Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 – ตอนที่ 282 การประจันหน้ากันของสองขั้ว อำนาจ

ตอนที่ 282 การประจันหน้ากันของสองขั้ว อำนาจ
เสียวชวีให้ไปมองผู้บัญชาการกองพันอยู่ครู่หนึ่งก่อนเอ่ยปากชวน “ไปคุยกันหน่อยได้ไหมครับ”
“ไป” ผู้บัญชาการพยักหน้า
ไม่กี่นาทีต่อมาในโถงบันได
เขาหยิบกระดาษสองแผ่นออกจากกระเป๋า “ผมได้สิ่งนี้มาจากคนที่ทำร้ายหัวหน้าเฉิน เขาต่อสู้เก่งมากผมจึงจับไว้ไม่ได้”
“จับไม่ได้เหรอ?”
เสียวชวีพยักหน้า “อย่างไรก็ตาม ผมไม่ได้คิดว่าเขาจะจู่โจมกะทันหันแบบนี้”
ผู้บังคับกองพันขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบกระดาษและถาม “แล้วนี้คืออะไร?”
“เปิดดูสิครับ” อีกฝ่ายพูดทันที
หลังจากที่ผู้บังคับกองพันรับไปและอ่านมันดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ “ผู้กำกับการตำรวจเรอะ?!”
“ใช่ครับ” เสียวชวีพยักหน้า
“เป็นไปไม่ได้!” ผู้บังคับกองพันส่ายหัว “เพราะความสัมพันธ์เบื้องหลังของหม่าเหลาเอ๋อก็คือฉิ นอรี่และแมวเฒ่าคนพวกนี้ไม่ต้องถึงกับลงมือฆ่าเฉินป๋อเองสิ”
เสี่ยวซวีส่ายหัวพลางอธิบาย “ผมฟันเขาด้วยมีด แต่ก้าวขาหลบอย่างกะทันหัน ใบมีดในมือผมจึงเฉือนโดนกางเกงเขาก่อนและสิ่งนี้ก็หลุดออกมา”
ผู้บังคับกองพันชะงัก
หลังจากผู้บังคับบัญชาเงียบอยู่เป็นเวลานานเขาจึงก้มศีรษะเหลือบมองที่ข้อความอีกครั้ง “เขาทำจริงๆ เหรอ?”
“ผมมีวิธีที่จะตัดสินให้แน่ใจว่าเขาทำหรือไม่” เซียวชวีพูดแทรกทันที
“ยังไงล่ะ?” ผู้บัญชาการถาม
“ตอนเราต่อสู้กันเขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการพิงกำแพง เขาถูกตะปูที่ยื่นออกมาจากป้ายโฆษณา” เสียวชวีพูดอย่างรวบรัด “หาใครสักคนไปดูข้างหลังเขา แค่นี้ทุกอย่างก็จะกระจ่าง”
“แน่ใจเหรอว่าเขาบาดเจ็บ?” ผู้บังคับกองพันถามด้วยสีหน้าบูดบึง
“แน่ใจ ผมเห็นเลือด” เสี่ยวชวีพยักหน้า
ขณะทั้งสองกำลังคุยกันประตูเหล็กหน้าทางขึ้นก็ถูกผลักเปิดออก ชายฉกรรจ์หนึ่งก็เดินเข้ามา “เฒ่าเฉินเกินเยียวยาแล้ว”
“ถึงขั้นไหน?” ผู้บัญชาการหันกลับมาถามทันที
ทั้งขาและเข่ากระดูกหักหมดเลย เขาไม่มีทางที่จะกลับมาเดินได้อีก“อีกฝ่ายพูดหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง”เขาน่าจะต้องถูกตัดขาทิ้ง “ผู้บัญชาการกัดฟันแน่นก่อนถามด้วยเสียงทุ่มต่ำ”แล้วข้างนอกเป็นไงบ้าง?”บรรดาพวกส่งสินค้าก็หายตัวไปอย่างลึกลับ เราพบแต่รถของพวกเขาแต่ก็ไม่สามารถตรวจสอบหมายเลขทะเบียนได้เลย“ชายฉกรรจ์ส่ายหัว” ผมว่าพวกนั้นจะต้องออกมาแน่ มันแค่ซ่อนตัวอยู่ในฮ่งเจียงนี้แน่”เวรเอ๊ย!“ผู้บัญชาการก็พูดอย่างหงุดหงิด”ตั้งแต่มีการก่อตั้งเขตนอกจากความขัดแย้งทางทหารแล้ว ฉันยังไม่เคยได้ยินว่ามีหน่วยทหารรักษาการณ์ไหนยอมให้คนมาฆ่ารองกองพันง่ายๆ แบบนี้”การสอบสวนสาเหตุของเรื่องนี้จะมีขึ้นแน่ คงไม่ง่ายที่จะปกปิด ชายฉกรรจ์กล่าวเสริม”ปัดความรับผิดชอบไปที่หลี่หยาน…พยายามปกป้องให้เฒ่าเฉินขาวสะอาดไว้ เขาคงไม่มีประโยชน์อีกแล้ว โดนขนาดนั้นคงไม่ได้อยู่ในกรมแล้วล่ะ”ผู้บัญชาการกองพันตะโกน”แจ้งค่ายและรวบรวมกองทหารราบสองกองเพื่อเข้าเมืองไปกับฉัน”…
โรงอาหารสำนักงานตำรวจ
หลังจากรับประทานอาหารเช้ฉินอวก็ก้มไปกดโทรศัพท์เพื่อโทรไปหาเฒ่าหลี่”นายไปทำอะไรมาที่นอกเขตรึเปล่า?“เฒ่าหลี่ถามอย่างตรงไปตรงมา”ใช่”ฉินอวี่พยักหน้ายอมรับ”ฉีหลินต้องการแก้แค้นและผมก็เห็นด้วย”ฉันเข้าใจสิ่งที่นายพูดและฉันก็ไม่อยากดุนาย“เฒ่าหลี่ไม่ได้โกรธอะไรในครั้งนี้”ทุกอย่างจะเรียบร้อยเมื่อทำเสร็จสิ้น แต่การดำเนินการจะต้องทำอย่างระมัดระวังที่สุด”
“ฉีหลินกลับเจียงโจวแล้ว” ฉินอวี่พูดอย่างมีความสุขเมื่อได้ยินว่าเฒ่าหลี่เข้าใจเขา “แถมเจียงโจวก็ยินดีที่จะรับผลขาดทุนและเราก็ไม่ต้องชดเชยเงินด้วยพวกเขายังสนับสนุนสาขาของเราต่อ”
“พอ!”
ขณะทั้งสองกำลังคุยโทรศัพท์พูดคุยเกี่ยวกับธุรกิจ ติงกั่วเซินก็วิ่งเข้ามา “ข้างนอกมีเรื่องแล้ว”
“เกิดอะไรขึ้น?” ฉินอวี่เงยหน้ามอง
“คนของแนวป้องกันร่วมอยู่ที่นี่” ติงกั่วเซินพูดด้วยใบหน้าซีดเซียว
ฉินอผงะไปครู่หนึ่งก่อนจะลุกขึ้นยืนและพูดกับเฒ่าหลี่ “ลุง ข้างนอกมีการเคลื่อนไหวเล็ กน้อยฉันจะออกไปดูก่อนนะ”
ด้านนอกสำนักงานตำรวจ
ผู้บังคับกองพันลงจากรถโดยสวมเครื่องแบบทหารเต็มยศ เขาหารมามากกว่าสามสิบนายเตรียมบุกเข้าไปในสำนักงานใหญ่
“สถานการณ์เป็นไงบ้าง?” รองหัวหน้าทีมที่สามเมื่อเห็นฝ่ายตรงข้ามถืออาวุธปืนจึงถามทันที “คุณจะทำอะไรน่ะ?”
“หลีกไป!” เสี่ยวชวีตะโกน
“ที่นี่สำนักงานตำรวจนะ” รองหัวหน้าทีมสามตะโกนกลับ “คุยกันดีๆ ก็ได้ทำไมต้องพกอาวุธเข้ามาด้วย?”
“หลีกไปซะ!” ผู้บัญชาการค่ายคำรามด้วยใบหน้าขุ่นมัว
“ผมไม่ไป พวกคุณจะทำอะไร?!” รองหัวหน้ายืนกรานที่จะขว้างไว้
ผู้บัญชาการกองพันจ้องรองหัวหน้าคนนั้นก่อนตะโกนทันที “เป้าหมายอยู่ในห้องผู้บังคับบัญชา…ใครก็ตามที่มาขวางฉันอนุญาตให้ยิงทันที”อย่าเก่งแต่ปากล่ะ!“รองหัวหน้าทีมตะโกนกลับ”พวกทหารจะยิงฉันเหรอ? ”หมับ!“ เสี่ยวชวียื่นมือไปดึงคอเสื้ออีกฝ่ายแล้วลากลงมาที่บันไดก่อนตะคอก”มานี่เลย…
ที่หน้าต่างสำนักงานห้องรองผู้บัญชาการบนชั้นสาม เหวินหยงทั้งส่ายหน้าขณะมองดูเหตุการณ์ ด้านล่างเขาพูดอย่างมีความสุข”เฒ่าตงดูเหมือนจะงานเข้าแล้ว ไม่ลงไปดูหน่อยเหรอ?”คนด้านข้างถาม
ในห้องทำงานผู้บัญชาการ
ฉินอวี่ตะโกนหลังจากเข้าไปในห้อง”เกิดบ้า อะไรขึ้นอีก?”
รักษาการผู้บัญชาการตงยืนอยู่ข้างหน้าต่าง ถือโทรศัพท์ไว้ในมือแล้วถามเฒ่าหลี่ “คุณคิดว่าไง?”
“ขอคุยกับฉินอวี่หน่อย”
“เฒ่าหลี่จะคุยด้วย” รักษาการผู้บัญชาการตงหันกลับมาเรียกฉินอวี่
ฉินอวี่ก้าวไปข้างหน้าและรับโทรศัพท์ “ฮัลโหลลุง? ฉันมองลงไปเห็นพวกนั้นแห่กันมายี่สิบสามสิบคนแถมอาวุธยังครบมืออีกด้วย”
“นายมีปืนใช่ไหม?” เฒ่าหลี่ถามขณะสูบบุหรี่
“มีสิ”
“แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายให้รวบรวมกำลังและพาไปคลังแสงเพื่อแจกจ่ายอุปกรณ์ ถ้าอีกฝ่ายต้องการหยามหน้ากรมตำรวจแบบนี้ เราก็ต้องรักษาศักดิ์ศรีกันหน่อย” เฒ่าหลี่กำชับ “ถึงนอกเขตพวกเขาจะมีอำนาจ แต่ในเมืองเป็นเขตอำนาจของเรา!”
หลังจากนั้นสองนาที
เสียงสัญญาณรวมพลดังขึ้นทั่วสำนักงานตำรวจฉินอวี่นำคนกว่ายี่สิบคนลงไปชั้นล่าง “ทีมแรกลงไปที่โถงใหญ่!”

Special District 9 เขตพิเศษที่ 9

Special District 9 เขตพิเศษที่ 9

Special District 9 เขตพิเศษที่ 9
Status: Ongoing
บทนำ โลกกำลังเกิดหายนะ…ภัยพิบัติร้ายแรงทำลายล้างมนุษยชาติ…สัตว์กลายพันธุ์…ผู้คนขาดแคลนอาหาร…สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม…ยุคสมัยและอารยธรรมถูกทำลาย… ‘ฉินอวี่’ ชายหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในเขตพัฒนาซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนไร้กฎ ด้วยสภาพแวดล้อมอันน่าสังเวช…ทั้งถนนผุผัง ระบบบำบัดน้ำเสียใช้การไม่ได้ รวมไปถึงบ้านเก่าทรุดโทรมและกลิ่นปฏิกูลคละคลุ้ง ฉินอวี่จึงลาออกจากงานและตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อซื้อสัญชาติเข้าไปอยู่ในเขตปกครองพิเศษที่เก้า…หวังให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม! ภายในเขตพิเศษที่เก้า…ฉินอวี่เข้าสมัครงานในสำนักงานตำรวจนครบาลเมืองพื้นทมิฬเพื่อดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงชีพ แม้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ทว่าในความโชคร้ายยังมีความโชคดีซ่อนอยู่…เขาได้เจอเพื่อนร่วมงานผู้หวังดีที่เปรียบเสมือนเพื่อนแท้… ระหว่างทำงานในสำนักงานตำรวจ…ฉินอวี่ได้เผชิญการกดขี่มากมายและก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยไหวพริบเฉียบแหลมและแผนการอันชาญฉลาด เขาจะสร้างตำนานบทใหม่ของตนเองได้อย่างไร…โปรดติดตามต่อใน…เขตพิเศษที่เก้า!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset