Scholar’s Advanced Technological System – ตอนที่ 390 แผนก่อนเดินทางกลับจีน

เที่ยวบินไปจีนของลู่โจวคือหลังคริสต์มาส

ยังมีเวลาเหลือสามวัน และเขามีแผนทำธุระบางอย่าง พอเขากลับมาพรินซ์ตันหลังหยุดพักผ่อน เขาจะได้ไม่ต้องยุ่งมือเป็นระวิง

เรื่องแรกที่เขาต้องจัดการคือโปรเจกต์วิจัย’การมีอยู่ของผลเฉลยที่ราบรื่นของสมการนาเวียร์-สโตกส์ในสามมิติที่บีบอัดไม่ได้’

นอกจากปรากฏการณ์ความปั่นป่วนพลาสมา นี่เป็นโปรเจกต์วิจัยที่สำคัญที่สุดของลู่โจว

นับตั้งแต่’กลุ่มโปรเจกต์วิจัย NS ‘ถูกก่อตั้ง มีการประชุมหารือกันครั้งเดียวเท่านั้น

วันต่อมา ลู่โจวไปนาสเซาฮอลล์เพื่อส่งหนังสือลา จากนั้นเขาก็ไปออฟฟิศของศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนที่ตึกสาขาคณิตศาสตร์

เมื่อเขามาถึง เขาก็เห็นศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนกำลังคุยเรื่องงานประชุมสมาคมคณิตศาสตร์สหรัฐของเดือนหน้ากับลูกศิษย์

เมื่อศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนเห็นลู่โจวถือหนังสือลาอยู่ในมือ เขาก็ยิ้ม

“คุณจะกลับจีนเหรอ?”

ลู่โจวตอบ “ใช่ เทียบกับคริสต์มาส ตรุษจีนเป็นวันหยุดที่แท้จริงของผม ผมจะกลับมากลางๆเดือนกุมภา”

ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนพยักหน้าแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงสบายๆ “คุณต้องพักผ่อนบ้างจริงๆ มีนักวิชาการไม่กี่คนหรอกที่ทำโปรเจกต์วิจัยหลายโปรเจกต์ตัวเป็นเกลียวในเวลาสั้นๆ”

“ตัวเป็นเกลียว?” ลู่โจวส่ายหน้า “ผมไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย เพราะการวิจัยเป็นสิ่งที่น่าสนุกและน่าสนใจ”

“ตอนที่ฉันหนุ่มๆฉันก็คิดเหมือนกัน” ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนยิ้ม “แต่ฉันพบว่าไม่ว่าปัญหาคณิตศาสตร์จะสำคัญแค่ไหน ความพอประมาณต่างหากที่สำคัญ”

ลู่โจวกล่าว “…นั่นเป็นเพราะคุณคว้ารางวัลทุกอย่างมาหมดแล้ว”

เมื่อต้นปี มูลนิธิรางวัลวูล์ฟประกาศรายชื่อผู้ชนะ และรางวัลที่สำคัญที่สุดก็ถูกมอบให้แก่ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมน

รางวัลวูล์ฟถือเป็นรางวัลคณิตศาสตร์สูงสุด ส่วนใหญ่จะถูกมอบให้แก่นักคณิตศาสตร์ที่อายุมากกว่าสี่สิบปีที่มีผลงานในชุมชนคณิตศาสตร์มายาวนาน

เฟฟเฟอร์แมนเป็นผู้ชนะเหรียญฟิลด์สที่อายุน้อยที่สุด และตอนนี้เขายังได้รางวัลคณิตศาสตร์สูงสุดอีก ไม่มีรางวัลคณิตศาสตร์ไหนให้เขาตั้งเป้าหมายแล้ว

“คุณหมายความว่ายังไง? จำนวนรางวัลยังไม่พอเลย แถมฉันยังพลาดรางวัลอาเบลอีก” ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนกล่าวแล้วเผยรอยยิ้มออกมา “พูดง่ายๆ หาความสุขให้ชีวิตบ้าง ฉันจะไม่ส่งอีเมลหาคุณจนเดือนกุมภา”

ลู่โจวถาม “แล้วสมการนาเวียร์-สโตกส์ล่ะ?”

ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนกล่าว “ไว้เราคุยกันหลังมกรา”

เมื่อลู่โจวเห็นว่าเฟฟเฟอร์แมนคงไม่เปลี่ยนใจ เขาจึงยักไหล่

“ถ้าคุณว่างั้นก็ได้”

นอกจากโปรเจ็คร่วมมือกับศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมน โปรเจกต์ข้อคาดการณ์ของคอลลาทซ์ของลู่โจวก็ปิดโปรเจกต์แล้วเหมือนกัน

บางทีอาจเป็นเพราะอิทธิพลของลู่โจวหรือเป็นเพราะความนิยมของข้อคาดการณ์ของคอลลาทซ์ วิทยานิพนธ์บน arXiv จึงเป็นที่สนใจมาก

หลายคนก็บอกว่าข้อคาดการณ์ของคอลลาทซ์เป็นอีก’ความสำเร็จ’ของวิธีสร้างองค์ประกอบกรุป

สิ่งที่ผู้คนประหลาดใจที่สุดก็คือ แทนที่จะเป็นลู่โจว มันเป็นศิษย์เขาที่เป็นคนประยุกต์ใช้วิธีนี้

ตอนเช้าวันที่ 27 ก่อนลู่โจวบินกลับจีนหนึ่งวัน

ลู่โจวนั่งอยู่ในออฟฟิศสถาบันการศึกษาขั้นสูง เขากำลังอ่านวิทยานิพนธ์ของเวร่า

แม้ว่าเขาจะอ่านกระบวนการพิสูจน์ทั้งหมดมาแล้ว แต่ในฐานะอาจารย์ที่ปรึกษา ลู่โจวยังจำเป็นต้องตรวจสอบรายละเอียดทุกจุดก่อนจะให้พวกเขาส่งวิทยานิพนธ์อย่างเป็นทางการ

นอกจากนี้เขายังต้องกำหนดผู้เขียนวิทยานิพนธ์

ปกติแล้ว ชื่อของลูกศิษย์ทั้งสามจะถูกระบุไว้ตามลำดับผลงาน

ส่วนลู่โจว เขาจะเป็นผู้เขียนวิทยานิพนธ์ลำดับที่สี่

แน่นอนในฐานะอาจารย์ที่ปรึกษา เขามีสิทธิ์อ้างว่าผลการวิจัยเป็นของตนเอง อย่างไรก็ตามเขาย่อมไม่มีทางทำอะไรแบบนั้น

ปกติแล้วอาจารย์ที่ปรึกษาจะไม่ยอมมอบผลการวิจัยแบบนี้ให้ลูกศิษย์ แต่ลู่โจวไม่สนใจ

ข้อคาดการณ์ของคอลลาทซ์ไม่ได้มีค่าอะไรกับลู่โจว

ต่อให้ลู่โจวจะแอบอ้างผลงาน มันก็เหมือนกับการประดับหน้าเค้กเท่านั้น

นอกจากชื่อผู้เขียน วิทยานิพนธ์ประเภทนี้จะระบุว่าผู้เขียนทำอะไรบ้าง สถาบันวิจัยส่วนใหญ่สนใจส่วนนี้มากกว่าอันดับของผู้เขียน

อย่างไรก็ตามลู่โจวสังเกตว่าเวร่าไม่ได้ระบุผลงานของผู้เขียนแต่ละคน กลับกันเธอเขียนว่า’ผู้เขียนทุกคนมีผลงานเท่าเทียมกัน’แล้วปล่อยส่วนนี้ไว้

การใส่ประโยคนี้ลงในวิทยานิพนธ์หมายความว่าผู้เขียนทุกคนมีส่วนร่วมเท่ากันและทุกคนก็มีความสำคัญต่อวิทยานิพนธ์

นี่หมายความว่าผู้เขียนทุกคนในวิทยานิพนธ์จะถือว่ามีอันดับเท่ากัน

“ไม่เป็นไรเหรอ?” ลู่โจวอ่านวิทยานิพนธ์ทั้งฉบับก่อนจะหันไปมองเวร่า “มันไม่ยุติธรรมต่อคุณเลย”

แม้ว่าลู่โจวจะไม่ได้มีส่วนร่วมในโปรเจกต์โดยตรง แต่เขาก็ติดตามความคืบหน้าของโปรเจกต์ตลอด

ยกตัวอย่างเช่น เขาจะเข้าร่วมประชุมหารือประจำสัปดาห์ทุกครั้งที่อยู่พรินซ์ตัน และเขาจะอ่านรายงานความคืบหน้าอย่างระมัดระวัง

มันไม่ได้พูดเกินจริงเลยว่าเวร่ารับผิดชอบเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ของโปรเจกต์วิจัย ส่วนฮาร์ดี้กับฉินเยว่รับผิดชอบเพียงสามสิบเปอร์เซ็นต์ที่เหลือเท่านั้น

เวร่าส่ายหน้า “ฉันแค่อยากวิจัยปัญหาพวกนี้เฉยๆ ส่วนใครมีผลงานเท่าไหร่…ฉันไม่ว่ามันไม่สำคัญ”

“ถ้าคุณคิดแบบนั้นจริง งั้นฉันก็เคารพการตัดสินใจของคุณ” ลู่โจวไม่ได้พยายามโน้มน้าวเธอ

ฉินเยว่ใช้ความพยายามไปมาก ส่วนฮาร์ดี้ไม่มากนัก อย่างไรก็ตามเวร่ายอมให้พวกเขามีผลงานเท่ากัน ลู่โจวจึงไม่ติดใจเรื่องนี้อีก

อย่างมากลู่โจวแค่รู้สึกสงสารเวร่าเล็กน้อย

ลู่โจวหยุดไปแป๊บหนึ่ง เขาวางวิทยานิพนธ์ลงบนโต๊ะแล้วพูดกับเวร่าต่อ

“จากข้อตกลงเดิม ฉันจะช่วยพวกคุณจบการศึกษา คุณจะได้รับใบปริญญาในอีกสามถึงสี่เดือน ถ้าคุณจะเรียนปริญญาเอกกับฉัน คุณควรสมัครให้เร็วที่สุด ฉันจะได้ยอมรับการสมัครของคุณ”

ลู่โจวตระหนักดีถึงความสามารถของลูกศิษย์ การสัมภาษณ์พวกเขาจึงเป็นเรื่องง่าย

เวร่าพยักหน้าอย่างจริงจัง

“ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว!”

………………………………….

Scholar’s Advanced Technological System

Scholar’s Advanced Technological System

The Overachiever's Black Tech System, 学霸的黑科技系统
Score 6.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2018 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Scholar’s Advanced Technological Systemหลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล “ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?” “ไม่ได้” “เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?” “ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset