Scholar’s Advanced Technological System – ตอนที่ 449 บ้านเกิดของลู่โจว (รีไรท์)

ลู่โจวกำลังนอนหลับอยู่

ถึงอย่างไร มันก็ยังคงเป็นเวลากลางวันในประเทศจีน

แต่วันนี้แตกต่างจากเมื่อวาน ช่องโทรทัศน์หลายช่องในวันนี้กำลังจัดทำข่าวประชาสัมพันธ์สี่มิติ และจัดทำข่าวต่างประเทศขึ้น ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณเกือบสิบนาทีในการจัดทำรายงานพิเศษเกี่ยวกับรางวัลโนเบลสาขาเคมี…

ในการรายงานข่าว ผู้ประกาศข่าวไม่เพียงแต่พูดถึงชีวิต ความสำเร็จของและปัญหาที่ลู่โจวเคยแก้ไขเท่านั้น แต่พวกเขายังพูดถึงเกียรติประวัติในระดับนานาชาติของลู่โจวด้วย

แม้แต่คำพูดที่เขาเคยพูดในงานมอบรางวัลครอฟอร์ดก็ไปสะดุดตานักข่าวอีกด้วย

“วิทยาศาสตร์ได้เปลี่ยนแปลงโลก และคณิตศาสตร์ก็ได้เปลี่ยนแปลงวิทยาศาสตร์”

หากลองคิดดูแล้ว มันไม่ต่างอะไรกับคำพูดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจเลย

เขาทำได้แล้ว อีกทั้งยังใช้เวลาไม่ถึงสองปีอีกด้วย

เขาได้ใช้ความรู้ของตัวเองเพื่อสร้างวินัยที่มีศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัด และเขายังได้สร้างปาฏิหาริย์ให้กับนักวิชาการชาวจีน รวมถึงสิ่งมหัศจรรย์สำหรับจิตใจของมนุษย์

แม้จะมีงานแถลงข่าวรางวัลโนเบลและการประกาศเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ แต่บางคนก็ยังไม่ทราบข่าวนี้เลย ถึงอย่างไร เมื่อการยิงโฆษณาถูกใช้ ทุกคนจะต้องทราบข่าวที่น่าตื่นเต้นนี้โดยทั่วกัน

เสี่ยวถงไม่ชอบเข้าไปที่เว่ยป๋อเลย แต่เมื่อเธอกำลังทานอาหารกลางวันที่โรงอาหาร เธอเห็นพี่ชายอยู่ในทีวี

แท้จริงแล้ว ลู่โจวไม่ใช่คนจีนคนแรกที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมี ก่อนหน้านี้เป็นคนอเมริกันเชื้อสายจีน และก่อนหน้านั้นก็ยังมีอีก อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่ารัฐบาลจีนไม่ต้องการเผยแพร่ข่าวของพวกเขาเท่าไหร่

ลู่โจวเป็นนักวิชาการสัญชาติจีนคนแรกที่ถือหนังสือเดินทางของจีน อีกทั้ง เขายังเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลที่อายุน้อยที่สุด และผู้ที่ได้รับทั้งรางวัลโนเบลและเหรียญฟีลด์พร้อมกันคนแรกของโลกอีกด้วย…

ไม่ว่าจะมีความสำเร็จอะไรบ้าง แต่เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่คนทั้งประเทศจะภูมิใจในตัวเขา

ในตอนแรก ลอเรนซ์ แบรกก์ก็ได้กลายเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ที่อายุน้อยที่สุดในโลก เธอมีอายุยี่สิบห้าปี และเพื่อเป็นเกียรติแก่นักวิชาการที่มีความสามารถคนนี้ ทางประเทศออสเตรเลียจึงสร้างพิพิธภัณฑ์ที่ชื่อว่า ‘แบรกก์’ ขึ้นมา ซึ่งมีการระลึกถึงรางวัลวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกสาขาฟิสิกส์ดีเด่นอีกด้วย

เพื่อเป็นเกียรติแก่นักวิชาการผู้นี้ สตอกโฮล์มก็ได้จัดงานเฉลิมฉลองพิเศษในวาระครบรอบห้าสิบปีและเชิญให้มีการจัดทำ “การบรรยายโนเบล” ครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ลู่โจวเป็นนักวิชาการรางวัลโนเบลคนแรกที่เกิดในประเทศจีน ดังนั้น จีนจึงให้ความสำคัญกับเขามากยิ่งขึ้น

ไม่เพียงเท่านั้น แต่กลยุทธ์ในการฟื้นฟูประเทศด้วยวิทยาศาสตร์และการศึกษาถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์พื้นฐานของประเทศอีกด้วย

พวกเขาไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญกับลู่โจวเท่านั้น แต่พวกเขายังให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูประเทศด้วยวิทยาศาสตร์เพราะการศึกษาถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์พื้นฐานของประเทศอีกด้วย

สำหรับลู่โจวแล้ว การสร้างพิพิธภัณฑ์ดูจะเป็นทางการและเร็วเกินไปหน่อย

ถึงอย่างไร สำนักการท่องเที่ยวในพื้นที่ได้จัดให้ทะเบียนบ้านของครอบครัวลู่โจวเป็นศิลปวัตถุทางวัฒนธรรมล่วงหน้าไปแล้ว แต่ทว่า วันหนึ่งในอนาคตมันก็อาจจะถูกทำลายลงได้ และอพาร์ทเมนท์เก่าแก่ก็อาจจะต้องถูกปล่อยทิ้งร้างจนต้องมีผู้เชี่ยวชาญเข้ามาซ่อมแซมให้คงอยู่สภาพเดิม

แน่นอน เรื่องเหล่านั้นคงต้องใช้เวลาหลายสิบปี

ท้ายที่สุดแล้ว แม้ว่าศิลปวัตถุทางวัฒนธรรมจะได้รับการจดทะเบียน แต่ก็ไม่มีอะไรบอกได้ว่าคนในบ้านจะไม่ถูกไล่ออกจาก “บ้าน” ของตัวเอง

สถานที่อื่นที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดน่าจะโรงเรียนที่ลู่โจวเคยเล่าเรียน

โรงเรียนมัธยมเจียงหลิงเคยเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ไปแล้วตอนที่ลู่โจวได้รับรางวัลคณิตศาสตร์สาขาทฤษฎีจำนวน โรงเรียนมัธยมเจียงหลิงได้รับการจัดอันดับให้เป็นโรงเรียนมัธยมอันดับสองเป็นเวลาหลายปี ถึงอย่างไร เนื่องจากผลการกระทำของลู่โจว กระทรวงศึกษาธิการจึงทำให้โรงเรียนมัธยมเจียงหลิงกลายเป็นโรงเรียนมัธยมอันดับหนึ่งในทันที

สิ่งนี้ไม่เพียงแต่จะเพิ่มอาคารใหม่ให้กับโรงเรียนมัธยมเท่านั้น  แต่มันยังทำให้โรงเรียนสร้างสนามกีฬาขึ้นมาอีกด้วย เห็นได้ชัดว่ามันทำให้โรงเรียนมีการพัฒนาขึ้น นโยบายของคณะกรรมการพรรคเทศบาลทำให้แผนการสร้างโรงเรียนมัธยมแห่งนี้ ที่ซึ่งเป็นเหมือนสถานที่สำคัญนั้นเป็นต้นแบบโครงการของเมืองเจียงหลิง

ลู่โจวได้ยินเรื่องเหล่านี้จากพ่อของเขาทางโทรศัพท์

ทันทีที่เขารู้เรื่อง ลู่โจวเองก็ประหลาดใจเช่นกัน

“พ่อ…”

เมื่อพูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสองวันนี้ ตาเฒ่าลู่ก็พลันกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ว่าไง?”

“บ้านเรากลายเป็นศิลปวัตถุทางวัฒนธรรมไปแล้ว มันจะไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตพ่อใช่ไหม?”

“มันจะส่งผลกระทบอะไรกับพ่อล่ะ? แค่นี้เอง” จากนั้น ตาเฒ่าลู่ก็พูดต่อพร้อมเผยยิ้ม

“ใช่แล้ว เมื่อวานนี้ คุณครูจากโรงเรียนมัธยมที่ชื่อฉิน ครูหม่าที่สอนคณิตศาสตร์แล้วก็ครูใหญ่ของโรงเรียนได้เดินทางมาที่บ้านเพื่อแสดงความยินดีกับครอบครัวเราด้วยล่ะ ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว พ่อไม่คิดว่าพวกเขาจะจำเราได้ด้วยซ้ำ”

“พวกเขาเอาของขวัญมาให้ แต่พ่อไม่ได้รับไว้… แต่สุดท้าย พวกเขาก็ดื้อดึงจนพ่อต้องรับมา ถ้าลูกกลับมาบ้าน อย่าลืมเอาของขวัญไปฝากพวกเขาด้วยล่ะ น้ำใจต้องตอบแทน”

ลู่โจวได้รู้แล้วว่าครูประจำชั้นแล้วก็ครูคณิตศาสตร์มาเยี่ยมบ้านพร้อมของขวัญ  แต่หลังจากเรียนจบ เขาก็ไม่ได้เจอครูเหล่านั้นอีกเลย บางที มันก็รู้สึกน่าละอายใจเหมือนกัน

“ผมรู้แล้ว งั้นรอวันปีใหม่ก็แล้วกันนะ เดี๋ยวค่อยไปหา พวกเขายังสบายดีอยู่ใช่ไหม?”

ตาเฒ่าลู่หัวเราะ “พวกเขาดูสบายดี คนหนึ่งเป็นรองอาจารย์ใหญ่ ส่วนอีกคนเป็นครูสอนพิเศษ และอีกคนก็เป็นคณบดี”

ลู่โจวเผยยิ้มทันทีที่ได้ยิน

ในแง่หนึ่ง ลู่โจวดีใจมากที่พ่อรู้สึกภูมิใจในตัวลูกชายแบบนี้

แต่ในทางกลับกัน เขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าทุกคนรอบตัวจะดีขนาดนี้

สำหรับเขาแล้ว นี่อาจเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจที่สุดเลยก็ว่าได้

รางวัลโนเบลไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดของการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ แต่มันก็เป็นเหมือนเครื่องพิสูจน์การรับรู้ของโลก

ในยุคปัจจุบันนี้ กระแสความเป็นสากลมีความชัดเจนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ การพัฒนาของประเทศแต่ละประเทศจะต้องมีการแข่งขันกัน

ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการค้า การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมหรือการวิจัย

ไม่เพียงแต่โรงเรียนมัธยมของลู่โจวเท่านั้น

ไม่มีใครมีความสุขไปกว่ามหาลัยจินหลิงอีกแล้ว

ในวันที่สองหลังจากประกาศผลผู้ชนะ ก็มีการนำป้ายแสดงความยินดีมาแขวนไว้เหนือประตูมหาวิทยาลัย ซึ่งมันเป็นการพาดหัวประกาศที่งดงามไม่น้อย

[ขอแสดงความยินดีลู่โจวที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมีในปีนี้!]

มหาวิทยาลัยที่สามารถปลูกฝังให้ผู้คนกลายเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลได้นั้นน่าประทับใจมาก

นอกจากนี้ มันยังเป็นเรื่องที่พิเศษไม่น้อย

แน่นอน ถ้าถามว่าใครรู้สึกยินดีมากกว่าสหาวิทยาลัยจินหลิง ก็คงจะหนีไม่พ้นนักวิจัยจากสถาบันวิจัยวัสดุ

หลังจากอ่านข่าวบนคอมพิวเตอร์ เสี่ยวหลิวก็พลันเผยยิ้ม “สุดยอด! ออกไปคุยโม้ได้แล้วสินะ เพราะเราก็เป็นถึงหนึ่งในพวกที่ทำงานให้กับคนที่ได้รับรางวัลโนเบล!”

รุ่นพี่เฉียนเผยยิ้มพร้อมกล่าวคำพูด “คงจะตกใจกับรางวัลใหญ่มากเลยสินะ ฉันจะเอาชื่อของเขาใส่ไว้ในเอกสารด้วย อย่าเพิ่งออกไปไหนล่ะ”

เสี่ยวหลิวแตะหน้าผากพร้อมเผยยิ้ม “ไม่ขนาดนั้นหรอก แต่ก็นะ…”

ถึงแม้ว่าจะไม่มีอะไรผิดปกติ แต่นี่ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าตกตะลึงไม่น้อย ถึงแม้ตอนแรกพวกเขาจะยังไม่เชื่อก็เถอะ

ทันใดนั้นเอง หยางสวี่ก็พลันเปิดประตูและเดินเข้ามา เธอกวาดตามองพร้อมกล่าวว่า “ยุ่งกันตั้งแต่เที่ยงเลยหรือยังไงกัน?”

เสี่ยวหลิวกล่าว “เทพลู่ของพวกเราได้รับรางวัลโนเบลเลยนะ จะไม่ให้ยุ่งได้ยังไง?”

“รู้อะไรไหม?” หยางสวี่กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ฉันวางแผนโผล่มาเซอร์ไพรส์พวกนายยังไงล่ะ!”

ทว่า หลิวหงนั่งที่อยู่อีกด้านหนึ่งของห้องทำงานซึ่งกำลังเขียนรายงานการทดลองพลันรู้สึกสับสน

ในตอนแรก เขาเองยังคงรู้สึกเสียใจอยู่บ้างที่เรียนไม่จบปริญญาเอก แต่ทว่า อีกสองปีค่อยคิดน่าจะดีกว่า

แต่ในตอนนี้ ตัวเลือกที่เขาตัดสินใจเอาไว้เหมือนจะเทียบกับอะไรไม่ได้เลย

มันเป็นเพียงประสบการณ์การวิจัยที่ได้ทำงานอยู่ในทีมวิจัยของผู้ได้รับรางวัลโนเบลเท่านั้น

ส่วนเรื่องปริญญาเอกนั้น…

เรื่องนั้นก็ต้องมาดูกันที่ความสามารถและฐานะแล้วแหละ

…………………………………………

Scholar’s Advanced Technological System

Scholar’s Advanced Technological System

The Overachiever's Black Tech System, 学霸的黑科技系统
Score 6.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2018 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Scholar’s Advanced Technological Systemหลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล “ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?” “ไม่ได้” “เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?” “ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset