SSS-Class Suicide Hunter – ตอนที่ 32: ดาบสีชาด (2)

สิ่งที่เธอพูดมีเหตุผล

ฉันยังเป็นแค่ฮันเตอร์คลาส E ทวีปจะไม่ถึงจุดจบถ้าราชาปีศาจสามารถถูกจัดการได้ง่ายๆโดยฮันเตอร์คลาส E

ฉันเสียเปรียบอย่างมาก

แต่ความตายไม่ได้หมายถึงการสูญเสียสำหรับฉัน

“ฉันวางแผนมาที่จะชนะ”

ความตายเป็นก้าวหนึ่งในชัยชนะสำหรับฉัน

“ผมก็มีอาวุธลับเหมือนกัน เชื่อผมสิ”

“…….”

แม่มดถอนหายใจ

“โอเค ในเมื่อฮันเตอร์ทุกคนมีความลับ ฉันหวังว่าดาบของนายจะคมพอที่จะแทงบอสตัวนั้นได้”

นั่นคือสิ่งที่ฉันกำลังวางแผนอยู่

– เจ้ากำลังจะได้เล่นเกมที่น่าสนุก เทพธิดา

ตอนนั้นเอง

– การขัดขืนครั้งสุดท้ายของเจ้านั้นช่างน่าเวทนา แสง แสงสว่างจะมอบอะไรให้กับคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองมีอนาคตหรือไม่ แม้แต่ตอนนี้เจ้าเองก็น่าเวทนา

เสียงของราชาปีศาจดังไปทั้งสนามรบ

– ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะแสดงแสงให้ดู

แม่มดและฉันไม่ได้ลดการ์ดลง เรากำลังดูการเคลื่อนไหวของราชาปีศาจ เราจึงได้รู้ถึงที่มาของเสียง

มันเป็นดาบ

ช้าๆ

ราชาปีศาจค่อยๆดึงดาบออกมาที่ปลายขอบฟ้า เวลาดูเหมือนจะช้าลง ดาบของราชาปีศาจดูเหมือนจะอยู่ในเวลาที่แตกต่างจากเรา เลยดูเหมือนว่าเขาพยายามตัดเวลา

แต่ราชาปีศาจไม่ได้ตัดเวลา เขาตัดท้องฟ้า วิถีของดาบนั้นเป็นสีแดง

มันเล็งไปที่ผนังอย่างแม่นยำและเจาะมัน

พายุโหมกระหน่ำ

แม่มดและฉันหลับตาลงโดยไม่รู้ตัว ในขณะที่เราหลับตา ฝุ่นก็ปกคลุมพวกเราและก็ยังได้ยินเสียงกรีดร้อง มันเป็นเสียงกรีดร้องของพวกทหาร ฉันได้ยินเสียงบางอย่างกำลังแตก

และครู่ต่อมา

“แค่ก แค่ก…!”

เมื่อฝุ่นบางลง เราก็มองไปยังจุดที่เสียงกรีดร้องดังมา มันเจ็บปวดเพราะฝุ่นเข้าตา แต่ความตกใจนั้นมีมากกว่าความเจ็บปวด

แม่มดกลืนน้ำลาย

“…นี่มันอ่อนแอแล้วจริงๆเหรอ?”

กำแพงของจักรวรรดิพังทลาย

ราชาปีศาจคร่ำครวญ

– เหล่าสิ่งมีชีวิตที่น่าสงสาร

ฝนสีแดงเทลงมาจากท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยฝุ่น

เสียงหัวเราะดังก้องมาจากที่ที่ราชาปีศาจอยู่

– นี่ยังเป็นอาณาจักรของพวกเจ้าอยู่อีกหรือเปล่า?

ไม่ใช่แค่กำแพงเมืองที่พังทลาย

วิถีดาบสีแดงบดขยี้ถนนและอาคารต่างๆ แม้แต่พระราชวังก็อยู่ในเส้นทางของมันก็ถูกบดขยี้

ตู้ม!

[นักรบหนึ่งคนได้เสียชีวิตแล้ว]

เสียงดังขึ้นจากบริเวณใกล้เคียง

[พวกเขาไม่ใช่ผู้รับใช้ของราชาปีศาจ]

เป็นเสียงประกาศความตาย

“…..”

แม่มดและฉันมองหน้ากัน

“ …มันเป็นห้องรับรอง”

แม่มดพูดก่อน

“นักถามนอกรีต เซียนดาบและพญาอสรพิษไม่ได้อยู่ในห้องรับรองเนื่องจากพวกเขาพาทหารมาที่นี่ ครูเซเดอร์กำลังตามหาจักรพรรดิตามคำสั่งของนาย ถ้าอย่างนั้นคนที่เหลือก็คง…”

เคาท์

“ …ตายไปแล้ว”

เคาท์ไม่ใช่ผู้ทรยศ

“หยาบช้า”

แม่มดพูดพึมพำเบาๆ

เพียงแค่นั้น

เธอไม่พูดอะไรอีกและส่ายหัว

ฉันสงสัยว่ามันเป็นวิธีการบอกลาของเธอหรือเปล่า

“หัวหน้ากิลด์มังกรดำ ถ้าคุณเคาท์ตายไปจริงๆ แล้วกับโลกภายนอกล่ะ…”

“ตอนนี้”

แม่มดพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ

“ตอนนี้เรามาสนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้ากันก่อนดีกว่า”

ฮันเตอร์ที่แข็งแกร่งเป็นอันดับ 2 ในหอคอยจ้องมองไปที่เหยื่อตรงเส้นขอบฟ้า

“แม้แต่ราชาปีศาจก็ไม่สามารถโจมตีแบบนั้นต่อเนื่องได้ คิม กงจา ช่วยปกป้องกำแพงเมืองที่พังแล้วกับฉันเถอะ”

จุดสีแดงบนแผนที่เปลี่ยนไป

กองทัพสัตว์ประหลาดกำลังพุ่งเข้าหาเราเหมือนคลื่นก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้จุดสีแดงแหลม

พวมันพยายามทำให้เราเหนื่อยหรือเปล่า?

“ครับ คุณผู้หญิง”

จุดต่างๆมุ่งไปที่กำแพงเมือง

มันเป็นรอยแตกที่วิถีดาบสีแดงได้ผ่า

“ฉันก็คิดแบบเดียวกัน”

แม่มดคว้ามือของฉัน

เธอพยักหน้า

“เคลื่อนย้าย”

เรามุ่งหน้าสู่กำแพงเมืองที่พังทลาย

– กรรรรรรร!

– เคี๊ยก คิ! คิคิคิ!

– แกว่กกก!

เหล่ามอนสเตอร์อยู่ตรงหน้าเรา ลูกธนูที่ลอยผ่าน พวกมันมาจากทหารที่อยู่บนกำแพงเมือง มันไม่เพียงพอที่จะหยุดคลื่นสีแดง ก็อบลิน ออร์ค โครงกระดูกและมอนสเตอร์จำพวกอื่นๆ วิ่งมาที่เรา

มีเวลาประมาณ 2 นาทีก่อนที่เวฟแรกจะมาถึง

– ซอมบี้

ฉันได้ยินเสียงของแบ ฮุรยอง

– แค่นาทีเดียวก็โอเคแล้ว ไม่สิ 30 วินาที

มอนสเตอร์นับสิบ นับร้อยกำลังบินผ่านกลุ่มเมฆหนา

และมอนสเตอร์ที่มีมากกว่านั้นสิบเท่ากำลังมุ่งหน้ามาที่เรา

– เผชิญหน้ามัน

ไม่มีพวกพ้องคนใดๆมาหยุดฉัน

– หากต้องการชนะการต่อสู้ครั้งนี้ นายต้องกลายเป็นความหวังสำหรับคนพวกนี้

ดังนั้นฉันจึงยืนอยู่ที่ด้านหน้าคนเดียว

– ยั้งมันไว้ด้วยตัวเอง แค่เพียง 30 วินาทีก็โอเค สิ่งสำคัญคือนายต้องแสดงให้เห็นว่านายสามารถหยุดมอนสเตอร์พวกนั้นได้ด้วยตัวเอง นายไม่เรียกมนุษย์ที่มีชีวิตอยู่มา 30 ปีว่าเป็นฮีโร่ 30 วินาทีที่ทุกคนต้องการ มนุษย์ที่มอบเวลา 30 วินาทีที่ทุกคนต้องการนั่นแหละคือฮีโร่

ฉันทิ้งกระเป๋าเป้ลงที่พื้น

– เป็นฮีโร่

แบ ฮุรยองดึงขวดแก้วออกมา

มันคือสิ่งที่ท่านลอร์ดของปราสาทแปรธาตุสร้างในอนาคต

มันคือขวดแก้วที่มียาอายุวัฒนะ

– ฉันจะช่วยนายเอง

หนึ่งอึก สองอึก สามอึก

ฉันกลืนยาอายุวัฒนะลงไป

– ฉันสัญญาว่าจะสอนวิชาดาบให้นายก่อนชั้น 20 ใช่มั้ย? มันค่อนข้างเร็วไปหน่อย แต่นี่คือบทเรียนบางส่วน

ตึกตึก

หัวใจของฉันเต้นเร็วขึ้น

– ก้าวถอยหลังมาหนึ่งก้าว

หัวใจของฉันเต้นเร็วขึ้น

– มองไปข้างหน้า

ฉันมองไป

– มีก็อบลินสองตัวอยู่ข้างหน้า พวกมันไม่สามารถมองเห็นได้ดีเพราะฝุ่น เหวี่ยงดาบของนายอย่างรวดเร็วตรงหน้าพวกมัน

หัวใจของฉันเต้นเร็วกว่าเดิม

แต่ละวินาทีรู้สึกช้าลง

– ดาบศักดิ์สิทธิ์นั่นส่องแสงได้ แต่ก็สามารถหลบเลี่ยงได้เช่นกัน มองคู่ต่อสู้ของนายด้วยดาบและช่วงชิงจังหวะจากคู่ต่อสู้ของนาย

และแต่ละวินาทีก็เร็วกว่าหัวใจของฉัน

– พวกมันอยู่ที่นี่แล้ว

ดาบของฉันน่าจะเร็วกว่าฉันเป็นวินาที

– ไปกันเถอะ คู่หู

แบ ฮุรยองยืนอยู่ข้างๆฉัน

– ถึงเวลาเป็นฮีโร่แล้ว

ฉันเหวี่ยงดาบของฉัน เลือดไหลนองไปทุกที่

– กี้!!!!!!

ก็อบลินกรีดร้อง ในหนึ่งวินาทีของฉัน เสียงกรีดร้องไม่หยุดลง

– เสร็จไปหนึ่ง

เลือดกระจายอยู่ในอากาศ มันเป็นสีเดียวกับสายฝน ฉันจับดาบแน่นกว่าเดิม และเหวี่ยงมันออกไป

– กี้!!!!!!!!!

สอง

ก่อนที่ก็อบลินตัวที่หนึ่งจะล้มลง ฉันก็ตัดก็อบลินตัวที่สอง มันแทบจะในทันที เลือดไหลจากขวาและซ้ายของฉัน มอนสเตอร์ตะโกนโดยที่ไม่สามารถมองเห็นดาบของฉันได้

ฉันฆ่าตัวหนึ่งและอีกตัวหนึ่ง

– อ๊อกกกกกกก!

 

– โออออออออ!

 

– กี้!

ก่อนที่มอนสเตอร์จะกรีดร้องเสร็จมอนสเตอร์อีกตัวก็กรีดร้องตามมา

เสียงกรีดร้องรอบตัวฉันยังไม่ได้หยุดลง

 

ท่วงทำนองการประพันธ์โดยดาบของฉัน

ฉันสั่งพวกเขาด้วยไม้บาตองของฉัน*

– ผ่านไป 1 วินาที

แบ ฮุรยองพูด

– อย่าหุบแขนตอนตวัดดาบ กงจา อย่าแบ่งช่วงการโจมตีแต่ละครั้ง เชื่อมโยงมัน

ฉันเหวี่ยงดาบของฉัน

– ตัดจากด้านบนลงล่าง คิดสิ มันไม่ต่างจากดนตรี เมื่อโทนเสียงลดลงก็สามารถดึงกลับขึ้นมาได้

เสียงกรีดร้องดังขึ้น

– เชื่อมโยง! หากดาบของนายอยู่ต่ำก็ให้ยกกลับขึ้นมาอีกครั้ง นั่นคือวิธีเชื่อมต่อโยงดาบของนาย

อีกวินาทีผ่านไป

– ดาบคือการต่อสู้แห่งกาลเวลา! ถ้าเหวี่ยงครั้งเดียวแล้วจบมันก็ไม่ใช่ดาบ คนที่มีทักษะมากกว่านี้จะควบคุมได้ 5 วินาที

ศัตรูกระอักเลือดออกมา

และฉันก็พ่นลมหายใจออกมา

– อย่าเสียเวลา!

ก่อนที่เลือดจะไหลริน และลมหายใจของฉันก็จางหายไป

– ห้ามเสียเวลาโดยเด็ดขาด! เพียงเพราะนายตัดศัตรูของนายมันก็ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างได้จบแล้ว นายต้องรู้ว่าจะฟันที่ไหนต่อไป! อย่าเสียไปแม้แต่วินาทีเดียว จงใช้ชีวิตอยู่กับมัน

ใบดาบเหวี่ยงไปมาระหว่างลมหายใจของฉันและเลือดของศัตรู

– ผู้ใช้ดาบมีชีวิตได้ด้วยดาบของพวกเขา

ฉันเหวี่ยงดาบของฉัน

– นายคิดว่าการมีชีวิตอยู่เป็นเรื่องง่ายหรือไง? นายต้องการจะกลับไปใช่ไหม?

ฉันเหวี่ยงดาบของฉัน

– ผู้คนไม่ได้มีชีวิตเมื่อพวกเขาใช้เวลา กงจา นายเป็นนักดาบ ดังนั้นนายต้องมีชีวิตอยู่ด้วยดาบของนายเอง

ฉันเหวี่ยงดาบอีกครั้ง

– ฆ่ามันซะ!

ก็อบลินข่วนฉันและมีเลือดไหลออกมาจากแขนของฉัน อา ฉันรู้สึกเวียนหัว แม้จะเจ็บปวด ฉันก็ยังเหวี่ยงดาบและมองไปข้างหน้า

– เคี๊ยกกกกก!

– กรรรรรรร กรร…..

– กรูววววววว!

มอนสเตอร์มากมายนับไม่ถ้วน

มอนสเตอร์หลั่งไหลออกมาจากฝุ่นหนา ศัตรูนับไม่ถ้วนและความชั่วร้ายนับไม่ถ้วน พวกมันทุกตัวพยายามที่จะฆ่าฉัน

– 10 วินาทีแล้ว

นี่คือ 10 วินาที เวลาเพียง 10 วินาที

– ฆ่าอีก กงจา อย่าทำให้ชีวิตของนายเสียเปล่าและฆ่าพวกมันซะ

ฉันจับดาบไว้แน่น

– ถึงเวลาแสดงให้เห็นแล้วว่านายเป็นใคร

ฉันคำราม

ในรอยแยกของกำแพงเมือง เสียงตะโกนของฉันดังก้อง ทหารที่อยู่ด้านบนสะดุ้ง มอนสเตอร์ที่มาจากที่ไกลๆหยุดไปชั่วขณะ

– ช่าย นี่แหละ

แบ ฮุรยองหัวเราะคิกคัก

– ตอนนี้นายไม่ได้เป็นซอมบี้แล้ว หึหึ!

ฉันวิ่งไปข้างหน้า

– กรู๋ว?

ฉันโจมตีเท้าของก็อบลินที่หยุดเป็นตัวแรก ก่อนที่มันจะทันตอบสนอง มันก็ตายไปแล้ว

หัวของก็อบลินกระเด็นไปพร้อมกับอ้าปากค้าง

ฉันเหวี่ยงดาบของฉัน

– กรรรร กรร

และถัดมาเป็นออร์คที่ยืนงุนงงอยู่ข้างๆ ก่อนที่มันจะยกกระบอง ฉันตวัดดาบลงมา เลือดไหลออกมาเหมือนน้ำพุ

ฉันเหวี่ยงดาบของฉัน

‘อีกสักนิด’

โครงกระดูก

‘แค่อีกสักนิด’

และก็อบลิน

‘มากกว่านี้’

ออร์คนับไม่ถ้วน

‘มากกว่านี้! แค่อีกสักนิด!’

ที่มอนสเตอร์จำนวนมากมายมหาศาล

‘มองสิ!’

ฉันเหวี่ยงดาบ

‘มองที่ฉันสิ!’

ฉันยังมีชีวิตอยู่

ฉันยังมีชีวิตอยู่เมื่อฉันเหวี่ยงดาบ

ออร์คปรากฏตัวจากฝุ่นหนาสีแดง

หนึ่งครั้ง สองครั้ง ทุกครั้งที่มอนสเตอร์เคลื่อนไหว ลมก็จะพัดไปหาพวกมัน

ในฝุ่นหนาของออร์ค ก็อบลินเข้ามา จากนั้นมันก็ตายพร้อมกับเสียงกระดูกที่หักเป็นเสี่ยงๆ

ใช่ ถูกต้องแล้ว พวกมันไม่มีความสนิทสนมกันเลย ไม่มีความสงสารและความรักต่อกัน

เพราะอย่างนั้นพวกมันจึงเป็นสัตว์ร้าย

สัตว์ร้ายที่น่ารังเกียจ

– หูววววววววววว!

สัตว์ร้ายร้องอย่างโกรธเกรี้ยว

มันแยกเขี้ยวใส่ฉัน

‘เข้ามา’

และที่นี่ มีฮันเตอร์คนหนึ่ง

มีฮันเตอร์คนหนึ่งวิ่งไล่ตามสัตว์ร้าย

‘ฉันจะแสดงให้แกเห็น’

ตู้ม!

โอเกอร์(Orge) ก้าวไปข้างหน้า

กำแพงเมืองเริ่มพังลง

ตู้ม!

 

สัตว์ร้ายที่น่ารังเกียจก้าวไปอีกก้าว ทุกครั้งที่ก้าวไปข้างหน้า พื้นดินก็สั่นสะเทือน กำแพงเมืองพังลงมา พวกโอเกอร์ที่ทำให้พื้นดินสั่นไหวมุ่งหน้ามาทางนี้

– วางเท้าของนายลงบนพื้น

ถึงอย่างนั้นก็ตาม

– แล้วมองไปข้างหน้า

สิ่งที่ฉันต้องทำก็ไม่เปลี่ยนแปลง

– ตัดศัตรูของนายด้วยดาบ

ฉันวิ่งไปที่มอนสเตอร์

ตู้ม!

สัตว์ร้ายขนาดยักษ์ก้าวมาข้างหน้า ฉันเล็งไว้ในจังหวะนั้น เมื่อมันยกกระบอฃขึ้นมาจะตีฉัน ฉันก็หมุนดาบไปข้างหน้า

แสงสีขาว

แสงของดาบศักดิ์สิทธิ์ส่องเข้าที่ตาของพวกโอเกอร์

– กูวววว!

ร่างกายของเหล่าโอเกอร์ได้หยุดชะงัก

มันยากสำหรับพวกโอเกอร์ที่จะเปลี่ยนทิศทางของพวกมัน

‘ทำไม’

ตอนที่ฉันโจมตีพวกโอเกอร์ ฉันกำลังคิดอะไรบางอย่าง

‘ทำไมพวกเขาถึงมอบสกิลคลาส EX ให้กับไอ้คนแบบนั้น’

ไอ้ยู ซูฮา

ทำไมหอคอยถึงให้สกิลแรร์แบบนี้กับเขา….

‘ไม่จำเป็นต้องเป็นโคตรนักบุญ แค่เป็นคนที่ปกตืกว่านี้ ถ้ามอบให้คนแบบนั้นก็คงไม่เป็นไร แต่ทำไม ำทำไมถึงให้กับไอ้โรคจิตนั่น’

กระบองของโอเกอร์เฉียดจมูกของฉันไป

มันพลาดเพราะมันตาพร่าจากแสง

โชคดีที่มีจุดบอด

‘โอ้…นั่นน่ะเหรอ?’

SSS-Class Suicide Hunter – ตอนที่ 32: ดาบสีชาด (2)

SSS-Class Suicide Hunter – ตอนที่ 32: ดาบสีชาด (2)

สิ่งที่เธอพูดมีเหตุผล

ฉันยังเป็นแค่ฮันเตอร์คลาส E ทวีปจะไม่ถึงจุดจบถ้าราชาปีศาจสามารถถูกจัดการได้ง่ายๆโดยฮันเตอร์คลาส E

ฉันเสียเปรียบอย่างมาก

แต่ความตายไม่ได้หมายถึงการสูญเสียสำหรับฉัน

“ฉันวางแผนมาที่จะชนะ”

ความตายเป็นก้าวหนึ่งในชัยชนะสำหรับฉัน

“ผมก็มีอาวุธลับเหมือนกัน เชื่อผมสิ”

“…….”

แม่มดถอนหายใจ

“โอเค ในเมื่อฮันเตอร์ทุกคนมีความลับ ฉันหวังว่าดาบของนายจะคมพอที่จะแทงบอสตัวนั้นได้”

นั่นคือสิ่งที่ฉันกำลังวางแผนอยู่

– เจ้ากำลังจะได้เล่นเกมที่น่าสนุก เทพธิดา

ตอนนั้นเอง

– การขัดขืนครั้งสุดท้ายของเจ้านั้นช่างน่าเวทนา แสง แสงสว่างจะมอบอะไรให้กับคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองมีอนาคตหรือไม่ แม้แต่ตอนนี้เจ้าเองก็น่าเวทนา

เสียงของราชาปีศาจดังไปทั้งสนามรบ

– ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะแสดงแสงให้ดู

แม่มดและฉันไม่ได้ลดการ์ดลง เรากำลังดูการเคลื่อนไหวของราชาปีศาจ เราจึงได้รู้ถึงที่มาของเสียง

มันเป็นดาบ

ช้าๆ

ราชาปีศาจค่อยๆดึงดาบออกมาที่ปลายขอบฟ้า เวลาดูเหมือนจะช้าลง ดาบของราชาปีศาจดูเหมือนจะอยู่ในเวลาที่แตกต่างจากเรา เลยดูเหมือนว่าเขาพยายามตัดเวลา

แต่ราชาปีศาจไม่ได้ตัดเวลา เขาตัดท้องฟ้า วิถีของดาบนั้นเป็นสีแดง

มันเล็งไปที่ผนังอย่างแม่นยำและเจาะมัน

พายุโหมกระหน่ำ

แม่มดและฉันหลับตาลงโดยไม่รู้ตัว ในขณะที่เราหลับตา ฝุ่นก็ปกคลุมพวกเราและก็ยังได้ยินเสียงกรีดร้อง มันเป็นเสียงกรีดร้องของพวกทหาร ฉันได้ยินเสียงบางอย่างกำลังแตก

และครู่ต่อมา

“แค่ก แค่ก…!”

เมื่อฝุ่นบางลง เราก็มองไปยังจุดที่เสียงกรีดร้องดังมา มันเจ็บปวดเพราะฝุ่นเข้าตา แต่ความตกใจนั้นมีมากกว่าความเจ็บปวด

แม่มดกลืนน้ำลาย

“…นี่มันอ่อนแอแล้วจริงๆเหรอ?”

กำแพงของจักรวรรดิพังทลาย

ราชาปีศาจคร่ำครวญ

– เหล่าสิ่งมีชีวิตที่น่าสงสาร

ฝนสีแดงเทลงมาจากท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยฝุ่น

เสียงหัวเราะดังก้องมาจากที่ที่ราชาปีศาจอยู่

– นี่ยังเป็นอาณาจักรของพวกเจ้าอยู่อีกหรือเปล่า?

ไม่ใช่แค่กำแพงเมืองที่พังทลาย

วิถีดาบสีแดงบดขยี้ถนนและอาคารต่างๆ แม้แต่พระราชวังก็อยู่ในเส้นทางของมันก็ถูกบดขยี้

ตู้ม!

[นักรบหนึ่งคนได้เสียชีวิตแล้ว]

เสียงดังขึ้นจากบริเวณใกล้เคียง

[พวกเขาไม่ใช่ผู้รับใช้ของราชาปีศาจ]

เป็นเสียงประกาศความตาย

“…..”

แม่มดและฉันมองหน้ากัน

“ …มันเป็นห้องรับรอง”

แม่มดพูดก่อน

“นักถามนอกรีต เซียนดาบและพญาอสรพิษไม่ได้อยู่ในห้องรับรองเนื่องจากพวกเขาพาทหารมาที่นี่ ครูเซเดอร์กำลังตามหาจักรพรรดิตามคำสั่งของนาย ถ้าอย่างนั้นคนที่เหลือก็คง…”

เคาท์

“ …ตายไปแล้ว”

เคาท์ไม่ใช่ผู้ทรยศ

“หยาบช้า”

แม่มดพูดพึมพำเบาๆ

เพียงแค่นั้น

เธอไม่พูดอะไรอีกและส่ายหัว

ฉันสงสัยว่ามันเป็นวิธีการบอกลาของเธอหรือเปล่า

“หัวหน้ากิลด์มังกรดำ ถ้าคุณเคาท์ตายไปจริงๆ แล้วกับโลกภายนอกล่ะ…”

“ตอนนี้”

แม่มดพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ

“ตอนนี้เรามาสนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้ากันก่อนดีกว่า”

ฮันเตอร์ที่แข็งแกร่งเป็นอันดับ 2 ในหอคอยจ้องมองไปที่เหยื่อตรงเส้นขอบฟ้า

“แม้แต่ราชาปีศาจก็ไม่สามารถโจมตีแบบนั้นต่อเนื่องได้ คิม กงจา ช่วยปกป้องกำแพงเมืองที่พังแล้วกับฉันเถอะ”

จุดสีแดงบนแผนที่เปลี่ยนไป

กองทัพสัตว์ประหลาดกำลังพุ่งเข้าหาเราเหมือนคลื่นก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้จุดสีแดงแหลม

พวมันพยายามทำให้เราเหนื่อยหรือเปล่า?

“ครับ คุณผู้หญิง”

จุดต่างๆมุ่งไปที่กำแพงเมือง

มันเป็นรอยแตกที่วิถีดาบสีแดงได้ผ่า

“ฉันก็คิดแบบเดียวกัน”

แม่มดคว้ามือของฉัน

เธอพยักหน้า

“เคลื่อนย้าย”

เรามุ่งหน้าสู่กำแพงเมืองที่พังทลาย

– กรรรรรรร!

– เคี๊ยก คิ! คิคิคิ!

– แกว่กกก!

เหล่ามอนสเตอร์อยู่ตรงหน้าเรา ลูกธนูที่ลอยผ่าน พวกมันมาจากทหารที่อยู่บนกำแพงเมือง มันไม่เพียงพอที่จะหยุดคลื่นสีแดง ก็อบลิน ออร์ค โครงกระดูกและมอนสเตอร์จำพวกอื่นๆ วิ่งมาที่เรา

มีเวลาประมาณ 2 นาทีก่อนที่เวฟแรกจะมาถึง

– ซอมบี้

ฉันได้ยินเสียงของแบ ฮุรยอง

– แค่นาทีเดียวก็โอเคแล้ว ไม่สิ 30 วินาที

มอนสเตอร์นับสิบ นับร้อยกำลังบินผ่านกลุ่มเมฆหนา

และมอนสเตอร์ที่มีมากกว่านั้นสิบเท่ากำลังมุ่งหน้ามาที่เรา

– เผชิญหน้ามัน

ไม่มีพวกพ้องคนใดๆมาหยุดฉัน

– หากต้องการชนะการต่อสู้ครั้งนี้ นายต้องกลายเป็นความหวังสำหรับคนพวกนี้

ดังนั้นฉันจึงยืนอยู่ที่ด้านหน้าคนเดียว

– ยั้งมันไว้ด้วยตัวเอง แค่เพียง 30 วินาทีก็โอเค สิ่งสำคัญคือนายต้องแสดงให้เห็นว่านายสามารถหยุดมอนสเตอร์พวกนั้นได้ด้วยตัวเอง นายไม่เรียกมนุษย์ที่มีชีวิตอยู่มา 30 ปีว่าเป็นฮีโร่ 30 วินาทีที่ทุกคนต้องการ มนุษย์ที่มอบเวลา 30 วินาทีที่ทุกคนต้องการนั่นแหละคือฮีโร่

ฉันทิ้งกระเป๋าเป้ลงที่พื้น

– เป็นฮีโร่

แบ ฮุรยองดึงขวดแก้วออกมา

มันคือสิ่งที่ท่านลอร์ดของปราสาทแปรธาตุสร้างในอนาคต

มันคือขวดแก้วที่มียาอายุวัฒนะ

– ฉันจะช่วยนายเอง

หนึ่งอึก สองอึก สามอึก

ฉันกลืนยาอายุวัฒนะลงไป

– ฉันสัญญาว่าจะสอนวิชาดาบให้นายก่อนชั้น 20 ใช่มั้ย? มันค่อนข้างเร็วไปหน่อย แต่นี่คือบทเรียนบางส่วน

ตึกตึก

หัวใจของฉันเต้นเร็วขึ้น

– ก้าวถอยหลังมาหนึ่งก้าว

หัวใจของฉันเต้นเร็วขึ้น

– มองไปข้างหน้า

ฉันมองไป

– มีก็อบลินสองตัวอยู่ข้างหน้า พวกมันไม่สามารถมองเห็นได้ดีเพราะฝุ่น เหวี่ยงดาบของนายอย่างรวดเร็วตรงหน้าพวกมัน

หัวใจของฉันเต้นเร็วกว่าเดิม

แต่ละวินาทีรู้สึกช้าลง

– ดาบศักดิ์สิทธิ์นั่นส่องแสงได้ แต่ก็สามารถหลบเลี่ยงได้เช่นกัน มองคู่ต่อสู้ของนายด้วยดาบและช่วงชิงจังหวะจากคู่ต่อสู้ของนาย

และแต่ละวินาทีก็เร็วกว่าหัวใจของฉัน

– พวกมันอยู่ที่นี่แล้ว

ดาบของฉันน่าจะเร็วกว่าฉันเป็นวินาที

– ไปกันเถอะ คู่หู

แบ ฮุรยองยืนอยู่ข้างๆฉัน

– ถึงเวลาเป็นฮีโร่แล้ว

ฉันเหวี่ยงดาบของฉัน เลือดไหลนองไปทุกที่

– กี้!!!!!!

ก็อบลินกรีดร้อง ในหนึ่งวินาทีของฉัน เสียงกรีดร้องไม่หยุดลง

– เสร็จไปหนึ่ง

เลือดกระจายอยู่ในอากาศ มันเป็นสีเดียวกับสายฝน ฉันจับดาบแน่นกว่าเดิม และเหวี่ยงมันออกไป

– กี้!!!!!!!!!

สอง

ก่อนที่ก็อบลินตัวที่หนึ่งจะล้มลง ฉันก็ตัดก็อบลินตัวที่สอง มันแทบจะในทันที เลือดไหลจากขวาและซ้ายของฉัน มอนสเตอร์ตะโกนโดยที่ไม่สามารถมองเห็นดาบของฉันได้

ฉันฆ่าตัวหนึ่งและอีกตัวหนึ่ง

– อ๊อกกกกกกก!

 

– โออออออออ!

 

– กี้!

ก่อนที่มอนสเตอร์จะกรีดร้องเสร็จมอนสเตอร์อีกตัวก็กรีดร้องตามมา

เสียงกรีดร้องรอบตัวฉันยังไม่ได้หยุดลง

 

ท่วงทำนองการประพันธ์โดยดาบของฉัน

ฉันสั่งพวกเขาด้วยไม้บาตองของฉัน*

– ผ่านไป 1 วินาที

แบ ฮุรยองพูด

– อย่าหุบแขนตอนตวัดดาบ กงจา อย่าแบ่งช่วงการโจมตีแต่ละครั้ง เชื่อมโยงมัน

ฉันเหวี่ยงดาบของฉัน

– ตัดจากด้านบนลงล่าง คิดสิ มันไม่ต่างจากดนตรี เมื่อโทนเสียงลดลงก็สามารถดึงกลับขึ้นมาได้

เสียงกรีดร้องดังขึ้น

– เชื่อมโยง! หากดาบของนายอยู่ต่ำก็ให้ยกกลับขึ้นมาอีกครั้ง นั่นคือวิธีเชื่อมต่อโยงดาบของนาย

อีกวินาทีผ่านไป

– ดาบคือการต่อสู้แห่งกาลเวลา! ถ้าเหวี่ยงครั้งเดียวแล้วจบมันก็ไม่ใช่ดาบ คนที่มีทักษะมากกว่านี้จะควบคุมได้ 5 วินาที

ศัตรูกระอักเลือดออกมา

และฉันก็พ่นลมหายใจออกมา

– อย่าเสียเวลา!

ก่อนที่เลือดจะไหลริน และลมหายใจของฉันก็จางหายไป

– ห้ามเสียเวลาโดยเด็ดขาด! เพียงเพราะนายตัดศัตรูของนายมันก็ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างได้จบแล้ว นายต้องรู้ว่าจะฟันที่ไหนต่อไป! อย่าเสียไปแม้แต่วินาทีเดียว จงใช้ชีวิตอยู่กับมัน

ใบดาบเหวี่ยงไปมาระหว่างลมหายใจของฉันและเลือดของศัตรู

– ผู้ใช้ดาบมีชีวิตได้ด้วยดาบของพวกเขา

ฉันเหวี่ยงดาบของฉัน

– นายคิดว่าการมีชีวิตอยู่เป็นเรื่องง่ายหรือไง? นายต้องการจะกลับไปใช่ไหม?

ฉันเหวี่ยงดาบของฉัน

– ผู้คนไม่ได้มีชีวิตเมื่อพวกเขาใช้เวลา กงจา นายเป็นนักดาบ ดังนั้นนายต้องมีชีวิตอยู่ด้วยดาบของนายเอง

ฉันเหวี่ยงดาบอีกครั้ง

– ฆ่ามันซะ!

ก็อบลินข่วนฉันและมีเลือดไหลออกมาจากแขนของฉัน อา ฉันรู้สึกเวียนหัว แม้จะเจ็บปวด ฉันก็ยังเหวี่ยงดาบและมองไปข้างหน้า

– เคี๊ยกกกกก!

– กรรรรรรร กรร…..

– กรูววววววว!

มอนสเตอร์มากมายนับไม่ถ้วน

มอนสเตอร์หลั่งไหลออกมาจากฝุ่นหนา ศัตรูนับไม่ถ้วนและความชั่วร้ายนับไม่ถ้วน พวกมันทุกตัวพยายามที่จะฆ่าฉัน

– 10 วินาทีแล้ว

นี่คือ 10 วินาที เวลาเพียง 10 วินาที

– ฆ่าอีก กงจา อย่าทำให้ชีวิตของนายเสียเปล่าและฆ่าพวกมันซะ

ฉันจับดาบไว้แน่น

– ถึงเวลาแสดงให้เห็นแล้วว่านายเป็นใคร

ฉันคำราม

ในรอยแยกของกำแพงเมือง เสียงตะโกนของฉันดังก้อง ทหารที่อยู่ด้านบนสะดุ้ง มอนสเตอร์ที่มาจากที่ไกลๆหยุดไปชั่วขณะ

– ช่าย นี่แหละ

แบ ฮุรยองหัวเราะคิกคัก

– ตอนนี้นายไม่ได้เป็นซอมบี้แล้ว หึหึ!

ฉันวิ่งไปข้างหน้า

– กรู๋ว?

ฉันโจมตีเท้าของก็อบลินที่หยุดเป็นตัวแรก ก่อนที่มันจะทันตอบสนอง มันก็ตายไปแล้ว

หัวของก็อบลินกระเด็นไปพร้อมกับอ้าปากค้าง

ฉันเหวี่ยงดาบของฉัน

– กรรรร กรร

และถัดมาเป็นออร์คที่ยืนงุนงงอยู่ข้างๆ ก่อนที่มันจะยกกระบอง ฉันตวัดดาบลงมา เลือดไหลออกมาเหมือนน้ำพุ

ฉันเหวี่ยงดาบของฉัน

‘อีกสักนิด’

โครงกระดูก

‘แค่อีกสักนิด’

และก็อบลิน

‘มากกว่านี้’

ออร์คนับไม่ถ้วน

‘มากกว่านี้! แค่อีกสักนิด!’

ที่มอนสเตอร์จำนวนมากมายมหาศาล

‘มองสิ!’

ฉันเหวี่ยงดาบ

‘มองที่ฉันสิ!’

ฉันยังมีชีวิตอยู่

ฉันยังมีชีวิตอยู่เมื่อฉันเหวี่ยงดาบ

ออร์คปรากฏตัวจากฝุ่นหนาสีแดง

หนึ่งครั้ง สองครั้ง ทุกครั้งที่มอนสเตอร์เคลื่อนไหว ลมก็จะพัดไปหาพวกมัน

ในฝุ่นหนาของออร์ค ก็อบลินเข้ามา จากนั้นมันก็ตายพร้อมกับเสียงกระดูกที่หักเป็นเสี่ยงๆ

ใช่ ถูกต้องแล้ว พวกมันไม่มีความสนิทสนมกันเลย ไม่มีความสงสารและความรักต่อกัน

เพราะอย่างนั้นพวกมันจึงเป็นสัตว์ร้าย

สัตว์ร้ายที่น่ารังเกียจ

– หูววววววววววว!

สัตว์ร้ายร้องอย่างโกรธเกรี้ยว

มันแยกเขี้ยวใส่ฉัน

‘เข้ามา’

และที่นี่ มีฮันเตอร์คนหนึ่ง

มีฮันเตอร์คนหนึ่งวิ่งไล่ตามสัตว์ร้าย

‘ฉันจะแสดงให้แกเห็น’

ตู้ม!

โอเกอร์(Orge) ก้าวไปข้างหน้า

กำแพงเมืองเริ่มพังลง

ตู้ม!

 

สัตว์ร้ายที่น่ารังเกียจก้าวไปอีกก้าว ทุกครั้งที่ก้าวไปข้างหน้า พื้นดินก็สั่นสะเทือน กำแพงเมืองพังลงมา พวกโอเกอร์ที่ทำให้พื้นดินสั่นไหวมุ่งหน้ามาทางนี้

– วางเท้าของนายลงบนพื้น

ถึงอย่างนั้นก็ตาม

– แล้วมองไปข้างหน้า

สิ่งที่ฉันต้องทำก็ไม่เปลี่ยนแปลง

– ตัดศัตรูของนายด้วยดาบ

ฉันวิ่งไปที่มอนสเตอร์

ตู้ม!

สัตว์ร้ายขนาดยักษ์ก้าวมาข้างหน้า ฉันเล็งไว้ในจังหวะนั้น เมื่อมันยกกระบอฃขึ้นมาจะตีฉัน ฉันก็หมุนดาบไปข้างหน้า

แสงสีขาว

แสงของดาบศักดิ์สิทธิ์ส่องเข้าที่ตาของพวกโอเกอร์

– กูวววว!

ร่างกายของเหล่าโอเกอร์ได้หยุดชะงัก

มันยากสำหรับพวกโอเกอร์ที่จะเปลี่ยนทิศทางของพวกมัน

‘ทำไม’

ตอนที่ฉันโจมตีพวกโอเกอร์ ฉันกำลังคิดอะไรบางอย่าง

‘ทำไมพวกเขาถึงมอบสกิลคลาส EX ให้กับไอ้คนแบบนั้น’

ไอ้ยู ซูฮา

ทำไมหอคอยถึงให้สกิลแรร์แบบนี้กับเขา….

‘ไม่จำเป็นต้องเป็นโคตรนักบุญ แค่เป็นคนที่ปกตืกว่านี้ ถ้ามอบให้คนแบบนั้นก็คงไม่เป็นไร แต่ทำไม ำทำไมถึงให้กับไอ้โรคจิตนั่น’

กระบองของโอเกอร์เฉียดจมูกของฉันไป

มันพลาดเพราะมันตาพร่าจากแสง

โชคดีที่มีจุดบอด

‘โอ้…นั่นน่ะเหรอ?’

Comment

Options

not work with dark mode
Reset