Scholar’s Advanced Technological System – ตอนที่ 741 พยายามทุกวิถีทาง

ลู่โจวกำลังอ่านบันทึกการประชุมอยู่ในตอนที่เขาโดนผู้อำนวยการหลี่เรียกขึ้นมาอย่างกะทันหัน ตอนแรกเขาก็ยังไม่รู้ตัว แต่ไม่นานเขาก็สังเกตเห็นว่าคนเริ่มจ้องมาทางเขากัน

เอิ่มมม…

ฉันไม่ได้ขอพูดสักหน่อย…

ถึงแม้ลู่โจวจะไม่ได้เตรียมอะไรมาพูด แต่เขาก็ไม่อยากทำให้ผู้อำนวยการหลี่เสียหน้า

ดังนั้นเขาจึงยืนขึ้นแล้วพูดว่า

“ผมเห็นด้วยกับความคิดเห็นของนักวิชาการหยวนนะครับ ดวงจันทร์เป็นดาวดวงใหญ่ มีหลายสิ่งมากที่เราสามารถทำที่นั่นได้ ในเมื่อชาวอเมริกันสนใจดาวอังคาร…ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปโฟกัสที่โครงการบนดวงจันทร์แทนจะดีกว่า พวกเราสามารถปลูกพืชบนดวงจันทร์ได้ หรือจะศึกษาวิธีการขุดทรัพยากรจากดวงจันทร์มาก็ได้”

ฉันควรจะพูดอย่างนี้หรือเปล่านะ

ช่างมัน ใครจะไปสนใจ

เมื่อลู่โจวนั่งลง เขาก็ได้ยินเสียงคนพูดเห็นด้วยจากข้างหลัง

เขาพูดถูกแล้ว การไปดวงจันทร์เป็นเพียงแค่ขั้นตอนแรกเท่านั้น ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างให้ทำบนดวงจันทร์ พวกเขาไม่ต้องเดินตามรอยพวกอเมริกันเพื่อไปดาวอังคารกับเขาก็ได้ ไม่จำเป็นต้องไปปักธงบนดาวอังคารแล้วนำหินดาวอังคารไม่กี่ก้อนกลับมาหรอก

ประเด็นนี้ไม่จำเป็นต้องคุยต่ออีกแล้ว

คนที่เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศและคนที่มีชื่อเสียงในฝั่งวิชาการต่างก็เห็นด้วยว่าควรโฟกัสไปที่การพัฒนาดวงจันทร์มากกว่า ต่อให้คนอื่นไม่เห็นด้วย มันก็ไม่สำคัญอีกแล้ว

อีกอย่าง คนส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้

ผู้อำนวยการหลี่มีความคิดคร่าวๆ ว่าผู้มาร่วมงานประชุมกำลังคิดอะไรอยู่ เขาจึงถามทุกคนว่ามีใครมีความคิดเห็นอะไรไหม ไม่มีใครยกมือขึ้นมาเลย ผู้อำนวยการหลี่จึงพูดว่า

“ดูเหมือนจะไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ว่าควรจะเลือกไปดวงจันทร์หรือไปดาวอังคารดีแล้วนะครับ พรรคคอมมิวนิสต์จีนก็มีความคิดเห็นคล้ายๆ กัน เมื่อเปรียบเทียบกับเกียรติยศอันหอมหวานแล้ว สิ่งที่เป็นไปได้นั้นเป็นความสำเร็จที่มีค่ามากกว่า”

ผู้อำนวยการหลี่หยุดพูดไปครู่หนึ่งก็พูดต่อ “ถ้าอย่างนั้น ขั้นตอนถัดไปของการบินและอวกาศก็จะโฟกัสอยู่ที่ระบบโลกและดวงจันทร์

หลังจากที่ได้ปรึกษากับหน่วยงานอื่นอย่าง องค์การอวกาศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน แผนของพวกเราในการสร้างสถานีอวกาศบนอวกาศเพื่อเพิ่มทรัพยากรต่างๆ ให้กับยานอวกาศ เช่น เชื้อเพลิง เป็นต้น สถานีอวกาศนี้จะถูกใช้ในภารกิจวิจัยทางวิทยาศาสตร์ด้วย

 องค์การอวกาศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนได้คิดแผนมาสองแบบในเรื่องสถานีอวกาศ แผนแรกคือที่วงโคจรต่ำของโลก คล้ายๆ กับ สถานีอวกาศนานาชาติ ส่วนอีกแผนคือที่วงโคจรของดวงจันทร์ คล้ายๆ กับโครงการสถานีอวกาศดวงจันทร์ของสหรัฐอเมริกา

“พวกเราควรจะสร้างสถานีอวกาศที่ไหนดี? ผมหวังว่าพวกคุณทุกคนจะแสดงความคิดเห็นนะครับ”

คนในห้องประชุมเริ่มคุยเรื่องนี้กับคนอื่นๆ

สิ่งที่แตกต่างจากหัวข้อที่แล้วคือ ไม่ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญหรือตัวแทนบริษัทก็ตาม ตอนนี้ทุกคนต่างๆ ก็อยากจะแสดงความคิดเห็นออกมามากขึ้น การดีเบตก็เข้มข้นขึ้นด้วย

สาเหตุเป็นเพราะว่า แผนการระดับชาติในรูปแบบนี้นั้นเกี่ยวข้องกับความสนใจของทุกคนโดยตรง ทั้งทางด้านวิชาการและด้านอุตสาหกรรม

บางคนก็เป็นพวกอนุรักษ์นิยมกว่าคนอื่น พวกเขาเชื่อว่าควรจะสร้างสถานีอวกาศบนวงโคจรต่ำของโลกก่อน แล้วค่อยรออีกสักสองสามปีก่อนจะไปสร้างบนวงโคจรของดวงจันทร์

ส่วนคนอีกกลุ่มหนึ่งจะมองในแง่ดีมากกว่า พวกเขาคิดว่า ในเมื่อจีนมีความเชี่ยวชาญด้านการขนส่งวัตถุขนาด 25 ตันไปมาระหว่างโลกกับดวงจันทร์แล้ว มันก็เป็นไปได้ที่พวกเขาจะสร้างสถานีอวกาศบนวงโคจรของดวงจันทร์ พวกเขาไม่จำเป็นต้องสร้างสถานีอวกาศอีกแห่งที่คล้ายกับสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ในเมื่อพวกเขาสามารถใช้ ISS ร่วมกับประเทศอื่นได้

สุดท้ายแล้ว ประเด็นที่สำคัญที่สุดของการเจรจาฟิวชั่นที่ควบคุมได้ก็คือการคลายกำแพงในการร่วมมือทำโปรเจกต์วิจัยทางวิทยาศาสตร์กับนานาชาติ อย่างเช่น ISS และให้ประเทศจีนได้เข้าร่วมอย่างเท่าเทียม

ตัวลู่โจวก็อยากให้สร้างสถานีอวกาศบนดวงจันทร์อยู่แล้ว

เพราะเขาก็อยากจะทำภารกิจของระบบให้สำเร็จ ถ้าไม่มีเงินทุนจากรัฐ ก็ไม่มีทางที่เขาจะทำระยะที่สองของภารกิจจากระบบให้สำเร็จได้

ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้สถานการณ์ในต่างประเทศจะตึงเครียดเล็กน้อยอยู่ในตอนนี้ เขาก็สนับสนุนโปรเจกต์ที่ร่วมมืออย่างเปิดเผย ได้ผลประโยชน์ร่วมกัน หรือ ‘วิน-วิน’ มาโดยตลอด โปรเจกต์ที่ใช้วิทยาศาสตร์ในการนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองของมนุษยชาติ

แต่เขาก็ยังลังเลอยู่เล็กน้อย เขาไม่รู้ว่าพวกเขาควรจะสั่งสมประสบการณ์ให้มากกว่านี้กับเทคโนโลยีวงโคจรต่ำของโลกก่อนหรือเปล่า หรือพวกเขาควรจะทำตัวใจกล้าแล้วมุ่งตรงไปยังวงโคจรของดวงจันทร์เลย

ลู่โจวฟังการดีเบตอันตึงเครียดที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ใกล้ๆ เขาเห็นนักวิชาการหยวนที่ในหัวเอาแต่คิดจนลืมสิ่งรอบตัวไปแล้ว

หยวนฮวานหมินสังเกตเห็นว่าลู่โจวกำลังมองมาทางเขา เขาจึงเงยหน้าขึ้นมาแล้วถามว่า “คุณคิดว่าอย่างไรล่ะ?”

ลู่โจวไม่ได้คิดว่าเขาจะถูกถามแบบนี้ เขาพูดขึ้นทันทีว่า “คุณพูดก่อนเลย”

นักวิชาการหยวนเงียบไปสักพัก ก่อนจะถอนหายใจ

“เอาตรงๆ นะ ผมเองก็ไม่รู้”

ลู่โจวรู้สึกประหลาดใจ “คุณไม่รู้เหรอครับ?”

คุณไม่รู้เหรอ?

คุณเป็นตาแก่ที่ค่อนไปทางหัวแข็งไม่ใช่เหรอ?

“ใช่แล้วล่ะ…” หยวนฮวานหมินพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจนใจว่า “พัฒนาการด้านการบินและอวกาศของประเทศเรานั้นเริ่มขึ้นช้ากว่าประเทศอื่นมาก คุณอาจจะหัวเราะใส่ผมในเรื่องนี้ แต่ย้อนกลับไปช่วงที่โคลัมเบียประสบความสำเร็จ พวกเราก็กำลังสร้างกระสวยอวกาศขึ้นเหมือนกัน แล้วดูสิตอนนี้เกิดอะไรขึ้น? มันก็ใช่อยู่ที่เฉียนเสวี่ยเซินชอบจรวดมากกว่า แต่เหตุผลที่แท้จริงเป็นเพราะพวกอเมริกันยอมแพ้กับกระสวยอวกาศของพวกเขาเอง”

ลู่โจวพยักหน้าแล้วคิดอยู่ครู่หนึ่ง

“ผมเข้าใจนะครับ แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะหัวเราะหรอก”

การวิจัยทางวิทยาศาสตร์เป็นกระบวนการของการเรียนรู้และการค้นพบ ไม่มีใครเกิดมาพร้อมกับความรู้ในสมองหรอก การเดินตามรอยเท้าคนอื่นมันก็ไม่ได้น่าอายอะไร สิ่งที่สำคัญคือการประยุกต์ใช้ความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาต่างหาก

ตอนที่ลู่โจวศึกษาอยู่ที่พรินซ์ตัน เขาได้พบนักวิชาการที่น่านับถือหลายคนและเรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างมาจากพวกเขา ความรู้นี้ได้กลายมาเป็นสิ่งที่ช่วยให้เขาประสบความสำเร็จในปัจจุบันได้อย่างมาก

ลู่โจวรู้ดีว่านักวิชาการหยวนกำลังกังวลเรื่องอะไร

ตอนนี้ที่ประเทศจีนประสบความสำเร็จในการส่งนักบินอวกาศไปยังดวงจันทร์แล้ว ตำแหน่งของพวกเขาในระดับนานาชาติก็จะเป็นจุดสูงสุดของโลก

แต่เพราะว่าพวกเขากำลังนำหน้าหรือไม่ก็สูสีกับคนอื่นๆ พวกเขาจึงไม่มีตัวอย่างครั้งก่อนๆ มาใช้เป็นข้อมูลอ้างอิง

ตั้งแต่นี้ไปพวกเขาจึงต้องวางแผนอย่างไม่มีข้อมูล และพยายามหาวิธีที่ถูกต้องจากการเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง

ลู่โจวมองนักวิชาการหยวนแล้วเขาก็ยิ้มขึ้นมาในทันทีตอนที่พูดขึ้นว่า “ผมคิดว่านี่อาจจะเป็นสิ่งที่ดีกับพวกเราทั้งคู่ก็ได้ครับ”

นักวิชาการหยวนเลิกคิ้วแล้วถามว่า “คุณหมายความว่าอย่างไร?”

ลู่โจวอธิบาย “นี่หมายความว่าพวกเราจะเปลี่ยนจากการเป็นผู้ตามไปเป็นผู้นำ และพวกเราจะได้สร้างมาตรฐานให้กับโลกใบนี้ครับ”

นักวิชาการหยวนยิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มออกมา

“พวกคนเจนวายอย่างคุณนี่คิดค่อนข้างแตกต่างนะ คุณไม่พอใจกับวงโคจรต่ำของโลกเหรอ?”

“ก็พอใจนะครับ” ลู่โจวถอนหายใจแล้วพูดต่อ “แต่พวกเราทำได้ดีกว่านั้น”

นักวิชาการหยวนยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “โอเค ถ้าคุณสร้างสถานีอวกาศบนวงโคจรของดวงจันทร์ได้ค่อยมาอวดผมแล้วกัน”

ลู่โจว “…? “

อะไรกัน?

พวกเราสนิทกันขนาดที่คุณมาพูดตลกใส่ผมแล้วเหรอเนี่ย?

การดีเบตยังคงดำเนินต่อไป

ผู้เชี่ยวชาญจากองค์การเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์การบินและอวกาศแห่งประเทศจีนลุกขึ้นยืน เคราของเขาสั่นในขณะที่เขากำลังพูด “พวกเราควรจะเลือกวงโคจรต่ำของโลก!

ก่อนอื่นเลย พวกเราเอา ISS เป็นการอ้างอิงก็ได้ ต่อให้มีความยุ่งยากทางวิศวกรรม แต่ก็จะไม่ยุ่งยากเกินไปนัก อย่างที่สอง พวกเราสามารถใช้ประสบการณ์และความรู้ของพวกที่ได้จากสถานีที่วงโคจรต่ำของโลกไปใช้กับสถานีที่วงโคจรของดวงจันทร์ในอนาคตได้!”

คนในห้องประชุมจำนวนมากพยักหน้าเห็นด้วยกันกับเขา

ตัวแทนจากบริษัทต่างๆ ที่โฟกัสกับโปรเจกต์จรวดก็พยักหน้าเช่นกัน

ทันใดนั้นเอง เสียงเสียงหนึ่งก็ลอยมา

“ไม่เห็นด้วยครับ”

ทุกคนในห้องต่างกันไปมองเจ้าของเสียง

ชายที่ส่งนักบินอวกาศสามคนไปดวงจันทร์ ศาสตราจารย์ลู่ลุกขึ้นยืน

ผู้อำนวยการหลี่เริ่มเครียดจากสถานการณ์อันโกลาหลในห้องประชุม เขาเงยหน้าขึ้นในทันทีแล้วถามว่า “ช่วยอธิบายด้วยครับ”

ลู่โจวยิ้มแล้วตอบคำถาม “ในเมื่อเรากำลังจะสร้างสถานีอวกาศอยู่แล้วนะครับ พวกเราไปสร้างที่วงโคจรของดวงจันทร์ดีกว่า!”

ทั้งห้องประชุมตกอยู่ในความวุ่นวาย

…………………………………….

Scholar’s Advanced Technological System

Scholar’s Advanced Technological System

The Overachiever's Black Tech System, 学霸的黑科技系统
Score 6.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2018 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Scholar’s Advanced Technological Systemหลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล “ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?” “ไม่ได้” “เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?” “ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset