Scholar’s Advanced Technological System – ตอนที่ 566 จะไปไลฟ์สดที่ไหน?

ผ่านไปสิบนาทีหลังจากชายสูงวัยเดินออกไปจากห้อง ประตูห้องผู้ป่วยก็ถูกผลักเปิดออกอีกครั้ง คนกลุ่มหนึ่งเดินขึ้นมา

“พี่คะ!”

เสี่ยวถงน้ำตาไหลนองหน้า เธออยากจะวิ่งไปหาพี่ชายแต่ถูกเหยียนเหยียนห้ามเอาไว้ก่อน

“ร่างกายของพี่เธอตอนนี้อ่อนแอมากนะ”

ลู่โจวบอก “อันที่จริง ผมก็สบายดีนะ…”

เหยียนเหยียนแย้ง “ไม่ใช่เสียหน่อย”

ลู่โจว “…”

เฉินยู่ซานนั่งลงข้างเตียงของลู่โจว แล้วมองตรงไปที่ชายหนุ่มด้วยสีหน้าเป็นห่วง

“ในที่สุดนายก็ตื่นขึ้นมาเสียที”

ลู่โจวบังคับให้ตัวเองยิ้ม “ใช่…ฉันแบบ นอนเกินเวลาไปหน่อยน่ะ”

ดวงตาของเฉินยู่ซานเริ่มมีน้ำตาคลอ แต่ในที่สุดเธอก็ยิ้มด้วยความโล่งใจ

“อย่าพูดอย่างนั้นสิ ไม่ตลกเลยนะ”

เหยียนเหยียนกอดเสี่ยวถงไว้ เธอเอาแต่จ้องไปที่ลู่โจวกับเฉินยู่ซาน ทันใดนั้น เธอก็ทำหน้าประหลาดใจขึ้นมา

ลู่โจวเปลี่ยนสีหน้าไปเป็นท่าทางยอมจำนนเมื่อเขาหันไปมองพ่อกับแม่

ฟางเหมยมองลูกชายของตนเองแล้วพูดพร้อมกับดวงตาที่น้ำตาคลอเบ้าว่า “ในที่สุดลูกก็ตื่นขึ้นมาเสียที…ลูกไม่รู้หรอกว่าพ่อกับแม่เป็นห่วงลูกมากแค่ไหน”

ลู่โจวกระแอมแล้วพูดขึ้นว่า “ขอโทษที่ทำให้ทุกคนเป็นห่วงนะครับ”

ครอบครัวของเขาเป็นห่วงเขามากที่สุด

ดังนั้น เขาจึงรู้สึกผิดกับพวกเขามากที่สุด

ผู้เฒ่าลู่มองลูกชายตัวเองที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย แล้วเขาก็ทำท่าเหมือนมีเรื่องมากมายที่อยากจะพูด แต่สุดท้าย เขาก็ทำเพียงถอนหายใจแล้วพูดขึ้นว่า “ดูแลร่างกายตัวเองดีๆ อย่าหักโหม…พ่อไม่สนเรื่องนิวเคลียร์ฟิวชั่นอะไรนั่นหรอก พ่อแค่อยากให้ลูกสุขภาพแข็งแรง ไม่ได้นอนเป็นอาทิตย์เลยอย่างนั้นเหรอ ลูกเป็นบ้าอะไรน่ะ?”

ลู่โจวกระแอมแล้วอธิบายว่า “เป็นอุบัติเหตุน่ะครับ”

ใครเป็นคนพูดกันว่าเขาไม่ได้นอนเป็นอาทิตย์?

เป็นคำพูดเกินจริงที่น่าตลกชะมัด

“แล้วที่นอนไป 20 กว่าวันนี่เรียกว่าอุบัติเหตุเหมือนกันหรือไง?” ผู้เฒ่าลู่พูดต่อ “ไปตรวจร่างกายเลย! อย่าบอกนะว่าโดนรังสีหรืออะไรทำนองนั้นมาน่ะ! พ่อเห็นเรื่องพวกนั้นอยู่ในฟีดข่าวของเพื่อนพ่อด้วย เขาบอกว่ามันจะส่งผลกระทบต่อลูกของลูกด้วยนะ!”

“วางใจได้ครับพ่อ! ฟิวชั่นที่ควบคุมได้นั้นปลอดภัย ไม่ต้องเป็นห่วงไปครับ!” ลู่โจวเดาว่าพ่อของเขาคงจะไปเห็นพวกข่าวปลอมบนฟีดข่าวของเพื่อนเขามา เขาจึงกระแอมแล้วบอกว่า “ผมตรวจร่างกายอะไรพวกนั้นแล้วล่ะ”

มีอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์จำนวนนับไม่ถ้วนที่ถูกใช้หรือเชื่อมต่อกับร่างกายเขาตอนที่เขายังไม่ฟื้น

อันที่จริงแล้ว เขาค่อนข้างจะสงสัยด้วยซ้ำ ที่แม้แต่อุปกรณ์ทางการแพทย์จากโรงพยาบาล 301 ยังหาความผิดปกติในร่างกายเขาไม่เจอ ถ้าหากเป็นไปได้ เขาอยากจะขอข้อมูลทางการแพทย์มาแล้วตรวจสอบดูด้วยตัวเอง

แต่เขาก็รู้ว่าเขาคงไม่ได้อะไรกลับมาหรอก

“อ้อ ลูกตรวจแล้วเหรอ” ผู้เฒ่าลู่มองลูกชายของตัวเองเล็กน้อยแล้วจึงพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นก็พักผ่อนให้ดีแล้วรีบหายไวๆ แล้วกัน ทีหลังก็อย่าหักโหมตัวเองอีกนะ…”

ลู่โจวมองพ่อตัวเองแล้วก็พึมพำขอโทษออกมา “ครับ…ขอโทษเรื่องนี้ด้วย”

เวลาเยี่ยมผู้ป่วยถูกจำกัดไว้ที่ 10 นาที

สมาชิกในครอบครัวก็ไม่ได้รับข้อยกเว้นจากกฎข้อนี้

หลังจากที่คนกลุ่มใหญ่เดินออกไป เหยียนเหยียนก็เข็นลู่โจวที่นั่งอยู่บนรถเข็นไปห้องตรวจที่อยู่ข้างๆ เพื่อเช็กสภาพร่างกายของเขา จากนั้นเธอก็ให้เขาทำกายบริหารที่ไม่หักโหมมากนัก หลังจากนั้นเธอก็ส่งเขากลับเข้าห้องผู้ป่วยไปนอนอีกครั้ง

ลู่โจวอยู่ในภาวะโคม่ามานาน

แม้แต่ซูเปอร์แมนก็ฟื้นตัวทันทีไม่ได้หรอก

ถึงแม้ร่างกายของเขาจะอยู่ในภาวะที่ดีแล้ว ก็ยังต้องใช้เวลาสักพักกว่าร่างกายของเขาจะขับสารพิษที่อยู่ในกล้ามเนื้อของเขาออกไปจนหมด

แม้ลู่โจวจะรู้สึกเหมือนว่าเขาหายเกือบเป็นปกติแล้ว คนอื่นก็จะไม่มีทางคิดแบบนั้นแน่

ไม่ว่าจะเป็นหมอจากโรงพยาบาล 301 หรือกลุ่มผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่รับผิดชอบการวินิจฉัยเขาก็ต่างแนะนำให้เขานอนพักที่โรงพยาบาลไปอีกอย่างน้อย 1 เดือน เพื่อจะให้พวกเขาสามารถยืนยันได้ว่าจะไม่มีอาการตกค้างอะไรอีก

ทำให้เขาไม่สามารถกลับบ้านไปฉลองวันตรุษจีนได้

แต่ลู่โจวก็ไม่ได้เศร้ามากนัก

พ่อแม่ของเขากับเสี่ยวถงก็อยู่ใกล้ๆ นี่เอง

สำหรับเขาแล้ว บ้านคือสถานที่ที่ครอบครัวของเขาอยู่

ท้องฟ้านอกหน้าต่างเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น

ลู่โจวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากโต๊ะข้างเตียง และกำลังจะตอบข้อความกลุ่มคนที่เป็นห่วงเป็นใยเขา

แต่พอเขาเปิดเวยป๋อขึ้นมา เขาก็พบว่าแฟนๆ ของเขาดันมาเล่นมุกตลกไม่เข้าท่ากันเสียอย่างนั้น

[ฉันเต็มใจแลกให้เทพลู่เป็นโสดไปอีกสิบปีเลยนะ ดีกว่าให้เขาฟื้นขึ้นมาตอนนี้]

[ถ้าเทพลู่ฟื้นขึ้นมาตอนนี้ล่ะก็ ฉันยอมวิ่งแก้ผ้าบนถนนเลย]

[ช่างแม่มละ ถ้าเทพลู่ฟื้นขึ้นมานะ ฉันยอมกินขี้หนึ่งกิโล!]

[ส่วนฉันจะไปว่ายน้ำในท่อว่ะ!]

คนพวกนี้เริ่มพูดตลกบ้าบอจนไปกันใหญ่แล้ว ลู่โจวทนไม่ได้อีกต่อไป

ไอ้พวกเวรพวกนี้มันห่วงฉันกันบ้างไหมเนี่ย?

เขาพิมพ์ข้อมูลแล้วโพสต์ลงไป

[ไหนๆ นายจะไปไลฟ์สดว่ายน้ำในท่อที่ไหน?]

ภายใน 5 นาทีนั้นเอง…

หน้าเวยป๋อของเขาก็ระเบิดไปด้วยมวลมหาประชาชน

เพราะโพสต์บนเวยป๋อโพสต์นั้น ข่าวการฟื้นของลู่โจวจึงแพร่กระจายไปเหมือนไฟลามทุ่ง บางคนก็ตื่นเต้น บางคนก็ผิดหวัง แต่อย่างไร ก็ไม่มีผลอะไรมากกับเขาอยู่แล้ว

อีกอย่างหนึ่ง ในเมื่อนี่ก็ใกล้เวลาวันตรุษจีนเข้ามาแล้ว จึงมีคนหลายคนมาเยี่ยมเขา

นอกจากจะมีคนที่เขารู้จักแล้ว ก็ยังมีคนแปลกหน้าบางคนโผล่มาด้วย

ในกลุ่มนั้นเป็นคนที่เขาไม่รู้จัก และส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นพนักงานราชการ

ถึงแม้โดยปกติพนักงานราชการจะไม่พยายามสร้างคอนเนคชันกับนักวิชาการ แต่ด้วยความที่ลู่โจวเป็นนักวิชาการที่ได้รับความเคารพทำให้มันกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่งไปเลย

นักวิชาการอย่างเขายืนอยู่คนละระดับกับคนพวกนั้นโดยสิ้นเชิง

ในทางที่ว่า ความคิดของลู่โจวส่งผลต่อการตัดสินใจของคนใหญ่คนโตในกลุ่มรัฐบาลนั่นแหละ

สิ่งนี้เพียงสิ่งเดียวก็เป็นเหตุผลให้มีคนมาเยี่ยมเขาแล้ว

แต่เรื่องนี้กลับทำให้ลู่โจวปวดหัว…

นักวิชาการลู่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไร้พนักพิงข้างเตียงของเขา เขาบังเอิญมางานประชุมในกรุงปักกิ่งและยังไม่ได้กลับ เขามาเยี่ยมลู่โจวและนำส้มแมนดารินถุงหนึ่งมาฝากเขาด้วย

นักวิชาการลู่กำลังปอกเปลือกส้มแมนดารินในขณะที่ยิ้มและพูดว่า “เมื่อวานซืน เพื่อนร่วมชั้นสมัยก่อนของผมจากกระทรวงศึกษาธิการบอกผมว่าการประชุมในหน่วยงานครั้งล่าสุดของเขาเป็นหัวข้อที่ว่าพวกเขาควรจะนำเรื่องราวของคุณไปใส่ในหนังสือเรียนของเด็กประถมดีหรือไม่”

ลู่โจวจึงบอก “ขอล่ะครับ อย่าทำเลย…นั่นฟังดูน่าอายนะ”

“หืม นี่คุณยังรู้สึกอายอยู่อีกเหรอ?” นักวิชาการลู่วางส้มที่ปอกเปลือกแล้วบนมือของลู่โจวแล้วพูดว่า “กินเถอะ หมอบอกว่าคุณเพิ่งฟื้นขึ้นมาเองนี่นา แล้วคุณก็ยังอยู่ในช่วงกำลังฟื้นตัวด้วย ผลไม้ดีต่อสุขภาพนะ ผมเดาว่าคุณน่าจะปอกส้มเองไม่ได้ ผมก็เลยปอกให้คุณก่อนที่คนอื่นจะเอาไปกิน”

ลู่โจวยิ้มและตอบว่า “ผมยังปอกส้มเองได้น่า”

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่า ถึงเขาปอกไม่ได้ ก็ยังมีพยาบาลอีกหลายคนที่เต็มใจจะช่วยเขา

“คุณควรจะนอนอยู่บนเตียง แล้วพยายามฟื้นตัวให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ดีกว่า หลังจากช่วงวันหยุดนี่ผ่านไป ก็ยังมีการจัดงานยกย่องคุณอยู่ ผมคิดว่าคุณยังไม่ควรกลับบ้านปีนี้นะ อยู่ที่ปักกิ่งดีกว่า”

ลู่โจวที่กำลังกินส้มแมนดาริน แสดงสีหน้าเซ็งออกมา

“ผมอยากกลับไปนะ แต่โรงพยาบาลไม่ยอมนี่สิ”

นักวิชาการลู่ยิ้มแล้วพูดว่า “ก็จริงนะ ตอนนี้คุณเป็นสมบัติของชาติแล้วนี่นา ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศนับสิบต่างก็รวมตัวกันสร้างทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เพื่อมาวินิจฉัยอาการคุณ นี่เป็นครั้งแรกเลยนะ ที่ผมเห็นมีคนได้รับการดูแลอะไรแบบนี้”

อย่างน้อย นักการเมืองปกติก็ไม่มีทางได้รับการดูแลแบบนี้แน่

ในตอนนี้นั้น ข่าวกำลังฉายอยู่บนหน้าจอทีวีในห้องผู้ป่วย

มีข่าวเรื่องการฟื้นตัวของลู่โจวและข่าวเรื่องการเคลื่อนไหวของตลาดน้ำมันดิบต่างชาติ…

เพื่อจะให้ราคาน้ำมันและตลาดคงที่ กลุ่ม OPEC จำต้องทำสัญญาที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นนักเพื่อเพิ่มผลผลิตในอีกสามเดือนข้างหน้าเพื่อคงราคาน้ำมันเอาไว้ ในทางกลับกัน รัสเซียได้ประกาศอย่างมีหลักการว่า ประเทศตัวเองจะไม่เพิ่มผลผลิตน้ำมันในระยะสั้น เพราะพวกเขาตัดสินใจจะรอดูสถานการณ์ตลาดว่าจะเป็นอย่างไร

ราคาขึ้นลงของน้ำมันไม่มีผลอะไรกับลู่โจว เพราะเขาก็ไม่เคยไปลงทุนอะไรในตลาดซื้อขายล่วงหน้ามาก่อน

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ลู่โจวแปลกใจคือ ตอนท้ายรายการข่าว เขาเห็นข่าวเรื่องประเทศจีนกำลังจะนำโครงการไปดวงจันทร์กลับมาอีกครั้ง

ปีนี้คือปี 2020 และสถานการณ์การเมืองทั่วโลกก็ดูเหมือนจะมาถึงจุดหักเหแล้ว

พวกเขาต่างเกี่ยวข้องกับความสำเร็จของเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ไม่มากก็น้อย

ถึงแม้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในข่าวจะไกลตัวลู่โจวมาก เขาก็ยังอดรู้สึกว่ามีส่วนเกี่วข้องไม่ได้ตอนที่เขามองดูผู้ประกาศข่าวคนใหม่บนหน้าจอทีวี

แทบจะเหมือนว่าเขาเป็นคนพลิกหน้ากระดาษของประวัติศาสตร์เอง

และนี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น

ในตอนเย็นวันนั้น หลังจากลู่โจวทานอาหารค่ำ

เมื่อได้รับความช่วยเหลือจากเหยียนเหยียนแล้ว ลู่โจวก็ออกไปเดินในสวนของโรงพยาบาล 301

ถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกว่าเขาเดินเองได้ เหยียนเหยียนก็ยืนกรานว่าจะมาช่วยเขา

ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ร้ายครั้งนี้จะทำให้เธอมี PTSD[1] เสียแล้ว ตั้งแต่ที่เขาตื่นขึ้นมา เธอก็ยังไม่ได้ออกห่างจากตัวเขาแม้แต่วินาทีเดียว เธอเกือบจะตามเขาไปเข้าห้องน้ำด้วยซ้ำ

ในเมื่อเธอเอาแต่ยืนกรานว่าจะทำแบบนี้ ลู่โจวเลยตัดสินใจให้เธอทำตามที่ต้องการ

สุดท้ายแล้ว การที่เขาป่วยก็นำปัญหามากมายมาให้คนที่ห่วงใยเขา

ในระหว่างที่เขากำลังเดินอยู่ในสวน เขาก็บังเอิญเดินไปเจอเข้ากับคนจาก CTV

ถนนฉางอันก็อยู่ใกล้กับที่นี่

การประชุมคณะรัฐมนตรีที่แสนตึงเครียดเรื่องอนาคตของนิวเคลียร์ฟิวชั่นที่ควบคุมได้ก็กำลังเกิดขึ้น…

…………………………………….

[1] ชื่อเต็มของ PTSD คือ Post-traumatic stress disorder เป็นสภาวะป่วยทางจิตใจหลังจากต้องเผชิญกับเหตุการณ์กระทบกระเทือนใจอย่างรุนแรง

Scholar’s Advanced Technological System

Scholar’s Advanced Technological System

The Overachiever's Black Tech System, 学霸的黑科技系统
Score 6.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2018 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Scholar’s Advanced Technological Systemหลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล “ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?” “ไม่ได้” “เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?” “ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset