SSS-Class Suicide Hunter – ตอนที่ 30: ฝนโลหิต (3)

 

[กำลังรับเควสของชั้น 12]

 

ทันทีที่ได้ยินเสียงบางอย่างก็สาดลงบนหน้าต่าง

 

แปะ แปะ

 

มันคือฝน

 

ฝนไหลลงบนหน้าต่างหรูหราในห้องรับรอง เป็นเวลาครู่หนึ่ง พวกเราหันไปมองข้างนอก ไม่ใช่เพราะเราประหลาดใจกับเสียง มีอย่างอื่นที่ทำให้เราประหลาดใจ

 

“เอ่อ เอ่อออออ…”

 

“ฝันร้าย! ห่าฝนแห่งฝันร้ายกำลังมาอีกครั้ง!”

 

สีของฝน

 

มันเป็นสีแดงราวกับเลือด ไม่ มันอาจจะเป็นเลือดจริงๆ NPC ที่อยู่กับเราเริ่มกุมหัวและคร่ำครวญ

 

“ท่านเทพธิดา ได้โปรดอย่าทอดทิ้งเรา!”

 

“อะไรน่ะ? ทำไมจู่ๆพวกเขาถึงเป็นแบบนี้…?”

 

พญาอสรพิษที่อ่อนล้ามองไปรอบๆ ตัวเขา

 

“มันคือราชาปีศาจ…”

 

NPC ที่สวมชุดเกราะพูดพึมพำ พวกเขาหมอบลงกับพื้นด้วยไหล่ที่สั่นเทา เช่นเดียวกับการสั่นที่แพร่กระจายราวกับการแพร่เชื้อ เสียงครวญครางเริ่มดังมาจากทุกที่

 

“คราวนี้มันเป็นจุดจบของจักรวรรดิแล้ว…”

 

“ฝ่าบาท….จักรพรรดิของเราอยู่ที่ไหน…?”

 

ใบหน้าของพวกเขาทุกคนมืดมน สิ้นหวัง ยอมรับ อ่อนเพลีย ใบหน้าของพวกเขาไม่ต่างจากมนุษย์จริงๆ

 

พญาอสรพิษกลืนน้ำลาย

 

“พ พวกเขาตลกดีนะ เฮ้ นี่คือการแสดงใช่มั้ย? เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

 

“เควสได้เริ่มแล้ว”

 

ฉันพูดเบาๆ

 

“เราจะไม่ต่อสู้กันถ้าหากเราอยู่กันเฉยๆ หากมีการกระทบกระทั่งระหว่างเรา พวกมันจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากโจมตีเรา”

 

“โจมตี? ใคร?”

 

“คิดว่าเป็นใครล่ะ?”

 

ฉันมองไปนอกหน้าต่าง

 

“ตัวตนที่ทำให้เกิดความบาดหม่างระหว่างพวกเรา”

 

เสียงหัวเราะไหลเข้ามาในหัวของฉัน

 

[ราชาปีศาจแห่งห่าฝนเห็นด้วยกับคุณ]

 

ฝนกระหน่ำแรงกว่าเดิม เสียงที่เหมือนมีคนเคาะบางสิ่งก็เงียบลงทันที หยดน้ำสีแดงหลายสิบหยดปกคลุมหน้าต่าง

 

“….”

 

ฉันเข้าไปใกล้หน้าต่าง ฉันมองไม่เห็นข้างนอกจากที่นี่ เนื่องจากฝนตกหนักเกินไปหน้าต่างทั้งบานจึงเป็นสีแดง ฉันทำลายหน้าต่างด้วยฝักดาบ

 

ฝนสีแดงสาดเข้ามาในห้องรับรอง ฉันเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นข้างนอกอย่างชัดเจน พระราชวัง เมืองด้านนอกวัง กำแพงด้านนอกเมือง

 

[ราชาปีศาจแห่งห่าฝนกำลังปรากฏตัว]

 

มันอยู่นอกกำแพงเมือง

 

– เหล่าสิ่งมีชีวิตที่น่าสมเพช

 

มันกระซิบเบาๆ

 

ใช่ มันเป็นเสียงกระซิบ

 

มีเพียงแค่เสียงกระซิบลอยข้ามกำแพงเมืองและดังเข้ามาในห้องรับรองผ่านหน้าต่างที่แตก

 

– พวกเจ้าคิดว่ามนุษย์ที่ถูกอัญเชิญมาจากโลกอื่นจะเป็นโล่ของพวกเจ้างั้นหรือ? พวกเจ้าคิดว่าพวกมันจะเป็นวีรบุรุษของพวกเจ้างั้นหรือ?

 

ฝนเทลงมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

 

– มาหาฉัน ไล่ต้อนข้าเท่าที่พวกเจ้าต้องการ อัญเชิญให้มากเท่าที่พวกเจ้าต้องการ จงเรียกนักรบและอัศวินหลายพันคนมา ช่างน่าสงสารที่พวกเจ้าไม่รู้เลยว่าพวกมันเป็นเพียงมนุษย์เช่นเดียวกับพวกเจ้า

 

เสียงดังขึ้นท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย มันดังขึ้นในกำแพง ดังขึ้นในกำแพงของพระราชวัง ดังขึ้นที่ผนังห้องรับรอง มันหัวเราะ มันเป็นเสียงหัวเราะที่ดังสนั่น เสียงหัวเราะดังก้องและสะท้อนในหูของพวกเรา

 

“อั๊ก…”

 

NPC ก้มตัวกว่าเดิม พวกเขากุมหัวของพวกเขาอย่างเจ็บปวด

 

พวกเรายังดีกว่าพวกเขา นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้ยินเสียงหัวเราะ มันยังพอทนได้ ถ้าเราต้องฟังเสียงนั้นนานกว่าหนึ่งปี เรื่องราวอาจจะเป็นคนละเรื่อง

 

– เจ้าพวกสิ่งมีชีวิตที่ไม่เห็นมนุษย์เป็นมนุษย์

 

ตอนนั้นเอง

 

บนแผนที่ที่มีเพียงฉันเท่านั้นที่เห็นจุดสีแดงก็เริ่มปรากฏขึ้นบนแผนที่ หนึ่ง สองสาม จุดสีแดงที่ปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ ขยายตัวขึ้นอย่างทวีคูณ

 

หลายร้อย

 

หลายพัน

 

หลายหมื่น

 

ไม่นานนักขอบฟ้าทั้งหมดก็เปลี่ยนเป็นสีแดง

 

– จงถูกกลืนกินโดยความชั่วร้ายของพวกเจ้า

 

มันกู่ร้อง

 

ท้องฟ้าและโลกกลายเป็นสีขาวดำในทันใดและสิ่งมีชีวิตพวกนั้นก็แสดงตัว

 

มันคือมอนสเตอร์ที่ปรากฏบนจุดสีแดง

 

“…….”

 

“…….”

 

ฮันเตอร์ต่างพากันปิดปาก มันเป็นกองทัพมอนสเตอร์ที่ไม่มีใครเทียบได้กับกองทัพบนชั้นที่ 11 กองทัพขนาดมหึมากำลังมุ่งหน้ามาทางเรา

 

– กรรรร

 

– เคี๊ยก คิ๊ก!

 

เหล่ามอนสเตอร์ำคำราม พวกมันแยกเขี้ยว พวกมันบิดคอ สายฝนโปรยปรายลงมาที่ใบหน้าบิดเบี้ยวของก็อบลิน ฝนเลือดอาจเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์สำหรับพวกมัน พวกมันมองไปที่ท้องฟ้าเหมือนกำลังมองไปที่เทพเจ้าและพวกมันำคำนับสายฝนสีแดง

 

“…ฉันก็ว่าอย่างนั้น”

 

ฉันจับดาบของฉัน

 

“มันไม่ใช่เวลาที่เราจะทะเลาะกัน”

 

และมีตัวหนังสือก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าฉัน

 

+

 

[การป้องกันเมืองของจักรวรรดิ]

 

ความยาก: A ~  SSS

 

เป้าหมายของภารกิจ: เหล่านักรบ! ท่านได้ตัดสินใจที่จะต่อสู้กับราชาปีศาจอย่างกล้าหาญ ราชาปีศาจได้เข้าร่วมสงครามด้วยตัวเองหลังจากสัมผัสได้ถึงอันตราย เขาสามารถเรียกกองทัพมอนสเตอร์ได้ทุกที่ เขาตั้งเป้าไปที่ใจกลางของจักรวรรดิเอจิม เมืองหลวงฮากาเมเนีย

 

โชคดีที่ราชาปีศาจอ่อนแอลงจากการปรากฏตัวที่นี่

 

หยุดยั้งราชาปีศาจ!

 

※อย่างไรก็ตาม ความพ่ายแพ้ในการต่อสู้หมายความว่าชั้น 13 จะไม่ถูกเปิด

 

+

 

มันเงียบไปชั่วครู่

 

“ …อ่อนแอลง?”

 

พญาอสรพิษพูดพึมพำ

 

“นั่นน่ะเหรอ?”

 

สิ่งที่เขาพูดสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่ทุกคนกำลังคิด

 

“นี่….มันไม่ยุติธรรม เราจะเคลียร์มันยังไง? นี่ไม่ใช่ภารกิจที่เราจะชนะได้ แม้ว่าชั้น 10 จะเป็นเพียงแค่การฝึกสอนเท่านั้น …แต่นี่มันต่างกันเกินไป กับอะไรแบบนี้”

 

“พอได้แล้ว ใจเย็นกันก่อน”

 

ฉันหันไปมองที่ห้องรับรอง

 

ที่พวกฮันเตอร์ ด้านหลังพวกเขาเป็น NPC ที่ตกอยู่ในความสิ้นหวัง

 

“พวกเราทำได้ หอคอยไม่มีทางมอบเควสที่ไม่สามารถเคลียร์ได้”

 

“แต่เราจะเอาชนะมอนเสอตร์พวกนั้นได้ยังไง…?”

 

“นั่นคือเหตุผลที่ผมบอกให้คุณใจเย็นๆ”

 

ฉันชี้ไปที่ NPC

 

“เราไม่ใช่เพียงแค่ฮันเตอร์ที่นี่ ลืมไปหรือเปล่า พญาอสรพิษ คุณคือหัวหน้าผู้คุ้มกัน คุณต้องนำพวกเขา”

 

“…..”

 

“เราไม่สามารถฝ่าด่านนี้ไปได้ด้วยฮันเตอร์เพียงอย่างเดียว”

 

ใช่

 

“โน้มน้าว NPC ปลุกใจให้พวกเขาลุกขึ้นสู้ ชี้นำพวกเขา นำพวกเขาเข้าสู่สงครามเหมือนเป็นกับคนจริงๆ”

 

นั่นเป็นวิธีที่ชั้น 11 ถูกเคลียร์เช่นกัน

 

“เราจะสู้กันที่นี่ไม่ได้ คุณเซียนดาบ คุณเป็นแกรนด์มาสเตอร์ของพวกอัศวิน หัวหน้าผู้คุ้มกันและแกรนด์มาสเตอร์สู้กันแบบนี้ แล้วเราจะป้องกันอันตรายจากด้านนอกได้ยังไง?”

 

“……”

 

“คุณคิดว่าการได้รับรางวัลเป็นประโยชน์หรือเปล่า? มันเป็นประโยชน์ แต่คุณก็มีความรับผิดชอบเช่นกัน เราได้รับบทบาทนี้แล้วและมันก็ถึงเวลาสวมบทบาท”

 

ฉันหันหน้าไปทางครูเซเดอร์

 

เธอกำลังมองมาที่ฉันด้วยใบหน้าที่จริงจัง

 

“ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการต่างประเทศ”

 

“อืม”

 

“ที่นี่คือห้องรับรอง แต่จักรพรรดิไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาคงอยู่ที่ไหนสักแห่งในวัง โปรดค้นหาจักรพรรดิพร้อมกับ NPC หากผู้นำไม่อยู่ที่นี่ NPC จะไม่ติดตามเรา”

 

ครูเซเดอร์พยักหน้า

 

“เข้าใจแล้ว”

 

“แม่ทัพสูงสุด”

 

ฉันมองไปที่นักถามนอกรีต แม้ว่าเขาจะเสียแขนไป แต่เขาก็ยังยิ้มอย่างสดใส แต่เขากำลังมองมาที่ฉันเหมือนกำลังขบขัน

 

“ใช่! นั่นผมเอง!”

 

“ผมเกลียดฮันเตอร์อย่างคุณจริงๆ ผมรู้สึกว่าผมต้องการเห็นจุดจบของเรื่องต่างๆกับคุณหลังจากที่ได้เห็นสิ่งที่คุณทำ แต่คุณไม่สามารถลืมได้ว่าตอนนี้คุณคือแม่ทัพสูงสุด”

 

“ฮ่าฮ่า ผมเริ่มชอบคุณมากขึ้นเรื่อยๆแล้วล่ะ!”

 

“ในเมื่อคุณมอบอำนาจให้ผม ได้โปรดช่วยหุบปากและฟังผมด้วย”

 

ฉันมองไปที่แผนที่และพูด

 

มันมีเวลาไม่มากนัก คลื่นสีแดงกำลังใกล้เข้ามา

 

“อาจมีทหารจำนวนมากอยู่ที่กำแพงเมือง สัตว์ประหลาดเข้าใกล้พวกเขามากราวกับลูกเห็บ แต่ไม่มีทางที่พวกเขาจะรู้สึกเหมือนปกติได้ ได้โปรดไปที่กำแพงเมืองด้วยตัวเองและเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับพวกทหาร”

 

“อื้ม! มันเป็นหน้าที่ของขุนนางอยู่แล้ว!”

 

“ได้โปรดปกป้องกำแพงเมืองไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากพวกเขาพ่ายแพ้ ด่านนี้จะจบลง”

 

“ไม่ต้องกังวล”

 

นักถามนอกรีตยิ้ม

 

“ผมไม่เคยผิดสัญญาตั้งแต่เกิด ผมจะปกป้องกำแพงด้วยชีวิต!”

 

“ตกลง”

 

ฉันมองไปรอบๆตัว

 

“งั้นผมจะออกไปก่อน”

 

มันถึงเวลาสำหรับสงครามแล้ว

SSS-Class Suicide Hunter – ตอนที่ 30: ฝนโลหิต (3)

SSS-Class Suicide Hunter – ตอนที่ 30: ฝนโลหิต (3)

 

[กำลังรับเควสของชั้น 12]

 

ทันทีที่ได้ยินเสียงบางอย่างก็สาดลงบนหน้าต่าง

 

แปะ แปะ

 

มันคือฝน

 

ฝนไหลลงบนหน้าต่างหรูหราในห้องรับรอง เป็นเวลาครู่หนึ่ง พวกเราหันไปมองข้างนอก ไม่ใช่เพราะเราประหลาดใจกับเสียง มีอย่างอื่นที่ทำให้เราประหลาดใจ

 

“เอ่อ เอ่อออออ…”

 

“ฝันร้าย! ห่าฝนแห่งฝันร้ายกำลังมาอีกครั้ง!”

 

สีของฝน

 

มันเป็นสีแดงราวกับเลือด ไม่ มันอาจจะเป็นเลือดจริงๆ NPC ที่อยู่กับเราเริ่มกุมหัวและคร่ำครวญ

 

“ท่านเทพธิดา ได้โปรดอย่าทอดทิ้งเรา!”

 

“อะไรน่ะ? ทำไมจู่ๆพวกเขาถึงเป็นแบบนี้…?”

 

พญาอสรพิษที่อ่อนล้ามองไปรอบๆ ตัวเขา

 

“มันคือราชาปีศาจ…”

 

NPC ที่สวมชุดเกราะพูดพึมพำ พวกเขาหมอบลงกับพื้นด้วยไหล่ที่สั่นเทา เช่นเดียวกับการสั่นที่แพร่กระจายราวกับการแพร่เชื้อ เสียงครวญครางเริ่มดังมาจากทุกที่

 

“คราวนี้มันเป็นจุดจบของจักรวรรดิแล้ว…”

 

“ฝ่าบาท….จักรพรรดิของเราอยู่ที่ไหน…?”

 

ใบหน้าของพวกเขาทุกคนมืดมน สิ้นหวัง ยอมรับ อ่อนเพลีย ใบหน้าของพวกเขาไม่ต่างจากมนุษย์จริงๆ

 

พญาอสรพิษกลืนน้ำลาย

 

“พ พวกเขาตลกดีนะ เฮ้ นี่คือการแสดงใช่มั้ย? เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

 

“เควสได้เริ่มแล้ว”

 

ฉันพูดเบาๆ

 

“เราจะไม่ต่อสู้กันถ้าหากเราอยู่กันเฉยๆ หากมีการกระทบกระทั่งระหว่างเรา พวกมันจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากโจมตีเรา”

 

“โจมตี? ใคร?”

 

“คิดว่าเป็นใครล่ะ?”

 

ฉันมองไปนอกหน้าต่าง

 

“ตัวตนที่ทำให้เกิดความบาดหม่างระหว่างพวกเรา”

 

เสียงหัวเราะไหลเข้ามาในหัวของฉัน

 

[ราชาปีศาจแห่งห่าฝนเห็นด้วยกับคุณ]

 

ฝนกระหน่ำแรงกว่าเดิม เสียงที่เหมือนมีคนเคาะบางสิ่งก็เงียบลงทันที หยดน้ำสีแดงหลายสิบหยดปกคลุมหน้าต่าง

 

“….”

 

ฉันเข้าไปใกล้หน้าต่าง ฉันมองไม่เห็นข้างนอกจากที่นี่ เนื่องจากฝนตกหนักเกินไปหน้าต่างทั้งบานจึงเป็นสีแดง ฉันทำลายหน้าต่างด้วยฝักดาบ

 

ฝนสีแดงสาดเข้ามาในห้องรับรอง ฉันเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นข้างนอกอย่างชัดเจน พระราชวัง เมืองด้านนอกวัง กำแพงด้านนอกเมือง

 

[ราชาปีศาจแห่งห่าฝนกำลังปรากฏตัว]

 

มันอยู่นอกกำแพงเมือง

 

– เหล่าสิ่งมีชีวิตที่น่าสมเพช

 

มันกระซิบเบาๆ

 

ใช่ มันเป็นเสียงกระซิบ

 

มีเพียงแค่เสียงกระซิบลอยข้ามกำแพงเมืองและดังเข้ามาในห้องรับรองผ่านหน้าต่างที่แตก

 

– พวกเจ้าคิดว่ามนุษย์ที่ถูกอัญเชิญมาจากโลกอื่นจะเป็นโล่ของพวกเจ้างั้นหรือ? พวกเจ้าคิดว่าพวกมันจะเป็นวีรบุรุษของพวกเจ้างั้นหรือ?

 

ฝนเทลงมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

 

– มาหาฉัน ไล่ต้อนข้าเท่าที่พวกเจ้าต้องการ อัญเชิญให้มากเท่าที่พวกเจ้าต้องการ จงเรียกนักรบและอัศวินหลายพันคนมา ช่างน่าสงสารที่พวกเจ้าไม่รู้เลยว่าพวกมันเป็นเพียงมนุษย์เช่นเดียวกับพวกเจ้า

 

เสียงดังขึ้นท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย มันดังขึ้นในกำแพง ดังขึ้นในกำแพงของพระราชวัง ดังขึ้นที่ผนังห้องรับรอง มันหัวเราะ มันเป็นเสียงหัวเราะที่ดังสนั่น เสียงหัวเราะดังก้องและสะท้อนในหูของพวกเรา

 

“อั๊ก…”

 

NPC ก้มตัวกว่าเดิม พวกเขากุมหัวของพวกเขาอย่างเจ็บปวด

 

พวกเรายังดีกว่าพวกเขา นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้ยินเสียงหัวเราะ มันยังพอทนได้ ถ้าเราต้องฟังเสียงนั้นนานกว่าหนึ่งปี เรื่องราวอาจจะเป็นคนละเรื่อง

 

– เจ้าพวกสิ่งมีชีวิตที่ไม่เห็นมนุษย์เป็นมนุษย์

 

ตอนนั้นเอง

 

บนแผนที่ที่มีเพียงฉันเท่านั้นที่เห็นจุดสีแดงก็เริ่มปรากฏขึ้นบนแผนที่ หนึ่ง สองสาม จุดสีแดงที่ปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ ขยายตัวขึ้นอย่างทวีคูณ

 

หลายร้อย

 

หลายพัน

 

หลายหมื่น

 

ไม่นานนักขอบฟ้าทั้งหมดก็เปลี่ยนเป็นสีแดง

 

– จงถูกกลืนกินโดยความชั่วร้ายของพวกเจ้า

 

มันกู่ร้อง

 

ท้องฟ้าและโลกกลายเป็นสีขาวดำในทันใดและสิ่งมีชีวิตพวกนั้นก็แสดงตัว

 

มันคือมอนสเตอร์ที่ปรากฏบนจุดสีแดง

 

“…….”

 

“…….”

 

ฮันเตอร์ต่างพากันปิดปาก มันเป็นกองทัพมอนสเตอร์ที่ไม่มีใครเทียบได้กับกองทัพบนชั้นที่ 11 กองทัพขนาดมหึมากำลังมุ่งหน้ามาทางเรา

 

– กรรรร

 

– เคี๊ยก คิ๊ก!

 

เหล่ามอนสเตอร์ำคำราม พวกมันแยกเขี้ยว พวกมันบิดคอ สายฝนโปรยปรายลงมาที่ใบหน้าบิดเบี้ยวของก็อบลิน ฝนเลือดอาจเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์สำหรับพวกมัน พวกมันมองไปที่ท้องฟ้าเหมือนกำลังมองไปที่เทพเจ้าและพวกมันำคำนับสายฝนสีแดง

 

“…ฉันก็ว่าอย่างนั้น”

 

ฉันจับดาบของฉัน

 

“มันไม่ใช่เวลาที่เราจะทะเลาะกัน”

 

และมีตัวหนังสือก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าฉัน

 

+

 

[การป้องกันเมืองของจักรวรรดิ]

 

ความยาก: A ~  SSS

 

เป้าหมายของภารกิจ: เหล่านักรบ! ท่านได้ตัดสินใจที่จะต่อสู้กับราชาปีศาจอย่างกล้าหาญ ราชาปีศาจได้เข้าร่วมสงครามด้วยตัวเองหลังจากสัมผัสได้ถึงอันตราย เขาสามารถเรียกกองทัพมอนสเตอร์ได้ทุกที่ เขาตั้งเป้าไปที่ใจกลางของจักรวรรดิเอจิม เมืองหลวงฮากาเมเนีย

 

โชคดีที่ราชาปีศาจอ่อนแอลงจากการปรากฏตัวที่นี่

 

หยุดยั้งราชาปีศาจ!

 

※อย่างไรก็ตาม ความพ่ายแพ้ในการต่อสู้หมายความว่าชั้น 13 จะไม่ถูกเปิด

 

+

 

มันเงียบไปชั่วครู่

 

“ …อ่อนแอลง?”

 

พญาอสรพิษพูดพึมพำ

 

“นั่นน่ะเหรอ?”

 

สิ่งที่เขาพูดสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่ทุกคนกำลังคิด

 

“นี่….มันไม่ยุติธรรม เราจะเคลียร์มันยังไง? นี่ไม่ใช่ภารกิจที่เราจะชนะได้ แม้ว่าชั้น 10 จะเป็นเพียงแค่การฝึกสอนเท่านั้น …แต่นี่มันต่างกันเกินไป กับอะไรแบบนี้”

 

“พอได้แล้ว ใจเย็นกันก่อน”

 

ฉันหันไปมองที่ห้องรับรอง

 

ที่พวกฮันเตอร์ ด้านหลังพวกเขาเป็น NPC ที่ตกอยู่ในความสิ้นหวัง

 

“พวกเราทำได้ หอคอยไม่มีทางมอบเควสที่ไม่สามารถเคลียร์ได้”

 

“แต่เราจะเอาชนะมอนเสอตร์พวกนั้นได้ยังไง…?”

 

“นั่นคือเหตุผลที่ผมบอกให้คุณใจเย็นๆ”

 

ฉันชี้ไปที่ NPC

 

“เราไม่ใช่เพียงแค่ฮันเตอร์ที่นี่ ลืมไปหรือเปล่า พญาอสรพิษ คุณคือหัวหน้าผู้คุ้มกัน คุณต้องนำพวกเขา”

 

“…..”

 

“เราไม่สามารถฝ่าด่านนี้ไปได้ด้วยฮันเตอร์เพียงอย่างเดียว”

 

ใช่

 

“โน้มน้าว NPC ปลุกใจให้พวกเขาลุกขึ้นสู้ ชี้นำพวกเขา นำพวกเขาเข้าสู่สงครามเหมือนเป็นกับคนจริงๆ”

 

นั่นเป็นวิธีที่ชั้น 11 ถูกเคลียร์เช่นกัน

 

“เราจะสู้กันที่นี่ไม่ได้ คุณเซียนดาบ คุณเป็นแกรนด์มาสเตอร์ของพวกอัศวิน หัวหน้าผู้คุ้มกันและแกรนด์มาสเตอร์สู้กันแบบนี้ แล้วเราจะป้องกันอันตรายจากด้านนอกได้ยังไง?”

 

“……”

 

“คุณคิดว่าการได้รับรางวัลเป็นประโยชน์หรือเปล่า? มันเป็นประโยชน์ แต่คุณก็มีความรับผิดชอบเช่นกัน เราได้รับบทบาทนี้แล้วและมันก็ถึงเวลาสวมบทบาท”

 

ฉันหันหน้าไปทางครูเซเดอร์

 

เธอกำลังมองมาที่ฉันด้วยใบหน้าที่จริงจัง

 

“ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการต่างประเทศ”

 

“อืม”

 

“ที่นี่คือห้องรับรอง แต่จักรพรรดิไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาคงอยู่ที่ไหนสักแห่งในวัง โปรดค้นหาจักรพรรดิพร้อมกับ NPC หากผู้นำไม่อยู่ที่นี่ NPC จะไม่ติดตามเรา”

 

ครูเซเดอร์พยักหน้า

 

“เข้าใจแล้ว”

 

“แม่ทัพสูงสุด”

 

ฉันมองไปที่นักถามนอกรีต แม้ว่าเขาจะเสียแขนไป แต่เขาก็ยังยิ้มอย่างสดใส แต่เขากำลังมองมาที่ฉันเหมือนกำลังขบขัน

 

“ใช่! นั่นผมเอง!”

 

“ผมเกลียดฮันเตอร์อย่างคุณจริงๆ ผมรู้สึกว่าผมต้องการเห็นจุดจบของเรื่องต่างๆกับคุณหลังจากที่ได้เห็นสิ่งที่คุณทำ แต่คุณไม่สามารถลืมได้ว่าตอนนี้คุณคือแม่ทัพสูงสุด”

 

“ฮ่าฮ่า ผมเริ่มชอบคุณมากขึ้นเรื่อยๆแล้วล่ะ!”

 

“ในเมื่อคุณมอบอำนาจให้ผม ได้โปรดช่วยหุบปากและฟังผมด้วย”

 

ฉันมองไปที่แผนที่และพูด

 

มันมีเวลาไม่มากนัก คลื่นสีแดงกำลังใกล้เข้ามา

 

“อาจมีทหารจำนวนมากอยู่ที่กำแพงเมือง สัตว์ประหลาดเข้าใกล้พวกเขามากราวกับลูกเห็บ แต่ไม่มีทางที่พวกเขาจะรู้สึกเหมือนปกติได้ ได้โปรดไปที่กำแพงเมืองด้วยตัวเองและเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับพวกทหาร”

 

“อื้ม! มันเป็นหน้าที่ของขุนนางอยู่แล้ว!”

 

“ได้โปรดปกป้องกำแพงเมืองไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากพวกเขาพ่ายแพ้ ด่านนี้จะจบลง”

 

“ไม่ต้องกังวล”

 

นักถามนอกรีตยิ้ม

 

“ผมไม่เคยผิดสัญญาตั้งแต่เกิด ผมจะปกป้องกำแพงด้วยชีวิต!”

 

“ตกลง”

 

ฉันมองไปรอบๆตัว

 

“งั้นผมจะออกไปก่อน”

 

มันถึงเวลาสำหรับสงครามแล้ว

Comment

Options

not work with dark mode
Reset