Scholar’s Advanced Technological System – ตอนที่ 898 อาการของเวร่า

“หยุดให้ความหวังเธอได้แล้ว มันเป็นไปไม่ได้”

โมลิน่ากำลังรู้สึกเดือดดาลอยู่ข้างในระหว่างที่เธอพูดอย่างเย็นชากับผู้ชายที่อยู่ในวิดีโอคอล

ลู่โจว ผู้ซึ่งกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของเขา วางปากกาลง

เขามองโมลิน่าที่อยู่บนหน้าจอและรู้สึกสับสนเล็กน้อย

“เธอ? คุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไร?”

เมื่อคืนเขาได้รับอีเมลจากเธอที่ขอให้จัดเตรียมการวิดีโอคอล แต่ตอนนี้เขาไม่รู้เลยว่าเธอกำลังพยายามจะพูดถึงอะไร

โมลิน่าสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วพูดอย่างเฉยเมยว่า

“ฉันกำลังพูดถึงเวร่า พุลยุย!”

ลู่โจวขมวดคิ้วแล้วเริ่มตระหนักว่าเรื่องนี้อาจจะจริงจังยิ่งกว่าที่เขาได้คิดเอาไว้

“เกิดอะไรขึ้นกับเวร่า?”

โมลิน่าลังเลอยู่ครู่หนึ่งและผิดสัญญาที่ว่าเธอจะไม่บอกลู่โจว เธอขบกรามแน่นและเล่าความจริงออกมา

“เธอมีอาการไอและมีไข้มาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว และมันดูไม่เหมือนไข้หวัดธรรมดา! ฉันไม่รู้ว่าพวกคุณสองคนจะกำลังทำงานโปรเจกต์วิจัยอะไรด้วยกันหรือไม่ ฉันไม่สน ฉันแค่อยากจะบอกคุณ…เธอทำงานด้วยตัวเธอเองมากเกินไปก็เพราะคุณ!”

โมลิน่าจ้องลู่โจวผ่านหน้าจอและพูดด้วยท่าทีที่จริงจัง

“ได้โปรดเถอะ ฉันขอร้องคุณล่ะ อย่าให้เธอทำงานหนักเกินไป”

โมลิน่าเอื้อมมือไปจับเมาส์ก่อนที่จะจบการวิดีโอคอล

“เดี๋ยวก่อน! เธอวางสายไปแล้วเหรอ?”

ลู่โจวจ้องมองหน้าจอวิดีโออันว่างเปล่าด้วยสีหน้าที่งุนงง

คำพูดของโมลิน่ายังติดค้างอยู่ในใจของเขา

เธอหมายความว่ายังไงที่บอกว่าอย่าให้เธอทำงานหนักมากเกินไป?

ลู่โจวทวนประโยคนั้นซ้ำๆ ในใจ ถามตัวเองว่าเขาได้ทำอะไรแบบนั้นลงไปหรือเปล่า

อย่างไรก็ตาม เขาจำไม่ได้ว่าเขาได้ทำให้เวร่าทำงานหนักเกินไป เขาไม่เคยขอให้เธอทำอะไรเลย

ให้ตายเถอะ!

ทำไมเธอไม่อธิบายว่าเธอหมายความว่ายังไง!

แล้วฉันจะทำยังไงดี?

ทันใดนั้นลู่โจวก็รู้สึกรำคาญใจ เขาไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกรำคาญ แต่เขาแค่รู้สึกแบบนั้น

บรรทัดกล่องข้อความปรากฏขึ้นมาที่มุมขวาล่างบนหน้าจอของเขา

เสี่ยวไอ: [เจ้านาย เอ่อ…ต้องการให้เสี่ยวไอโทรกลับหาเธอไหม?]

ลู่โจวสูดลมหายใจลึกแล้วส่ายหัว

“ไม่เป็นไร…”

มันไม่มีประโยชน์

โมลิน่าวางสายไปอย่างชัดเจนหลังจากที่เธอได้พูดทุกสิ่งทุกอย่างที่เธออยากจะพูด การโทรกลับไปหาเธอก็คงจะไร้ความหมาย

มันไม่น่าเป็นไปได้ที่โมลิน่าจะอธิบายตัวเธอเอง

ลู่โจวพิงหลังกับเก้าอี้แล้วถอนหายใจออกมาขณะที่เขาบ่นพึมพำกับตัวเองว่า “ถ้าฉันเพียงแต่อยู่ในที่ที่เงียบๆ ที่ที่ฉันอยู่เพียงลำพัง”

ที่ซึ่งไม่มีอะไรจะมารบกวนงานวิจัยของฉันได้

มันคงจะดีถ้าเวลาจะหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้นในตอนที่ฉันอยู่ในสถานที่นั้น

สถานที่นั้นดูเหมือนเป็นสวรรค์สำหรับลู่โจว

ลู่โจวหลับตาและพยายามหลีกหนีจากความจริง แต่ทันใดนั้นเขาก็ส่ายหัวแล้วลุกขึ้นยืน

ไม่!

ฉันจะปล่อยเธอไว้คนเดียวไม่ได้!

ไม่ว่าเรื่องนี้มันจะเป็นความผิดของฉันหรือไม่ เธอก็ยังเป็นลูกศิษย์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของฉัน…

เขาไม่สามารถจะทำแค่ยืนอยู่เฉยๆ แล้วดูเธอทำลายร่างกายตัวเธอเอง อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีระบบร่างกายอย่างเขาที่ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ เขาไม่ได้ป่วยมาเป็นเวลา 7 ปีแล้วและก็สามารถจะตื่นอยู่ตลอดทั้งคืนได้ง่ายๆ โดยไม่เกิดผลข้างเคียง

ลู่โจวเปิดอีเมลของเขาแล้วเริ่มพิมพ์อย่างระมัดระวัง

[ผมได้ยินมาว่าคุณไม่สบาย…

[ขอโทษด้วยที่ผมไม่ใช่คนปลอบใจคนเก่ง และผมก็ไม่ใช่หมอ ผมแค่อยากจะบอกว่า…

[ไม่ว่างานวิจัยของคุณจะสำคัญแค่ไหน ผมหวังว่าคุณจะให้เรื่องสุขภาพของคุณมาก่อน คุณมีร่างกายอยู่แค่ร่างเดียว ไม่ต้องพูดถึงว่า คุณไม่เคยได้มีสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณควรจะดูแลใส่ใจให้มากขึ้น

[ผมคงจะเสียใจมากถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับคุณ

[อย่าลืมดื่มน้ำมากๆ…]

ลู่โจวเงียบไปครู่หนึ่งและตัดสินใจลบบรรทัดสุดท้าย จากนั้นเขาก็กดปุ่มส่ง

หลังจากนั้นเขาก็คอยอยู่หน้าคอมพิวเตอร์อย่างเงียบๆ

แม้ว่าเขาจะอยากใช้เวลานี้ในการทำงานวิจัยคณิตศาสตร์ แต่เขาก็ไม่สามารถจะตั้งสมาธิกับมันได้เลย

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ

เป็นเวลาสิบนาทีแล้วตั้งแต่ลู่โจวส่งอีเมลไป แต่ลู่โจวรู้สึกเหมือนว่ามันผ่านไปหลายชั่วโมง

ลู่โจวจ้องมองที่อีเมลอันว่างเปล่าแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก

เขาแน่ใจว่าเวร่ายังคงตื่นอยู่ พร้อมกับมีคอมพิวเตอร์อยู่ตรงหน้าเธอ

“นี่เป็นความผิดของฉันหรือเปล่า?

“แต่สิ่งที่ฉันทำลงไป…”

ลู่โจวจ้องไปที่มือของตัวเองและสั่นหัวอย่างกระวนกระวายใจ พยายามที่จะเอาความคิดที่กวนใจเขาออกไปจากหัว

“ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องเหล่านี้

“ฉันต้องสืบให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ!”

ลู่โจวเปิดอีเมลและเริ่มพิมพ์อีกครั้ง

[…ถ้าตอนนี้คุณอยู่ในพรินซ์ตัน กรุณาช่วยแวะไปหาเวร่า พุลยุย แทนผมหน่อย ผมได้ยินจากเพื่อนร่วมงานของเธอว่าเธอไม่สบาย ผมไม่สามารถจะติดต่อเธอได้ในตอนนี้

[ถ้าคุณทำได้ โปรดช่วยไปตรวจดูสุขภาพของเธอแทนผมและถามว่าเธอป่วยด้วยสาเหตุอะไร ขอบคุณ]

ลู่โจวเปิดรายชื่อผู้ติดต่อและส่งมันไปหาลูกศิษย์ของเขาอีกคนหนึ่งซึ่งก็คือ ฉินเยว่

แม้ว่าโดยปกติแล้วชายหนุ่มผู้นี้จะเป็นคนที่ค่อนข้างอยู่เงียบๆ และเงียบขรึม แต่จริงๆ แล้วเขาก็เป็นที่ค่อนข้างใส่ใจผู้อื่น ฉินเยว่คงจะพยายามอย่างดีที่สุดในการช่วยเหลือลู่โจวอย่างแน่นอน

อีกอย่างก็คือนอกเหนือจากฉินเยว่แล้ว ลู่โจวก็ไม่มีคนอื่นที่จะขอความช่วยเหลือได้แล้ว

หลังจากส่งอีเมลแล้ว ลู่โจวก็ถอนหายใจออกมาและพิงหลังกับเก้าอี้ขณะที่เขาภาวนาอยู่ในใจอย่างเงียบๆ

“ฉันหวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ…”

ถ้าเธอไม่สบายจริงๆ ไม่ว่ามันจะเป็นความผิดของเขาหรือไม่ เขาก็คงจะรู้สึกผิดอย่างมาก

แล้วถ้าเธอเข้าโรงพยาบาลล่ะ…

ลู่โจวไม่อยากแม้แต่จะคิดถึงความเป็นไปได้

…………..

“หยุดให้ความหวังเธอได้แล้ว มันเป็นไปไม่ได้”

โมลิน่ากำลังรู้สึกเดือดดาลอยู่ข้างในระหว่างที่เธอพูดอย่างเย็นชากับผู้ชายที่อยู่ในวิดีโอคอล

ลู่โจว ผู้ซึ่งกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของเขา วางปากกาลง

เขามองโมลิน่าที่อยู่บนหน้าจอและรู้สึกสับสนเล็กน้อย

“เธอ? คุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไร?”

เมื่อคืนเขาได้รับอีเมลจากเธอที่ขอให้จัดเตรียมการวิดีโอคอล แต่ตอนนี้เขาไม่รู้เลยว่าเธอกำลังพยายามจะพูดถึงอะไร

โมลิน่าสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วพูดอย่างเฉยเมยว่า

“ฉันกำลังพูดถึงเวร่า พุลยุย!”

ลู่โจวขมวดคิ้วแล้วเริ่มตระหนักว่าเรื่องนี้อาจจะจริงจังยิ่งกว่าที่เขาได้คิดเอาไว้

“เกิดอะไรขึ้นกับเวร่า?”

โมลิน่าลังเลอยู่ครู่หนึ่งและผิดสัญญาที่ว่าเธอจะไม่บอกลู่โจว เธอขบกรามแน่นและเล่าความจริงออกมา

“เธอมีอาการไอและมีไข้มาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว และมันดูไม่เหมือนไข้หวัดธรรมดา! ฉันไม่รู้ว่าพวกคุณสองคนจะกำลังทำงานโปรเจกต์วิจัยอะไรด้วยกันหรือไม่ ฉันไม่สน ฉันแค่อยากจะบอกคุณ…เธอทำงานด้วยตัวเธอเองมากเกินไปก็เพราะคุณ!”

โมลิน่าจ้องลู่โจวผ่านหน้าจอและพูดด้วยท่าทีที่จริงจัง

“ได้โปรดเถอะ ฉันขอร้องคุณล่ะ อย่าให้เธอทำงานหนักเกินไป”

โมลิน่าเอื้อมมือไปจับเมาส์ก่อนที่จะจบการวิดีโอคอล

“เดี๋ยวก่อน! เธอวางสายไปแล้วเหรอ?”

ลู่โจวจ้องมองหน้าจอวิดีโออันว่างเปล่าด้วยสีหน้าที่งุนงง

คำพูดของโมลิน่ายังติดค้างอยู่ในใจของเขา

เธอหมายความว่ายังไงที่บอกว่าอย่าให้เธอทำงานหนักมากเกินไป?

ลู่โจวทวนประโยคนั้นซ้ำๆ ในใจ ถามตัวเองว่าเขาได้ทำอะไรแบบนั้นลงไปหรือเปล่า

อย่างไรก็ตาม เขาจำไม่ได้ว่าเขาได้ทำให้เวร่าทำงานหนักเกินไป เขาไม่เคยขอให้เธอทำอะไรเลย

ให้ตายเถอะ!

ทำไมเธอไม่อธิบายว่าเธอหมายความว่ายังไง!

แล้วฉันจะทำยังไงดี?

ทันใดนั้นลู่โจวก็รู้สึกรำคาญใจ เขาไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกรำคาญ แต่เขาแค่รู้สึกแบบนั้น

บรรทัดกล่องข้อความปรากฏขึ้นมาที่มุมขวาล่างบนหน้าจอของเขา

เสี่ยวไอ: [เจ้านาย เอ่อ…ต้องการให้เสี่ยวไอโทรกลับหาเธอไหม?]

ลู่โจวสูดลมหายใจลึกแล้วส่ายหัว

“ไม่เป็นไร…”

มันไม่มีประโยชน์

โมลิน่าวางสายไปอย่างชัดเจนหลังจากที่เธอได้พูดทุกสิ่งทุกอย่างที่เธออยากจะพูด การโทรกลับไปหาเธอก็คงจะไร้ความหมาย

มันไม่น่าเป็นไปได้ที่โมลิน่าจะอธิบายตัวเธอเอง

ลู่โจวพิงหลังกับเก้าอี้แล้วถอนหายใจออกมาขณะที่เขาบ่นพึมพำกับตัวเองว่า “ถ้าฉันเพียงแต่อยู่ในที่ที่เงียบๆ ที่ที่ฉันอยู่เพียงลำพัง”

ที่ซึ่งไม่มีอะไรจะมารบกวนงานวิจัยของฉันได้

มันคงจะดีถ้าเวลาจะหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้นในตอนที่ฉันอยู่ในสถานที่นั้น

สถานที่นั้นดูเหมือนเป็นสวรรค์สำหรับลู่โจว

ลู่โจวหลับตาและพยายามหลีกหนีจากความจริง แต่ทันใดนั้นเขาก็ส่ายหัวแล้วลุกขึ้นยืน

ไม่!

ฉันจะปล่อยเธอไว้คนเดียวไม่ได้!

ไม่ว่าเรื่องนี้มันจะเป็นความผิดของฉันหรือไม่ เธอก็ยังเป็นลูกศิษย์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของฉัน…

เขาไม่สามารถจะทำแค่ยืนอยู่เฉยๆ แล้วดูเธอทำลายร่างกายตัวเธอเอง อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีระบบร่างกายอย่างเขาที่ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ เขาไม่ได้ป่วยมาเป็นเวลา 7 ปีแล้วและก็สามารถจะตื่นอยู่ตลอดทั้งคืนได้ง่ายๆ โดยไม่เกิดผลข้างเคียง

ลู่โจวเปิดอีเมลของเขาแล้วเริ่มพิมพ์อย่างระมัดระวัง

[ผมได้ยินมาว่าคุณไม่สบาย…

[ขอโทษด้วยที่ผมไม่ใช่คนปลอบใจคนเก่ง และผมก็ไม่ใช่หมอ ผมแค่อยากจะบอกว่า…

[ไม่ว่างานวิจัยของคุณจะสำคัญแค่ไหน ผมหวังว่าคุณจะให้เรื่องสุขภาพของคุณมาก่อน คุณมีร่างกายอยู่แค่ร่างเดียว ไม่ต้องพูดถึงว่า คุณไม่เคยได้มีสุขภาพที่ดี ดังนั้นคุณควรจะดูแลใส่ใจให้มากขึ้น

[ผมคงจะเสียใจมากถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับคุณ

[อย่าลืมดื่มน้ำมากๆ…]

ลู่โจวเงียบไปครู่หนึ่งและตัดสินใจลบบรรทัดสุดท้าย จากนั้นเขาก็กดปุ่มส่ง

หลังจากนั้นเขาก็คอยอยู่หน้าคอมพิวเตอร์อย่างเงียบๆ

แม้ว่าเขาจะอยากใช้เวลานี้ในการทำงานวิจัยคณิตศาสตร์ แต่เขาก็ไม่สามารถจะตั้งสมาธิกับมันได้เลย

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ

เป็นเวลาสิบนาทีแล้วตั้งแต่ลู่โจวส่งอีเมลไป แต่ลู่โจวรู้สึกเหมือนว่ามันผ่านไปหลายชั่วโมง

ลู่โจวจ้องมองที่อีเมลอันว่างเปล่าแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก

เขาแน่ใจว่าเวร่ายังคงตื่นอยู่ พร้อมกับมีคอมพิวเตอร์อยู่ตรงหน้าเธอ

“นี่เป็นความผิดของฉันหรือเปล่า?

“แต่สิ่งที่ฉันทำลงไป…”

ลู่โจวจ้องไปที่มือของตัวเองและสั่นหัวอย่างกระวนกระวายใจ พยายามที่จะเอาความคิดที่กวนใจเขาออกไปจากหัว

“ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องเหล่านี้

“ฉันต้องสืบให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ!”

ลู่โจวเปิดอีเมลและเริ่มพิมพ์อีกครั้ง

[…ถ้าตอนนี้คุณอยู่ในพรินซ์ตัน กรุณาช่วยแวะไปหาเวร่า พุลยุย แทนผมหน่อย ผมได้ยินจากเพื่อนร่วมงานของเธอว่าเธอไม่สบาย ผมไม่สามารถจะติดต่อเธอได้ในตอนนี้

[ถ้าคุณทำได้ โปรดช่วยไปตรวจดูสุขภาพของเธอแทนผมและถามว่าเธอป่วยด้วยสาเหตุอะไร ขอบคุณ]

ลู่โจวเปิดรายชื่อผู้ติดต่อและส่งมันไปหาลูกศิษย์ของเขาอีกคนหนึ่งซึ่งก็คือ ฉินเยว่

แม้ว่าโดยปกติแล้วชายหนุ่มผู้นี้จะเป็นคนที่ค่อนข้างอยู่เงียบๆ และเงียบขรึม แต่จริงๆ แล้วเขาก็เป็นที่ค่อนข้างใส่ใจผู้อื่น ฉินเยว่คงจะพยายามอย่างดีที่สุดในการช่วยเหลือลู่โจวอย่างแน่นอน

อีกอย่างก็คือนอกเหนือจากฉินเยว่แล้ว ลู่โจวก็ไม่มีคนอื่นที่จะขอความช่วยเหลือได้แล้ว

หลังจากส่งอีเมลแล้ว ลู่โจวก็ถอนหายใจออกมาและพิงหลังกับเก้าอี้ขณะที่เขาภาวนาอยู่ในใจอย่างเงียบๆ

“ฉันหวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ…”

ถ้าเธอไม่สบายจริงๆ ไม่ว่ามันจะเป็นความผิดของเขาหรือไม่ เขาก็คงจะรู้สึกผิดอย่างมาก

แล้วถ้าเธอเข้าโรงพยาบาลล่ะ…

ลู่โจวไม่อยากแม้แต่จะคิดถึงความเป็นไปได้

…………..

Scholar’s Advanced Technological System

Scholar’s Advanced Technological System

The Overachiever's Black Tech System, 学霸的黑科技系统
Score 6.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2018 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Scholar’s Advanced Technological Systemหลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล “ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?” “ไม่ได้” “เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?” “ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset