Super God Gene – ตอนที่ 1955

หานเซิ่นมีแผนที่จะตามไปดูว่าพวกเขามาทำอะไรที่นี่ แต่หลังจากที่เดินตามไปได้สักพัก เขาก็เห็นราชาเคลียร์ซีและคนอื่นๆเข้าไปในสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ถูกเฝ้าโดยพวกมีก้า ซึ่งมันเป็นสถานที่ส่วนบุคคล ทำให้หานเซิ่นไม่สามารถเดินเข้าไปข้างในได้ เขาถามคนอื่นรอบๆและได้รู้ว่ามันเป็นบ้านของมีก้าระดับราชัน

 

แต่หานเซิ่นไม่สามารถหาข้อมูลอะไรมากกว่านั้นได้ เพราะมันไม่มีแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถืออยู่ หานเซิ่นจึงรออยู่ข้างนอกสักพัก แต่พวกเขาก็ยังไม่กลับออกมา หานเซิ่นจึงเดาไปว่าพวกเขาคงจะเข้าพักที่นั่น

 

หานเซิ่นไม่สามารถทำอะไรเสี่ยงๆบนดวงดาวของมีก้าได้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเดินทางกลับ แต่ในตอนที่เขาหันหลัง มิงค์น้อยที่ซุกซนตัวหนึ่งก็กระโดดออกจากกระเป๋าของเขาและเริ่มวิ่งไปบนถนน

 

หานเซิ่นรีบจับมิงค์อีก 6 ตัวเอาไว้ ขณะที่วิ่งไล่ตามมิงค์อีกตัวไป เขาส่งเสียงเรียกชื่อของมัน “เจ็ดน้อย อย่าเพิ่งไป กลับมานี่!”

 

หานเซิ่นไม่เก่งเรื่องการตั้งชื่อ ดังนั้นเขาจึงตั้งชื่อพวกมันตามลำดับตัวเลขตั้งแต่ 1 จนถึง 7

 

เจ็ดน้อยคือตัวที่ซุกซนและดื้อรั้นที่สุดในหมู่พวกมัน แม้แต่หานเซิ่นก็ไม่สามารถทำให้มันเชื่อฟังได้ ถึงอย่างนั้นมิงค์น้อยทั้ง 7 ตัวก็ถือว่าหานเซิ่นเป็นเจ้านายของพวกมัน และถึงพวกมันจะวิ่งออกไปตามใจชอบ แต่พวกมันก็จะกลับมาเสมอเมื่อพวกมันเบื่อแล้ว

 

หานเซิ่นตะโกนเรียกมันขณะที่วิ่งตามไป

 

แต่หานเซิ่นไม่ต้องการบังคับให้มันกลับมา เขาปล่อยให้มันวิ่งต่อและตามหลังมันไป ที่นี่เป็นดาวของมีก้า ดังนั้นมันไม่มีใครจะมาสนใจที่เห็นมีก้าตัวหนึ่งวิ่งเพ่นพ่านไปมา

 

มันเห็นได้ชัดว่าเจ็ดน้อยกำลังสนใจอะไรบางอย่าง มันไม่ได้วิ่งอย่างไร้จุดหมาย มันวิ่งเข้าไปในสิ่งก่อสร้างหลังหนึ่งและเริ่มวิ่งขึ้นบันไดไป

 

หานเซิ่นตามมันไปติดๆและสังเกตเห็นว่ามันเป็นห้างขนาดใหญ่ หานเซิ่นตามเจ็ดน้อยขึ้นไปที่ชั้น 2 และไปหยุดอยู่ที่หน้าร้านค้าร้านหนึ่ง

 

เมื่อหานเซิ่นเดินเข้าไป เขาก็เห็นว่ามิงค์น้อยเรียกหุ่นต่อสู้ของมันออกมา ชุดเกราะสีแดงปรากฏขึ้นและห่อหุ้มร่างน้อยๆของมัน

 

พวกมิงค์น้อยยังเป็นแค่ระดับบารอน ดังนั้นพวกมันจึงยังไม่สามารถสร้างหุ่นต่อสู้ขนาดใหญ่ได้ ตอนนี้หุ่นต่อสร้างของมันเป็นอะไรที่เรียบง่าย แต่เมื่อพวกมิงค์สามารถสร้างวัสดุจากยีนซีโน่เจเนอิคได้มากขึ้น หุ่นต่อสู้ก็จะพัฒนาขึ้นไปอีก

 

เจ็ดน้อยวิ่งไปทั่วร้าน พร้อมกับขบเคี้ยวเม็ดเกาลัดอยู่เต็มปาก เจ้าของร้านพยายามจะไล่มันออกไป แต่เจ้ามิงค์น้อยทั้งตัวเล็กและว่องไว มันวิ่งไปรอบๆและคว้าสิ่งของจากชั้นวางอย่างรวดเร็ว

 

เจ็ดน้อยกินทุกสิ่งทุกอย่างที่มันคว้ามาได้ และเมื่ออีก 6 ตัวได้กลิ่นอาหาร พวกมันก็ต้องการจะออกมาเช่นกัน แต่หานเซิ่นกดพวกมันเอาไว้ในกระเป่า เขาไม่ต้องการให้พวกมันก่อปัญหาไปมากกว่านี้

 

เจ้าของร้านชาวเคทดูเหมือนจะร้องไห้ออกมา ไม่นานหลังยามรักษาการชาวมีก้า 2 คนก็เข้ามาและพยายามจะจับตัวเจ็ดน้อย แต่เนื่องจากความว่องไวของมัน เจ็ดน้อยจึงหลบหลีกพวกเขาได้

 

ยามรักษาการเป็นชาวมีก้าเป็นระดับไวเคานต์ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถจับตัวของเจ็ดน้อยที่เป็นเพียงแค่ระดับบารอนได้

 

หานเซิ่นรีบเข้าไปจับตัวเจ็ดน้อยหลังจากนั้นก็เก็บมันเข้าไปในกระเป๋า

“ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ข้ายินดีจะจ่ายค่าเสียหายที่เขาก่อขึ้น”

 

“ไม่ ถ้าเขาประพฤติมิชอบ เขาก็ต้องถูกสอบสวน” หนึ่งในมีก้าพูด

 

“ต้องขอโทษด้วยจริงๆ แต่เขาเป็นเพียงแค่เด็กเท่านั้น ได้โปรดมอบโอกาสให้เขาสักครั้ง ข้ายินดีจ่ายให้เจ้าของร้านเป็น 2 เท่า”

หานเซิ่นรีบพูด หลังจากนั้นเขาก็นำเจ็ดน้อยออกมาและพูดกับมัน “เร็วเข้า รีบขอโทษพวกเขา”

 

เมื่อเจ็ดน้อยทำผิด หานเซิ่นก็ไม่คิดจะตามใจเจ้าตัวน้อยและทำให้พวกมันเสียคน

 

เจ็ดน้อยก้มหัวของมัน หลังจากนั้นมันก็ส่งเสียงออกมาราวกับว่ามันกำลังขอโทษ

 

“พวกเราจะคุยเรื่องค่าเสียหายกันทีหลัง แต่เจ้าต้องตามพวกเราไป ไม่อย่างนั้นพวกเราจะไปรายงานต่อเจ้าของร้านไม่ได้” ยามรักษาการชาวมีก้าพูด

 

ขณะที่หานเซิ่นกำลังสงสัยว่าควรจะทำยังไงดี ใครบางคนก็ตะโกนออกมาจากภายในร้าน “เดี๋ยวก่อน!”

 

หานเซิ่นมองตามเสียงนั้นไปและเห็นเฟเธอร์คนหนึ่งเดินออกมาจากหลังร้าน เขาเข้ามาพูดคุยกับยามรักษาการ หลังจากนั้นยามรักษาการก็เดินออกจากร้านไป

 

“ขอบคุณมาก ข้ายินดีจะชำระค่าเสียที่เกิดขึ้น” หานเซิ่นพูดขณะที่เห็นเฟเธอร์คนนั้นเข้ามาหา

 

“มันไม่ได้มีสินค้าได้รับความเสียหายอะไรมากนัก อย่าได้กังวล แต่ถ้าเจ้ามีเวลา พวกเราไปคุยกันข้างในจะได้ไหม?” เฟเธอร์พูดขณะที่มองเจ็ดน้อยในมือของหานเซิ่น

 

หานเซิ่นสับสน แต่เขาก็ยังคงพยักหน้าและตามเฟเธอร์ไปหลังร้าน

 

เฟเธอร์ปิดประตูและมองมาที่หานเซิ่นกับเจ็ดน้อย ก่อนที่จะพูด “ข้ามีชื่อว่ามาช เจ้ามีชื่อว่าอะไร?”

 

“ชื่อของข้าคือดอลลาร์จากเผ่าพันธุ์มนุษย์” หานเซิ่นตอบ

 

มาชพูดชื่อของหานเซิ่นซ้ำๆราวกับว่ากำลังคิดอะไรบางอย่าง หลังจากนั้นเขาก็ถาม “เจ้ามีความเกี่ยวข้องกับมีก้ายังไง?”

 

“ข้าเป็นผู้ปกครองของพวกมัน” หานเซิ่นตอบ

 

หลังจากที่ได้ยินอย่างนั้น ดวงตาของมาชก็เป็นประกายขึ้นมา เขาพูด

“นั่นหมายความว่าเจ้าสั่งการพวกมันได้อย่างนั้นหรอ?”

 

“นั่นหมายความว่ายังไง?” หานเซิ่นขมวดคิ้ว

 

มาชกังวลว่าหานเซิ่นอาจจะเข้าใจเจตนาของเขาผิด ดังนั้นเขาจึงรีบอธิบาย “ถ้าเจ้าสั่งการพวกมันได้ ข้าอยากจะจ้างพวกมันเพื่อโปรโมทร้านของข้า”

 

“โปรโมท?” หานเซิ่นสับสน

 

“มันเป็นอย่างนี้…” มาชเริ่มอธิบาย

 

ร้านของมาชนั้นขายผลไม้ซีโน่เจเนอิค ซึ่งสำหรับมีก้าแล้ว ผลไม้ซีโน่เจเนอิคสามารถใช้แทนยีนซีโน่เจเนอิคของจริงได้ หลังจากที่มีก้าได้กินผลไม้ซีโน่เจเนอิค พวกมันก็จะปลดปล่อยวัสดุสำหรับหุ่นต่อสู้ยีนซีโน่เจเนอิคออกมา

 

แต่ผลไม้ซีโน่เจเนอิคไม่เป็นที่นิยมเท่าไรนัก ดังนั้นยอดขายจึงค่อนข้างต่ำ มาชไม่ใช่คนที่ร่ำรวยอะไร เขาจึงไม่มีเงินไปทำการโฆษณาโปรโมทสินค้าของเขา

 

ความสามารถของเจ็ดน้อยทำให้มาชรู้สึกประหลาดใจ เขาคิดว่านี่อาจจะเป็นโอกาส

 

เจ็ดน้อยสามารถโปรโมทสินค้าได้โดยการเข้าแข่งขันหุ่นต่อสู้ของเผ่าพันธุ์มีก้า ถ้าเจ็ดน้อยทำคะแนนได้ดีในการแข่งขัน มันก็จะเป็นการโปรโมทสินค้าที่ดียิ่งกว่าการโฆษณาไหนๆ ซึ่งหลังจากที่มาชได้เห็นความสามารถของเจ็ดน้อยแล้ว เขาก็เชื่อว่ามันจะชิงที่หนึ่งมาได้

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset