Scholar’s Advanced Technological System – ตอนที่ 606 รวมพลังงานนิวเคลียร์ / ตอนที่ 607 โล้น

ตอนที่ 606 รวมพลังงานนิวเคลียร์

อะไรวะเนี่ย?

ท่านเทพลู่?

เขาเป็นไอดอลของผม!

เมื่อจางเฉี่ยงฉิงมองคนที่ยืนขึ้น แว่นตาของเขาเกือบตกลงพื้น

เมื่อเขานึกได้ว่าชายเบอร์ใหญ่คนนี้ฟังเลคเชอร์ของเขา เขาทั้งอึ้งและดีใจ มันเหมือนกับว่าเขาถูกลอตเตอรี่ เขาอึ้งว่าเขาไม่ได้สังเกตเห็นลู่โจวในห้องเรียน และเขาดีใจที่สามารถโม้ให้คนอื่นฟังได้ว่าเขาได้เลคเชอร์ผู้ได้รับรางวัลโนเบล

แต่ถึงจางเฉี่ยงฉิงเต็มไปด้วยอารมณ์ ลู่โจวไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ

ห้องเรียนเป็นหนึ่งในสถานที่สำหรับแลกเปลี่ยนวิชาการ

เมื่อตอนที่เขาอยู่พรินซ์ตัน เขามักถามให้นักศึกษาของเขาเลคเชอร์ให้เขา

ในความเห็นของเขา การแลกเปลี่ยนวิชาการไม่ใช่เรื่องของเกียรติและสถานะ

“ศาสตราจารย์ลู่ เชิญเลยครับ” ศาสตราจารย์จางให้สัญญาณและยกเวทีอย่างให้ลู่โจวอย่างนับถือ

“ไม่จำเป็นต้องสุภาพเลย ผมแค่มีไอเดีย”

ลู่โจวมองดูศาสตราจารย์ขยับตัวไปด้านข้างและยิ้ม

ความเป็นทางการนี้ทำเสียเวลาเอามาก

เขาไม่ใช่คนที่ชอบเสียเวลากับเรื่องความเป็นทางการ

ลู่โจวเดินไปยืนข้างกระดานดำและหยิบชอล์กขึ้นมา

“นี่ไม่ใช่คำถามที่นักศึกษาปริญญาตรีสามารถแก้ได้ เนื่องจากมันเกี่ยวกับความเข้าใจในควอนตัมโครโมไดนามิกส์และความเข้าใจเชิงลึกของการวิเคราะห์เชิงฟังก์ชัน”

ลู่โจวนิ่งไปสองวินาทีและพูดว่า “แต่เอาจริงแล้ว มันไม่ยากแบบที่คิด”

ลู่โจวเขียนกระดานดำด้วยชอล์กและพูดถึงกระบวนการคิดของเขา

“จากการใช้ทฤษฎีฟิลด์ สร้างไดอะแกรมเฟน์แมน และใช้กฎเฟนแมนเพื่อคำนวณช่วงกว้างที่กระจาย เราจะได้…”

[iM=(ig2/|p’-p|2+mφ2)2m^ss’·2mδ^rr’]

[…]

“mφ หมายถึงมวลของโบซอนที่ตอบรับ และ g มาจากค่าคงที่ในปฏิสัมพันธ์ลากรองจ์ ถ้าเรารวมสิ่งนีเข้ากับการคำนวณก่อนหน้าของศาสตราจารย์จาง V(q) สามารถได้จากส่วนที่กระจายตัว…”

[V(q)=-g2/(|q|2+mφ2)]

ลู่โจววางชอล์กลงแล้วมองนักศึกษาในห้องเรียน นักเรียนบางส่วนงง บางส่วนก็ฟังอย่างตั้งใจ เขายิ้มแล้วพูดว่า “ส่วนนี้เป็นส่วนง่าย แต่ขั้นตอนไปเราจะต้องใช้ทริคเล็กน้อย”

ทุกคน “…”

เวรเอ๊ย!

นี่มันง่ายยังไง?

จางเฉี่ยงฉงมองดูกระดานดำเช่นกัน เขาก็ฉงนใจเช่นกัน

มันไม่ใช่ว่าเขาไม่สามารถเข้าใจการคำนวณ แต่เขาไม่อาจเชื่อได้ว่าจะมีใครสามารถคำนวณสิ่งเหล่านี้ได้ตรงนี้

คนพวกนี้ไม่ได้ใช้เวลาคำนวณในสมองบ้างเหรอ?

มันมหัศจรรย์…

ลู่โจวไม่ได้หยุด เขาหันหน้าหากระดานดำแล้วพูดต่อในขณะที่เขียน “จากนั้นเขาก็อินเวอร์ชันฟูเรียร์ แปลงสภาพมัน!”

ชอล์กขยับบนกระดานดำเร็วขึ้นๆ และจางเฉี่ยงฉิงก็ยิ่งประทับใจมากขึ้นๆ สำหรับนักศึกษา พวกนั้นดูกระดาษดำด้วยสีหน้าว่างเปล่า แม้แต่นักศึกษาหัวกะทิที่อ่านตำราเรียนจบก็มองดูการคำนวณซับซ้อนอย่างไม่เชื่อสายตา

ลู่โจวไม่ได้สังเกตสีหน้าเหล่านี้ เขาอยู่ในโลกของตัวเองโดยสมบูรณ์แบบ

ยอมรับเลยว่าสิ่งพวกนี้เป็นเรื่องพื้นฐาน แต่พวกนี้ไม่พื้นฐานพอที่จะปรากฏในข้อสอบนักศึกษาปริญญาตรี

แต่ยิ่งลู่โจวคิดถึงปัญหานี้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งเขียนขั้นตอนบนกระดานดำนี้มากขึ้น กระแสความคิดเขาชัดขึ้นเรื่อยๆ

ทำไมแรงปฏิกิริยารุนแรงถึงทำงานเฉพาะระยะสั้น?

ในอีกแง่หนึ่งคือ อะไรทำให้นิวคลีออนก่อนิวเคลียสเฉพาะระยะสั้น?

คำตอบมันชัดเจน…

[…]

[V(r)=-g2/4πr·e^(-mφr)]

ลู่โจวหยุดเขียนแล้วมองดูสมการบนกระดานดำ จากนั้นเขาพูดต่อ “ปฏิสัมพันธ์ไฟฟ้าแม่เหล็กเป็นการแลกเปลี่ยนระหว่างโฟตอนและมวลของโฟตอนเป็นศูนย์ ดังนั้น สำหรับปฏิสัมพันธ์ไฟฟ้าแม่เหล็ก V มีอัตราส่วนที่ 1/r

แรงปฏิสัมพันธ์รุนแรงเป็นเมซันที่ทำงานระหว่างนิวเคลียส มวลนี้ประมาณ 200 MeV ด้วยการคำนวณส่วนหนึ่ง เราสามารถประมาณได้ว่าด้วยแค่ระยะทางที่ 10 เมตร ถึงพลังงานลบที่ 14 เมตร ทำให้แรงนิวเคลียสหักล้างแรงไฟฟ้าแม่เหล็กระหว่างโปรตอนและสร้างปฏิกิริยาฟิวชั่น”

แถวหน้าสุดเริ่มปรบมือ

เหมือนกับคลื่นในมหาสมุทร เสียงปรบมือเริ่มแพร่ไปถึงหลังห้อง

ศาสตราจารย์จางที่ยืนอยู่ข้างเขาเริ่มปรบมือโดยไม่รู้ตัว

สำหรับนักศึกษาส่วนใหญ่ มันเป็นแค่การสาธิตที่น่าตื่นเต้น

แต่สำหรับศาสตราจารย์อย่างเขา เขาเพิ่งได้เป็นพยานต่อการใช้วิธีแก้เรียบง่ายเพื่ออธิบายระยะปฏิกิริยารุนแรง…อย่างน้อย มันง่ายกว่าการอธิบายที่เขาเคยเรียนมาก่อน

เขาไม่อาจเชื่อได้ว่าทั้งหมดนี้ถูกทำเสร็จในเวลาไม่ถึงสิบนาที

เขาอาจเป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับรู้ถึงช่วงเวลานี้อย่างเต็มที่

ลู่โจวยังอยู่บนเวที

ถึงแม้ว่าห้องเรียนจะเต็มไปด้วยเสียงปรบมือ ลู่โจวที่ยืนอยู่หน้ากระดานดำก็จมอยู่ในความคิดตัวเอง เขาไม่ได้สังเกตกระทั่งตอนเสียงปรบมือหยุดลง

เขาทำคิดคำนวณทั้งหมดสำหรับปัญหาเรียบง่ายนี้เสร็จหมดแล้ว

แต่เขาไม่ใช่คนเดียวที่คิดถึงปัญหานี้

จากทฤษฎีสนามควอนตัมและควอนตัมโครโมไดนามิกส์ แรงพื้นฐานทั้งสี่และอนุภาคแบบดั้งเดิมสามารถรวมเป็นหนึ่งได้

ยกตัวอย่างเช่น ระหว่างตำแหน่งที่แตกต่างของพื้นที่และเวลา ส่วนประกอบของสนามไฟฟ้าสามารถถูกสร้างเป็นตัวกระทำที่ไม่สื่อสาร เมื่อทำการสร้างปริภูมิฮิลเบิร์ทที่ตัวกระทำพวกนี้ทำงาน อนุภาคแบบดั้งเดิม อย่างอิเล็คตรอน สามารถถูกมองได้ว่าเป็น ไดแรคเฟอร์มิออน การกระทำควอนตัมของสนาม

ด้วยวิธีนี้ ความต่างระหว่างสนามและอนุภาคจะหายไป

มันเป็นไปได้สำหรับสมการคณิตศาสตร์ที่เรียบง่าย อย่างทฤษฎีรวมตัวไฟฟ้าอ่อนของไวน์เบิร์กซาลามกลาสฮาว เพื่อบรรยายปฏิกิริยาไฟฟ้าแม่เหล็ก แรงปฏิสัมพันธ์อ่อน และแรงปฏิสัมพันธ์รุนแรงในทางที่รวมกัน?

คำตอบของคำถามนี้ไม่สามารถแก้ไขการลดขนาดฟิวชั่นที่ควบคุมได้ และมันไม่สามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ให้เทคโนโลยีฟิวชั่นควบคุมได้ที่มีอยู่ แต่สัญชาตญาณของลู่โจวบอกเขาว่าถ้าเขาสามารถแก้ไขปัญหาทฤษฎีนี้ได้ มันอาจทำให้เขาได้เบาะแสหรือไอเดีย…

มันชัดเจนว่าการแก้ไขปัญหานี้ไม่ง่ายเลย

ยกตัวอย่างเช่น มันมีปัญหาคลาสสิคของแรงปฏิกิริยารุนแรงและแรงปฏิกิริยาอ่อน…

หลังจากกริ่งคลาสดังขึ้น ลู่โจวยังยืนนิ่งอยู่ เหมือนว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

เมื่อเห็นว่าลู่โจวนิ่งเฉย จางเฉี่ยงฉิงไม่อยากแจ้งว่าคลาสเลิกแล้ว เพราะเขาไม่อยากรบกวนกระบวนการคิดของลู่โจว

เวลาผ่านไปประมาณสองนาที

ลู่โจวมองดูการคำนวณเรียบง่ายบนกระดานดำและเริ่มพูดกับตัวเอง “แล้วจะอธิบายการมีอยู่และช่องว่างมวลหยาง-มิลส์ในเงื่อนไขคณิตศาสตร์?”

เมื่อจางเฉี่ยงฉิงได้ยินปัญหานี้ เขาก็อึ้งไป เขาหน้าแดงเหมือนนักศึกษาและพึมพำ “ผมไม่รู้”

“ผมไม่ได้ถามคุณ คุณก็เลยไม่รู้…”

ลู่โจวพูดกับตัวเองแล้วออกจากห้องเรียนไป ปล่อยให้นักศึกษาและศาสตราจารย์ที่สับสนอยู่ข้างหลัง

ไม่มีใครสามารถบอกคำตอบของปัญหานี้ได้

ท้ายที่สุดแล้ว นี่เป็นหนึ่งในโจทย์ที่ยากที่สุดในด้านฟิสิกส์อนุภาค มันเกี่ยวกับทฤษฎีสนามรวม

แล้วมันก็เป็นหนึ่งในปัญหารางวัลมิลเลนเนียมที่ได้รับการจดจำในระดับนานาชาติ…

……………………………………………………..

บทที่ 607 โล้น

ห้านาทีหลังจากคลาสจบลง ฟีดข่าววีแชทของมหาวิทยาลัยจินหลิงได้แตกตื่นเพราะคลาสฟิสิกส์

[ให้ตายเถอะ ท่านเทพลู่เพิ่งมาคลาสฟิสิกส์ของเรา]

[คลาสไหน?]

[คลาสกลศาสตร์ควอนตัมของจางเฉี่ยงฉิง จะเป็นคลาสไหนได้อีก]

[โอ้โห คลาสฟิสิกส์ของท่านเทพลู่? ห้องเรียนไหน???]

[คลาสจบแล้ว!]

[จบแล้ว? โอ๊ย ทำไมพวกคนเบอร์ใหญ่ถึงไม่บอกเราก่อนจะสอน]

มีคนจำนวนมากในมหาวิทยาลัยที่ทำได้แค่ผ่านมาตรฐาน แต่ก็มีหลายคนที่รู้วิธีคว้าโอกาส และก็มีนักศึกษาอัจฉริยะจำนวนมาก

สำหรับนักเรียนที่สนใจที่จะทำวิจัย การฟังเลคเชอร์ของคนเบอร์ใหญ่เป็นโอกาสที่มีค่า

ท้ายที่สุดแล้ว โอกาสแบบนี้มีครั้งเดียวในชีวิต

มันไม่สำคัญถ้าพวกเขาไม่สามารถเข้าใจเลคเชอร์หรือไม่ ตราบใดที่พวกเขาสามารถเข้าใจแนวคิด มันก็จะเป็นประโยชน์มากกว่าอ่านตำราเรียนเอง นั่นเป็นเพราะว่ามีหลายสิ่งที่ตำราเรียนไม่สามารถสอนได้

หลังจากลู่โจวเดินออกจากห้องเรียน เขาเดินไปทางอาคารคณิตศาสตร์

สิ่งเดียวที่เขาอยากทำตอนนี้คือเขียนแรงบันดาลใจที่เขาเพิ่งมี

เอาจริงแล้ว หลักฐานของแรงรุนแรงที่ปฏิสัมพันธ์กับการมีอยู่และช่องว่างมวลหยาง-มิลส์ได้ถูกพิสูจน์โดยการทดลองทฤษฎีฟิสิกส์ และมันได้รับการยืนยันโดยการจำลองโดยคอมพิวเตอร์

แต่เมื่ออธิบายจากมุมมองคณิตศาสตร์ มันเป็นปริศนาที่ยังแก้ไขไม่ได้

พูดโดยง่ายคือ สำหรับนักคณิตศาสตร์ส่วนใหญ่ สิ่งนี้เป็นปัญหาฟิสิกส์ที่ซับซ้อน สำหรับนักฟิสิกส์ส่วนใหญ่ นี่เป็นปัญหาคณิตศาสตร์

การแก้ไขปัญหาอาศัยการคิดค้นทั้งทฤษฎีคณิตศาสตร์และฟิสิกส์

ลู่โจวไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเขาสามารถแก้ปัญหานี้ได้

ท้ายที่สุดแล้ว ฟิสิกส์ทฤษฎีไม่ใช่เรื่องที่เขาถนัด

ช่วงที่เขาอยู่ที่พรินซ์ตัน การวิจัยส่วนใหญ่ของเขาอยู่ในด้านคณิตศาสตร์ นอกจากการค้นพบสัญญาณ 750 GeV เขาไม่ได้ทำวิจัยด้านฟิสิกส์ทฤษฎีชิ้นอื่นอีกเลย

ถ้าเขายังอยู่ที่พรินซ์ตัน เขาคงเลือกถามเอ็ดเวิร์ด วิทเทน หรือคณบดีก็อดเดิร์ดสำหรับคำปรึกษา เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านฟิสิกส์ทฤษฎีและมีความเข้าใจลึกซึ้งในทฤษฎีสนามรวม

แต่ตอนนี้ เขาทำได้แค่ติดต่อกับเพื่อนเขาผ่านอีเมล และมีปัญหาจำนวนมากที่ไม่สามารถรับมือได้ผ่านอีเมล

สำหรับแวดวงวิชาการในประเทศ…

เอาจริงๆ แล้ว มันยากที่จะหาใครสักคนเพื่อคุยเกี่ยวกับปัญหานี้

ถึงแม้ว่าคุณหยาง หนึ่งในผู้ก่อตั้งสายนี้ ยินดีที่จะพูดคุยเรื่องนี้กับเขา แต่เขามีอายุเกือบร้อยปี ลู่โจวไม่อยากรบกวนเขา

โดยเฉพาะเมื่อเขาคิดถึงธีสิสเรื่องการคาดคะเนของรีมันน์จำนวนห้าหน้าของศาสตราจารย์อติยาห์ เขาไม่ได้มีความคาดหวังสำหรับนักวิชาการสูงอายุ

ท้ายที่สุดแล้ว อายุเป็นคำสาปสำหรับนักวิชาการ…

‘ฉันต้องพึ่งพาตัวเองใช่ไหม?’

ลู่โจวนั่งลงที่เก้าอี้และหยิบปากกาขึ้นมา เขาเขียนลงไปหนึ่งบรรทัดและใช้ภาษาคณิตศาสตร์เพื่อบรรยายปัญหา

[อยากจะพิสูจน์: สำหรับทุกกลุ่มเดี่ยวย่อย G มีควอนตัมสนามมิลส์กับ G ตามที่กลุ่มบรรทัดฐานบน R^4 และมีการมีอยู่และช่องว่างหยาง-มิลส์ที่ ∆>0]

หัวปากกาลากผ่านกระดาษร่างอย่างแผ่วเบา ในขณะที่ลู่โจวมองดูบรรทัดข้อความในกระดาษร่าง เขาตกอยู่ในห้วงความคิด

ถึงเขาจะไม่มั่นใจมากว่าจะแก้ปัญหานี้ได้ เขาก็มีความคิดที่จะแก้มัน

อย่างแรก โจทย์ใหญ่ขนาดนี้ถูกแบ่งออกได้เป็นสองส่วน

ส่วนแรกอาจจะถูกพิสูจน์ได้โดยการใช้แค่วิธีการทางคณิตศาสตร์

ซึ่งนั่นคือพิสูจน์ทางคณิตศาสตร์ถึงการมีอยู่ของทางแก้สมการหยาง-มิลส์หรือหาทางแก้ทั่วไป

ส่วนนี้ไม่ได้มีประโยชน์มากสำหรับนักฟิสิกส์ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาได้ข้อสรุปว่าพวกเขาอยากทำผ่านการวิจัยพลังงานสูงและการจำลองโดยคอมพิวเตอร์ แต่สำหรับนักคณิตศาสตร์ ความหมายของทางแก้ทั่วไปของระบบสมการนี้นั้นสำคัญ

เหมือนที่เอ็ดเวิร์ด วิทเทนเคยพูดไว้ ถ้ามีใครทำงานนี้สำเร็จ ความสำเร็จของคนคนนั้นจะกลายเป็นไมล์สำคัญของคณิตศาสตร์ศตวรรษที่ 21 ให้ตามทันฟิสิกส์ทฤษฎีศตวรรษที่ 20…

แน่นอนว่าลู่โจวคิดแล้วว่าสิ่งนี่ถูกพูดโดยนักฟิสิกส์ที่ได้เหรียญรางวัลฟิลด์ ในความเห็นของเขา คณิตศาสตร์มีวิถีการพัฒนาของมัน และเขาไม่คิดว่าคณิตศาสตร์ต้องตามให้ทันฟิสิกส์

ถ้ามีใครอยากจะโต้เถียงเรื่องนี้จริงๆ มันก็คงจะไร้สาระไปหน่อย

สำหรับส่วนที่สอง นั่นก็เป็นเนื้อหาหลักมากกว่า

ซึ่งสิ่งนั้นคือหลักฐานของการมีอยู่และช่องว่างหยาง-มิลส์

การทำให้หลักฐานนี้สมบูรณ์จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งชุมชนคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ ไม่เพียงแต่ว่าหลักฐานนี้จะสร้างวิธีการทางคณิตศาสตร์ใหม่ และมันจะทำให้กฎของธรรมชาติชัดเจนว่านักฟิสิกส์ยังไม่ได้เข้าใจอย่างเต็มที่ และนักฟิสิกส์สามารถใช้สิ่งนี้คิดค้นทฤษฎีขั้นสูงมากกว่านี้

ยกตัวอย่างเช่น การรวมปฏิกิริยารุนแรงและแรงไฟฟ้าแม่เหล็ก…

การทำสิ่งนี้จะหมายถึงว่าชุมชนฟิสิกส์ทฤษฎีทั้งหมดจะเข้าใกล้ทฤษฎีการรวมแรงครั้งใหญ่ไปอีกขึ้น

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ

ลู่โจวมองดูโจทย์คณิตศาสตร์บนกระดาษร่างและตกอยู่ในห้วงความคิด เขานั่งอยู่หน้าโต๊ะโดยมีปากกาลูกลื่นอยู่ในมือ นอกจากจุดหมึกยาวเป็นสาย ไม่มีอะไรอย่างอื่นถูกเขียนไว้บนกระดาษร่าง

เขานั่งอยู่ตรงนั้นจนถึงเวลาหกโมง เมื่อเขาได้ยินเสียงกระดิ่งดังมาจากนอกหน้าต่าง ท้ายที่สุด เขาเขียนลงไปในกระดาษสองบรรทัด

หลังจากนั้น เขาลุกขึ้นและออกจากออฟฟิศไป

ภายในออฟฟิศ

สองนาทีผ่านไป

เฟิงจินมองดูประตู เมื่อเขาเห็นว่าลู่โจวจะไม่กลับมา เขาหยุดเขียนและลุกขึ้นเช่นกัน

เขาสังเกตเห็นลู่โจวนั่ง ‘ฝันกลางวัน’ อยู่ตรงนั้นนานกว่าครึ่งชั่วโมง

ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ที่ออฟฟิศนี้มาสักพัก นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นลู่โจวมีสีหน้าแบบนี้

เขาอยากรู้เกี่ยวกับปัญหาที่จะทำให้หัวหน้าเขาปวดหัวจึงแกล้งไปกดน้ำที่ตู้กด เขาแค่อยากเดินผ่านโต๊ะลู่โจวแล้วดูว่ามีอะไรเขียนไว้บนโต๊ะ

อีกทั้งเขายังเป็นนักศึกษาอัจฉริยะที่มหาวิทยาลัยจินหลิง ถ้าเขาสามารถให้ความช่วยเหลือลู่โจว บางทีเขาอาจจะได้แต้มพิเศษ

แต่ความจริงนั้นช่างโหดร้าย

เมื่อเขามองดูการคำนวณบนกระดาษ เขาอึ้งไป

[HΛ(L)=∑(แถว)∑(c)·h^(c,c+1)+∑(คอลัมน์)∑(r)·h^(r,r+1)+∑(i∈Λ( L))·h(i)]

[…]

เฟิงจิน “…???”

อะไรวะ สิ่งนี้คืออะไร?

เหอชางเหวินเห็นว่ามันเริ่มดึก เขาอยากไปหาอาหารเย็นกินที่โรงอาหารเลยลุกขึ้น

เมื่อเขาเห็นเพื่อนของเขายืนอยู่ที่โต๊ะลู่โจวด้วยสีหน้างุนงง ในฐานะนักศึกษาปริญญาเอก เขาพยายามสั่งสอนนักศึกษาที่อ่อนกว่า

“อย่าดูข้าวของของหัวหน้า”

ดูเหมือนว่าเขาโน้มน้าวใจไม่ได้ เขาเลยพูดเพิ่มอีกประโยค

“เดี๋ยวคุณจะโล้น”

เฟิงจิน “…”

หลิวสี่หยวน  “…”

หานเมิ่งฉี  “…”

…………………………………………………

Scholar’s Advanced Technological System

Scholar’s Advanced Technological System

The Overachiever's Black Tech System, 学霸的黑科技系统
Score 6.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2018 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Scholar’s Advanced Technological Systemหลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล “ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?” “ไม่ได้” “เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?” “ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset