการแสดงที่น่าสนใจ

…………………………………

Scholar’s Advanced Technological System

Scholar’s Advanced Technological System

The Overachiever's Black Tech System, 学霸的黑科技系统
Score 6.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2018 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Scholar’s Advanced Technological Systemหลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล “ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?” “ไม่ได้” “เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?” “ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset