SSS-Class Suicide Hunter – ตอนที่ 2: ก็ต่อเมื่อคุณตาย (1)

 

สกิล

 

คำที่ทำให้ฮันเตอร์หลายคนหลั่งน้ำตา

 

เงื่อนไขสำหรับการปลุกสกิลนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล:

 

 

ฮันเตอร์ที่มีบุคลิกภาพที่ดีและมีพละกำลังที่แข็งแกร่งพยายามดิ้นรนที่จะปีนขึ้นไปบนชั้นที่สูงเพราะพวกเขาขาดทักษะ ในทางตรงกันข้าม กลับมีฮันเตอร์ที่นิสัยสุนัขไม่รับประทานที่มีชีวิตที่ดีต้องขอบคุณสกิลของพวกเขา จักรพรรดิเพลิงซึ่งเป็นตัวแทนของอันดับ 1 เป็นพวกอย่างหลัง

 

ถ้าเราเปรียบเทียบชีวิตกับเกมแล้ว ไม่ใช่ว่าจักรพรรดิเพลิงเล่นเกมที่ใช้ความโชคดีเป็นสกิลหรือยังไง? เขาสามารถได้รับทุกสิ่งที่เขาต้องการด้วยสกิลโชคดีของเขา

 

ในทางกลับกัน…ชีวิตของฉันเปรียบได้กับเกม RNG ทั่วๆไป

 

ฉันบ่นและสั่นเทาเมื่อฉันรู้ว่าใครอยู่ที่ไหน ฉันออกจากบาร์หลังจากที่เสียเวลาเปล่า แต่ฉันจำไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ ฉันเข้าไปในตรอกและอ้วกออกจากปากของฉัน ฉันเดินโซเซไปมา ดวงตาของฉันจ้องไปที่กองอ้วก: ฉันจำอาหารบางอย่างที่ฉันเคยกินมาก่อนได้

 

“แกมันโชคไม่ดี” นั่นเป็นสิ่งที่กองอ้วกดูเหมือนจะพูดกับฉัน

 

“เชี่ย…” ฉันตาลาย “ถ้าฉันสมควรจะเป็นคนที่โชคไม่ดี ก็อย่าให้โชคกับฉันเลย ความหวังที่ไม่มีวันเป็นจริงได้ฆ่าฉันไปแล้ว”

 

เมื่อคุณเล่นเกม คุณรู้สึกสิ้นหวังเมื่อใดกัน?

 

ผู้ที่เคยเล่นเกมกาชาบนมือถือจะเข้าใจ ไม่ใช่เมื่อคุณไม่สามารถได้รับตัวละคร 5 ดาวำหลังจากสุ่มหลายครั้ง – แต่เมื่อคุณได้รับตัวละครระดับ 5 ดาวที่กากสุดๆ ตัวละครระดับ 5 ดาวที่แย่กว่าระดับ 3 ดาว

 

ใช่สิ ระดับ 5 ดาวของฉันแย่กว่าระดับ 1 ดาว

 

ฉันโก่งตัวอีกครั้ง แต่ไม่มีอะไรออกมานอกจากเสี้ยงสะอื้น “บ้าชิบ!”

 

ใช่ ชีวิตของฉันเป็นเกม RNG ที่กระจอกสุดๆ

 

โดยปกติหลังจากปลุกสกิลขึ้นมา คุณต้องรายงานไปยังสำนักงานฮันเตอร์ แต่ฉันไม่ได้รายงาน อย่างกับฉันำจพทำแบบนั้นได้ นี่มันห่วยแตกเกินไป น่าอายเกินไป ทำไมฉันถึงต้องโชว์สกิลห่วยๆให้พวกเขาดู ฉันจะพูดอะไรหรือจะเป็นยังไงถ้าฉันพูด:

 

 

มันไม่เหมือนกับว่าฉันจะพูดแบบั้นได้! ราวกับว่ามีวิธีที่จะบอกพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าเป็นฉัน ฉันคงจะหัวเราะและมีความสุขกับความโชคร้าย ชีวิตที่น่าอดสูของฉัน

 

ดังนั้นฉันจึงดื่มให้ลืมและลงเอยด้วยการเดินโซเซในตรอกห่างไกลร้างผู้คน

 

แม้ว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง – ฉันยังคงล้มเหลว ขนาดเดินดีๆก็ยังไม่ได้ โดยไม่รู้ว่าฉันได้เซที่ซอยที่ไม่รู้จัก ฉันจำไม่ได้ว่ามาถึงที่นี่คือำได้อย่างไร ฉันได้แต่คิดว่าที่นี่คือที่ไหน

 

ฉันจะนอนหลับบนพื้นแบบนี้ได้ไหมนะ ‘อา นี่มันช่างน่าเศร้าจริงๆ’ โคตรโชคร้าย ฉันกลั้นน้ำตา

 

เสียงกรีดร้องจางๆ ลอยมากับสายลมยามค่ำคืน มันมาจากอีกฝั่งของซอย

 

เสียงที่เจ็บปวดกำลังอ้อนวอน “…ได้โปรดเถอะ! ทำไมคุณถึง…”

 

ความง่วงของฉันหายไปทันที

 

เสียงนั้นชัดเจนเกินกว่าจะเข้าใจผิดว่าเป็นภาพหลอนของคนเมา ในขณะที่ฉันไม่รู้ว่ามันคือใคร ฉันเข้าใจว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นคืออันตรายถึงชีวิต

 

‘เกิดอะไรขึ้น’ ฉันนึกสงสัย เดินเข้าไปอย่างเงียบๆตามสัญชาตญาณ ฉันกลั้นหายใจ ทีละก้าว ฉันก้าวเข้าหาซอยที่เสียงกรีดร้องดังค่อยๆ

 

เมื่อฉันเข้าไปใกล้ เสียงก็ชัดเจนขึ้น

 

นี้มัน-

 

“จักรพรรดิไฟเพลิง ทำไมจู่ๆคุณถึง-” เสียงผู้หญิงพูด

 

“ -ไม่มีประโยชน์ ไม่มีใครอยู่ใกล้ๆ-” เสียงผู้ชายพูด

 

-นี่คือ -ความผิดพลาดครั้งที่สองที่ฉันทำในวันนี้

 

ความผิดพลาดครั้งแรก – ดื่มจนกระทั่งขาดสติข ตลอดชีวิตของฉัน ฉันไม่เคยเมาแอ๋แบบนี้เลย อย่างไรก็ตามวันนี้เป็นข้อยกเว้น ฉันโมโหมากที่พบว่าสกิลแรกของฉันนั้นแย่มาก ฉันเลยดื่มมักก็อลลีเหมือนน้ำ [1]

 

ความผิดพลาดครั้งที่สองของฉัน – ไม่หนีทันทีที่ฉันได้ยินเสียงกรีดร้อง

 

“ฉันวางยาพิษในถ้วยล่วงหน้าไว้แล้ว” เสียงผู้ชายพูด ฉันไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมเสียงเขาถึงฟังดูคุ้นหู

 

“พะ-พิษ? จักรพรรดิเพลิง ฉันไม่เข้าใจสิ่งที่คุณกำลังพูด” แม้แต่เสียงของผู้หญิง เสียงของเธอฟังดูเห็นอกเห็นใจผู้อื่น

 

“เฮ้ ทักษะการแสดงของเธอค่อนข้างดีนะ หากมีคนอื่นเห็นเธอเข้า พวกเขาคงจะถูกหลอกไปแล้ว”

 

ที่ทางตัน

 

ในตรอกมืดๆที่ไม่มีแสงไฟ มีชายและหญิงอยู่อย่างำแน่นอน บางทีมันแปลกที่จะอธิบายว่าพวกเขาอยู่ที่นั่นได้อย่างไร ชายคนนั้นกำลังข่มขู่ผู้หญิงและผู้หญิงคนนั้นกำลังถูกคุกคาม

 

“กรดในกระเพาะอาหารของบาซิลลิสก์” ชายคนนั้นกล่าว “เดิมทีเธอคงใส่มันในถ้วยของฉันด้วย ว้าว ถ้ามันใช่เพราะความสามารถของฉัน ฉันคงเจอปัญหาใหญ่เข้าแล้ว หืม? เกิดอะไรขึ้น เธอดูหน้าซีดนะ คุณนักบุญหญิง”

 

“มันเป็นภูมิคุ้มกันหมื่นพิษเหรอ…? ปะ-เป็นไปไม่ได้! นายไม่ควรมีสกิลแบบนี้”

 

“ไม่มีหรอก” ชายคนนั้นหัวเราะ “แต่ฉันมีสกิลที่ดีกว่าภูมิคุ้มกันหมื่นพิษนิดหน่อย”

 

ในที่สุดฉันก็รู้ว่าใครคือชายคนนี้ ไม่ว่าซอยจะมืดแค่ไหน ฉันสามารถมองเห็นแผ่นหลังของชายคนนั้น – ฉันไม่สามารถลืมผมหางม้านั้นได้ ฉันเคยเห็นเขาและความสำเร็จของเขาล้อมรอบฉันอยู่ในห้องของฉันทุกวันในช่วงสิบปีที่ผ่านมา และฉันเห็นเขาจากทีวีเมื่อคืนนี้ ฉันอยากจะเป็นเหมือนเขาตลอดเวลา

 

‘มันเป็นจักรพรรดิเพลิงตัวจริง!’ ฉันกรอกตา

 

ฮันเตอร์อันดับ 1 ตัวเอกของยุคนี้ ไอดอลที่มีผู้คนนับหมื่นเชิดชู และด้วยเหตุนี้เขาจึงเป็นฮีโร่ที่ได้รับความสนใจและความอิจฉา…โดยเฉพาะความอิจฉาของฉัน

 

นอกจากนี้ ‘ไม่ใช่ว่าเธอคือนักบุญหญิงหรอกเหรอ!?’

 

ฉันปิดปากเพื่อกลั้นหายใจ นักบุญหญิง ฮันเตอร์อันดับ 9 ที่ได้รับการคัดเลือกจากสำนักงานฮันเตอร์ เธอมีข่าวลือว่าจะเดทกับจักรพรรดิเพลิง มันเป็นการกระทำไม่นานมานี้ของเธอที่จุดประกายเรื่องอื้อฉาวทั้งหมด ความงามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ฉันเห็นจากภาพถ่ายและวิดีโอทางอินเทอร์เน็ตอยู่ตรงหน้านี้เอง

 

“แต่เวลาเล่นสนุกหมดลงแล้ว” จักรพรรดิเพลิงกล่าว “ถึงเวลาที่จะต้องชดใช้สำหรับการหาเรื่องกับฉัน”

 

และเธอไม่ได้แค่ยืนอยู่ตรงนั้น เธอกำลังถูกคุกคาม “รอก่อน จักรพรรดิเพลิง” เธออ้อนวอน “คุณกำลังเข้าใจผิด…ฉันแค่ต้องการเคลียร์หอคอยกับคุณในฐานะทีม!”

 

“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่นั่นก็ไม่ใช่แบบนี้” จักรพรรดิเพลิงกล่าว

 

“รอเดี๋ยวก่อน! ลองคิดดูสิ ถ้าเราร่วมมือกันเราสามารถเคลียร์ขึ้ชั้น 40 ได้อย่างง่ายดาย! เราอาจจะเคลียร์ชั้น 50 ได้ในปีเดียว! ถูกตัอง! มันเป็นสถานที่ที่มนุษยชาติยังไปไม่ถึง แต่ถ้าเป็นเราสองคน-”

 

“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่นั่นก็ไม่ใช่แบบนี้”

 

แปลก ฉันคิด ไม่ใช่ว่าทั้งสองคนกำลังเดทกันอยู่หรอ?…อินเทอร์เน็ตบอกว่าอย่างนั้น แม้แต่ผู้ประกาศข่าวยังได้พูดถึงความรักอันน่าหลงใหลของฮีโร่สองคน แต่ฉากข้างหน้าฉันไม่มีองค์ประกอบของความรักใดๆทั้งสิ้น มันเป็นเรื่องยากที่จะพูดว่านั่นเป็นการทะเลาะกันของคู่รัก

 

จิตสังหาร

 

ฉันเห็นชายคนหนึ่งที่ต้องการเข่นฆ่าและผู้หญิงที่ยึดติดอยู่กับชีวิตที่แสนหวงแหน

 

“ได้โปรด! พูดคุยกันเพื่อกำจัดความเข้าใจผิดเถอะ” เธอร้องไห้

 

“พูดคุย? อ่า พูดคุย ก็ได้ มันเป็นมารยาทที่ต้องทำ” จักรพรรดิเพลิงคว้าคอของนักบุญหญิง

 

“แต่ฉันจะเป็นคนออกกฎและเลือกว่าใครจะเป็นคนพูด” เขาคำราม

 

นักบุญหญิงดิ้นรนราวกับเธอหายใจไม่ออก ฉันดูการดิ้นรนของเธอและฉันก็รู้สึกอยากหายใจไม่ออก เหลือเชื่อ โอ้ พระเจ้า สิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นกำลังเกิดขึ้นตรงหน้าฉัน

 

“ฉันจะถามคำถามง่ายๆ แค่ตอบฉันมา อ่า เธอไม่จำเป็นต้องพูด เพียงแค่พยักหน้าเพื่อตอบ ตกลงไหม?”

 

เธอพยายามพยักหน้าส่งเสียงครวญคราง ฉันกลืนน้ำลายด้วยความกลัวและความเห็นใจ

 

“ถ้าเธอตอบด้วยความจริงใจ ฉันจะปล่อยให้เธอมีชีวิตอยู่ ฉันจะให้ยาแก้พิษกับเธอด้วย แต่ถ้าเธอเมินข้อเสนอส่วนตัวของฉัน…เฮอะ ฉันคงไม่ต้องอธิบาย ฉันได้ยินว่าเธอเรียนจบจากอ๊อกซฟอร์ด ใช้สมองอันปราดเปรื่องของเธอดูแล้วกัน”

 

นักบุญหญิงโจมตีแขนของจักรพรรดิเพลิงที่คอของเธออย่างสิ้นหวัง

 

เสียงตะกุยตะกายของเธอดังมาถึงฉัน แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันเป็นไปไม่ได้สำหรับนักบุญหญิงซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นหนึ่งในฮีลเลอร์ที่ดีที่สุดที่จะเอาชนะจักรพรรดิเพลิงได้

 

“พูดจากใจ ฉันมีเพียงคำถามเดียวสำหรับเธอ”

 

นักบุญหญิงดิ้นรนเพื่ออากาศหายใจ

 

“ใครสั่งให้เธอฆ่าฉัน เพียงตอบฉันว่ามันเป็นแม่มดของกิลด์มังกรดำใช่ไหม?”

 

นักบุญหญิงสะดุ้งและหยุดดิ้นรน

 

“คิดให้ดีก่อนที่เธอจะตอบ” จักรพรรดิเพลิงกล่าว “ฉันอาจไม่มีภูมิคุ้มกันหมื่นพิษ แต่ฉันมีทักษะการตรวจจับคำโกหก หากเธอโกหกฉันและฉันรู้เข้า ฉันจะเผาแม้แต่กระดูกของเธอให้เป็นเถ้าถ่าน”

 

นักบุญหญิงไม่ตอบทันที ในตรอกมืดๆ มันยากที่จะเห็นหน้าเธอ อย่างไรก็ตามคุณสามารถรู้สึกถึงความเงียบของเธอ ในขณะที่จักรพรรดิเพลิงกำลังจ้องมองอยู่ นักบุญหญิงก็พยักหน้าอย่างช้าๆ

 

“ฉันอยู่รู้แล้ว” เสียงหัวเราะเล็กๆของเขาคอ่ยๆดังขึ้น “ ลาก่อน นักบุญหญิงอิซาเบล”

 

เปลวไฟปะทุขึ้น

 

เปลวไฟกลืนตรอกทั้งหมด มันกระจายจากอุ้งมือของจักรพรรดิเพลิงที่คอของนักบุญหญิง จากนั้นร่างกายของเธอก็เต็มไปด้วยเปลวไฟ เธอเริ่มดิ้นทุรนทุราย มันเป็นทางเลือกสุดท้ายของเธอในการมีชีวิตรอด แต่ไม่ว่าเธอจะดิ้นรนหนักเพียงใด เธอก็ไม่สามารถหลบหนีจากเงื้อมมือของจักรพรรดิเพลิงได้

 

จักรพรรดิเพลิงจ้องมองที่เปลวไฟที่ลุกไหม้ท่วมนักบุญหญิง

 

ที่ด้านหน้าเปลวไฟที่แผดเผา จักรพรรดิเพลิงก็ดูสงบลง สงบอย่างไม่เคยเป็นมา เขาจับที่คอนักบุญหญิงจนถึงที่สุด นักบุญหญิงเหวี่ยงแขนทั้งสองข้างของเธอ เธอจิกเล็บเข้าไปในแขนของจักรพรรดิเพลิงและพยายามข่วน ในท้ายที่สุดเธอเอื้อมไปที่ท้องฟ้า…และหยุดไม่นานหลังจากนั้น

 

เธอลงไปกอง

 

และเธอก็ไม่ขยับอีกต่อไป

 

เกิดความรู้สึกปั่นป่วนในท้องของฉันและทุบเข้าไปที่หน้าอกของฉัน ‘ไอ้บ้านั่น!’

 

ฮีโร่ของมวลมนุษยชาติตายตรงหน้าฉัน มันผิดที่จะบอกว่าเธอแค่ตาย ถูกต้อง – ความตายของเธอไม่ปกติ

 

เธอถูกฆ่าตาย ถูกสังหารโดยฮีโร่ของมวลมนุษยชาติอีกคน จักรพรรดิเพลิง

 

‘คนบ้า’

 

ตอนนี้นักบุญหญิงเป็นเพียงซากศพที่ถูกเผา ถึงกระนั้นไฟก็ไม่ดับลง จักรพรรดิเพลิงไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เขาเผาทุกอย่างจนเนื้อและกระดูกของเธอหลอมละลาย เขาทำอย่างนั้นด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ

 

‘เขาไม่ใช่คนปกติ’ ฉันถอยหลังไปหนึ่งก้าว ‘ฉันต้องหนีจากที่นี่ทันที’

 

ดังนั้นฉันจึงทำความผิดพลาดอย่างที่สามของวันนี้ ความผิดพลาดครั้งสุดท้ายของฉัน –

 

แกร่ก-

 

มันเป็นเสียงเล็กๆ ฉันไม่ได้เหยียบกระป๋อง แต่มันกลับเป็นเศษแก้วชิ้นเล็กๆแทน

 

บางทีมันอาจจะเป็นเศษแก้วจากขวดโซจูที่แตก บางทีอาจเป็นเพราะลมพัดมาจากที่อื่น…ฉันไม่เข้าใจเลยว่ามันมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร แต่มันไม่จำเป็นต้องรู้

 

มีสองสิ่งที่ฉันต้องเข้าใจจริงๆ:

 

ก่อนอื่นฉันทำผิดพลาดอย่างโง่ๆ

 

“…โฮ่” เสียงของจักรพรรดิเพลิงหันไปทางที่ที่ฉันซ่อนอยู่

 

และประการที่สอง จักรพรรดิเพลิงไม่ใช่นักล่าที่จะพลาดความผิดพลาดของคนอื่น

 

“ฉันคิดว่าฉันจัดการหนูสกปรกแถวนี้หมดแล้ว ฉันเดาว่ามันถ้าจะมีตัวหนึ่งหลุดมา” ดวงตาของเขาพบเข้ากับฉัน

 

ฉันวิ่ง

 

ฉันวิ่งไปโดยไม่หันกลับมามอง นั่นคือสายตาของฆาตกร ไม่ใช่คนที่ฆ่าคนหนึ่งคนหรือสองคน แต่คนที่ฆ่ามาหลายสิบคน บางทีอาจมากกว่านั้น ดวงตาของเขาเหมือนปีศาจที่ชั่วร้าย

 

และปีศาจนั่นก็พยายามจะฆ่าฉัน

 

“ฮะ? น่ารักเสียจริง” ทันทีที่จักรพรรดิเพลิงสบถ ความรู้สึกร้อนก็ทะลุข้อเท้าของฉันและในวินาทีต่อมาฉันก็กลิ้งไปตามพื้น ตอนแรกฉันไม่เข้าใจว่าฉันสะดุดล้มได้ยังไง

 

อย่างน้อยก็จนกระทั่งฉันจะเห็นขาของฉันอยู่บนพื้น

 

“ว๊ากกก… !?” เสียงกรีดร้องหลุดออกมาจากริมฝีปากของฉัน

 

ขาของฉันถูกตัด ขาของฉัน ทั้งคู่ถูกตัด ทั้งซ้ายและขวาเลย พวกมันยังคงสวมรองเท้าอยู่

 

ฉันยังสามารถเห็นโลโก้แบรนด์รองเท้าชื่อดังติดอยู่ข้างรองเท้าผ้าใบ

 

“ได้โปรด ปล่อยผมไปเถอะ! ได้โปรด!” ฉันขอร้องเช่นเดียวกับนักบุญหญิง

 

“แล้วแกวิ่งหนีทำไม แกทำให้ฉันกลัวแทบแย่” จักรพรรดิเพลิงพูดพร้อมกับก้มลง เขายกขาของฉันขึ้นหนึ่งข้าง จากนั้นเขาก็เริ่มเล่นกับมันเหมือนเป็นไม้เบสบอล “เฮ้ย แกเห็นใช่ไหม?” เขาถาม

 

ดวงตาของฉันมองตามขาที่ลอยขึ้นและลงในอากาศ ลงมาในมือของเขา แล้วกลับขึ้นไปในอากาศ “ผมไม่เห็นอะไรเลย!”

 

จักรพรรดิเพลิงเดินใกล้เข้ามา “แกไม่เห็นอะไรแน่เหรอ?”

 

“ผมไม่รู้อะไรเลย! อ๊าก ได้โปรด ผมไม่รู้…”

 

“แกไม่รู้อะไร?”

 

“ได้โปรด…ท่านจักรพรรดิเพลิง ได้โปรด … ขอให้ผมมีชีวิตรอดเถอะ ผมจะไม่พูดอะไรเลย ผมจะไม่บอกใครเลย”

 

ฉันรู้สึกว่าเขาอยู่ด้านบนหัวของฉัน

 

เขาย่อเขาลงเพื่อมองฉัน “ว้าว แกบอกฉันว่าแกเห็นฉันและจำฉันได้? แกอาจได้เห็นมันทั้งหมด แกอาจรู้ทุกอย่างเช่นกัน”

 

“ได้โปรด”

 

“พี่ชาย นายทำให้ฉันผิดหวัง ทำไมแกถึงทำตัวเหมือนไม่รู้เรื่องอะไรเลย?” จักรพรรดิเพลิงแหย่ขาของฉันเล่น “บอกฉันมา ใครส่งแกมา มังกรดำอีกแล้วเหรอ?”

 

“ผม…ไม่รู้อะไรจริงๆ”

 

“แกยังบอกฉันว่าแกไม่รู้อะไรเลย แต่บังเอิญเห็นฉันและนักบุญจากตรงนั่น ดูๆเงียบเหมือนกับหนูสกปรกเหรอ? เฮ้ พี่ชาย เรื่องราวของแกโคตรน่าเชื่อถือเลยว่ะ ถ้าฉันเป็นคนฉลาดกว่านี้หน่อย ฉันอาจจะเชื่อแกไปแล้ว”

 

จักรพรรดิเพลิงยิ้มกว้าง “แต่แกก็เห็นว่าฉันไม่ใช่คนฉลาด นี่แกดูถูกฉันหรือยังไง?”

 

ประกายไฟที่ปะทุอยู่ตรงหน้าฉัน เปลวไฟปะทุขึ้นจากฝ่ามือของจักรพรรดิเพลิงและมันก็แผ่ไปถึงขาของฉัน เสียงระเบิดของไฟที่กลืนขาของฉันฟังเหมือนการย่างบาร์บีคิว กลิ่นของเนื้อย่างที่ลอยมานั้นตลบอบอวลในความรู้สึกของฉัน

 

เขาเผาทุกอย่างโดยไม่เหลืออะไรเลย ไม่แม้แต่โลโก้แบรนด์ดังที่มีชื่อเสียง แม้แต่รองเท้าที่ฉันสวมใส่มานาน ไม่เหลือแม้แต่ขาของฉันซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของฉัน

 

ทั้งหมดได้หายไป

 

“ต่อไปจะเป็นหัวของแก ตอบฉันมาตรงๆ”

 

สมองของฉันกลายเป็นสีขาวโพลนทั้งหมด

 

ปีศาจนี่…แม่งบ้าไปแล้ว

 

เขาเป็นคนบ้า ไม่มีประโยชน์ในการพูดคุยกับคนบ้า เขาไม่สนใจเกี่ยวกับสิ่งที่คนอื่นคิดและเขาเชื่อมั่นว่าเขาพูดถูก เขาเป็นไอ่โรคจิตสารเลวที่จะฆ่าผู้บริสุทธิ์โดยไม่มีเหตุผล

 

ในฐานะที่เป็นตัวแทนอันดับ 1 ในฐานะมนุษย์ เขาจะทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร

 

แกกำลังบอกฉันว่าฉันถูกครอบงำโดยคนอย่างเขาเหรอ

 

หลายคนรวมถึงฉันเชื่อว่าเขาเป็นฮีโร่ เราชอบเขาเพราะเป็นคนตรงไปตรงมาและซื่อสัตย์ เรายกย่องเขาในฐานะคนที่มีบุคลิกร่าเริง ไอ่บ้าคนนี้เนี่ยนะ?

 

“กะ..โกหก…” ฉันติดอ่าง

 

“อะไรนะ?” เขาถาม

 

“สกิลตรวจจับคำโกหก…ผมได้ยินมาว่าคุณมีสกิลตรวจจับคำโกหก” ฉันพูดต่อไปอย่างหมดหวัง “คุณบอกนักบุญหญิงว่าคุณสามารถบอกได้เมื่อมีคนโกหก และเธอควรตอบด้วยความจริงใจ”

 

เมื่อจักพรรดิเพลิงไม่ตอบ ฉันก็พูดต่อไป “ลองทดสอบด้วยสกิลนั้นดู ทดสอบผมเพื่อดูว่าคำพูดของผมเป็นเรื่องโกหกหรือเปล่า ท่านจักพรรดิเพลิง…ผมแค่บังเอิญผ่านมาจริงๆ ได้โปรดเชื่อผมด้วย!”

 

การแสดงออกของจักพรรดิเพลิงกลายเป็นแปลกประหลาด “ฉันสร้างเรื่องขึ้นมา” เขาตอบ

SSS-Class Suicide Hunter – ตอนที่ 2: ก็ต่อเมื่อคุณตาย (1)

SSS-Class Suicide Hunter – ตอนที่ 2: ก็ต่อเมื่อคุณตาย (1)

 

สกิล

 

คำที่ทำให้ฮันเตอร์หลายคนหลั่งน้ำตา

 

เงื่อนไขสำหรับการปลุกสกิลนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล:

 

 

ฮันเตอร์ที่มีบุคลิกภาพที่ดีและมีพละกำลังที่แข็งแกร่งพยายามดิ้นรนที่จะปีนขึ้นไปบนชั้นที่สูงเพราะพวกเขาขาดทักษะ ในทางตรงกันข้าม กลับมีฮันเตอร์ที่นิสัยสุนัขไม่รับประทานที่มีชีวิตที่ดีต้องขอบคุณสกิลของพวกเขา จักรพรรดิเพลิงซึ่งเป็นตัวแทนของอันดับ 1 เป็นพวกอย่างหลัง

 

ถ้าเราเปรียบเทียบชีวิตกับเกมแล้ว ไม่ใช่ว่าจักรพรรดิเพลิงเล่นเกมที่ใช้ความโชคดีเป็นสกิลหรือยังไง? เขาสามารถได้รับทุกสิ่งที่เขาต้องการด้วยสกิลโชคดีของเขา

 

ในทางกลับกัน…ชีวิตของฉันเปรียบได้กับเกม RNG ทั่วๆไป

 

ฉันบ่นและสั่นเทาเมื่อฉันรู้ว่าใครอยู่ที่ไหน ฉันออกจากบาร์หลังจากที่เสียเวลาเปล่า แต่ฉันจำไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ ฉันเข้าไปในตรอกและอ้วกออกจากปากของฉัน ฉันเดินโซเซไปมา ดวงตาของฉันจ้องไปที่กองอ้วก: ฉันจำอาหารบางอย่างที่ฉันเคยกินมาก่อนได้

 

“แกมันโชคไม่ดี” นั่นเป็นสิ่งที่กองอ้วกดูเหมือนจะพูดกับฉัน

 

“เชี่ย…” ฉันตาลาย “ถ้าฉันสมควรจะเป็นคนที่โชคไม่ดี ก็อย่าให้โชคกับฉันเลย ความหวังที่ไม่มีวันเป็นจริงได้ฆ่าฉันไปแล้ว”

 

เมื่อคุณเล่นเกม คุณรู้สึกสิ้นหวังเมื่อใดกัน?

 

ผู้ที่เคยเล่นเกมกาชาบนมือถือจะเข้าใจ ไม่ใช่เมื่อคุณไม่สามารถได้รับตัวละคร 5 ดาวำหลังจากสุ่มหลายครั้ง – แต่เมื่อคุณได้รับตัวละครระดับ 5 ดาวที่กากสุดๆ ตัวละครระดับ 5 ดาวที่แย่กว่าระดับ 3 ดาว

 

ใช่สิ ระดับ 5 ดาวของฉันแย่กว่าระดับ 1 ดาว

 

ฉันโก่งตัวอีกครั้ง แต่ไม่มีอะไรออกมานอกจากเสี้ยงสะอื้น “บ้าชิบ!”

 

ใช่ ชีวิตของฉันเป็นเกม RNG ที่กระจอกสุดๆ

 

โดยปกติหลังจากปลุกสกิลขึ้นมา คุณต้องรายงานไปยังสำนักงานฮันเตอร์ แต่ฉันไม่ได้รายงาน อย่างกับฉันำจพทำแบบนั้นได้ นี่มันห่วยแตกเกินไป น่าอายเกินไป ทำไมฉันถึงต้องโชว์สกิลห่วยๆให้พวกเขาดู ฉันจะพูดอะไรหรือจะเป็นยังไงถ้าฉันพูด:

 

 

มันไม่เหมือนกับว่าฉันจะพูดแบบั้นได้! ราวกับว่ามีวิธีที่จะบอกพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าเป็นฉัน ฉันคงจะหัวเราะและมีความสุขกับความโชคร้าย ชีวิตที่น่าอดสูของฉัน

 

ดังนั้นฉันจึงดื่มให้ลืมและลงเอยด้วยการเดินโซเซในตรอกห่างไกลร้างผู้คน

 

แม้ว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง – ฉันยังคงล้มเหลว ขนาดเดินดีๆก็ยังไม่ได้ โดยไม่รู้ว่าฉันได้เซที่ซอยที่ไม่รู้จัก ฉันจำไม่ได้ว่ามาถึงที่นี่คือำได้อย่างไร ฉันได้แต่คิดว่าที่นี่คือที่ไหน

 

ฉันจะนอนหลับบนพื้นแบบนี้ได้ไหมนะ ‘อา นี่มันช่างน่าเศร้าจริงๆ’ โคตรโชคร้าย ฉันกลั้นน้ำตา

 

เสียงกรีดร้องจางๆ ลอยมากับสายลมยามค่ำคืน มันมาจากอีกฝั่งของซอย

 

เสียงที่เจ็บปวดกำลังอ้อนวอน “…ได้โปรดเถอะ! ทำไมคุณถึง…”

 

ความง่วงของฉันหายไปทันที

 

เสียงนั้นชัดเจนเกินกว่าจะเข้าใจผิดว่าเป็นภาพหลอนของคนเมา ในขณะที่ฉันไม่รู้ว่ามันคือใคร ฉันเข้าใจว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นคืออันตรายถึงชีวิต

 

‘เกิดอะไรขึ้น’ ฉันนึกสงสัย เดินเข้าไปอย่างเงียบๆตามสัญชาตญาณ ฉันกลั้นหายใจ ทีละก้าว ฉันก้าวเข้าหาซอยที่เสียงกรีดร้องดังค่อยๆ

 

เมื่อฉันเข้าไปใกล้ เสียงก็ชัดเจนขึ้น

 

นี้มัน-

 

“จักรพรรดิไฟเพลิง ทำไมจู่ๆคุณถึง-” เสียงผู้หญิงพูด

 

“ -ไม่มีประโยชน์ ไม่มีใครอยู่ใกล้ๆ-” เสียงผู้ชายพูด

 

-นี่คือ -ความผิดพลาดครั้งที่สองที่ฉันทำในวันนี้

 

ความผิดพลาดครั้งแรก – ดื่มจนกระทั่งขาดสติข ตลอดชีวิตของฉัน ฉันไม่เคยเมาแอ๋แบบนี้เลย อย่างไรก็ตามวันนี้เป็นข้อยกเว้น ฉันโมโหมากที่พบว่าสกิลแรกของฉันนั้นแย่มาก ฉันเลยดื่มมักก็อลลีเหมือนน้ำ [1]

 

ความผิดพลาดครั้งที่สองของฉัน – ไม่หนีทันทีที่ฉันได้ยินเสียงกรีดร้อง

 

“ฉันวางยาพิษในถ้วยล่วงหน้าไว้แล้ว” เสียงผู้ชายพูด ฉันไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมเสียงเขาถึงฟังดูคุ้นหู

 

“พะ-พิษ? จักรพรรดิเพลิง ฉันไม่เข้าใจสิ่งที่คุณกำลังพูด” แม้แต่เสียงของผู้หญิง เสียงของเธอฟังดูเห็นอกเห็นใจผู้อื่น

 

“เฮ้ ทักษะการแสดงของเธอค่อนข้างดีนะ หากมีคนอื่นเห็นเธอเข้า พวกเขาคงจะถูกหลอกไปแล้ว”

 

ที่ทางตัน

 

ในตรอกมืดๆที่ไม่มีแสงไฟ มีชายและหญิงอยู่อย่างำแน่นอน บางทีมันแปลกที่จะอธิบายว่าพวกเขาอยู่ที่นั่นได้อย่างไร ชายคนนั้นกำลังข่มขู่ผู้หญิงและผู้หญิงคนนั้นกำลังถูกคุกคาม

 

“กรดในกระเพาะอาหารของบาซิลลิสก์” ชายคนนั้นกล่าว “เดิมทีเธอคงใส่มันในถ้วยของฉันด้วย ว้าว ถ้ามันใช่เพราะความสามารถของฉัน ฉันคงเจอปัญหาใหญ่เข้าแล้ว หืม? เกิดอะไรขึ้น เธอดูหน้าซีดนะ คุณนักบุญหญิง”

 

“มันเป็นภูมิคุ้มกันหมื่นพิษเหรอ…? ปะ-เป็นไปไม่ได้! นายไม่ควรมีสกิลแบบนี้”

 

“ไม่มีหรอก” ชายคนนั้นหัวเราะ “แต่ฉันมีสกิลที่ดีกว่าภูมิคุ้มกันหมื่นพิษนิดหน่อย”

 

ในที่สุดฉันก็รู้ว่าใครคือชายคนนี้ ไม่ว่าซอยจะมืดแค่ไหน ฉันสามารถมองเห็นแผ่นหลังของชายคนนั้น – ฉันไม่สามารถลืมผมหางม้านั้นได้ ฉันเคยเห็นเขาและความสำเร็จของเขาล้อมรอบฉันอยู่ในห้องของฉันทุกวันในช่วงสิบปีที่ผ่านมา และฉันเห็นเขาจากทีวีเมื่อคืนนี้ ฉันอยากจะเป็นเหมือนเขาตลอดเวลา

 

‘มันเป็นจักรพรรดิเพลิงตัวจริง!’ ฉันกรอกตา

 

ฮันเตอร์อันดับ 1 ตัวเอกของยุคนี้ ไอดอลที่มีผู้คนนับหมื่นเชิดชู และด้วยเหตุนี้เขาจึงเป็นฮีโร่ที่ได้รับความสนใจและความอิจฉา…โดยเฉพาะความอิจฉาของฉัน

 

นอกจากนี้ ‘ไม่ใช่ว่าเธอคือนักบุญหญิงหรอกเหรอ!?’

 

ฉันปิดปากเพื่อกลั้นหายใจ นักบุญหญิง ฮันเตอร์อันดับ 9 ที่ได้รับการคัดเลือกจากสำนักงานฮันเตอร์ เธอมีข่าวลือว่าจะเดทกับจักรพรรดิเพลิง มันเป็นการกระทำไม่นานมานี้ของเธอที่จุดประกายเรื่องอื้อฉาวทั้งหมด ความงามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ฉันเห็นจากภาพถ่ายและวิดีโอทางอินเทอร์เน็ตอยู่ตรงหน้านี้เอง

 

“แต่เวลาเล่นสนุกหมดลงแล้ว” จักรพรรดิเพลิงกล่าว “ถึงเวลาที่จะต้องชดใช้สำหรับการหาเรื่องกับฉัน”

 

และเธอไม่ได้แค่ยืนอยู่ตรงนั้น เธอกำลังถูกคุกคาม “รอก่อน จักรพรรดิเพลิง” เธออ้อนวอน “คุณกำลังเข้าใจผิด…ฉันแค่ต้องการเคลียร์หอคอยกับคุณในฐานะทีม!”

 

“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่นั่นก็ไม่ใช่แบบนี้” จักรพรรดิเพลิงกล่าว

 

“รอเดี๋ยวก่อน! ลองคิดดูสิ ถ้าเราร่วมมือกันเราสามารถเคลียร์ขึ้ชั้น 40 ได้อย่างง่ายดาย! เราอาจจะเคลียร์ชั้น 50 ได้ในปีเดียว! ถูกตัอง! มันเป็นสถานที่ที่มนุษยชาติยังไปไม่ถึง แต่ถ้าเป็นเราสองคน-”

 

“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่นั่นก็ไม่ใช่แบบนี้”

 

แปลก ฉันคิด ไม่ใช่ว่าทั้งสองคนกำลังเดทกันอยู่หรอ?…อินเทอร์เน็ตบอกว่าอย่างนั้น แม้แต่ผู้ประกาศข่าวยังได้พูดถึงความรักอันน่าหลงใหลของฮีโร่สองคน แต่ฉากข้างหน้าฉันไม่มีองค์ประกอบของความรักใดๆทั้งสิ้น มันเป็นเรื่องยากที่จะพูดว่านั่นเป็นการทะเลาะกันของคู่รัก

 

จิตสังหาร

 

ฉันเห็นชายคนหนึ่งที่ต้องการเข่นฆ่าและผู้หญิงที่ยึดติดอยู่กับชีวิตที่แสนหวงแหน

 

“ได้โปรด! พูดคุยกันเพื่อกำจัดความเข้าใจผิดเถอะ” เธอร้องไห้

 

“พูดคุย? อ่า พูดคุย ก็ได้ มันเป็นมารยาทที่ต้องทำ” จักรพรรดิเพลิงคว้าคอของนักบุญหญิง

 

“แต่ฉันจะเป็นคนออกกฎและเลือกว่าใครจะเป็นคนพูด” เขาคำราม

 

นักบุญหญิงดิ้นรนราวกับเธอหายใจไม่ออก ฉันดูการดิ้นรนของเธอและฉันก็รู้สึกอยากหายใจไม่ออก เหลือเชื่อ โอ้ พระเจ้า สิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นกำลังเกิดขึ้นตรงหน้าฉัน

 

“ฉันจะถามคำถามง่ายๆ แค่ตอบฉันมา อ่า เธอไม่จำเป็นต้องพูด เพียงแค่พยักหน้าเพื่อตอบ ตกลงไหม?”

 

เธอพยายามพยักหน้าส่งเสียงครวญคราง ฉันกลืนน้ำลายด้วยความกลัวและความเห็นใจ

 

“ถ้าเธอตอบด้วยความจริงใจ ฉันจะปล่อยให้เธอมีชีวิตอยู่ ฉันจะให้ยาแก้พิษกับเธอด้วย แต่ถ้าเธอเมินข้อเสนอส่วนตัวของฉัน…เฮอะ ฉันคงไม่ต้องอธิบาย ฉันได้ยินว่าเธอเรียนจบจากอ๊อกซฟอร์ด ใช้สมองอันปราดเปรื่องของเธอดูแล้วกัน”

 

นักบุญหญิงโจมตีแขนของจักรพรรดิเพลิงที่คอของเธออย่างสิ้นหวัง

 

เสียงตะกุยตะกายของเธอดังมาถึงฉัน แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันเป็นไปไม่ได้สำหรับนักบุญหญิงซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นหนึ่งในฮีลเลอร์ที่ดีที่สุดที่จะเอาชนะจักรพรรดิเพลิงได้

 

“พูดจากใจ ฉันมีเพียงคำถามเดียวสำหรับเธอ”

 

นักบุญหญิงดิ้นรนเพื่ออากาศหายใจ

 

“ใครสั่งให้เธอฆ่าฉัน เพียงตอบฉันว่ามันเป็นแม่มดของกิลด์มังกรดำใช่ไหม?”

 

นักบุญหญิงสะดุ้งและหยุดดิ้นรน

 

“คิดให้ดีก่อนที่เธอจะตอบ” จักรพรรดิเพลิงกล่าว “ฉันอาจไม่มีภูมิคุ้มกันหมื่นพิษ แต่ฉันมีทักษะการตรวจจับคำโกหก หากเธอโกหกฉันและฉันรู้เข้า ฉันจะเผาแม้แต่กระดูกของเธอให้เป็นเถ้าถ่าน”

 

นักบุญหญิงไม่ตอบทันที ในตรอกมืดๆ มันยากที่จะเห็นหน้าเธอ อย่างไรก็ตามคุณสามารถรู้สึกถึงความเงียบของเธอ ในขณะที่จักรพรรดิเพลิงกำลังจ้องมองอยู่ นักบุญหญิงก็พยักหน้าอย่างช้าๆ

 

“ฉันอยู่รู้แล้ว” เสียงหัวเราะเล็กๆของเขาคอ่ยๆดังขึ้น “ ลาก่อน นักบุญหญิงอิซาเบล”

 

เปลวไฟปะทุขึ้น

 

เปลวไฟกลืนตรอกทั้งหมด มันกระจายจากอุ้งมือของจักรพรรดิเพลิงที่คอของนักบุญหญิง จากนั้นร่างกายของเธอก็เต็มไปด้วยเปลวไฟ เธอเริ่มดิ้นทุรนทุราย มันเป็นทางเลือกสุดท้ายของเธอในการมีชีวิตรอด แต่ไม่ว่าเธอจะดิ้นรนหนักเพียงใด เธอก็ไม่สามารถหลบหนีจากเงื้อมมือของจักรพรรดิเพลิงได้

 

จักรพรรดิเพลิงจ้องมองที่เปลวไฟที่ลุกไหม้ท่วมนักบุญหญิง

 

ที่ด้านหน้าเปลวไฟที่แผดเผา จักรพรรดิเพลิงก็ดูสงบลง สงบอย่างไม่เคยเป็นมา เขาจับที่คอนักบุญหญิงจนถึงที่สุด นักบุญหญิงเหวี่ยงแขนทั้งสองข้างของเธอ เธอจิกเล็บเข้าไปในแขนของจักรพรรดิเพลิงและพยายามข่วน ในท้ายที่สุดเธอเอื้อมไปที่ท้องฟ้า…และหยุดไม่นานหลังจากนั้น

 

เธอลงไปกอง

 

และเธอก็ไม่ขยับอีกต่อไป

 

เกิดความรู้สึกปั่นป่วนในท้องของฉันและทุบเข้าไปที่หน้าอกของฉัน ‘ไอ้บ้านั่น!’

 

ฮีโร่ของมวลมนุษยชาติตายตรงหน้าฉัน มันผิดที่จะบอกว่าเธอแค่ตาย ถูกต้อง – ความตายของเธอไม่ปกติ

 

เธอถูกฆ่าตาย ถูกสังหารโดยฮีโร่ของมวลมนุษยชาติอีกคน จักรพรรดิเพลิง

 

‘คนบ้า’

 

ตอนนี้นักบุญหญิงเป็นเพียงซากศพที่ถูกเผา ถึงกระนั้นไฟก็ไม่ดับลง จักรพรรดิเพลิงไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เขาเผาทุกอย่างจนเนื้อและกระดูกของเธอหลอมละลาย เขาทำอย่างนั้นด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ

 

‘เขาไม่ใช่คนปกติ’ ฉันถอยหลังไปหนึ่งก้าว ‘ฉันต้องหนีจากที่นี่ทันที’

 

ดังนั้นฉันจึงทำความผิดพลาดอย่างที่สามของวันนี้ ความผิดพลาดครั้งสุดท้ายของฉัน –

 

แกร่ก-

 

มันเป็นเสียงเล็กๆ ฉันไม่ได้เหยียบกระป๋อง แต่มันกลับเป็นเศษแก้วชิ้นเล็กๆแทน

 

บางทีมันอาจจะเป็นเศษแก้วจากขวดโซจูที่แตก บางทีอาจเป็นเพราะลมพัดมาจากที่อื่น…ฉันไม่เข้าใจเลยว่ามันมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร แต่มันไม่จำเป็นต้องรู้

 

มีสองสิ่งที่ฉันต้องเข้าใจจริงๆ:

 

ก่อนอื่นฉันทำผิดพลาดอย่างโง่ๆ

 

“…โฮ่” เสียงของจักรพรรดิเพลิงหันไปทางที่ที่ฉันซ่อนอยู่

 

และประการที่สอง จักรพรรดิเพลิงไม่ใช่นักล่าที่จะพลาดความผิดพลาดของคนอื่น

 

“ฉันคิดว่าฉันจัดการหนูสกปรกแถวนี้หมดแล้ว ฉันเดาว่ามันถ้าจะมีตัวหนึ่งหลุดมา” ดวงตาของเขาพบเข้ากับฉัน

 

ฉันวิ่ง

 

ฉันวิ่งไปโดยไม่หันกลับมามอง นั่นคือสายตาของฆาตกร ไม่ใช่คนที่ฆ่าคนหนึ่งคนหรือสองคน แต่คนที่ฆ่ามาหลายสิบคน บางทีอาจมากกว่านั้น ดวงตาของเขาเหมือนปีศาจที่ชั่วร้าย

 

และปีศาจนั่นก็พยายามจะฆ่าฉัน

 

“ฮะ? น่ารักเสียจริง” ทันทีที่จักรพรรดิเพลิงสบถ ความรู้สึกร้อนก็ทะลุข้อเท้าของฉันและในวินาทีต่อมาฉันก็กลิ้งไปตามพื้น ตอนแรกฉันไม่เข้าใจว่าฉันสะดุดล้มได้ยังไง

 

อย่างน้อยก็จนกระทั่งฉันจะเห็นขาของฉันอยู่บนพื้น

 

“ว๊ากกก… !?” เสียงกรีดร้องหลุดออกมาจากริมฝีปากของฉัน

 

ขาของฉันถูกตัด ขาของฉัน ทั้งคู่ถูกตัด ทั้งซ้ายและขวาเลย พวกมันยังคงสวมรองเท้าอยู่

 

ฉันยังสามารถเห็นโลโก้แบรนด์รองเท้าชื่อดังติดอยู่ข้างรองเท้าผ้าใบ

 

“ได้โปรด ปล่อยผมไปเถอะ! ได้โปรด!” ฉันขอร้องเช่นเดียวกับนักบุญหญิง

 

“แล้วแกวิ่งหนีทำไม แกทำให้ฉันกลัวแทบแย่” จักรพรรดิเพลิงพูดพร้อมกับก้มลง เขายกขาของฉันขึ้นหนึ่งข้าง จากนั้นเขาก็เริ่มเล่นกับมันเหมือนเป็นไม้เบสบอล “เฮ้ย แกเห็นใช่ไหม?” เขาถาม

 

ดวงตาของฉันมองตามขาที่ลอยขึ้นและลงในอากาศ ลงมาในมือของเขา แล้วกลับขึ้นไปในอากาศ “ผมไม่เห็นอะไรเลย!”

 

จักรพรรดิเพลิงเดินใกล้เข้ามา “แกไม่เห็นอะไรแน่เหรอ?”

 

“ผมไม่รู้อะไรเลย! อ๊าก ได้โปรด ผมไม่รู้…”

 

“แกไม่รู้อะไร?”

 

“ได้โปรด…ท่านจักรพรรดิเพลิง ได้โปรด … ขอให้ผมมีชีวิตรอดเถอะ ผมจะไม่พูดอะไรเลย ผมจะไม่บอกใครเลย”

 

ฉันรู้สึกว่าเขาอยู่ด้านบนหัวของฉัน

 

เขาย่อเขาลงเพื่อมองฉัน “ว้าว แกบอกฉันว่าแกเห็นฉันและจำฉันได้? แกอาจได้เห็นมันทั้งหมด แกอาจรู้ทุกอย่างเช่นกัน”

 

“ได้โปรด”

 

“พี่ชาย นายทำให้ฉันผิดหวัง ทำไมแกถึงทำตัวเหมือนไม่รู้เรื่องอะไรเลย?” จักรพรรดิเพลิงแหย่ขาของฉันเล่น “บอกฉันมา ใครส่งแกมา มังกรดำอีกแล้วเหรอ?”

 

“ผม…ไม่รู้อะไรจริงๆ”

 

“แกยังบอกฉันว่าแกไม่รู้อะไรเลย แต่บังเอิญเห็นฉันและนักบุญจากตรงนั่น ดูๆเงียบเหมือนกับหนูสกปรกเหรอ? เฮ้ พี่ชาย เรื่องราวของแกโคตรน่าเชื่อถือเลยว่ะ ถ้าฉันเป็นคนฉลาดกว่านี้หน่อย ฉันอาจจะเชื่อแกไปแล้ว”

 

จักรพรรดิเพลิงยิ้มกว้าง “แต่แกก็เห็นว่าฉันไม่ใช่คนฉลาด นี่แกดูถูกฉันหรือยังไง?”

 

ประกายไฟที่ปะทุอยู่ตรงหน้าฉัน เปลวไฟปะทุขึ้นจากฝ่ามือของจักรพรรดิเพลิงและมันก็แผ่ไปถึงขาของฉัน เสียงระเบิดของไฟที่กลืนขาของฉันฟังเหมือนการย่างบาร์บีคิว กลิ่นของเนื้อย่างที่ลอยมานั้นตลบอบอวลในความรู้สึกของฉัน

 

เขาเผาทุกอย่างโดยไม่เหลืออะไรเลย ไม่แม้แต่โลโก้แบรนด์ดังที่มีชื่อเสียง แม้แต่รองเท้าที่ฉันสวมใส่มานาน ไม่เหลือแม้แต่ขาของฉันซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของฉัน

 

ทั้งหมดได้หายไป

 

“ต่อไปจะเป็นหัวของแก ตอบฉันมาตรงๆ”

 

สมองของฉันกลายเป็นสีขาวโพลนทั้งหมด

 

ปีศาจนี่…แม่งบ้าไปแล้ว

 

เขาเป็นคนบ้า ไม่มีประโยชน์ในการพูดคุยกับคนบ้า เขาไม่สนใจเกี่ยวกับสิ่งที่คนอื่นคิดและเขาเชื่อมั่นว่าเขาพูดถูก เขาเป็นไอ่โรคจิตสารเลวที่จะฆ่าผู้บริสุทธิ์โดยไม่มีเหตุผล

 

ในฐานะที่เป็นตัวแทนอันดับ 1 ในฐานะมนุษย์ เขาจะทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร

 

แกกำลังบอกฉันว่าฉันถูกครอบงำโดยคนอย่างเขาเหรอ

 

หลายคนรวมถึงฉันเชื่อว่าเขาเป็นฮีโร่ เราชอบเขาเพราะเป็นคนตรงไปตรงมาและซื่อสัตย์ เรายกย่องเขาในฐานะคนที่มีบุคลิกร่าเริง ไอ่บ้าคนนี้เนี่ยนะ?

 

“กะ..โกหก…” ฉันติดอ่าง

 

“อะไรนะ?” เขาถาม

 

“สกิลตรวจจับคำโกหก…ผมได้ยินมาว่าคุณมีสกิลตรวจจับคำโกหก” ฉันพูดต่อไปอย่างหมดหวัง “คุณบอกนักบุญหญิงว่าคุณสามารถบอกได้เมื่อมีคนโกหก และเธอควรตอบด้วยความจริงใจ”

 

เมื่อจักพรรดิเพลิงไม่ตอบ ฉันก็พูดต่อไป “ลองทดสอบด้วยสกิลนั้นดู ทดสอบผมเพื่อดูว่าคำพูดของผมเป็นเรื่องโกหกหรือเปล่า ท่านจักพรรดิเพลิง…ผมแค่บังเอิญผ่านมาจริงๆ ได้โปรดเชื่อผมด้วย!”

 

การแสดงออกของจักพรรดิเพลิงกลายเป็นแปลกประหลาด “ฉันสร้างเรื่องขึ้นมา” เขาตอบ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset