Super God Gene – ตอนที่ 2026

ซีโน่เจเนอิคปีกเงิน

ซีโน่เจเนอิคตัวนั้นดูเหมือนกับว่าทั้งตัวถูกทำขึ้นมาจากเงิน มันมีลักษณะเหมือนกับด้วงไทรโลไบต์ แต่ทว่ามันมีความยาวถึง 1 เมตร

เมื่อหานเซิ่นเห็นซีโน่เจเนอิคสีเงินที่ดูเหมือนกับด้วงไทรโลไบต์ เขาก็ขมวดคิ้ว เนื่องจากในความฝันเขาไม่เคยเผชิญหน้ากับซีโน่เจเนอิคแบบนี้

‘มันมีซีโนเจเนอิคเทพโบราณที่ดรีมบีสต์ไม่รู้จักด้วยอย่างนั้นหรอ?’ หานเซิ่นครุ่นคิด เขายังไม่พร้อมที่จะลงมือทำอะไร

ที่หานเซิ่นลงมือฆ่าแมงมุมหน้าผีอย่างมั่นใจ นั่นเป็นเพราะเขารู้เกี่ยวกับพวกมัน แต่การเผชิญหน้ากับบางสิ่งที่ไม่รู้จักเป็นอะไรที่อันตราย

“เจ้ารู้จักซีโนเจเนอิคนี่ไหม?” หานเซิ่นหันไปหาไห่เอ๋อร์

ไห่เอ๋อร์ส่ายหัว “เจ้าควรจะยิงลงไปน้ำสักนัด บางทีมันอาจจะมีซีโนเจเนอิคสีเงินตัวอื่นซ่อนอยู่ในน้ำ”

หานเซิ่นขมวดคิ้ว เนื่องจากยังไม่รู้ว่ากำลังเจอกับอะไร เขาจึงไม่อยากจะยิงกระสุนออกไปมั่วๆ แมงมุมหน้าผีนั้นขาดสติปัญญา ดังนั้นพวกมันจึงไม่สามารถหาตำแหน่งของเขาได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าซีโนเจเนอิคตัวอื่นจะเป็นเหมือนกัน การโจมตีออกไปแบบมั่วๆอาจจะทำให้พวกเขาตกอยู่ในอันตราย

พวกเขาตกอยู่ภายใต้พลังของซีโนเจเนอิคสเปชเทพโบราณ และถึงแม้มันจะไม่ได้มีผลต่อความแข็งแกร่งของพวกเขา แต่ความเร็วของพวกเขาก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาจึงไม่สามารถทำอะไรเสี่ยงๆได้

หลังจากที่ปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุมอยู่ชั่วครู่ ปลายนิ้วของหานเซิ่นก็มีแก๊สสีแดงไหลออกมา ก่อนที่จะก่อตัวเป็นยมทูตที่ถือเคียวคริสตัลสีแดง หลังจากนั้นมันก็บินไปรอบๆถ้ำแห่งนั้น

ไห่เอ๋อร์มองดูยมทูตสีแดงด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธอเคยชินกับเรื่องที่หานเซิ่นมีกลยุทธ์ลับต่างๆมากมาย แต่เธอก็ยังรู้สึกสนใจที่จะดูว่ายมทูตสีแดงมีความสามารถแบบไหน

เมื่อยมทูตสีแดงไปถึงผิวน้ำ น้ำก็ระเบิดขึ้นมา ซีโน่เจเนอิคที่ดูเหมือนกับด้วงไทรโลไบต์โผล่ขึ้นมาจากน้ำเพื่อจะกลืนกินยมทูตสีแดง

แต่ทว่ายมทูตสีแดงตอบสนองอย่างรวดเร็ว และมันก็ใช้เคียวฟันเข้าใส่เปลือกสีเงินของด้วง แต่มันทำได้เพียงแค่ทิ้งรอยบางๆเอาไว้เท่านั้น มันไม่สามารถเจาะทะลุเปลือกของซีโน่เจเนอิคสีเงินเข้าไปได้

ปัง! ปัง! ปัง!

ซีโน่เจเนอิคสีเงินกระโดดออกมาจากน้ำอีกหลายตัว พวกมันเป็นเหมือนกับกระสุนปืนใหญ่ที่ยิงเข้าใส่ยมทูตสีแดง

ยมทูตสีแดงไม่สามารถที่จะต้านทานการโจมตีรอบด้านได้ โชคดีที่ยมทูตสีแดงก่อตัวขึ้นมาจากควัน ซึ่งหลังจากที่ซีโน่เจเนอิคสีเงินทำลายร่างควันของมัน มันก็สามารถก่อตัวขึ้นมาได้ใหม่

แต่เหล่าซีโน่เจเนอิคสีเงินไม่คิดที่จะยอมแพ้ พวกมันพยายามโจมตีใส่ยมทูตสีแดงซ้ำๆ

เมื่อขากรรไกรของซีโน่เจเนอิคปิดลงใส่เคียงของยมทูตสีแดง อาวุธนั้นก็ถูกกัดออกไป หลังจากนั้นซีโน่เจเนอิคสีเงินก็กระโดดขึ้นมาจากน้ำเพื่อกัดเคียวของยมทูตมากขึ้นเรื่อยๆ และหลังจากนั้นไม่นานเคียวก็ถูกกัดจนแหลกเป็นชิ้นๆ

เคียวคริสตัลเป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุดของยมทูตสีแดง แต่มันก็เป็นจุดอ่อนที่สุดอีกด้วย เมื่อมันแหลกเป็นชิ้นๆ ยมทูตสีแดงก็จางหายไป

หลังจากที่ยมทูตสีแดงหายไปแล้ว ซีโน่เจเนอิคสีเงินก็เริ่มว่ายไปมาในน้ำ เหมือนกับฝูงจระเข้ที่กำลังหิวกระหายเนื้อของมนุษย์

“พวกมันมีเกล็ดที่แข็งแกร่ง ยิ่งไปกว่านั้นพละกำลังของพวกมันก็จัดอยู่ในระดับสูงของระดับเอิร์ลด้วย แถมพวกมันยังมีอยู่เป็นสิบๆตัว นี่คงจะเป็นอะไรที่หินน่าดู” หานเซิ่นพูด

ถ้าเขาแค่ต้องรับมือกับซีโน่เจเนอิคสีเงินระดับเอิร์ล เขาก็คงจะไม่หวาดกลัวอะไร แต่ถ้าพวกระดับเอิร์ลยังแข็งแกร่งขนาดนั้นแล้ว ศักยภาพของพวกระดับมาร์ควิสก็ยากที่จะจินตนาการได้

หลังจากที่หานเซิ่นก่อตัวยมทูตสีแดงขึ้นมาใหม่ เขาก็ส่งมันออกไปอีกครั้ง

เหล่าซีโน่เจเนอิคยังคงไม่ได้ว่ายลึกลงไปในน้ำ ดังนั้นเมื่อยมทูตสีแดงบินเข้ามาอีกครั้ง พวกมันก็กระโดดขึ้นมาเพื่อจู่โจมยมทูตสีแดงในทันที

หานเซิ่นเรียกมนตราออกมาในร่างปืนอาร์พีจีและวางมันลงบนไหล่ ก่อนที่จะยิงออกไปโดยเล็งไปที่ยมทูตสีแดง

พวกซีโน่เจเนอิคสีเงินสิบกว่าตัวที่กระโดดเข้าหายมทูตสีแดงถูกจรวดพุ่งเข้าใส่เต็มๆ

ตูม!

แสงสีขาวระเบิดขึ้นท่ามกลางฝูงซีโน่เจเนอิคสีเงิน ทำให้พวกมันแต่ละตัวกระเด็นออกไปคนละทิศละทาง

แต่ร่างของเหล่าซีโน่เจเนอิคสีเงินเรืองออกมาด้วยออร่าแปลกๆ ซึ่งแรงระเบิดของจรวดไม่สามารถทำลายม่านพลังป้องกันของพวกมันได้

“นั่นเป็นพลังป้องกันที่สุดยอดอะไรแบบนี้ แม้แต่มนตราในร่างปืนอาร์พีจีก็ยังทำอะไรพวกมันไม่ได้” หานเซิ่นชื่นชมพวกมัน

“ทำไมเจ้ายังมัวยืนนิ่งอยู่อีก? วิ่ง!” ไห่เอ๋อร์พูด ก่อนที่จะเริ่มวิ่งออกไป

ซีโน่เจเนอิคสีเงินกำลังตะเกียกตะกายเข้ามาหาพวกเขาด้วยความเร็วสูง พวกมันรวดเร็วจนน่าตกใจ

แต่หานเซิ่นยังคงไม่ขยับเขยื้อน เขายังคงยืนปักหลักและยิงจรวดออกไปใส่พวกซีโน่เจเนอิคสีเงินอีกครั้ง

แต่ทว่าครั้งนี้เขาได้ใส่พลังของวิชาเต่าเอาไว้ที่หัวของจรวด

ตูม!

จรวดพุ่งไประเบิดท่ามกลางพวกซีโน่เจเนอิคสีเงินที่คืบคลานเข้ามา แต่พวกมันยังคงมีม่านพลังคอยป้องกันจากแรงระเบิดและวิชาเต่าด้วย

ก่อนที่หานเซิ่นจะสามารถโจมตีได้อีกครั้ง ซีโน่เจเนอิคสีเงินตัวหนึ่งก็บินออกมาจากสะดือของรูปปั้น มันเป็นตัวเดียวกับที่พวกเขาเห็นในตอนแรก ซึ่งมันมีปีกสีเงินที่โปร่งใสและบินได้อย่างรวดเร็วมากๆ

หานเซิ่นไม่คิดจะถอย เขาชักมีดขนนกโลหิตออกมา เขารวบพลังมีดและดาบลงบนใบมีด หลังจากนั้นเขาก็ฟันใส่ซีโน่เจเนอิคปีกเงินที่บินเข้ามา

โล่ป้องกันปรากฏขึ้นรอบตัวซีโน่เจเนอิคปีกเงิน แต่พลังมีดและดาบที่รวมกันก็มากพอที่จะทะลายม่านพลังป้องกันและฟันซีโน่เจเนอิคปีกเงินจนขาดครึ่ง

“ซีโน่เจเนอิคด้วงปีกเงินกลายพันธุ์ระดับเอิร์ลถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูร ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ”

หานเซิ่นรู้สึกดีใจ แต่เขาไม่มีเวลาจะมาหยุดดูวิญญาณอสูรดวงใหม่ เขารีบวิ่งเข้าไปหาด้วงสีเงินที่อยู่ใกล้

เมื่อเขาฆ่าด้วงสีเงินอีกตัว เขาก็พบว่าพวกมันไม่ใช่ซีโน่เจเนอิคกลายพันธุ์ พวกมันเป็นเพียงแค่ด้วงสีเงินระดับเอิร์ลธรรมดาๆ

ในขณะที่หานเซิ่นกำลังฆ่าฟันพวกด้วงไทรโลไบต์อย่างสนุกสนาน ก็มีเสียงกรีดร้องดังออกมาจากรูปปั้น หลังจากนั้นก็มีแมลงที่ดูเหมือนกับแก้วสีเงินออกมา ร่างกายของมันยาวกว่า 10 เมตร และมันก็มีปีกสีเงิน 4 ปีกบนหลัง มันบินเข้ามาอยู่ตรงหน้าของหานเซิ่นอย่างรวดเร็ว

จากนั้นลำแสงสีเงินก็พุ่งออกมาจากปากของมันอย่างรวดเร็ว

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset