Super God Gene – ตอนที่ 2056

กลับไปที่ทะเลโบราณหวนคืน

พลังของหานเซิ่นในตอนนี้เทียบชั้นได้กับมาร์ควิสที่แข็งแกร่ง และด้วยการเสริมพลังจากปีกมังกรและความสามารถในการวาร์ปข้ามมิติ มันก็ทำให้หานเซิ่นแข็งแกร่งมากกว่าเดิม

 

โดยไม่ลังเลหานเซิ่นนำยีนกลายพันธุ์ของวัวหินผาปีศาจออกมาและใช้วิชาโลหิตชีพจรเพื่อดูดซับมันเข้าไป

 

หานเซิ่นไม่รู้ว่าความสามารถในการดูดซับยีนกลายพันธุ์เข้าไปนี่เป็นพลังที่วิชาโลหิตชีพจรมีอยู่แล้ว หรือเป็นผลจากการที่เขาดูดซับเกล็ดกลับตาลปัตรเข้าไป แต่ไม่ว่ายังไงหานเซิ่นก็ดีใจกับความสามารถใหม่นี้ มันเป็นอะไรที่สุดยอด

 

เมื่อยีนกลายพันธุ์ของวัวหินผาปีศาจถูกดูดซับเข้าไป หานเซิ่นก็เริ่มใช้วิชาโลหิตชีพจร หลังจากนั้นร่างกายของเขาก็ถูกปกคลุมด้วยหินสีแดง

 

ปัง!

หานเซิ่นก้าวเท้าออกไป และเมื่อทำอย่างนั้นคลื่นกระแทกสีแดงก็แผ่ออกไปรอบๆ มันทำให้ทุกอย่างรอบๆตัวเขากลายเป็นหิน โชคดีที่หานเซิ่นสามารถเปลี่ยนให้พวกมันกลับคืนสภาพเดิมได้ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ทุกอย่างในห้องฝึกก็คงจะกลายเป็นหินไปตลอด

 

‘ด้วยพลังที่ได้มาใหม่นี้ เราต้องหนีออกจากทะเลโบราณหวนคืนได้อย่างแน่นอน’ หานเซิ่นคิดและรู้สึกมั่นใจในตัวเอง

 

ทันใดนั้นเองหานเซิ่นก็คิดขึ้นได้ ‘ใช่แล้ว! เราไม่จำเป็นต้องต่อสู้ภายกับดราก้อนในทะเลโบราณหวนคืนอีกแล้ว พวกเขากำลังตามหาหานเซิ่นอยู่ ดังนั้นพวกเขาไม่มีทางหาตัวเราเจอ ตราบใดที่เราซ่อนตัวตนที่แท้จริงเอาไว้’

 

เมื่อรู้อย่างนี้หานเซิ่นก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา เขาตัดสินใจพักผ่อนอยู่ที่บ้านต่ออีก 2 วัน ก่อนที่จะกลับเข้าไปในทะเลโบราณหวนคืน

 

“จำคำพูดของฉันเอาไว้ เสี่ยวฮวาและหลิงเอ๋อจำเป็นต้องมีนาย”

จีเหยียนหรันพูดก่อนที่หานเซิ่นจะจากไป

 

หานเซิ่นรู้สึกซึ้งกับคำพูดของเธอ มันเป็นเวลานานแล้วที่เขาหายตัวไปในจักรวาลจีโน และเธอก็ฉลาดพอที่จะรู้ว่าเขากำลังเจอเข้ากับปัญหาบางอย่าง แต่เธอไม่ต้องการทำให้เขากังวลมากเกินไป ดังนั้นเธอจึงไม่ได้บอกเขา

 

“อย่าได้กังวล ไม่มีใครในโลกใบนี้ที่จะฆ่าสามีของเธอได้”

หานเซิ่นกอดจีเหยียนหรันอันไว้แน่นและจูบหน้าผากของเธอ ตอนนี้เขาต้องการจะมีชีวิตรอดมากยิ่งกว่าเดิม

 

เมื่อกลับไปที่ทะเลโบราณหวนคืน หานเซิ่นก็พบว่าเขายังคงอยู่ที่ก้นทะเลที่เกิดการต่อสู้ขึ้นในครั้งก่อน หานเซิ่นหาที่ซ่อนตัวและสแกนบริเวณรอบๆด้วยออร่าศาสตร์ตงเสวียน มันไม่มีพลังชีวิตไหนอยู่รอบๆ ดังนั้นหานเซิ่นจึงเรียกวิญญาณอสูรวัวหินผาปีศาจออกมาเพื่อเปลี่ยนร่างเป็นวัวหินผา

 

หลังจากนั้นหานเซิ่นก็ว่ายออกจากก้นทะเล เขามองไปรอบๆและเห็นซีโน่เจเนอิคหลายตัวที่อาศัยอยู่ในน้ำ แต่ไม่มีพวกมันตัวไหนที่สนใจเขา พวกมันแค่มองหานเซิ่นอย่างแปลกๆก่อนที่จะว่ายหนีไป

 

ทันใดนั้นหานเซิ่นก็สังเกตเห็นยานรบขนาดใหญ่กำลังเคลื่อนที่มาทางนี้

 

หานเซิ่นรู้ว่าผู้คนภายในยานรบสังเกตเห็นเขา แต่ตอนนี้เขาเป็นแค่วัวหินผาตัวหนึ่ง ดังนั้นเขาจึงว่ายน้ำต่อไป เขาสังเกตเห็นว่าซีโน่เจเนอิคตัวอื่นก็ว่ายหนีเพื่อหลีกเลี่ยงยานรบเช่นเดียวกัน

 

ดราก้อนหลายคนและกาน่าหญิงสาวอีกคนกำลังอยู่ภายในยานรบลำนั้น กาน่าหญิงสาวคนนั้นก็คือซิวซือ เธอยังไม่ได้เดินทางออกจากทะเลโบราณหวนคืน แต่ดราก้อนที่อยู่ในยานรบกับเธอไม่ใช่ดราก้อนฟิฟทีนและหลงอิ๋ง ผู้นำของยานรบดูเหมือนจะเป็นดราก้อนหญิงคนหนึ่ง

 

“มันมีซีโน่เจเนอิคที่เป็นหินอยู่ในทะเลโบราณหวนคืนด้วยอย่างนั้นหรอ?”  ซิวซือพูดขึ้นมาเมื่อเห็นวัวหินผาปรากฏขึ้นบนเรดาร์

 

ดราก้อนหญิงหัวเราะ “ซิวซือ ถึงมันจะมีซีโน่เจเนอิคธาตุน้ำมากมายภายในทะเล แต่มันก็ยังมีซีโน่เจเนอิคธาตุอื่นด้วยเช่นกัน มันมีทั้งตัวที่เป็นหิน หรือแม้แต่ตัวที่เป็นไฟ ส่วนใหญ่พวกมันจะอาศัยอยู่บนเกาะเป็นหลัก แต่บางตัวก็ชื่นชอบที่จะอาศัยอยู่ในน้ำ”

 

“อย่างนี้นี่เอง” ซิวซือประหลาดใจที่เห็นวัวหินผาอาศัยอยู่ที่ก้นทะเล แต่เธอไม่ได้คิดว่ามันคือหานเซิ่น เธอเพียงแค่คิดว่ามันแปลกๆเท่านั้น

 

หานเซิ่นว่ายออกห่างจากรัศมีของยานรบ และในขณะที่เขากำลังยิ้มกับตัวเองที่สถานการณ์เป็นไปได้สวย เขาก็สังเกตเห็นฉลามตัวใหญ่ว่ายตรงเข้ามาหาเขา มันมีร่างกายที่เป็นหินเช่นกัน

 

“เวรเอ้ย! ทำไมเราถึงโชคร้ายแบบนี้?” หานเซิ่นรู้สึกหดหู่ เขาไม่ต้องการก่อปัญหาอะไรในเวลาแบบนี้ แต่ปัญหากลับเข้ามาหาเขา

 

ฉลามตัวใหญ่ว่ายเข้ามาด้วยความเร็วสูง แต่เนื่องจากอยู่ในร่างของวัวหินผา ทำให้หานเซิ่นไม่สามารถใช้วิชาอะไรได้มาก ถ้าคนภายในยานรบสังเกตเห็นวัวหินผาใช้มีดลมปราณล่ะก็ พวกเขาก็ต้องสงสัยอย่างแน่นอน

 

ปัง!

ฉลามพุ่งเข้ากระแทกหานเซิ่น และเมื่อร่างกายของทั้งคู่ปะทะกัน มันก็เกิดเป็นคลื่นลูกใหญ่

 

พละกำลังของฉลามดูจะพอๆกับหานเซิ่น มันกระแทกหานเซิ่นไถลออกไปสิบเมตร หลังจากนั้นฉลามก็กวัดแกว่งหางของมันและพุ่งเข้าหาหานเซิ่นอีกครั้ง

 

หานเซิ่นรู้ว่าจำเป็นต้องสู้ ฉลามเป็นซีโน่เจเนอิคระดับมาร์ควิส ดังนั้นการต่อสู้ด้วยพละกำลังแบบซึ่งๆหน้าเป็นไปได้สูงที่เขาจะเป็นฝ่ายชนะ

 

หานเซิ่นคำรามก่อนที่จะวิ่งเข้าไปหาฉลาม หานเซิ่นใช้เขาแทงเข้าไปที่ท้องหินของฉลาม และทำลายผิวที่เป็นหินของมันจนมีเลือดไหลออกมา

 

ผิวนอกของเจ้าฉลามเป็นหิน แต่ภายในมันยังมีเนื้อหนังอยู่ มันไม่เหมือนกับวัวหินผาที่เป็นหินทั้งตัว

 

หานเซิ่นพุ่งเข้าชนฉลามซ้ำๆ เขาต้องการจะฆ่ามันให้เร็วที่สุดและรีบไปจากที่นี่ แต่ก่อนที่เขาจะฆ่าฉลามได้ คนกลุ่มหนึ่งก็ออกมาจากยานรบ

 

พวกเขาเป็นเผ่าดราก้อน แต่หานเซิ่นไม่เห็นดราก้อนฟิฟทีนหรือหลงอิ๋งในหมู่พวกเขา หานเซิ่นไม่คุ้นหน้าใครในหมู่พวกเขา เว้นก็แต่ซิวซือที่เป็นชาวกาน่า

 

หานเซิ่นรู้สึกตกใจที่เห็นเธอ “ซิวซือยังอยู่ที่นี่? เธอชาญฉลาด! เธอสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างงั้นหรอ?”

 

ขณะที่หานเซิ่นต่อสู้กับฉลาม เขาก็จับตามองซิวซือและเหล่าดราก้อนไปพร้อมกัน พวกเขากำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ หานเซิ่นไม่รู้ว่าพวกเขาต้องการอะไร แต่พวกเขาไม่ได้เข้ามาเพื่อช่วยต่อสู้อย่างแน่นอน

 

“ซิวซือ เจ้าสนใจในวัวหินผาตัวนี้อย่างนั้นหรอ? ให้ข้าไปบอกหลงซินให้มาจับมันให้เอาไหม?” ดราก้อนหญิงพูดกับซิวซือ

 

ซิวซือยิ้มออกมา “ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน ข้าแค่คิดว่าวัวหินผาตัวนี้น่าสนใจเท่านั้น ข้าอยากจะเก็บมันเอาไว้เป็นสัตว์ขี่ ดังนั้นข้าควรจะจับมันด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้นมันก็คงจะไม่ยอมเชื่อฟังข้า”

 

“นั่นมันก็จริง ข้าได้ยินมาว่ากาน่านั้นเชี่ยวชาญเรื่องการสื่อสารกับซีโน่เจเนอิค” ดราก้อนหญิงยิ้ม

 

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset