SSS-Class Suicide Hunter – ตอนที่ 7: เอกลักษณ์การพูดคนเดียว (1)

 

ฉันค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเซียนดาบบนโทรศัพท์ของฉัน

 

– แต่เดิมมีการกล่าวกันว่าเขาเป็นผู้อาวุโสจากกลุ่มชาวยุโรปเหนือที่ร่ำรวย

 

– ชื่อจริงของเขาคือมาร์คัส คาเลนเบอร์รี่ มันค่อนข้างน่าเสียใจ แต่มีการกล่าวกันว่าเขายอมทิ้งครอบครัว ความสัมพันธ์และโชคลาภและเข้ามาในหอคอยทั้งหมดด้วยตัวคนเดียว

 

– ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าเขามีสกิลอะไร

 

– มีข่าวลือว่าเขามีนิสัยชอบพูดพึมพำกับตัวเองคนเดียว

 

ฉันเดาะลิ้นของฉัน

 

“ไม่มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์เลย”

 

ฉันมองหาวิดีโอสัมภาษณ์ แต่ไม่พบแม้แต่วิดีโอเดียว เห็นได้ชัดว่าชายชราคนนี้ตรงกันข้ามกับจักรพรรดิเพลิงโดยสิ้นเชิง แม้ว่าเขาจะขึ้นชื่อว่ามีบุคลิกที่ไม่ดี แต่ข้อมูลของเขาก็สามารถหาพบได้ทางอินเทอร์เน็ต

 

ในทางกลับกัน เซียนดาบนั้นเป็นคนลึกลับ

 

ข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับเซียนดาบนั้นคลุมเครือมาก เห็นได้ชัดว่าเขามาจากครอบครัวที่ร่ำรวยขนาดใหญ่ คาดว่าจะเข้ามาในหอคอยด้วยตัวเขาเองและมีข่าวลือว่าเขาชอบพูดกับตัวเอง ข้อมูลทั้งหมดเป็นเพียงการคาดเดา

 

‘อะไรนะ?’

 

ฉันหันหน้าไปที่โต๊ะตรงมุมห้อง ที่นั่นเซียนดาบนั่งอยู่คนเดียว กำลังดื่มวอดก้าผสมนมของเขา

 

‘อย่างน้อยข้อมูลที่เขาชอบคุยกับตัวเองก็ถูกต้อง’

 

ชายชราที่มีเซนส์ด้านแฟชั่นแปลกๆ นั่งที่โต๊ะพร้อมกับเครื่องดื่มแปลกๆของเขาและดูเหมือนจะพูดพึมพำกับตัวเองระหว่างจิบเหล้า

 

“หุบปาก อย่าเสียงดังมาก ในตอนแรกเป็นนายต่างหากที่…”

 

พึมพำ

 

ฉันฟังไม่ออกว่าชายชราพูดอะไร แต่ดูเหมือนเขาจะถ่มน้ำลายกับทุกคำที่เขาพูด มันเป็นฉากที่น่าสยดสยองและฉันอดไม่ได้ที่จะตกใจเล็กน้อย

 

‘เขาเป็นโรคจิตหรือเปล่า?’

 

ฮันเตอร์อันดับหนึ่งเป็นโรคจิต นั่นก็น่ากลัวอยู่แล้ว มันเหมือนมีระเบิดนิวเคลียร์และไม่รู้ว่ามันจะระเบิดเมื่อไหร่

 

‘…ไม่ ถ้านายคิดอย่างนั้น ยู ซูฮาก็เคยเป็นโรคจิตเหมือนกัน’

 

บางทีหนึ่งในเงื่อนไขที่จะกลายเป็นอันดับหนึ่งคือการป่วยทางจิต

 

‘พวกอันดับท็อปเกือบทั้งหมดเป็นโรคจิต’

 

ฉันส่ายหัวและท่องอินเทอร์เน็ตเพื่อหาข้อมูล อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่เป็นการคาดเดาล้วนๆ แต่เมื่อฉันมองไปเรื่อยๆโพสต์ในฟอรัมก็ดึงดูดสายตาของฉัน

 

– [ระวัง!] คำที่คุณไม่ควรพูดต่อหน้าเซียนดาบ!

 

‘ฮืม?’

 

มันเป็นชื่อที่น่าสนใจ กระทู้นี้ถูกโพสต์ในเว็บไซต์สมาคมฮันเตอร์พิเศษ สถานที่เล่น แชท และแบ่งปันข้อมูลที่สามารถเข้าถึงได้เฉพาะผู้ที่มีหนังสือรับรองฮันเตอร์ของสำนักงานเท่านั้น โพสต์ดังกล่าวถูกโพสต์โดยไม่ระบุชื่อ

 

– ฉันเห็นมันด้วยตัวเอง มีคำศัพท์ที่คุณไม่ควรพูดต่อหน้าเซียนดาบ เว้นแต่คุณจะอยากตาย!

 

└ คำพูดอะไร?

└ทุกอย่างเกี่ยวกับครอบครัวของเขา ไม่กี่วันที่ผ่านมาฮันเตอรระดับสูงสองสามคนกำลังต่อสู้กับเซียนดาบและหนึ่งในนั้นพูดว่า

 

‘ดูสารรูปของแกในตอนนี้สิ ลูกหลานที่อยู่ข้างนอกของแกต้องกำลังเดือดร้อนแน่ๆ’

 

‘ฉันพนันได้เลยว่าแกชอบอยู่คนเดียวเพราะพวกเขาไม่กล้าให้แกอยู่ใกล้ๆ ‘

 

‘พวกเขาจะอายแค่ไหนถ้าเห็นแกทำตัวแบบนี้’

 

– แล้วเขาก็ตาย!

 

└อะไรนะ? ตาย?!

└ใช่ เขาถูกฆ่าตาย อันที่จริงเขาทำได้เพียงพูดว่า ‘หลานของแกจะอายแค่ไหน…’ ก่อนที่เขาจะถูกเชือดคอ หัวของเขาถูกแยกออกจากร่างกายในทันที

 

ความคิดเห็นหลังจากนั้นตามมาไม่หยุดหย่อน

 

– บ้าน่า

 

– นี่อาจเป็นข่าวลือที่สร้างขึ้นโดยกิลด์ใหญ่พวกนั้น!

 

– เขาประสบความสำเร็จมากจนมีคนพยายามเหยียบย่ำเขาลงมา

 

คนส่วนใหญ่ที่ตอบว่าไม่เชื่อ แต่นักเขียนนิรนามก็ยังคงยืนกราน

 

– เชื่อหรือไม่ฉันไม่สน! ฉันรู้สึกอยากจะบอกพวกนาย ดังนั้นฉันจึงบอกพวกนาย

 

– แน่นอนฉันไม่ได้บอกว่าเซียนดาบผิด ผู้ชายคนนั้นผิดเองที่พูดถึงครอบครัวของเขา อย่างไรก็ตามเป็นที่แน่นอนว่าผู้มีอำนาจระดับสูงเพียงไม่กี่คนเหล่านั้นกำลังรวมตัวเล่นงานเขาเนื่องจากเหตุการณ์นี้ คุณสามารถเห็นได้จากการเหยียดหยามอย่างต่อเนื่องที่มุ่งตรงมาที่เขาในสื่อทุกวันนี้

 

– ถ้าคุณเคยพบเซียนดาบ คุณควรลองดู

 

“ …เสียงดังเกินไป ฉันจะดูแลตัวฉันเอง ดังนั้นปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียวเถอะ”

 

ชายชราพึมพำกับตัวเองตั้งแต่เขานั่งที่โต๊ะ ดูเหมือนว่าเขามีอาการป่วยทางจิตจริงๆ อย่างไรก็ตามแม้ว่าเขาจะป่วยเป็นโรคจิต แต่เขาก็ยังคงยืนอยู่ที่จุดสูงสุดของโลก ความจริงที่ว่าชายชราผู้บ้าคลั่งคนนี้มีสกิลที่ยอดเยี่ยมเหนือจินตนาการยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

 

‘ดี’

 

และนั่นก็ดีพอสำหรับฉัน

 

‘มันคุ้มค่าที่จะลองเสี่ยงดู’

 

“เป็นเครื่องดื่มที่ดี”

 

“อ่า เดินทางปลอดภัย!”

 

เซียนดาบดื่มจนหมดแก้วของเขา

 

ทันทีที่เขาออกจากโรงเตี๊ยม ลูกค้าทุกคนต่างก็พากันถอนหายใจออกมา

 

“ในที่สุดเขาก็ไปเสียที”

 

“เขาต้องเป็นโรคสมองเสื่อมแน่ๆ ทำไมเขาถึงพูดพึมพำแบบนั้น?”

 

“ฉันก็คิดแบบนั้น จะว่าไปแอลกอฮอล์มันเสียรสชาติหมดแล้ว…”

 

ลูกค้าทุกคนคงรอให้เซียนดาบจากไปเพราะพวกเขาต่างก็ลุกขึ้นยืนเพื่อออกไปในเวลาเดียวกันกับฉัน

 

อย่างไรก็ตาม ความตั้งใจของเราอาจตรงข้ามกัน

 

“นี่คือค่าเบียร์ของฉัน”

 

ฉันลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและชำระเงินกับเจ้าของร้าน ฉันไม่มีเวลาที่จะเสียเปล่า

 

“อ่าใช่ ขอบคุณ แล้วมาอีกนะ!”

 

“เบียร์อร่อยมาก ผมจะมา”

 

กริ๊ง!

 

เสียงกระดิ่งที่ประตูดังขึ้นเมื่อฉันเปิดและก้าวออกไป

 

เป็นเวลาดึกและความมืดปกคลุมท้องถนน

 

‘เขาไปไหนกัน…?’

 

ฉันมองไปรอบๆ มีผู้คนมากมายออกมาจากผับบนถนน หลายสิบคนหัวเราะและเดินโซเซไปมาขณะที่พวกเขาสนุกกับผลลัพธ์ของแอลกอฮอล์ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน

 

“คุณอยู่ที่ไหนกันนะ คุณอันดับหนึ่ง?”

 

โชคดีที่หลังจากมองไปรอบๆ ฉันก็พบแผ่นหลังที่ต้องการ

 

‘เจอแล้ว!’

 

ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณชุดที่แปลกตาของเขา เขาอาจเป็นผู้ชายคนเดียวในบาบิโลนที่สวมสูทและถือดาบ ฉันรีบรวบรวมสติของตัวเองและเริ่มตามชายชราไป

 

‘คุณมีสกิลอะไรกันนะ?’

 

หัวใจของฉันเต้นแรง

 

‘จักรพรรดิเพลิงมีสกิลย้อนเวลาที่ไร้สาระซึ่งเป็นสกิลแร้งก์ Ex แล้ว เซียนดาบที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคก่อนจะมีสกิลอะไรได้บ้าง? เขาจะไม่มีสกิลที่โกงไปกว่านี้อีกหรือ?’

 

สกิลนั้นจะกลายเป็นของฉันในไม่ช้า ถ้าฉันโชคดี

 

….

 

ฉันไล่ตามชายชราคนนี้กลับมานานแค่ไหนแล้ว?

 

เราออกจากใจกลางเมืองมานานแล้วและเริ่มเดินผ่านทางตรอกซอกซอย ขณะที่ฉันตามเขาไปเรื่อ ๆ เราออกจากตรอกซอกซอยและถนนเปี่ยวและเข้าสู่เขตชานเมือง ที่นี่เป็นทุ่งหญ้าที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้างหรือร่องรอยการก่อสร้างใดๆ

 

เซียนดาบเดินผ่านทุ่งหญ้าที่ว่างเปล่านี้

 

“ฮืม”

 

ฉันเดินไปอีกเล็กน้อยก่อนจะหยุดอยู่หลังต้นไม้

 

“สถานที่นี้น่าจะเหมาะสมพอ”

 

เซียนดาบหันกลับมาพร้อมกับแสงดาวอาบร่างชราของเขา

 

“ทำไมถึงไม่ออกมาล่ะ พ่อหนุ่ม”

 

“…”

 

“ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในที่แห่งนี้”

 

เขาจ้องมองไปที่ต้นไม้ที่ฉันซ่อนอยู่ด้านหลัง และฉันก็ถอนหายใจอยู่ในใจ

 

‘เขาจับฉันได้’

 

ฉันน่าจะคาดไว้ก่อน จากจุดเริ่มต้นมันเป็นเรื่องไม่สมควรที่จะคิดว่าฮันเตอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดจะไม่รู้ว่าเขากำลังถูกตามโดยฮันเตอร์คลาสต่ำอย่างฉัน

 

ฉันทำได้เพียงโทษความไร้ความสามารถของตัวเองขณะที่ฉันเดินออกมาจากหลังต้นไม้

 

“อ่า ขอโทษนะครับ มีบางอย่างที่ผมอยากจะถามคุณ คุณเซียนดาบ”

 

ฉันพยายามพูดอย่างสุภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ด้วยเหตุผลบางประการ เซียนดาบหัวเราะ

 

“ฮะ แกไม่ได้ตามฉันตลอดเวลาอยู่แล้วหรือ ฉันไม่รู้ว่าทำไมแกถึงกลัวที่จะถามคำถามกับชายชราคนนี้”

 

“…”

 

หา?

 

ด้วยเหตุผลบางอย่าง ดูเหมือนว่าเซียนดาบจะเชื่อว่าฉันจงใจแกล้งทำเป็นกลัว นอกจากนี้ตั้งแต่เขาหันกลับมา เซียนดาบก็ไม่ยอมปล่อยมือจากดาบของเขาแม้ว่าฉันจะไม่ได้ทำอะไรเลยก็ตาม ดูเหมือนว่าเขาพร้อมที่จะโจมตีได้ทุกเมื่อ

 

‘เอ่อ ทำไมล่ะ?’

 

แน่นอนว่านี่เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับฉันเนื่องจากจุดประสงค์ของฉันคือให้เขาฆ่าฉันอยู่ดี

 

‘แต่ฉันไม่ได้ทำอย่างอื่นนอกจากแอบตามเขา…’

 

ไม่ว่าเขาจะรู้ความตั้งใจของฉันหรือไม่ก็ตาม เซียนดาบดูเหมือนว่าพร้อมที่จะจบชีวิตของฉัน ราวกับว่าในสายตาของเขาฉันตายไปแล้วและเขาก็แค่เล่นตลกกับฉัน

 

“…การแสดงของแกยอดเยี่ยมมาก แน่นอน แกต้องเป็นนักฆ่าที่น่าทึ่ง”

 

“…ครับ?”

 

“แกไม่จำเป็นต้องแสร้งทำเป็นว่าแกไม่รู้ ฮันเตอร์คนอื่นอาจตกหลุมพลาง แต่แกไม่สามารถหลอกสายตาของฉันได้ ฉันรู้ว่าแกเป็นมือสังหารที่กิลด์มังกรดำส่งมา”

 

เอ่อ…

 

ตาแก่ คุณคงเข้าใจผิดแล้วจริงๆ

 

‘ฉันควรจะให้เป็นแบบนี้ต่อดีมั้ย?’

 

ไม่ว่ายังไงวิธีนี้ก็ได้ผลเช่นกัน ฉันไม่ต้องพูดถึงหลานของเขาให้เขาฆ่าฉัน แม้ว่าฉันจะไม่เข้าใจว่าเขาเข้าใจผิดว่าฮันเตอร์คลาส F อย่างฉันเป็นมือสังหารได้อย่างไร ว่าตามตรง ฉันไม่เข้าใจ

 

“อะฮ้า! แกนี่มันน่ารังเกียจจริงๆ มาที่นี่และเผยตัวต่อหน้าฉันซะ!”

 

เซียนดาบมองมาที่ฉันด้วยปากที่บิดเบี้ยวราวกับจ้องมองสัตว์ประหลาดที่เขาต้องกำจัด มันเป็นความรู้สึกแปลกๆที่ฉันไม่เข้าใจ

 

“ฉันไม่ได้บอกแกแล้วเหรอ แกไม่สามารถหลอกสายตาของฉันได้”

 

“เอ่อ… ท่านครับ มีบางอย่างที่ผมอยากจะถามคุณจริงๆ…”

 

ในที่สุดฉันก็ได้ถามในสิ่งที่ฉันอยากรู้

 

“อะไรทำให้คุณมั่นใจมากว่าฉันเป็นมือสังหาร? ฉันไม่ทำอะไรที่ทำให้คุณคิดแบบนั้นเลย”

 

“หุบปาก”

 

ชิ้ง!

 

เซียนดาบดึงดาบที่ข้างตัวของเขาออกมา

 

“ฉันมีสกิลมากมาย ในหมู่พวกมันเป็นสกิลที่บอกคนคนนั้นฆ่าไปกี่คน ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงสามารถหลีกเลี่ยงวิกฤตต่างๆมาได้”

 

“…”

 

อะไรนะ? ฉันยังคงไม่เข้าใจ

 

‘อา’

 

หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีฉันก็รู้ตัว

 

ถูกตัอง

 

วันนี้ฉันฆ่ายู ซูฮาเพราะฉันรู้ว่าเขากำลังจะกลายเป็นสัตว์ร้าย แต่ผู้คนในยุคนี้ไม่รู้ ดังนั้นตอนนี้ฉันจึงเป็นฆาตกร

 

ต่างจากโลกภายนอกตรงที่มีการฆาตกรรมเกิดขึ้นบ่อยครั้งภายในหอคอย

 

‘แต่การฆ่าคนก็ยังเป็นการฆ่าคน’

 

กล่าวอีกนัยหนึ่งในสายตาของเซียนดาบอาจมีตัวเลข [1] ลอยอยู่เหนือหัวของฉัน ตัวเลข [1] จะเป็นตัวบ่งชี้การฆาตกรรมที่โดดเด่นดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ เซียนดาบจะคอยระแวงฉัน

 

“ครับ ผมเข้าใจครับคุณเซียนดาบ”

 

“ฮืมม”

 

“แม้ว่าคุณจะระแวงผมและผมก็ไม่มีอะไรจะพูดกับเรื่องนั้น คุณสามารถนำไปเป็นข้ออ้าง แต่ได้โปรดช่วยรับฟังผม ผมตามคุณเพราะเหตุผลสำคัญ ผมไม่สามารถบอกคุณได้ว่ามันคืออะไรกันแน่ แต่เป็นเหตุผลที่สำคัญอย่างยิ่ง ผมสาบานกับสวรรค์ได้”

 

มันเป็นคำพูดที่จริงใจ แต่สถานการณ์กลับแปลกประหลาดแทนที่จะดีขึ้น ขณะที่เขาฟังคำพูดเบาๆของฉัน การแสดงออกของเซียนดาบก็แย่ลงเรื่อยๆ

 

“น่าขยะแขยง”

 

“ครับ?”

 

“ปีศาจที่สังหารผู้คนได้มากขนาดนี้กล้าลงมือด้วยวิธีนี้ ฉันไม่ได้ใช้ชีวิตที่ขาวสะอาด แต่…ฉันไม่เคยสังหารหมู่ผู้คนอย่างบ้าบิ่นได้อย่างแก!”

 

คำพูดของเขาทำให้ฉันสับสนและอึดอัดในเวลาเดียวกัน

 

“ไม่ เดี๋ยวก่อน สังหารหมู่? ผมเคยฆ่าคนเพียงคนเดียวตลอดทั้งชีวิต”

 

“แกเป็นคนไร้ยางอายจริงๆที่พูดเรื่องโกหกอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้!”

 

ชิ้ง!

 

เซียนดาบชี้ปลายดาบของเขามาทางฉันแล้วพูดว่า

 

“ฉันเห็นตัวเลข [4091] ลอยอยู่เหนือหัวของแก”

 

ฉันตกตะลึง

 

“เชี่ยอะไรเนี่…”

 

ฉันพยายามพูดว่า “เชี่ยอะไรเนี่ย” แต่คำพูดของฉันถูกตัดบทเมื่อฉันตระหนักได้ว่าตัวเลข 4091 มาจากไหน

 

‘อา’

 

มันมาจากที่ครั้งหนึ่งฉันฆ่ายู ซูฮา

 

และ

 

‘เป็นจำนวนครั้งที่ฉันฆ่าตัวตาย’

 

4090 ครั้ง

 

จำนวนครั้งที่ฉันฆ่าตัวตายแบบเป๊ะๆ

 

“เตรียมรับมือ เจ้าปีศาจ!”

 

ถ้าเป็นเช่นนั้น

 

“ฉันไม่รู้ว่าแม่มดมังกรดำที่ส่งแกมาหรือเป็นคนอื่น แต่ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อฆ่าแก!”

 

หมายความว่าในสายตาของชายชราคนนั้นฉันไม่ได้เป็นเพียงฆาตกรที่เข่นฆ่ามนุษย์ 4091 คน ความเย็นซ่านแผ่ลงไปถึงกระดูกสันหลังของฉัน

 

‘ไม่’

 

นี่เป็นปัญหาร้ายแรง

 

‘มันไม่ใช่แค่การคัดลอกสกิลของเซียนดาบอีกต่อไป”

 

ถูกต้อง

 

‘ทุกเมื่อในอนาคต…ถ้าเซียนดาบเห็นฉัน เขาจะพยายามฆ่าฉัน’

 

เพราะในสายตาของเขาฉันเป็นฆาตกรที่น่ารังเกียจซึ่งไม่ควรปล่อยให้มีชีวิตรอดในโลกนี้เช่นเดียวกับไวรัสมรณะ

 

“ดะ – เดี๋ยวก่อน!”

 

ฉันเอื้อมมือออกไป

 

“กรุณารอสัก…”

 

ในขณะนั้น

 

ดาบของเซียนดาบพุ่งเข้าหาฉันด้วยความเร็วที่ไม่อาจหยุดยั้งได้

SSS-Class Suicide Hunter – ตอนที่ 7: เอกลักษณ์การพูดคนเดียว (1)

SSS-Class Suicide Hunter – ตอนที่ 7: เอกลักษณ์การพูดคนเดียว (1)

 

ฉันค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเซียนดาบบนโทรศัพท์ของฉัน

 

– แต่เดิมมีการกล่าวกันว่าเขาเป็นผู้อาวุโสจากกลุ่มชาวยุโรปเหนือที่ร่ำรวย

 

– ชื่อจริงของเขาคือมาร์คัส คาเลนเบอร์รี่ มันค่อนข้างน่าเสียใจ แต่มีการกล่าวกันว่าเขายอมทิ้งครอบครัว ความสัมพันธ์และโชคลาภและเข้ามาในหอคอยทั้งหมดด้วยตัวคนเดียว

 

– ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าเขามีสกิลอะไร

 

– มีข่าวลือว่าเขามีนิสัยชอบพูดพึมพำกับตัวเองคนเดียว

 

ฉันเดาะลิ้นของฉัน

 

“ไม่มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์เลย”

 

ฉันมองหาวิดีโอสัมภาษณ์ แต่ไม่พบแม้แต่วิดีโอเดียว เห็นได้ชัดว่าชายชราคนนี้ตรงกันข้ามกับจักรพรรดิเพลิงโดยสิ้นเชิง แม้ว่าเขาจะขึ้นชื่อว่ามีบุคลิกที่ไม่ดี แต่ข้อมูลของเขาก็สามารถหาพบได้ทางอินเทอร์เน็ต

 

ในทางกลับกัน เซียนดาบนั้นเป็นคนลึกลับ

 

ข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับเซียนดาบนั้นคลุมเครือมาก เห็นได้ชัดว่าเขามาจากครอบครัวที่ร่ำรวยขนาดใหญ่ คาดว่าจะเข้ามาในหอคอยด้วยตัวเขาเองและมีข่าวลือว่าเขาชอบพูดกับตัวเอง ข้อมูลทั้งหมดเป็นเพียงการคาดเดา

 

‘อะไรนะ?’

 

ฉันหันหน้าไปที่โต๊ะตรงมุมห้อง ที่นั่นเซียนดาบนั่งอยู่คนเดียว กำลังดื่มวอดก้าผสมนมของเขา

 

‘อย่างน้อยข้อมูลที่เขาชอบคุยกับตัวเองก็ถูกต้อง’

 

ชายชราที่มีเซนส์ด้านแฟชั่นแปลกๆ นั่งที่โต๊ะพร้อมกับเครื่องดื่มแปลกๆของเขาและดูเหมือนจะพูดพึมพำกับตัวเองระหว่างจิบเหล้า

 

“หุบปาก อย่าเสียงดังมาก ในตอนแรกเป็นนายต่างหากที่…”

 

พึมพำ

 

ฉันฟังไม่ออกว่าชายชราพูดอะไร แต่ดูเหมือนเขาจะถ่มน้ำลายกับทุกคำที่เขาพูด มันเป็นฉากที่น่าสยดสยองและฉันอดไม่ได้ที่จะตกใจเล็กน้อย

 

‘เขาเป็นโรคจิตหรือเปล่า?’

 

ฮันเตอร์อันดับหนึ่งเป็นโรคจิต นั่นก็น่ากลัวอยู่แล้ว มันเหมือนมีระเบิดนิวเคลียร์และไม่รู้ว่ามันจะระเบิดเมื่อไหร่

 

‘…ไม่ ถ้านายคิดอย่างนั้น ยู ซูฮาก็เคยเป็นโรคจิตเหมือนกัน’

 

บางทีหนึ่งในเงื่อนไขที่จะกลายเป็นอันดับหนึ่งคือการป่วยทางจิต

 

‘พวกอันดับท็อปเกือบทั้งหมดเป็นโรคจิต’

 

ฉันส่ายหัวและท่องอินเทอร์เน็ตเพื่อหาข้อมูล อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่เป็นการคาดเดาล้วนๆ แต่เมื่อฉันมองไปเรื่อยๆโพสต์ในฟอรัมก็ดึงดูดสายตาของฉัน

 

– [ระวัง!] คำที่คุณไม่ควรพูดต่อหน้าเซียนดาบ!

 

‘ฮืม?’

 

มันเป็นชื่อที่น่าสนใจ กระทู้นี้ถูกโพสต์ในเว็บไซต์สมาคมฮันเตอร์พิเศษ สถานที่เล่น แชท และแบ่งปันข้อมูลที่สามารถเข้าถึงได้เฉพาะผู้ที่มีหนังสือรับรองฮันเตอร์ของสำนักงานเท่านั้น โพสต์ดังกล่าวถูกโพสต์โดยไม่ระบุชื่อ

 

– ฉันเห็นมันด้วยตัวเอง มีคำศัพท์ที่คุณไม่ควรพูดต่อหน้าเซียนดาบ เว้นแต่คุณจะอยากตาย!

 

└ คำพูดอะไร?

└ทุกอย่างเกี่ยวกับครอบครัวของเขา ไม่กี่วันที่ผ่านมาฮันเตอรระดับสูงสองสามคนกำลังต่อสู้กับเซียนดาบและหนึ่งในนั้นพูดว่า

 

‘ดูสารรูปของแกในตอนนี้สิ ลูกหลานที่อยู่ข้างนอกของแกต้องกำลังเดือดร้อนแน่ๆ’

 

‘ฉันพนันได้เลยว่าแกชอบอยู่คนเดียวเพราะพวกเขาไม่กล้าให้แกอยู่ใกล้ๆ ‘

 

‘พวกเขาจะอายแค่ไหนถ้าเห็นแกทำตัวแบบนี้’

 

– แล้วเขาก็ตาย!

 

└อะไรนะ? ตาย?!

└ใช่ เขาถูกฆ่าตาย อันที่จริงเขาทำได้เพียงพูดว่า ‘หลานของแกจะอายแค่ไหน…’ ก่อนที่เขาจะถูกเชือดคอ หัวของเขาถูกแยกออกจากร่างกายในทันที

 

ความคิดเห็นหลังจากนั้นตามมาไม่หยุดหย่อน

 

– บ้าน่า

 

– นี่อาจเป็นข่าวลือที่สร้างขึ้นโดยกิลด์ใหญ่พวกนั้น!

 

– เขาประสบความสำเร็จมากจนมีคนพยายามเหยียบย่ำเขาลงมา

 

คนส่วนใหญ่ที่ตอบว่าไม่เชื่อ แต่นักเขียนนิรนามก็ยังคงยืนกราน

 

– เชื่อหรือไม่ฉันไม่สน! ฉันรู้สึกอยากจะบอกพวกนาย ดังนั้นฉันจึงบอกพวกนาย

 

– แน่นอนฉันไม่ได้บอกว่าเซียนดาบผิด ผู้ชายคนนั้นผิดเองที่พูดถึงครอบครัวของเขา อย่างไรก็ตามเป็นที่แน่นอนว่าผู้มีอำนาจระดับสูงเพียงไม่กี่คนเหล่านั้นกำลังรวมตัวเล่นงานเขาเนื่องจากเหตุการณ์นี้ คุณสามารถเห็นได้จากการเหยียดหยามอย่างต่อเนื่องที่มุ่งตรงมาที่เขาในสื่อทุกวันนี้

 

– ถ้าคุณเคยพบเซียนดาบ คุณควรลองดู

 

“ …เสียงดังเกินไป ฉันจะดูแลตัวฉันเอง ดังนั้นปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียวเถอะ”

 

ชายชราพึมพำกับตัวเองตั้งแต่เขานั่งที่โต๊ะ ดูเหมือนว่าเขามีอาการป่วยทางจิตจริงๆ อย่างไรก็ตามแม้ว่าเขาจะป่วยเป็นโรคจิต แต่เขาก็ยังคงยืนอยู่ที่จุดสูงสุดของโลก ความจริงที่ว่าชายชราผู้บ้าคลั่งคนนี้มีสกิลที่ยอดเยี่ยมเหนือจินตนาการยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

 

‘ดี’

 

และนั่นก็ดีพอสำหรับฉัน

 

‘มันคุ้มค่าที่จะลองเสี่ยงดู’

 

“เป็นเครื่องดื่มที่ดี”

 

“อ่า เดินทางปลอดภัย!”

 

เซียนดาบดื่มจนหมดแก้วของเขา

 

ทันทีที่เขาออกจากโรงเตี๊ยม ลูกค้าทุกคนต่างก็พากันถอนหายใจออกมา

 

“ในที่สุดเขาก็ไปเสียที”

 

“เขาต้องเป็นโรคสมองเสื่อมแน่ๆ ทำไมเขาถึงพูดพึมพำแบบนั้น?”

 

“ฉันก็คิดแบบนั้น จะว่าไปแอลกอฮอล์มันเสียรสชาติหมดแล้ว…”

 

ลูกค้าทุกคนคงรอให้เซียนดาบจากไปเพราะพวกเขาต่างก็ลุกขึ้นยืนเพื่อออกไปในเวลาเดียวกันกับฉัน

 

อย่างไรก็ตาม ความตั้งใจของเราอาจตรงข้ามกัน

 

“นี่คือค่าเบียร์ของฉัน”

 

ฉันลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและชำระเงินกับเจ้าของร้าน ฉันไม่มีเวลาที่จะเสียเปล่า

 

“อ่าใช่ ขอบคุณ แล้วมาอีกนะ!”

 

“เบียร์อร่อยมาก ผมจะมา”

 

กริ๊ง!

 

เสียงกระดิ่งที่ประตูดังขึ้นเมื่อฉันเปิดและก้าวออกไป

 

เป็นเวลาดึกและความมืดปกคลุมท้องถนน

 

‘เขาไปไหนกัน…?’

 

ฉันมองไปรอบๆ มีผู้คนมากมายออกมาจากผับบนถนน หลายสิบคนหัวเราะและเดินโซเซไปมาขณะที่พวกเขาสนุกกับผลลัพธ์ของแอลกอฮอล์ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน

 

“คุณอยู่ที่ไหนกันนะ คุณอันดับหนึ่ง?”

 

โชคดีที่หลังจากมองไปรอบๆ ฉันก็พบแผ่นหลังที่ต้องการ

 

‘เจอแล้ว!’

 

ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณชุดที่แปลกตาของเขา เขาอาจเป็นผู้ชายคนเดียวในบาบิโลนที่สวมสูทและถือดาบ ฉันรีบรวบรวมสติของตัวเองและเริ่มตามชายชราไป

 

‘คุณมีสกิลอะไรกันนะ?’

 

หัวใจของฉันเต้นแรง

 

‘จักรพรรดิเพลิงมีสกิลย้อนเวลาที่ไร้สาระซึ่งเป็นสกิลแร้งก์ Ex แล้ว เซียนดาบที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคก่อนจะมีสกิลอะไรได้บ้าง? เขาจะไม่มีสกิลที่โกงไปกว่านี้อีกหรือ?’

 

สกิลนั้นจะกลายเป็นของฉันในไม่ช้า ถ้าฉันโชคดี

 

….

 

ฉันไล่ตามชายชราคนนี้กลับมานานแค่ไหนแล้ว?

 

เราออกจากใจกลางเมืองมานานแล้วและเริ่มเดินผ่านทางตรอกซอกซอย ขณะที่ฉันตามเขาไปเรื่อ ๆ เราออกจากตรอกซอกซอยและถนนเปี่ยวและเข้าสู่เขตชานเมือง ที่นี่เป็นทุ่งหญ้าที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้างหรือร่องรอยการก่อสร้างใดๆ

 

เซียนดาบเดินผ่านทุ่งหญ้าที่ว่างเปล่านี้

 

“ฮืม”

 

ฉันเดินไปอีกเล็กน้อยก่อนจะหยุดอยู่หลังต้นไม้

 

“สถานที่นี้น่าจะเหมาะสมพอ”

 

เซียนดาบหันกลับมาพร้อมกับแสงดาวอาบร่างชราของเขา

 

“ทำไมถึงไม่ออกมาล่ะ พ่อหนุ่ม”

 

“…”

 

“ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในที่แห่งนี้”

 

เขาจ้องมองไปที่ต้นไม้ที่ฉันซ่อนอยู่ด้านหลัง และฉันก็ถอนหายใจอยู่ในใจ

 

‘เขาจับฉันได้’

 

ฉันน่าจะคาดไว้ก่อน จากจุดเริ่มต้นมันเป็นเรื่องไม่สมควรที่จะคิดว่าฮันเตอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดจะไม่รู้ว่าเขากำลังถูกตามโดยฮันเตอร์คลาสต่ำอย่างฉัน

 

ฉันทำได้เพียงโทษความไร้ความสามารถของตัวเองขณะที่ฉันเดินออกมาจากหลังต้นไม้

 

“อ่า ขอโทษนะครับ มีบางอย่างที่ผมอยากจะถามคุณ คุณเซียนดาบ”

 

ฉันพยายามพูดอย่างสุภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ด้วยเหตุผลบางประการ เซียนดาบหัวเราะ

 

“ฮะ แกไม่ได้ตามฉันตลอดเวลาอยู่แล้วหรือ ฉันไม่รู้ว่าทำไมแกถึงกลัวที่จะถามคำถามกับชายชราคนนี้”

 

“…”

 

หา?

 

ด้วยเหตุผลบางอย่าง ดูเหมือนว่าเซียนดาบจะเชื่อว่าฉันจงใจแกล้งทำเป็นกลัว นอกจากนี้ตั้งแต่เขาหันกลับมา เซียนดาบก็ไม่ยอมปล่อยมือจากดาบของเขาแม้ว่าฉันจะไม่ได้ทำอะไรเลยก็ตาม ดูเหมือนว่าเขาพร้อมที่จะโจมตีได้ทุกเมื่อ

 

‘เอ่อ ทำไมล่ะ?’

 

แน่นอนว่านี่เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับฉันเนื่องจากจุดประสงค์ของฉันคือให้เขาฆ่าฉันอยู่ดี

 

‘แต่ฉันไม่ได้ทำอย่างอื่นนอกจากแอบตามเขา…’

 

ไม่ว่าเขาจะรู้ความตั้งใจของฉันหรือไม่ก็ตาม เซียนดาบดูเหมือนว่าพร้อมที่จะจบชีวิตของฉัน ราวกับว่าในสายตาของเขาฉันตายไปแล้วและเขาก็แค่เล่นตลกกับฉัน

 

“…การแสดงของแกยอดเยี่ยมมาก แน่นอน แกต้องเป็นนักฆ่าที่น่าทึ่ง”

 

“…ครับ?”

 

“แกไม่จำเป็นต้องแสร้งทำเป็นว่าแกไม่รู้ ฮันเตอร์คนอื่นอาจตกหลุมพลาง แต่แกไม่สามารถหลอกสายตาของฉันได้ ฉันรู้ว่าแกเป็นมือสังหารที่กิลด์มังกรดำส่งมา”

 

เอ่อ…

 

ตาแก่ คุณคงเข้าใจผิดแล้วจริงๆ

 

‘ฉันควรจะให้เป็นแบบนี้ต่อดีมั้ย?’

 

ไม่ว่ายังไงวิธีนี้ก็ได้ผลเช่นกัน ฉันไม่ต้องพูดถึงหลานของเขาให้เขาฆ่าฉัน แม้ว่าฉันจะไม่เข้าใจว่าเขาเข้าใจผิดว่าฮันเตอร์คลาส F อย่างฉันเป็นมือสังหารได้อย่างไร ว่าตามตรง ฉันไม่เข้าใจ

 

“อะฮ้า! แกนี่มันน่ารังเกียจจริงๆ มาที่นี่และเผยตัวต่อหน้าฉันซะ!”

 

เซียนดาบมองมาที่ฉันด้วยปากที่บิดเบี้ยวราวกับจ้องมองสัตว์ประหลาดที่เขาต้องกำจัด มันเป็นความรู้สึกแปลกๆที่ฉันไม่เข้าใจ

 

“ฉันไม่ได้บอกแกแล้วเหรอ แกไม่สามารถหลอกสายตาของฉันได้”

 

“เอ่อ… ท่านครับ มีบางอย่างที่ผมอยากจะถามคุณจริงๆ…”

 

ในที่สุดฉันก็ได้ถามในสิ่งที่ฉันอยากรู้

 

“อะไรทำให้คุณมั่นใจมากว่าฉันเป็นมือสังหาร? ฉันไม่ทำอะไรที่ทำให้คุณคิดแบบนั้นเลย”

 

“หุบปาก”

 

ชิ้ง!

 

เซียนดาบดึงดาบที่ข้างตัวของเขาออกมา

 

“ฉันมีสกิลมากมาย ในหมู่พวกมันเป็นสกิลที่บอกคนคนนั้นฆ่าไปกี่คน ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงสามารถหลีกเลี่ยงวิกฤตต่างๆมาได้”

 

“…”

 

อะไรนะ? ฉันยังคงไม่เข้าใจ

 

‘อา’

 

หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีฉันก็รู้ตัว

 

ถูกตัอง

 

วันนี้ฉันฆ่ายู ซูฮาเพราะฉันรู้ว่าเขากำลังจะกลายเป็นสัตว์ร้าย แต่ผู้คนในยุคนี้ไม่รู้ ดังนั้นตอนนี้ฉันจึงเป็นฆาตกร

 

ต่างจากโลกภายนอกตรงที่มีการฆาตกรรมเกิดขึ้นบ่อยครั้งภายในหอคอย

 

‘แต่การฆ่าคนก็ยังเป็นการฆ่าคน’

 

กล่าวอีกนัยหนึ่งในสายตาของเซียนดาบอาจมีตัวเลข [1] ลอยอยู่เหนือหัวของฉัน ตัวเลข [1] จะเป็นตัวบ่งชี้การฆาตกรรมที่โดดเด่นดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ เซียนดาบจะคอยระแวงฉัน

 

“ครับ ผมเข้าใจครับคุณเซียนดาบ”

 

“ฮืมม”

 

“แม้ว่าคุณจะระแวงผมและผมก็ไม่มีอะไรจะพูดกับเรื่องนั้น คุณสามารถนำไปเป็นข้ออ้าง แต่ได้โปรดช่วยรับฟังผม ผมตามคุณเพราะเหตุผลสำคัญ ผมไม่สามารถบอกคุณได้ว่ามันคืออะไรกันแน่ แต่เป็นเหตุผลที่สำคัญอย่างยิ่ง ผมสาบานกับสวรรค์ได้”

 

มันเป็นคำพูดที่จริงใจ แต่สถานการณ์กลับแปลกประหลาดแทนที่จะดีขึ้น ขณะที่เขาฟังคำพูดเบาๆของฉัน การแสดงออกของเซียนดาบก็แย่ลงเรื่อยๆ

 

“น่าขยะแขยง”

 

“ครับ?”

 

“ปีศาจที่สังหารผู้คนได้มากขนาดนี้กล้าลงมือด้วยวิธีนี้ ฉันไม่ได้ใช้ชีวิตที่ขาวสะอาด แต่…ฉันไม่เคยสังหารหมู่ผู้คนอย่างบ้าบิ่นได้อย่างแก!”

 

คำพูดของเขาทำให้ฉันสับสนและอึดอัดในเวลาเดียวกัน

 

“ไม่ เดี๋ยวก่อน สังหารหมู่? ผมเคยฆ่าคนเพียงคนเดียวตลอดทั้งชีวิต”

 

“แกเป็นคนไร้ยางอายจริงๆที่พูดเรื่องโกหกอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้!”

 

ชิ้ง!

 

เซียนดาบชี้ปลายดาบของเขามาทางฉันแล้วพูดว่า

 

“ฉันเห็นตัวเลข [4091] ลอยอยู่เหนือหัวของแก”

 

ฉันตกตะลึง

 

“เชี่ยอะไรเนี่…”

 

ฉันพยายามพูดว่า “เชี่ยอะไรเนี่ย” แต่คำพูดของฉันถูกตัดบทเมื่อฉันตระหนักได้ว่าตัวเลข 4091 มาจากไหน

 

‘อา’

 

มันมาจากที่ครั้งหนึ่งฉันฆ่ายู ซูฮา

 

และ

 

‘เป็นจำนวนครั้งที่ฉันฆ่าตัวตาย’

 

4090 ครั้ง

 

จำนวนครั้งที่ฉันฆ่าตัวตายแบบเป๊ะๆ

 

“เตรียมรับมือ เจ้าปีศาจ!”

 

ถ้าเป็นเช่นนั้น

 

“ฉันไม่รู้ว่าแม่มดมังกรดำที่ส่งแกมาหรือเป็นคนอื่น แต่ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อฆ่าแก!”

 

หมายความว่าในสายตาของชายชราคนนั้นฉันไม่ได้เป็นเพียงฆาตกรที่เข่นฆ่ามนุษย์ 4091 คน ความเย็นซ่านแผ่ลงไปถึงกระดูกสันหลังของฉัน

 

‘ไม่’

 

นี่เป็นปัญหาร้ายแรง

 

‘มันไม่ใช่แค่การคัดลอกสกิลของเซียนดาบอีกต่อไป”

 

ถูกต้อง

 

‘ทุกเมื่อในอนาคต…ถ้าเซียนดาบเห็นฉัน เขาจะพยายามฆ่าฉัน’

 

เพราะในสายตาของเขาฉันเป็นฆาตกรที่น่ารังเกียจซึ่งไม่ควรปล่อยให้มีชีวิตรอดในโลกนี้เช่นเดียวกับไวรัสมรณะ

 

“ดะ – เดี๋ยวก่อน!”

 

ฉันเอื้อมมือออกไป

 

“กรุณารอสัก…”

 

ในขณะนั้น

 

ดาบของเซียนดาบพุ่งเข้าหาฉันด้วยความเร็วที่ไม่อาจหยุดยั้งได้

Comment

Options

not work with dark mode
Reset