Super God Gene – ตอนที่ 2006

หุบเขาวัวหินผา

ปัง! ปัง!

กระสุนพุ่งไปถูกวัวหินผาจากระยะไกล วัวหินผาเกรี้ยวโกรธ แต่หลังจากที่ถูกยิงซ้ำๆหลายครั้ง ความเร็วของมันก็ช้าลงยิ่งกว่าหอยทาก มันไม่สามารถที่จะเข้าไปใกล้หานเซิ่นได้

 

หานเซิ่นพยายามยิงจากระยะที่ไกลที่สุด เพื่อที่วัวหินผาจะได้หาตัวเขาไม่เจอ แต่ถึงมันจะหาเจอ มันก็ไม่สามารถไล่ล่าเขาได้อยู่ดี

 

ปืนไรเฟิลมนตราระดับเอิร์ลสามารถสร้างความเสียหายได้อย่างรุนแรง แต่กระสุนที่พุ่งออกไปไม่สามารถเจาะทะลุผิวหนังของวัวหินผาได้ แต่หานเซิ่นก็ไม่คาดคิดว่ามันจะใช้ฆ่าวัวหินผาได้อยู่แล้ว เขาแค่ยิงกระสุนที่ใช้พลังของวิชาเต่าออกไปเรื่อยๆเพื่อทำให้การเคลื่อนไหวของวัวหินผาช้าลง

 

ในตอนแรกวัวหินผาจะกระทืบเท้าเพื่อสร้างคลื่นกระแทก แต่หลังจากที่มีสัญลักษณ์เต่าปรากฏขึ้นเต็มตัว มันก็ดูเหมือนกับว่าวัวหินผากำลังอยู่ในโหมดสโลว์โมชั่น และท่ากระทืบของมันก็เริ่มที่เกิดขึ้นน้อยลงเรื่อยๆ

 

หานเซิ่นสังเกตเห็นว่าคลื่นกระแทกของวัวหินผามีระยะ 500 เมตรเท่านั้น และถ้าเกินจากนั้นไป เขาก็จะไม่ได้รับผลของมัน

 

“500 เมตร เราต้องระมัดระวังและใช้ช่องว่างระหว่างคลื่นกระแทกแต่ละครั้ง”

 

หานเซิ่นยังคงยิงใส่วัวหินผาเพื่อเพิ่มสัญลักษณ์เต่าบนตัวของมัน ขณะเดียวกันเขาก็ค่อยเข้าไปใกล้ๆวัวหินผา แต่ยังไม่เข้าไปในระยะคลื่นกระแทกของมัน

 

“ตอนนี้แหละ!” หานเซิ่นชักมีดของเขาและเริ่มวิ่งออกไป เขาวิ่งเข้าไปหาวัวหินผาอย่างรวดเร็ว และเพียงแค่ชั่วพริบตาเขาก็ไปถึงตัวของมัน

 

ก่อนที่วัวหินผาจะยกขาของมันได้ หานเซิ่นก็ใช้มีดเขี้ยวผีสิงฟันใส่หูของมันด้วยพลังของมีดและดาบ

 

เคร๊ง!

หูข้างหนึ่งของวัวหินผาถูกฟันจนขาดครึ่ง และหานเซิ่นก็วิ่งถอยกลับมาในทันที เสียงกระทืบเท้าดังขึ้นมาจากด้านหลังของเขาพร้อมกับคลื่นกระแทก มันทำให้ร่างกายของเขากลายเป็นหินและมีสัญลักษณ์เต่าปรากฏขึ้นบนตัวของเขา

 

หานเซิ่นรีบลบล้างร่างที่เป็นหินและผลของวิชาเต่า หลังจากเขาก็รีบวิ่งหนีไป

 

วัวหินผาต้องการจะไล่ตามหานเซิ่นไป แต่การเคลื่อนไหวของมันช้าจนน่าหัวเราะ มันทำได้แค่ส่งเสียงคำรามออกมา

 

“กล้ามาขโมยเหยื่อของฉันอย่างนั้นหรอ? แกตายแน่วันนี้!” หานเซิ่นใช้ปืนไรเฟิลยิงใส่วัวหินผาอีกครั้ง

 

ผลของวิชาเต่ามีเวลาจำกัด และยิ่งเวลาผ่านไปประสิทธิภาพของมันก็จะอ่อนลงเรื่อยๆ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย หานเซิ่นจึงยิงกระสุนออกไปเพิ่ม ก่อนที่จะวิ่งออกจากระยะของคลื่นกระแทก

 

เนื่องจากวัวหินผายังคงเคลื่อนไหวได้อย่างเชื่องช้า หานเซิ่นจึงรู้สึกปลอดภัยที่จะหยุดดูมัน หูของมันถูกตัดขาดและที่บริเวณบาดแผลของมันก็ถูกปกคลุมด้วยควันสีม่วงซึ่งกำลังแพร่ไปส่วนอื่นของร่างกายอย่างช้าๆ

 

ร่างกายของวัวหินผาไม่มีเลือด แต่ถึงอย่างนั้นพลังเขี้ยวก็ยังคงฉีกบาดแผลของมันทีละเล็กทีละน้อย หานเซิ่นยังคงยิงใส่วัวหินผาอยู่เรื่อยๆเพื่อให้แน่ใจว่ามันจะหนีไปไหนไม่ได้ เขาตั้งใจจะใช้พลังเขี้ยวค่อยๆฆ่ามันอย่างช้าๆ

 

วัวหินผาเริ่มที่จะรู้สึกตัวว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ ดังนั้นแทนที่จะคำรามใส่หานเซิ่น ตอนนี้มันจึงพยายามวิ่งหนีไป แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้มันช้าเหมือนกับสล็อต มันไม่สามารถหนีไปจากหานเซิ่นได้

 

หานเซิ่นไม่ได้เร่งรีบอะไร เขาตามหลังวัวหินผาไปและคอยๆยิงไปใส่มันเป็นระยะๆ บาดแผลของวัวหินผาเริ่มแพร่กระจายออกไปทั่วหัวของมันจากพลังเขี้ยวของหานเซิ่น

 

แต่ร่างกายของวัวหินผานั้นแข็งแกร่ง และหานเซิ่นก็ยังเป็นเพียงแค่เอิร์ลคนหนึ่ง ดังนั้นพลังเขี้ยวของเขาจึงสร้างความเสียหายได้ค่อนข้างช้า แต่ถึงอย่างนั้นวัวหินผาตัวนี้ก็น่าจะตายในอีกไม่กี่วัน

 

วัวหินผายังคงพยายามหนีไป แต่ความพยายามของมันศูนย์เปล่า หานเซิ่นไม่สามารถจะหยุดมันเอาไว้ได้ก็จริง แต่เขาก็ทำให้แน่ใจว่ามันจะหนีออกไปจากระยะยิงของเขาไม่ได้

 

วัวหินผาส่งเสียงร้องคำรามออกมาด้วยความโกรธขณะที่พยายามวิ่งหนีไป

 

หานเซิ่นไม่ต้องการเข้าไปยั่วให้เจ้าวัวตัวนั้นโกรธไปมากกว่านี้ เขาคิดว่าการรออยู่ห่างๆและปล่อยให้มันตายไปเองดีกว่าการเข้าไปเสี่ยงโจมตีมันอีกครั้ง วัวหินผาตัวนี้เป็นซีโน่เจเนอิคที่แปลกประหลาด และบางทีมันอาจจะมีพลังแปลกๆที่ยังไม่ได้ใช้อีกก็ได้ ดังนั้นหานเซิ่นจึงตัดสินใจมองดูมันตายอย่างช้าๆจากระยะไกล เขาไม่ต้องการเข้าไปเสี่ยงโดยไม่จำเป็น

 

แต่สถานการณ์ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่เขาคิดเอาไว้ ภายใต้เสียงร้องคำรามซ้ำๆของวัวหินผา หานเซิ่นได้ยินเสียงสั่นสะเทือนของพื้น

 

ไม่นานหลังจากนั้นก็มีกลุ่มวัวหินผาตัวเล็กๆวิ่งเข้ามา พวกมันมีกันอย่างน้อย 40 กว่าตัว วัวหินผาตัวใหญ่ส่งเสียงร้องมอๆออกมา ซึ่งทำให้เหล่าวัวหินผาตัวเล็กส่งเสียงร้องตอบ

 

วัวหินผาทุกตัวหันไปมองหานเซิ่น หลังจากนั้นมันก็สลับตำแหน่งของวัวหินผาตัวใหญ่ที่ได้รับบาดเจ็บไปไว้ข้างหลัง

 

“เวรเอ้ย! ไอ้ตัวนั้นมันกินวัวหินผาตัวที่เล็กกว่าเข้าไป ทำไมพวกแกถึงต้องการจะปกป้องมันอีก? พวกแกควรจะเป็นศัตรูกับมัน” หานเซิ่นถอนหายใจ ตอนนี้พวกวัวหินผากำลังมุ่งหน้ามาทางเขา

 

หานเซิ่นตัดสินใจหนีไป เขารู้ตัวว่าไม่สามารถที่จะฆ่าวัวหินผาตัวนั้นได้ ขณะที่มีวัวหินผาตัวเล็กตัวอื่นอยู่รอบๆ

 

ขณะที่เขากำลังถอยออกไปนั้น เขาได้ยินเสียงร้องมอๆดังมาจากกลุ่มของวัวหินผา

 

ก้อนหินรอบๆเริ่มที่จะร่วงหล่นลงมาจากฝากฟ้าราวกับลูกอุกกาบาต กลุ่มของวัวหินผาระดับมาร์ควิสรวมพลังกันและถล่มพื้นที่ในรัศมีสิบไมล์ด้วยก้อนหิน มันดูเหมือนกับจุดจบของโลกใบนี้

 

หานเซิ่นสามารถสลัดการไล่ล่าของพวกมันได้สำเร็จ และตัดสินใจย้อนกลับมาดูอีกครั้ง แต่ในบริเวณนั้นยังคงมีวัวหินผาตัวเล็กป้วนเปี้ยนอยู่

 

หานเซิ่นใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนเพื่อสแกนหาร่องรอยของวัวหินผาตัวที่ได้รับบาดเจ็บ หลังจากตามหาอยู่หลายนาที ในที่สุดเขาก็พบร่องรอยของมัน เขาตามรอยของมันไปจนถึงหุบเขาแห่งหนึ่ง ที่นั่นเขาได้เห็นกลุ่มของวัวหินผา แต่เขาไม่ได้เห็นตัวที่ได้รับบาดเจ็บ

 

หานเซิ่นขมวดคิ้ว “มันควรจะอยู่ในหุบเขานี้ มันถูกพลังเขี้ยว ดังนั้นมันไม่ควรจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้นานนัก”

 

หานเซิ่นรอคอยอยู่ที่นั่น 2-3 วัน เขาต้องการจะรอคอยจนกระทั่งวัวหินผาตัวนั้นตาย ก่อนที่เขาจะเข้าไปในหุบเขาเพื่อหาร่างของมัน

 

แต่หลังจากที่รอคอยเพียงแค่คืนหนึ่ง หานเซิ่นก็สังเกตถึงสิ่งผิดปกติในหุบเขา

 

“พลังเขี้ยวจะหายไปได้ยังไง? นั่นควรจะเป็นไปไม่ได้”
หานเซิ่นใช้กล้องของปืนไรเฟิลส่องเข้าไปในหุบเขาและเห็นว่าหูของวัวหินผาฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ และมันก็ไม่มีร่องรอยของพลังเขี้ยวเหลืออยู่เลย

 

หานเซิ่นจ้องมองมันด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset