Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ – บทที่ 111 พลังของ ปีศาจฝน

ขุนศึกสยบสวรรค์ บทที่ 111 พลังของ ปีศาจฝน

 

ราชันปีศาจวัววิ่งตะบึงไปข้างหน้าเร็วขึ้นเรื่อยๆ โดยมีเยี่ยฉวนอยู่บนหลัง สัมผัสอันตรายยังไม่หายไปแต่กลับรุนแรงในทุกขณะ

 

อวี่หานไล่ตามมาอย่างกระชั้นชิดพลางกดฝ่ามือทั้งสองเข้าด้วยกันเบาๆ เม็ดฝนแปรเปลี่ยนเป็นใบมีดแหลมคมอีกครั้ง

 

ซึ้ง! ซึ้ง!” เกิดเสียงใบมีดท่ามกลางม่านหมอกหนา

 

ต้นไผ่ที่เรียงรายกันเป็นเส้นตรงเบื้องหลังเยี่ยฉวนล้มระเนระนาด สายลมกระโชกแรงพัดตรงมาที่กลางหลัง

 

เยี่ยฉวนไม่ได้หันกลับไป แต่ร่างของเขากลับร่วงหล่นจากหลังของราชันปีศาจวัวและห้อยต่องแต่งอยู่ที่ท้อง แสงอ่อนจางพลันปรากฏขึ้นท่ามกลางหมอกหนาทึบก่อนที่ใบมีดคมกริบจะถากหลังของราชันปีศาจวัวจนเลือดสาดกระเซ็น

 

ผิวหนังของราชันปีศาจวัวทั้งหยาบและหนา คนธรรมดาไม่อาจสร้างรอยขีดข่วนด้วยใบมีดแหลมคมได้ต่อให้มันจะยืนนิ่งไม่ไหวติงก็ตาม ทว่าใบมีดจากเม็ดฝนของอวี่หาน แฉลบเพียงนิดเดียวกลับทําให้สัตว์อสุรกายร่างใหญ่ถึงกับเลือดอาบ ชายชราผู้นี้ฝีมือไม่ธรรมดา!

 

“ตรงไปทางทิศตะวันตก! ไปยังสํานักหมอกเมฆา!” 

 

เยี่ยฉวนกระโดดลงก่อนจะสั่งการให้ราชันปีศาจวัวไปแจ้งสํานักหมอกเมฆา

 

ราชันปีศาจวัวแผ่รัศมีบางอย่างที่คนทั่วไปอาจไม่สังเกต แต่ปีศาจเพลิงผู้ดูแลยอดเขาเมฆาอินทนิล จ้าวต้าจือ จูชื่อเจีย และพวกพ้องคนอื่นๆ ต้องสัมผัสได้เป็นแน่ แม้อวี่หานจะร้ายกาจเพียงใดแต่เมื่อเหล่ายอดฝีมือแห่งสํานักหมอกเมฆามาช่วยก็คงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมล่าถอย ถึงอย่างไรที่แห่งนี้ก็เป็นอาณาเขตของสํานักหมอกเมฆาและอวี่หานก็มีตัวคนเดียว

 

โฮก!

 

ราชันปีศาจวัวร้องครวญท่ามกลางหมอกหนาแต่เสียงฝีเท้ากลับดังกึกก้องราวฟ้าร้อง มันวิ่งต่อไปอย่างบ้าคลั่งแม้จะเกรี้ยวกราดและฝืนใจเพียงใดก็ตาม

 

ราชันปีศาจวัวตนนี้เริ่มมีสติปัญญาแล้ว มันเข้าใจเจตนาของเยี่ยฉวนและรู้ดีว่าการหันหลังกลับมาช่วยเขาเป็นการรนหาที่ตายเสียเปล่า

 

“พ่อหนุ่มน้อย เจ้าต้องการให้เจ้าวัวนั่นไปรายงานสํานักงั้นหรือ?”

 

อวี่หานปรากฏกายขึ้นพร้อมสีหน้าเฉยเมย เขาปล่อยให้ราชันปีศาจวัววิ่งจากไปโดยไม่ขัดขวาง “ไร้ประโยชน์ ที่แห่งนี้ไกลจากสํานักหมอกเมฆาถึงห้าสิบล้ําและระยะทางไปกลับถึงหนึ่งร้อยลี้ ต่อให้เจ้าวัวนั่นจะเร็วกว่านี้เจ้าก็คงกลายเป็นศพไปแล้วกว่าคนจากสํานักหมอกเมฆาจะมาถึง”

 

อวี่หานมั่นใจอย่างหาที่เปรียบมิได้ สําหรับเขาแล้วการสังหารเด็กหนุ่มขั้นซิวฉือระดับหนึ่งนั้นง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก

 

ยอดมือสังหารอย่างปีศาจฝนเคยโด่งดังไปทั่วจักรวรรดิต้าฉินและเปรียบเสมือนฝันร้ายของผู้คน ทว่าเมื่อหลายร้อยปี ก่อนเขาได้ตัดสินใจละทางโลกและทุ่มเทกายใจให้กับการฝึกตนบนผาผนึกดาบพิษอย่างสงบ โดยปกติแล้วเขาไม่จําเป็นต้องลงมือเองในภารกิจเล็กน้อยอย่างการสังหารจอมยุทธ์ขั้นชิวฉืออีกทั้งยังวางมือจากเรื่องพรรค์นี้นานแล้ว แต่ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นหนี้บุญคุณอาวุโสลําดับสามไป๋เยี่ยนหู จึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องแหกกฏของตนอีกครั้ง

 

สี่ร้อยปีหรือสามร้อยเจ็ดสิบปีที่แล้วกันนะ?

 

อวี่หานประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อพบว่าเขาลืมครั้งสุดท้ายที่ลงมือฆ่าคนไปเสียแล้ว ลืมแม้กระทั่งว่าปีนี้ตนอายุเท่าใด สิ่งเดียวที่รู้คือวาระสุดท้ายของชีวิตกําลังใกล้เข้ามาทุกขณะ

 

มือสังหารชั้นเลิศผู้ไม่เกรงกลัวศัตรูอื่นใดในใต้หล้าและไล่เข่นฆ่าเป้าหมายน่าเกรงขามนับไม่ถ้วนกําลังมองดูการตาย ตามธรรมชาติของตนใกล้เข้ามาอย่างไร้หนทาง นี่คือสัจธรรมของชีวิต!

 

ทว่าอวี่หานยังไม่ยอมจํานน เขาต้องรีบทําภารกิจสังหารเยี่ยฉวนให้สําเร็จโดยเร็วเพื่อจะได้กลับไปฝึกตนอย่างสงบที่ผาผนึกดาบพิษโดยหวังว่าจะก้าวผ่านสภาวะตีบตันภายในระยะเวลาที่เหลืออยู่

 

ระยะห่างระหว่างขั้นปรมาจารย์แห่งเต๋ระดับหกไปยังระดับเจ็ดนั้นไม่มากนัก แต่เมื่อบรรลุได้สําเร็จจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่

 

เมื่อบรรลุขึ้นไปอีกเพียงหนึ่งขั้น เขาจะกลายเป็นมือสังหารคนแรกในจักรวรรดิต้าฉินที่บรรลุระดับสูงสุดของขั้นปรมาจารย์แห่งเต๋และอายุขัยจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ชายชราอาจมีชีวิตอยู่ได้อีกหลายร้อยปีหรืออาจถึงขั้นหลายพันปี!

 

“เจ้ามีเวลามากสุดเท่ากับเวลาเผาไหม้ของธูปเพียงครึ่งดอก เริ่มลงมือเสียเถอะ!”

 

เยี่ยฉวนมองอวี่หานด้วยสายตาเย็นชาขณะควบคุมลมหายใจให้สงบ ไอน้ําระเหยออกมาจากใต้ฝ่าเท้าและหลอมรวมกับม่านหมอกหนาทึบในป่าไผ่

 

สีหน้าของอวี่หานแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมก่อนจะพุ่งเข้าหาเยี่ยฉวนโดยไม่รีรอ เขาเปลี่ยนเม็ดฝนในมือให้กลายเป็นใบมีดคมและขว้างใส่อีกฝ่าย!

 

เยี่ยฉวนสงบนิ่งเสียจนอวี่หานรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย

 

เขามองดูอยู่ไกลๆ ยามที่เยี่ยฉวนบดขยี้หงลี่และพรรคพวก แม้พลังของเยี่ยฉวนจะน่าทิ้งและแข็งแกร่งกว่าผู้ฝึกตนขั้นซิวฉือทั่วไปแต่ชายชราก็ยังรู้สึกมั่นใจขณะไล่ตามเยี่ยฉวน เข้าไปในป่าไผ่ แต่บัดนี้ความมั่นใจของเขากลับสั่นคลอน

ผู้ใดจะใจเย็นได้ถึงเพียงนี้หลังจากได้ยินชื่อและประจักษ์พลังของเขา?

 

มือสังหารชั้นเลิศอย่างอวี่หานเผชิญหน้ากับเหล่าปรมาจารย์มานับไม่ถ้วน มีเพียงสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งเทียบเทียมอํานาจสวรรค์ที่เขาไม่คิดต่อกรเท่านั้นจึงจะมีสีหน้าสงบแบบเยี่ยฉวนในขณะนี้ได้ เยี่ยฉวนไม่หนีไปอย่างตื่นตระหนกอีกทั้งยังบอกว่าเขาเหลือเวลาเท่ากับธูปครึ่งดอกด้วยท่าที่เฉยเมย ความสงบและใจเย็นนี้มาจากที่ใดกัน?

 

ฟิ้ว! ฟิ้ว!” สายลมพัดหวิวอีกครั้ง

 

ต้นไผ่ที่อยู่ระหว่างคนทั้งสองโค่นล้มลง

 

ครั้งนี้เยี่ยฉวนไม่หลบแต่กลับใช้ปลายหอกโลหิตปะทะเข้ากับใบมีดแหลมคมของอีกฝ่าย!

 

“ตึ๋ง” ใบมีดคมสลายและกระจัดกระจายราวกับน้ําหยดลงหิน!

 

ใบมีดคมกริบสลายกลายเป็นสายน้ําสาดกระเซ็นทันใด ในขณะที่หอกโลหิตของเยี่ยฉวนงอและเกิดเสียงแตกราวกับจะหักพร้อมร่างของเขาที่กระเด็นออกมา

 

หยาดฝนหยดเล็กของอวี่หานหนักยิ่งกว่าหม้อสัมฤทธิ์ หนึ่งหมื่นจิน! ช่างเป็นพลังที่น่าเกรงขามยิ่ง!

 

เยี่ยฉวนโคจรยันต์กลืนกินสวรรค์ภายในกายทันทีที่จ้วงแทงหอกจนพลังสามหมื่นหกพันจินปะทุขึ้นทันใด ทว่าร่างกายของเขายังคงสั่นสะท้าน

 

“เอ๊ะ…”

 

อวี่หานร้องพลางเผยสีหน้าประหลาดใจและเคร่งเครียด

 

เม็ดฝนหยดเล็กเพียงแค่ทําให้เยี่ยฉวนสั่นสะท้านเท่านั้น แม้แต่เจ้าสํานักเครื่องนิลโท่วปาเซียงยังไม่มีฝีมือมากถึงเพียงนี้ อวี่หานคิดว่าเม็ดฝนจะทําให้หอกโลหิตแตกเป็นเสี่ยงๆ และแทงทะลุหน้าอกอีกฝ่าย แต่ผลลัพธ์กลับห่างไกลจากที่คาดไว้นัก!

 

เยี่ยฉวนเป็นเพียงจอมยุทธ์ขั้นชิวฉือระดับหนึ่ง แต่เมื่อสําแดงพลังทั้งหมดแล้วแม้แต่ปรมาจารย์ขั้นชิวฉือระดับสามยังต้องอับอายในพลังที่ด้อยกว่าของตน

 

“เข้ามาอีกสิ!”

 

อวี่หานเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและประสานมืออีกครั้ง ใบมีดสามใบพุ่งไปยังหัวใจ ลําคอ และหว่างคิ้วของเยี่ยฉวน การโจมตีในครั้งนี้รุนแรงขึ้นถึงสามเท่า!

 

เมื่อการโจมตีครั้งแรกล้มเหลว อวี่หานจึงเปิดฉากจู่โจมเต็มกําลังเพื่อยุติการต่อสู้โดยเร็ว

 

คําพูดของเยี่ยฉวนที่ว่าเขามีเวลาเพียงธูปครึ่งเล่มนั้นไม่เกินจริง หากไม่สามารถปลิดชีพเยี่ยฉวนได้ทันเวลา ยอดฝีมือจากสํานักหมอกเมฆาก็จะเร่งรุดมาถึงและเกิดปัญหาใหญ่แน่นอน

 

อวี่หานยําเกรงสํานักหมอกเมฆาอันเก่าแก่เป็นอันมาก และไม่ต้องการล้ําเส้นความถูกต้องไปมากกว่านี้

 

ความรอบคอบและเคารพนับถืออย่างจริงใจทําให้เขาแตกต่างจากมือสังหารชั้นเลิศในยุคเดียวกันและมีชีวิตรอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ อันที่จริงเขาไม่ได้เต็มใจทําภารกิจนี้เพราะถึงอย่างไรเยี่ยฉวนก็เป็นศิษย์พี่ใหญ่แห่งสํานักหมอกเมฆา แต่คํามั่นสัญญาในอดีตกลับบีบบังคับให้ต้องฝืนใจลงมือ

แฟนเพจ : novelza

Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์

Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์

Storm in the Wilderness, 蛮荒风暴
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์บทนำ ณ ห้องโถงใหญ่บนยอดเขาเมฆาอินทนิล…เหล่าผู้อาวุโสทั้งห้าและบรรดาลูกศิษย์ในสำนักนับพันชีวิตต่างจ้องมองไปทางเดียวกันอย่างไม่เชื่อสายตา! ทุกคนต่างคิดว่าเขาตายไปแล้วในสุสานเทพเจ้าเมื่อสามเดือนก่อน! แม้แต่ผู้พิทักษ์ขั้นซิ่วฉือระดับห้ายังถูกลอบโจมตีจนสิ้นชีพ แล้วเหตุใดผู้ที่บรรลุเพียงขั้นอู่เจ๋อระดับที่หนึ่งเช่นเขาจึงมีชีวิตรอดจากหายนะในภารกิจครั้งนั้น?! ใช่…เขาตายไปแล้ว… ‘เยี่ยฉวน’ คนเก่าจอมขลาดเขลาและเหยียมอายคนนั้นตายไปแล้ว! บัดนี้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาคือเยี่ยฉวนคนใหม่ที่ฝึกตนจนบรรลุขั้นอู่เจ๋อระดับสี่โดยใช้เวลาเพียงชั่วข้ามคืน! เขาได้พบเคล็ดวิชาลึกลับ ‘ขัดเกลาปีศาจกลืนกินสวรรค์’ จากสุสานเทพเจ้าโดยบังเอิญ วิชานี้มีพลานุภาพมหัศจรรย์เหนือกว่าเคล็ดวิชาซ่อนเร้นสวรรค์เสียอีก! หากเขาฝึกฝนเคล็ดวิชานี้จนสำเร็จต้องมีระดับขั้นการฝึกตนที่สูงกว่าภพชาติก่อนเป็นแน่! หรือบางทีอาจบรรลุถึงขั้นผู้อมตะแห่งเต๋าที่เป็นเพียงตำนาน!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset