Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ – บทที่ 128 เช่นนั้นข้าจะไม่ เกรงใจแล้วนะ

ขุนศึกสยบสวรรค์ บทที่ 128 เช่นนั้นข้าจะไม่ เกรงใจแล้วนะ

 

ไม่นานนักอาวุโสสูงสุดซู่โกวหงจึงเอ่ยขึ้นทําลายความเงียบ “อาวุโสลําดับสาม..เช่นนั้นท่านคิดว่าผู้ใดมีความเหมาะสมที่จะไปยังสํานักอสูรเมฆา?”

 

ซู่โกวหงตัดสินใจว่าควรพยายามดูสักครั้ง สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาใหญ่และหนักหน่วง ดังนั้นเมื่อมีความหวังก่อเกิดขึ้นแม้เพียงเล็กน้อยก็ควรคว้าไว้

 

อาวุโสลําดับสามไป๋เยี่ยนหูไม่ตอบคําถามในทันทีแต่กวาดสายตามองไปยังผู้คนที่ยืนอยู่รอบห้องโถง ทําให้ทุกคนต่างรู้สึกเสียวสันหลังวาบ

 

ร้ายกาจนัก!

 

ชายชราผู้นี้ต้องการยืมมือคนของสํานักอสูรเมฆาให้สังหารผู้อื่นแทนตน ช่างเป็นแผนการที่แยบยลเสียจริง! 

 

เยี่ยฉวนมองเห็นเป้าหมายที่แท้จริงของอีกฝ่ายอย่างทะลุปรุโปร่ง!

 

สายตาของไป๋เยี่ยนหมาหยุดอยู่ที่เยี่ยฉวน รอยยิ้มเย้ยหยันและแววตาเย็นเยือกไร้ความปรานีปรากฏบนใบหน้าของเขาครู่หนึ่ง จากนั้นจึงแปรเปลี่ยนสีหน้าเป็นเคร่งเครียดอย่างใช้ความคิด ชายชราหันไปหาซู่โกวหงก่อนกล่าวออก “ท่านอาวุโสสูงสุด มีเพียงท่านที่มีฐานะเหมาะสมที่จะเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิ ส่วนเรื่องสํานักอสูรเมฆา ผู้ที่จะเดินทางไปเจรจาจะต้องเป็นผู้ที่มีความกล้าหาญ หนักแน่น และโดดเด่นเหนือผู้อื่น ซึ่งบุคคลที่มีคุณสมบัติทุกประการครบถ้วนนั่นก็คือเยี่ยฉวนศิษย์พี่ใหญ่แห่งสํานักของเรา!”

 

คํากล่าวอันน่าตกตะลึงของไป๋เยี่ยนหูทําให้ฝูงชนทั้งหมดในห้องโถงหมอกเมฆาหันไปมองเยี่ยฉวนเป็นตาเดียว! สิ่งที่ชายชราพูดแม้จะน่าตกใจแต่ก็มีเหตุผลที่ดีมารองรับ 

 

จากเหตุการณ์ก่อนหน้าทั้งเรื่องสํานักเครื่องนิลที่พยายามสร้างสัมพันธไมตรีโดยการแต่งงาน และเรื่องการประลองครั้งใหญ่ในรอบสามปีระหว่างสามสํานัก เยี่ยฉวนได้แสดงไหวพริบปฏิภาณและความกล้าหาญในการจัดการกับปัญหาได้อย่างสมบูรณ์แบบ แผนการสกปรกของสํานักเครื่องนิลถูกเปิดโปง… สํานักหมอกเมฆาพลิกกลับมาเป็นผู้ชนะในการประลองครั้งนี้ หากพวกเขาต้องการส่งตัวแทนศิษย์รุ่นเยาว์ไปทําการเจรจากับสํานักอสูรเมฆา ศิษย์พี่ใหญ่เยี่ยฉวนถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด!

 

“ไม่! ไม่ได้เด็ดขาด!”

 

อาวุโสลําดับสองหนานกงเหรินผุดลุกขึ้นยืนทันทีพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน “เยี่ยฉวนคืออนาคตของสํานักหมอกเมฆา ทั้งยังมีสิทธิ์ขึ้นดํารงตําแหน่งเป็นเจ้าสํานักคนต่อไป พวกเราจะปล่อยให้เขาไปเผชิญอันตรายภายนอกเป็นครั้งที่สองไม่ได้เด็ดขาด! หากอาวุโสสูงสุดเดินทางเข้าเมืองหลวง เช่นนั้นก็ให้ข้าไปที่สํานักอสูรเมฆาแทนแล้วกัน… จะว่าไปข้าก็ไม่ได้ลงจากยอดเขาแห่งนี้นานมากแล้ว” 

 

หนานกงเหรินยืนขึ้นพร้อมกล่าวคัดค้านและอาสาตนเองทันที อาจเป็นเพราะเขาล่วงรู้จุดประสงค์อันร้ายกาจของอาวุโสลําดับสาม หรือเป็นเพราะเขากังวลว่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับเยี่ยฉวนจึงต้องการปกป้องอย่างสุดกําลัง

 

ไป๋เยี่ยนหูเผยสีหน้าคล้ำหม่นทันที เขานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนกล่าวออกด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ศิษย์พี่ลําดับสอง เกรงว่าจะไม่ได้…ด้วยอุปนิสัยและความนุ่มบ่ามใจร้อนของท่าน เห็นทีการเจรจากับสํานักอสูรเมฆาเพื่อยืมเตาหลอมระดับสวรรค์คงสัมฤทธิผลได้ยากยิ่ง!”

 

“ถูกของเจ้า ถ้าข้าทําไม่ได้ เช่นนั้นเจ้าก็ไปเองสิ!” หนานกงเหรินตอบกลับด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว เขาโกรธมากเสียจนเกือบยับยั้งร่างกายไว้ไม่ได้

 

ใบหน้าไป๋เยี่ยนหูเคร่งเครียดยิ่งกว่าเดิม เขาระงับอารมณ์ไม่ให้ปะทะกับอีกฝ่ายขณะหันไปมองเยี่ยฉวนพร้อมกล่าว “เยี่ยฉวน ในฐานะที่เจ้าเป็นศิษย์พี่ใหญ่ หากสํานักเผชิญกับวิกฤตการณ์อันรุนแรงเจ้าก็มีหน้าที่ต้องแบกรับ ว่าอย่างไร…เจ้ากล้าหรือไม่?! จะซ่อนกายอยู่ใต้เงาของเหล่าผู้อาวุโสตลอดไปอย่างนั้นหรือ?”

 

ไป๋เยี่ยนหูไม่สามารถจัดการกับหนานกงเหรินที่มีอารมณ์ฉุนเฉียวจึงเบนหัวหอกไปทางเยี่ยฉวนแทน อาวุโสซู่โกวหงและบรรดาศิษย์ต่างหันไปมองชายหนุ่มเช่นกันด้วย ต้องการรู้ว่าเขาจะตอบคําถามนี้อย่างไร?

 

“บอกตามตรง ข้าไม่กล้า”

 

เยี่ยฉวนค้อมศีรษะและกล่าวตอบอีกฝ่ายด้วยความสัตย์จริง เขาหยุดชะงักชั่วครู่พร้อมกวาดสายตามองผู้คนโดยรอบก่อนกล่าวต่อ “ความสัมพันธ์ระหว่างสํานักหมอกเมฆาของเราและสํานักอสูรเมฆาเป็นอย่างไรท่านคงตระหนักดี ตัวข้าบรรลุเพียงขั้นซิวฉือระดับที่หนึ่งเท่านั้น ทั้งทักษะวรยุทธ์ยังไม่สูงส่งพอจะต่อกรกับทหารอารักขาของพวกเขาด้วยซ้ำ แต่คําพูดของท่านที่ว่าศิษย์พี่ใหญ่ควรแบกรับสถานการณ์วิกฤติก็ถูกต้องเช่นกัน ดังนั้นแม้สํานักอสูรเมฆาจะอันตรายเพียงใดข้าก็คงต้องไป เช่นนั้นข้ามีเรื่องจะร้องขอสักหน่อย”

 

“ต้องการสิ่งใด?! เร่งว่ามา!” ไป๋เยี่ยนหูเอ่ยถามอย่างร้อนรนด้วยไม่ต้องการเว้นจังหวะให้เยี่ยฉวนคิดหาทางปฏิเสธ ตราบใดที่อีกฝ่ายยอมรับปากต่อหน้าสาธารณชนเช่นนี้ คงไร้ซึ่งหนทางรอดชีวิตเสียแล้ว!

 

“สิ่งที่ข้าต้องการร้องขอ แน่นอนว่าไม่เกินความสามารถของท่าน ในเมื่อสํานักอสูรเมฆาอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ข้าต้องการยอดฝีมือชั้นเลิศเป็นสหายร่วมทาง อาวุโสลําดับสาม.. ข้าเห็นว่าท่านมีประสบการณ์มาก ทั้งวรยุทธ์ของท่านยังสูงส่งยิ่ง หากขอให้ท่านออกเดินทางไปพร้อมข้า ท่านว่าอย่างไร?” ท่าทีของเยี่ยฉวนที่แสดงออกเต็มไปด้วยความจริงใจ ทว่าภายในกลับเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน

 

ไป๋เยี่ยนหูเผยสีหน้าซีดเผือดทันที!

 

หากไปถึงสํานักอสูรเมฆา ในเวลานั้นหากยอดฝีมือของอีกฝั่งเกิดโกรธแค้นจนโจมตีพวกเขา เยี่ยฉวนอาจไม่ถูกสังหาร แต่เขาซึ่งเป็นผู้อาวุโสกว่าจะต้องถูกจัดการก่อนเป็นแน่

 

“ไม่! ข้าไปไม่ได้!”

 

ชายชราปฏิเสธด้วยน้ำเสียงราบเรียบก่อนยกเหตุผลอันชอบธรรมมากล่าวอ้าง “อาวุโสสูงสุดจะออกจากสํานักไปทําหน้าที่สําคัญ อาวุโสลําดับสองเพียงผู้เดียวไม่สามารถปกป้องสํานักทั้งสํานักได้หากเกิดเหตุร้ายขึ้น หนําซ้ำหากโท่วป่าเซียงรู้ข่าวอาจฉวยโอกาสนี้บุกเข้ามาเล่นสกปรกกับเราได้ทุกเมื่อ ในเวลานั้นต่อให้พวกเรายืมเตาหลอมระดับสวรรค์มาได้ก็คงไร้ประโยชน์!”

 

เห็นได้อย่างชัดเจนว่าไป๋เยี่ยนหูไม่มีความกล้ามากพอที่จะเดินทางไปยังสํานักอสูรเมฆา จึงยกข้ออ้างอื่นๆ เพื่อปัดความรับผิดชอบอย่างไร้ยางอาย ทว่าสิ่งที่เขาพูดมาก็ไม่ได้ไร้เหตุผลเสียทีเดียว..

 

“ศิษย์พี่ใหญ่” จูชื่อเจียกระตุกแขนเสื้อของเยี่ยฉวนเป็นเชิงส่งสัญญาณให้เยี่ยฉวนกล่าวปฏิเสธ การเดินทางไปยังสํานักอสูรเมฆานั้นอันตรายเกินไป เพียงคิดถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นนางก็รู้สึกวิตกกังวลจนนั่งไม่ติด!

 

“ศิษย์น้องหญิงอย่าห้ามข้าเลย อย่างไรก็ข้าก็ต้องเดินทางไปยังสํานักอสูรเมฆา ท่านอาจารย์อุตส่าห์ฝากฝังให้ข้าดํารงตําแหน่งศิษย์พี่ใหญ่แห่งสํานัก เช่นนั้นข้าจะละทิ้งหน้าที่อันพึงกระทําได้อย่างไร?”

 

เยี่ยฉวนไม่หยิบยกข้ออ้างมาปัดความรับผิดชอบเช่นไป๋เยี่ยนหู ทั้งยังตอบรับภารกิจด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ทําให้จูซือเจียขัดใจจนเผลอกระทืบเท้าหลายครั้ง ชายหนุ่มหยุดชะงักเล็กน้อยก่อนหันกลับไปพร้อมกล่าวออก “ในเมื่ออาวุโสลําดับสามมีเรื่องที่ต้องรับผิดชอบจนไม่สามารถไปได้ เพื่อไม่ให้เกิดความยุ่งยาก…ข้าจะขอให้เหล่าผู้อาวุโสช่วยจัดการเรื่องบางอย่าง…”

 

“เรื่องใด?!” ไป๋เยี่ยนหูรีบตีเหล็กขณะที่ยังร้อน

 

เยี่ยฉวนสบตาอีกฝ่ายก่อนกล่าวออกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “หากปราศจากยอดฝีมือร่วมการเดินทางไปยังสํานักอสูรเมฆานับว่าอันตรายเกินไป ดังนั้นข้าจําเป็นต้องกลั่นวารีโอสถทิพย์เพื่อให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ข้าเตรียมสมุนไพรซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักไว้เรียบร้อยแล้ว ขาดเพียงสิ่งของอีกบางประเภทเท่านั้น ท่านอาวุโสสูงสุด…ข้ารู้มาว่าท่านมีกระดองเต่าอายุแปดร้อยปีในครอบครอง มันคือตัวยาชั้นดีที่ช่วยในการประสานตัวยาอื่นๆ อาวุโสลําดับสอง…ข้าต้องการดอกบัวอายุแปดร้อยปีในสวนของท่าน เพื่อดึงสรรพคุณของยาน้ำออกมาให้มากยิ่งขึ้น อาวุโสลําดับสาม..ข้าได้ยินว่าท่านมีขวดบรรจุน้ำลายมังกรอายุเก้าพันปี พวกท่านช่วยมอบสิ่งของเหล่านั้นให้ข้าได้หรือไม่?!”

 

แม้ไป๋เยี่ยนหูมีเล่ห์เหลี่ยมมากมาย ทว่าเยี่ยฉวนก็เตรียมแผนการไว้ตั้งรับได้อย่างดี ทันทีที่สบโอกาสเขาจึงใช้สิ่งของเหล่านั้นเพื่อยื่นข้อเสนอ

 

เขาเลือกสํานักหมอกเมฆาเป็นสถานที่พํานักหลังกลับชาติมาเกิดใหม่ เหตุผลแรกเพราะมีความคุ้นเคยกับสํานักแห่งนี้มาตั้งแต่ยุคโบราณ ทั้งภพชาตินี้ยังมีฐานะเป็นถึงศิษย์พี่ใหญ่ อีกเหตุผลหนึ่งเป็นเพราะเขาหลงใหลด้านสมุนไพรที่ใช้ในการปรุงยา ก่อนหน้านี้เขาต้องการรักษาความสัมพันธ์อันดีกับเหล่าผู้อาวุโส จึงไม่กล้าเรียกร้องสิ่งใดจากพวกเขาจนเกินควร แต่ในเมื่อสถานการณ์เอื้ออํานวยเช่นนี้ จึงถือเป็นโอกาสอันดีที่เขาจะร้องขอ

 

“กลั่นวารีโอสถทิพย์งั้นหรือ?!”

 

บรรดายอดฝีมือของสํานักหมอกเมฆาอุทานขึ้นพร้อมกันด้วยความตกตะลึง!

 

สํานักหมอกเมฆามีชื่อเสียงด้านการปรุงยาชนิดเม็ดเป็นเลิศ ทว่าน้อยคนนักจะรู้ว่าพวกเขายังเชี่ยวชาญด้านการกลั่นยาชนิดน้ำเพื่อเสริมกําลังอีกด้วย ยาน้ำชนิดนี้สามารถใช้ในการขัดเกลาเส้นเอ็นและไขกระดูกได้เป็นอย่างดี แต่ระยะเวลาที่ผ่านมานานโขทําให้สํานักเริ่มถึงกาลเสื่อมถอย ทรัพยากรมีจํานวนลดน้อยลงเรื่อยๆ ตําราเคล็ดวิชาลับในการปรุงวารีโอสถทิพย์ก็สูญหายไปแล้วเช่นกัน แม้แต่ศิษย์น้องที่ประจําการอยู่ในหอแปรธาตุยังไม่เคยได้ยินชื่อแล้วเยี่ยฉวนรู้จักมันได้อย่างไร?!

 

“ย่อมได้! เยี่ยฉวน รับไปเถิด!” อาวุโสสูงสุดซู่โกวหงตอบรับเจตนารมณ์ของเยี่ยฉวนเป็นคนแรก เขาสะบัดนิ้วหนึ่งครั้ง ทันใดนั้นกระดองเต่าโบราณหลายชิ้นก็ตกลงบนฝ่ามือของอีกฝ่าย พลังงานเจือจางบางอย่างแผ่ออกมาจากกระดองเหล่านั้น แต่ละกระดองมีลักษณะที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน เยี่ยฉวนคาดเดาว่าพวกมันคงเป็นกระดองของเต่ากลายพันธุ์ที่ถูกเก็บมาจากดินแดนรกร้าง

 

“ฮึ่ม! ข้าพอจะเดาได้อยู่หรอกว่าเจ้าเล็งดอกบัวนั่นมาพักหนึ่งแล้ว หากเจ้าต้องการก็ไปขุดเอาเถิด!” แม้อาวุโสลําดับสองหนานกงเหรินไม่เต็มใจนักแต่ก็มอบให้เยี่ยฉวนเป็นกรณีพิเศษ

 

ตอนนี้เหลือเพียงอาวุโสลําดับสามไป๋เยี่ยนหูเท่านั้นที่ยังคงนิ่งเฉย ทุกคนจึงมองไปที่เขาอย่างรอคอย…

 

ชายชราเผยสีหน้าไม่สู้ดี เยี่ยฉวนต้องการกลั่นวารีโอสถทิพย์ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาเองก็ต้องการเช่นกัน! เขาจัดเตรียมขวดน้ำลายมังกรไว้เมื่อหลายสิบปีที่แล้วเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ทว่าไม่ได้ทําการกลั่นเสียที่เพราะรอเวลาที่เหมาะสม เพื่อเอื้อให้ยาน้ำชนิดนี้ยิ่งพัฒนาประสิทธิภาพ หากเขามอบมันให้เยี่ยฉวนเท่ากับความพยายามของเขาตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาสูญเปล่าโดยสิ้นเชิง ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้อีกฝ่ายแข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย!

 

ไป๋เยี่ยนหูไม่ปริปากเอ่ยคําใด ส่วนเยี่ยฉวนก็รอคอยอย่างเงียบๆ ด้วยท่าทางไม่แยแสเช่นกัน

 

ห้องโถงหมอกเมฆาอื้ออึงด้วยเสียงกระซิบกระซาบของบรรดาศิษย์ร่วมสํานัก

 

“ก็ได้! รับไป!” ไป๋เยี่ยนหูกัดฟันมอบขวดน้ำลายมังกรที่ตนสรรหามาอย่างยากลําบากให้เยี่ยฉวนด้วยความจําใจ แม้หัวใจของเขากระอักเลือดเพียงใดที่ถูกพรากสมบัติล้ำค่าไปจากอก แต่ภายนอกเขาต้องแสดงออกถึงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่

 

“ไอ้เด็กบัดซบ! ข้ายอมสละขวดน้ำลายมังกรเพื่อแลกกับชีวิตของเจ้า!”

 

ไป๋เยี่ยนหูสบถค่าในใจด้วยความเคียดแค้นเข้ากระดูกดํา! เขามองออกว่าเยียฉวนฉวยโอกาสนี้รีดเลือดจากเขา ถึงกระนั้นเขาก็ทําสิ่งใดไม่ได้นอกจากจํายอมเท่านั้น!

 

“อาวุโสลําดับสาม ท่านไม่เปลี่ยนใจแน่หรือ? ลําพังน้ำลายมังกรก็เป็นสมบัติหายากอยู่แล้ว น้ำลายมังกรที่มีอายุเก้าพันปียิ่งพบเจอได้ยากยิ่งกว่า” เยี่ยฉวนยกยิ้มมุมปากแฝงเลศนัยก่อนกล่าวตอกย้ำชายชราที่กําลังโมโห

 

“ข้าบอกว่าให้ก็คือให้! อย่าพล่ามเรื่องไร้สาระ! เร่งเดินทางไปยังสํานักอสูรเมฆาแล้วยืมเตาหลอมระดับสวรรค์มาให้ได้โดยเร็วเถอะ เรื่องนี้สําคัญที่สุด!” ไป๋เยี่ยนหูระงับอารมณ์โกรธของตนขณะกล่าวออก ยิ่งมองเยี่ยฉวนนานเพียงใด ความขุ่นเคืองในจิตใจยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น

 

“ประเสริฐ เช่นนั้นข้าก็ขอรับไว้ด้วยความยินดียิ่ง วันนี้ข้าขอกลับไปเตรียมตัวก่อน…พรุ่งนี้จะออกเดินทางไปยังสํานักอสูรเมฆาทันที!

 

เยี่ยฉวนโค้งคํานับอย่างนอบน้อมก่อนหมุนตัวจากไป ทว่ายังไม่ทันเดินพ้นประตูเขาก็หันหลับมามองไป๋เยี่ยนหูพร้อมกล่าวว่า “อาวุโสลําดับสาม…เป็นพระคุณยิ่งที่ท่านให้การสนับสนุน! ภายภาคหน้าหากข้าต้องการปรุงยาหรือกลั่นน้ำยาเสริมกําลังเพิ่ม ข้าจะไปขอความช่วยเหลือจากท่านอีกครั้ง!”

 

สิ้นคํากล่าว เยี่ยฉวนจึงเดินจากไปพร้อมรอยยิ้ม ส่วนอาวุโสลําดับสามไป๋เยี่ยนหูกลับเผยสีหน้าคล้ำเข้มด้วยความโกรธจัด!

 

เยี่ยฉวนขูดรีดเอาขวดน้ำลายมังกรไปได้แล้วยังไม่หนําใจ….กลับหันมากล่าวเยาะเย้ยชายชราครั้งแล้วครั้งเล่า อีกฝ่ายกําลังเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเขาอย่างชัดเจน!

 

“ปล่อยไว้ไม่ได้! ยิ่งฆ่ามันได้เร็วเท่าไรยิ่งดี!”

 

ความโกรธแค้นของไป๋เยี่ยนหูรุนแรงขึ้นเป็นเท่าทวี! ยิ่งคิดยิ่งไม่สบายใจจนแทบเก็บอาการไว้ไม่อยู่จึงหมุนตัวจากไปพร้อมสีหน้าบึ้งตึง เยี่ยฉวนทําลายแผนการอันสมบูรณ์แบบของเขาจนพังพินาศ! ทั้งยังกรรโชกทรัพย์สมบัติล้ำค่าไปจากเขาจนได้ แม้อารมณ์เสียเพียงใดแต่เขาก็ต้องยอมรับผลที่เกิดขึ้นโดยไม่อาจหลีกเลี่ยง!

 

Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์

Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์

Storm in the Wilderness, 蛮荒风暴
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์บทนำ ณ ห้องโถงใหญ่บนยอดเขาเมฆาอินทนิล…เหล่าผู้อาวุโสทั้งห้าและบรรดาลูกศิษย์ในสำนักนับพันชีวิตต่างจ้องมองไปทางเดียวกันอย่างไม่เชื่อสายตา! ทุกคนต่างคิดว่าเขาตายไปแล้วในสุสานเทพเจ้าเมื่อสามเดือนก่อน! แม้แต่ผู้พิทักษ์ขั้นซิ่วฉือระดับห้ายังถูกลอบโจมตีจนสิ้นชีพ แล้วเหตุใดผู้ที่บรรลุเพียงขั้นอู่เจ๋อระดับที่หนึ่งเช่นเขาจึงมีชีวิตรอดจากหายนะในภารกิจครั้งนั้น?! ใช่…เขาตายไปแล้ว… ‘เยี่ยฉวน’ คนเก่าจอมขลาดเขลาและเหยียมอายคนนั้นตายไปแล้ว! บัดนี้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาคือเยี่ยฉวนคนใหม่ที่ฝึกตนจนบรรลุขั้นอู่เจ๋อระดับสี่โดยใช้เวลาเพียงชั่วข้ามคืน! เขาได้พบเคล็ดวิชาลึกลับ ‘ขัดเกลาปีศาจกลืนกินสวรรค์’ จากสุสานเทพเจ้าโดยบังเอิญ วิชานี้มีพลานุภาพมหัศจรรย์เหนือกว่าเคล็ดวิชาซ่อนเร้นสวรรค์เสียอีก! หากเขาฝึกฝนเคล็ดวิชานี้จนสำเร็จต้องมีระดับขั้นการฝึกตนที่สูงกว่าภพชาติก่อนเป็นแน่! หรือบางทีอาจบรรลุถึงขั้นผู้อมตะแห่งเต๋าที่เป็นเพียงตำนาน!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset