Super God Gene – ตอนที่ 2005

หาวิธีแก้

ยมทูตสีแดงฟันเคียวไปที่คอของวัวหินผา แต่มันทำได้แค่ทิ้งรอยขีดข่วนบางๆเอาไว้เท่านั้น

 

แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะพวกมันทั้งคู่มีพลังแตกต่างกันอยู่ถึงหนึ่งระดับ

 

แต่หลังจากโดนโจมตีใส่ วัวหินผาก็โกรธขึ้นมา มันหันไปหายมทูตสีแดงและกระทืบเท้าของมันอีกครั้งเพื่อสร้างคลื่นกระแทก

ยมทูตสีแดงกลายเป็นหินกลางอากาศ มันร่วงลงมาที่พื้นและแตกเป็นเสี่ยงๆราวกับรูปปั้น

 

“ว้าว! พลังในการทำให้กลายเป็นหินของเจ้าตัวนี้มีประสิทธิภาพขนาดนั้นเลยอย่างนั้นหรอ มันถึงขนาดจัดการกับยมทูตสีแดงที่เป็นเพียงแค่หมอกควันได้เลย โชคดีที่มันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตจริงๆ และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากวิชาจีโนเท่านั้น” หานเซิ่นตกตะลึง

 

หานเซิ่นรวบรวมพลังงานในร่างกายเพื่อสร้างยมทูตสีแดงขึ้นมาอีกครั้ง และใช้มันโจมตีใส่วัวหินผา หานเซิ่นต้องการจะใช้มันซื้อเวลา

 

หานเซิ่นลองใช้เรื่องราวของยีน ศาสตร์ตงเสวียน กายหยกและโลหิตชีพจน แต่ไม่มีวิชาไหนที่สามารถแก้นิ้วมือที่กลายเป็นหินของเขาได้เลย

 

“เราควรจะใช้โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดดีไหม?” หานเซิ่นขมวดคิ้ว แต่ทันใดนั้นเขาก็จำได้ว่ามีวิชากลายเป็นหินอยู่ ถึงมันจะแตกต่างจากพลังของวัวหินผาเล็กน้อยที่ แต่บางทีมันอาจจะได้ผล

 

หานเซิ่นใช้วิชากลายเป็นหินเพื่อทำให้ร่างกายของตัวเองกลายเป็นหิน หลังจากนั้นเขาก็คืนสภาพร่างกายกลับเป็นเหมือนเดิม เมื่อทำอย่างนั้นเขาก็พบว่านิ้วที่ถูกพลังของวัวทำให้กลายเป็นหินนั้นกลับคืนสภาพเดิมแล้วเช่นเดียวกัน

 

“ไม่คิดเลยว่าวิชากลายเป็นหินจะมีประโยชน์อย่างนี้ด้วย” หานเซิ่นยิ้ม

 

ขณะเดียวกันวัวหินผาก็เพิ่งจะทำลายยมทูตสีแดงอีกตัวไป มันหันกลับมาหาหานเซิ่นและกระทืบเท้าเพื่อสร้างคลื่นกระแทกอีกครั้ง

 

หานเซิ่นชักมีดของเขาออกมาและฟันใส่วัวหินผา พลังของมีดและดาบรวมกันเป็นหนึ่งเดียวและพุ่งออกไปหาวัวหินผา

 

ตูม!

วัวหินผาโซเซถอยหลังไปพร้อมกับรอยแผลลึกยาวบนตัวของมัน และเขาของมันก็ถูกฟันจนหัก

 

วัวหินผาสะบัดหัวของมันและลุกกลับขึ้นมา มันยังไม่ล้มเลิกความคิดที่จะโจมตีหานเซิ่น มันส่งเสียงคำรามและวิ่งเข้าใส่หานเซิ่นอีกครั้ง

 

หานเซิ่นลบล้างร่างกายส่วนที่กลายเป็นหินและฟันใส่วัวหินผาอีกครั้ง แต่การโจมตีของเขาไม่ได้มีประสิทธิภาพอะไรมากนัก

 

การโจมตีของหานเซิ่นแค่ทำให้วัวหินผาโซเซถอยหลังไปเล็กน้อยเท่านั้น แถมในตอนที่เขาโจมตี เขาก็จะถูกคลื่นกระแทกของวัวหินผาทำให้กลายเป็นหินอีก

 

การกระทืบเท้าเพื่อสร้างคลื่นกระแทกของวัวหินผาเป็นการโจมตีแบบวงกว้าง มันไม่สำคัญว่าหานเซิ่นจะโจมตีจากทางไหน เพราะเขาจะกลายเป็นหินทุกครั้ง

 

ขณะที่วัวหินผาวิ่งเข้ามาหาเขาอีกครั้ง หานเซิ่นก็ตัดสินใจไม่ฟันออกไปในครั้งนี้ เขาจะใช้วิชาเต่าแทน ในตอนที่วัวหินผาจะใช้คลื่นกระแทกอีกครั้ง เขาก็ใช้วิชาเต่าใส่หัวของมัน

 

สัญลักษณ์เต่าปรากฏขึ้นบนหัวของวัว หานเซิ่นคิดกับตัวเอง ‘ไม่สำคัญว่าแกจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน วิชาเต่านั้นจะเปลี่ยนให้แกกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่เฉื่อยชา’

 

แต่ก่อนที่หานเซิ่นจะสามารถโจมตีมันอีกครั้งได้ วัวหินผาก็กระทืบเท้าเพื่อสร้างคลื่นกระแทกอีกครั้ง

 

ครั้งนี้มันรุนแรงยิ่งกว่าการโจมตีของวัวหินผาครั้งก่อนๆ หานเซิ่นลบล้างร่างกายที่กลายเป็นหิน แต่หลังจากนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่าตัวเองช้าลงไป เมื่อเขาก้มหัวก็สังเกตเห็นว่าตอนนี้มีสัญลักษณ์เต่าติดอยู่บนตัวของเขาแทน

 

“อะไรเนี่ย! วัวหินผานี้สะท้อนวิชาจีโนอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นตกใจ วัวหินผากระทืบเท้าซ้ำๆและสร้างคลื่นกระแทกออกมาเพิ่ม

 

หานเซิ่นจึงต้องใช้วิชากลายเป็นหินซ้ำๆ แต่ทุกครั้งที่เกิดขึ้นมันก็จะมีรูปเต่าอีกรูปปรากฏบนร่างกายของเขา

 

“เจ้าวัวนี้มันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว” หานเซิ่นลบล้างร่างกายที่กลายเป็นหินและผลของวิชาเต่า หลังจากนั้นเขาก็ฟันใส่วัวหินผาและวิ่งหนีออกไป

 

จนกระทั่งเขาจะเข้าใจได้ว่าวัวตัวนี้สามารถทำได้อะไรได้ ทางเดียวที่เขาจะฆ่ามันได้ก็คือใช้โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด

 

วัวหินมาวิ่งไล่ตามหานเซิ่นมาจากด้านหลัง พร้อมกับร้องมอๆออกมา มันเป็นอะไรที่น่ารำคาญอย่างมาก หานเซิ่นคิดกับตัวเอง ‘รอจนกระทั่งฉันกลายเป็นมาร์ควิสเมื่อไหร่ ฉันจะกลับมาฆ่าแกในดาบเดียว’

 

หานเซิ่นรู้สึกรำคาญขึ้นเรื่อยๆขณะที่วิ่งหนีไป คลื่นกระแทกของวัวหินผาทำให้เขากลายเป็นหินอยู่ซ้ำไปซ้ำมา ถ้าคนที่มันไล่ล่าเป็นมาร์ควิสคนหนึ่ง วัวหินผานี้ก็คงจะฆ่าคนๆนั้นไปแล้ว เพราะพวกเขาไม่สามารถที่จะวิ่งหนีได้แบบนี้

 

โชคดีที่หานเซิ่นมีวิชากลายเป็นหินและรองเท้าเขี้ยวกระต่ายอยู่

 

หานเซิ่นสามารถหนีจากการไล่ล่าของวัวหินผาได้สำเร็จ เขาปาดเหงื่อและพูด “นั่นคงจะไม่ใช่ซีโน่เจเนอิคระดับมาร์ควิสกลายพันธุ์หรอกใช่ไหม!”

 

หานเซิ่นยังไม่ต้องการจะจากไปในตอนนี้ เขาเรียกมนตราออกมาในร่างของปืนไรเฟิล และเขาก็ใช้กล้องของปืนไรเฟิลเพื่อส่องดูวัวหินผาตัวนั้น

 

หานเซิ่นรู้สึกสะอิดสะเอียนกับสิ่งที่เห็น วัวหินผาตัวนั้นกำลังกินเนื้อของวัวตัวที่เขาฆ่าตายไป มันกลืนกินยีนซีโน่เจเนอิคเข้าไปก่อนที่หานเซิ่นจะสามารถเอามันออกมาได้

 

หานเซิ่นคิดว่าวัวหินผาตัวนั้นโกรธเพราะว่าญาติของมันถูกฆ่า แต่วัวตัวนั้นดูเหมือนจะยินดีที่ได้กินเนื้อของสายพันธุ์เดียวกัน มันก็แค่ต้องการจะกินเหยื่อที่คนอื่นออกแรงล่ามาได้

 

“ไอ้วัวเวรเอ้ย! มาดูสิว่าใครจะได้หัวเราะที่หลัง” หานเซิ่นเริ่มคิดหาหนทางที่จะกำจัดวัวหินผาตัวนั้น

 

ร่างกายของวัวหินผาตัวนั้นแข็งแกร่ง มันต้องใช้การโจมตีระยะใกล้หลายครั้งกว่าที่จะทำให้วัวหินผาตัวนี้บาดเจ็บได้

 

แต่เนื่องจากคลื่นกระแทกมีผลเปลี่ยนทุกอย่างให้กลายเป็นหิน หานเซิ่นจึงไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้ ถึงแม้หานเซิ่นจะสามารถลบล้างร่างกายที่กลายเป็นหินได้ แต่มันก็ใช้เวลา ขณะที่เขากำลังกลายเป็นหิน เขาจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ซึ่งนั่นเป็นปัญหาใหญ่

 

และที่น่ากลัวที่สุดก็คือวัวหินผาตัวนั้นสามารถสะท้อนวิชาเต่ากลับมาสู่ตัวเขาได้ นั่นเป็นอะไรที่ขี้โกงอย่างมาก

 

‘ไม่สิ มันไม่ใช่แค่สะท้อนผลกลับมาใส่เรา เพราะสัญลักษณ์เต่ายังคงปรากฏอยู่บนตัวของวัวหินผาตัวนั้น สัญลักษณ์เต่าจะหายไปก็ต่อเมื่อพลังของมันจางหายไป และในขณะที่มันตกอยู่ภายใต้ผลของวิชาเต่า วัวหินผาก็เคลื่อนไหวช้าลงจริงๆ นี่มันไม่ได้เป็นการสะท้อนการโจมตีของเรา’ หานเซิ่นคิด

 

หานเซิ่นต้องการจะพิสูจน์ความคิดของเขา ดังนั้นเขาจึงยกปืนไรเฟิลขึ้นและเล็งไปที่วัวหินผา หลังจากนั้นเขาก็เหนี่ยวไก

 

กระสุนที่หานเซิ่นใช้มาจากพลังของวิชาเต่า และมันก็พุ่งออกไปหาวัวหินผา

 

ขณะวัวตัวนั้นกำลังกินร่างของวัวที่ตายไปอยู่ กระสุนก็พุ่งเข้าไปถูกที่ก้นของมันและมีรูปของเต่าปรากฏขึ้นมา

 

“มอ!” วัวหินผาหันไปรอบๆด้วยความเกรี้ยวโกรธ มันกระทืบเท้าเพื่อส่งคลื่นกระแทกออกไปรอบๆ

 

แต่หานเซิ่นไม่ได้อยู่ในระยะ ดังนั้นเขาจึงไม่กลายเป็นหินหรือได้รับผลของวิชาเต่า สัญลักษณ์เต่ายังคงอยู่บนก้นของวัว

 

“สำเร็จ” หานเซิ่นยิ้มออกมา

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset