Special District 9 เขตพิเศษที่ 9 – ตอนที่ 208 ทั้งชนะและแพ้

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 Special District 9 ตอนที่ 208 ทั้งชนะและแพ้

ตอนที่ 208 ทั้งชนะและแพ้

 

“แอ๊ด!

ประตูเหล็กถูกดึงเปิดเข้ามา หลีจือจึงเงยหน้าขึ้นพร้อมหรี่ตาม อง

 

อาเซียวถือปืนในมือข้างหนึ่งขณะเดินเข้าไปก่อนยืนนิ่งมองหลีจือที่นั่งบนเก้าอี้ด้วยสายตาว่างเปล่า

 

“คะ…ใครน่ะ?” หลีจือถามตะกุกตะกัก

“ฉันเอง” อาเซียวตอบกลับ

 

หลีจือจ้องมองร่างเจ้าของเงานั้น

 

อาเซียวยืนเงียบอยู่ที่ประตูครู่หนึ่ง ก่อนจะก้มไปหยิบบุหรี่ในกระเป๋าเสื้อมาคาบไว้แล้วเดินเข้าห้องไป

 

หลีจือนั่งตัวสั่นอยู่บนเก้าอี้

 

“สักมวนไหม?” อาเซียวจุดบุหรี่สองมวน อันหนึ่งอยู่ในปากเขา ส่วนอีกอันยื่นให้หลีจือ

 

หลีจือสูบบุหรี่พลางเงยหน้าขึ้น “นะ…นายหาฉันเจอได้ยังไง?”

อาเซียวเงียบ

หลีจือนั่งกระสับกระส่ายและถามด้วยเสียงแหบอีกครั้ง “นายรู้ใช่ไหมว่าฉันไม่ได้คิดทรยศ?”

 

“ฉันไม่รู้อะไรหรอก” อาเซียวตอบ “แต่นายเคยเจอกับหนิวตง ฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทําให้หยวนเค่อกับหวูเวินเซิ่งจับตาดูเขา ถ้านายพูดออกไปฉันก็คงไปปิดปากหมอนั้นด้วย แต่ถ้านายไม่ได้พูด เราก็ไม่จําเป็นต้องทําอะไรหนิวตง และฉันจะแก้แค้นหยวนเค่อให้นาย”

หลีจือนิ่งไป

 

หลีจือพ่นควันบุหรี่ออกมาก่อนตะโกนอย่างบ้าคลั่ง “อาเซียว ฉันไม่เคยกลัวตาย! ตั้งแต่ตัดสินใจทําสิ่งนี้ก็รู้ดีว่าต้องมีสักวันที่จะจบชีวิต! แต่ไอ้หยวนเค่อมาทํากับฉันแบบนี้ฉันไม่อยากตาย…หยวนเค่อยังฉันไว้สามวัน ไม่ให้กินไม่ให้นอน และเอายากล่อมประสาทให้ฉันอีก ฉัน! ฉัน…”

“ฉันเข้าใจนายนะ” อาเซียวพูดขัดจังหวะ “ฉันรู้ว่านายไม่คิดจะต่อต้านหรอก”

หลีจือจ้องมองอีกฝ่าย

อาเซียวเงียบไปครู่หนึ่งก่อนหันกระเป๋าด้านซ้ายไปทางหลีจือ “เอามีดไปซะ!”

 

เมื่อหลีจือได้ยินดังนั้น ร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านมากขึ้น

“นายฟังฉันนะ! ถ้านายไม่ได้พูดอะไรมันก็จะเป็นเหตุผลที่ฉันจะพานายกลับไป” อาเซียวสูบบุหรี่อย่างสงบ “แต่นายทําผิดกฎ หลีจือ…ฉันเข้าใจนายและฉันยังเป็นพี่ชายนายเสมอ ดังนั้นฉันจึงให้นายจบชีวิตด้วยตัวเอง”

“อาเซียว ฉะ ฉัน!” หลีจือตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด

 

“หยิบมีดซะ” อาเซียวพูดพร้อมกับหลับตาลง

 

“อาเซียว ฉันไม่อยากตาย!” หลีจือคํารามตอบอย่างกะทันหัน

อาเซียวกัดฟันแน่น

 

“อาเซียว ในห้องนี้มีแค่เราสองคน….นายปล่อยฉันไปก็ไม่มีใครรู้หรอก” หลีจือพูดเสียงสั่นเทา “ฉะฉันไม่เคยขอร้องอะไรนายเลยนะ ช่วยฉันเถอะ! เห็นแก่มิตรภาพหลายปีของเรา”

 

อาเซียวค่อยๆยกมือซ้ายหยิบบุหรี่ออกจากปาก “หลีจือ หยิบ มีด!”

“ฉันไม่หยิบ!”

 

หลีจือตะโกน “อาเซียว! คิดถึงความสัมพันธ์ของเราสิ เราผ่านอะไรด้วยกันมากอย่าง? เหตุการณ์ที่ต้าฮวงคนหลายสิบคนเกือบถูกไฟคลอกตาย ใครล่ะไปช่วยในเปียนจางเราติดอยู่ในหิมะกว้างอาหารก็หมด แล้วใครล่ะที่ช่วยนําทางกลับ!”

 

มือของอาเซียวสั่นเมื่อได้ยินเช่นนั้น

 

“ใครบ้างล่ะที่ไม่เคยผิดพลาด มีไหม? ฉันยอมรับว่าฉันกลัว” ใบหน้าของหลีจือเต็มไปด้วยน้ําตาขณะมองอาเซียว “ปล่อยฉันไป.. แล้วฉันจะไปหาชีวิตดีๆ และไม่มายุ่งอีก ได้โปรดเถอะ!”

 

อาเซียวถุยกันบุหรี่และเตะมันออกไป ก่อนดึงปืนพกออกมาเล็งที่หัวหลีจือ “หลีจือ ข้างนอกมีคนของเราอยู่สองสามคน พวกนั้นจับตาดูฉันอยู่ ถ้านายกับฉันไม่ทําตามกฏกลุ่มเราคงไปไม่รอด”

“อาเซียว! ฉันขอถามหน่อยว่ากฏกับความสัมพันธ์สองปีของเรา อันไหนสําคัญกว่ากัน?!” หลีจือคํารามถาม

อาเซียวนิ่งไปครูหนึ่ง

“อาเซียว! ถ้านายไม่เห็นแก่ฉันก็นึกถึงลูกเมียฉันด้วยเถอะนะ” น้ําตานองอาบสองแก้มของหลีจือ “ฉันตายไปแล้วพวกเขาจะอยู่ยังไง?!”

“กฏก็คือกฎ” เสียงของอาเซียวสั่นเครือ “ทุกคนก็ต้องมีครอบครัวอยู่แล้ว! หลีจือ เมื่อนายเลือกเส้นทางนี้แล้ว ก็ต้องตายไปกับมัน…”

 

“อาเซียว!” หลีจือแผดเสียงตะโกน

 

“ขอโทษนะน้องชาย….ขอโทษจริงๆ”

 

“ปัง ปัง!”

 

เสียงกระสุนปืนสองนัดดังกึกก้องในห้องนั้น!

หลีจือล้มลงกับพื้นไปกับเก้าอี้

 

อาเซียวเก็บปืนและหันหลังกลับไป

 

ชายสองคนที่มากับอาเซียวรีบวิ่งเข้าไปในห้องเพื่อดูหลีจือทันที

 

“เห็นไหม?!” อาเซียวคํารามใส่ “ไม่เชื่อฉันเรอะ?”

 

หลังจากนั้นไม่กี่นาที

นอกอาคาร

 

ต้าฮวงโทรมาถามว่าเราควรทํายังไง? ชายด้านข้างพูดอย่างรวดเร็ว

อาเซียวพูดกลับด้วยสีหน้าว่างเปล่า “ขึ้นรถ ไว้คุยกัน!”

 

“ครับ” ชายร่างกํายําวิ่งลงบันได

อาเซียวหันไปมองอีกคนพลางขมวดคิ้ว “นายก็ไปด้วย!”

 

ทันใดนั้นชายวัยกลางคนก็พยักหน้าและเดินขึ้นรถ

 

อาเซียวยืนอยู่บนพื้นหิมะเหม่อมองแสงหลอดไฟสลัวตามทางไปสุดสายตา เขาหยิบกล่องบุหรี่ออกมาหมายจะสูบสักมวน แต่ก็พบกับความว่างเปล่า

 

ลมเหนือพัดมากระทบตัวอาเซียว เขาเงยหน้ามองถนนอีกครั้ง ดวงตาก็เป็นสีแดงและขยํากล่องบุหรี่เปล่าทิ้งทันที

“บัดซบ!” อาเซียวเดินไปอีกสองก้าวก่อนสูดน้ํามูกแล้วพึมพําบางอย่าง “ฉันเอง…ฉันผิดเองที่ดูแลพี่น้องไม่ดีพอ”

 

บนถนน

 

อาเซียวเดินไปที่รถอย่างเชื่องช้าก่อนเอื้อมมือเปิดประตูและก้าวขึ้นไปนั่ง เขาดึงสีหน้ากลับมาเป็นปกติ มีเพียงดวงตาแดงก่ํา แต่ก็หลอกอีกสองคนบนรถไม่ได้

 

ชายหนุ่มคนหนึ่งรับสายในห้องประชุม เขาก็หันกลับมาตะโกนทันที “ไปจัดการมันเดี๋ยวนี้เลยเหรอ?”

 

“กลับไปซ่งเจียงเหรอ?” ผู้ชายที่โต๊ะวงกลมถาม

 

“ไม่ ยังไม่กลับซ่งเจียงตอนนี้ เราจะไปรอฟังคําสั่งเขตที่เก้าก่อน” ชายหนุ่มตอบ

 

Special District 9 เขตพิเศษที่ 9

Special District 9 เขตพิเศษที่ 9

บทนำ โลกกำลังเกิดหายนะ…ภัยพิบัติร้ายแรงทำลายล้างมนุษยชาติ…สัตว์กลายพันธุ์…ผู้คนขาดแคลนอาหาร…สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม…ยุคสมัยและอารยธรรมถูกทำลาย… ‘ฉินอวี่’ ชายหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในเขตพัฒนาซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนไร้กฎ ด้วยสภาพแวดล้อมอันน่าสังเวช…ทั้งถนนผุผัง ระบบบำบัดน้ำเสียใช้การไม่ได้ รวมไปถึงบ้านเก่าทรุดโทรมและกลิ่นปฏิกูลคละคลุ้ง ฉินอวี่จึงลาออกจากงานและตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อซื้อสัญชาติเข้าไปอยู่ในเขตปกครองพิเศษที่เก้า…หวังให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม! ภายในเขตพิเศษที่เก้า…ฉินอวี่เข้าสมัครงานในสำนักงานตำรวจนครบาลเมืองพื้นทมิฬเพื่อดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงชีพ แม้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ทว่าในความโชคร้ายยังมีความโชคดีซ่อนอยู่…เขาได้เจอเพื่อนร่วมงานผู้หวังดีที่เปรียบเสมือนเพื่อนแท้… ระหว่างทำงานในสำนักงานตำรวจ…ฉินอวี่ได้เผชิญการกดขี่มากมายและก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยไหวพริบเฉียบแหลมและแผนการอันชาญฉลาด เขาจะสร้างตำนานบทใหม่ของตนเองได้อย่างไร…โปรดติดตามต่อใน…เขตพิเศษที่เก้า!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset